โอ้..เจ้าดอกขจร...
สุดสะท้อนอ่อนใจอาลัยเหลือ
ทุกคืนค่ำพร่ำเสียงสำเนียงเครือ
เหงาเคล้าเจือห่วงหาพาคร่ำครวญ
นกขมิ้น..บินถลา...
สุดขอบฟ้าแลหายคล้ายไม่หวน
ไร้คอนเกี่ยวเหนี่ยวไว้ให้ชื่นชวน
จักเจียนจวน..ซวนซบ..จบชีวี
โอ้อกเรา..เศร้าอาภัพ..
ไร้แรงจับซับเหนี่ยว...เกี่ยววิถี
เหมือนเร่ร่อนร้อนรุ่มสุมฤดี
ห่างไกลไป..ทุกที...ที่หวังปอง.
สุดสะท้อนอ่อนใจอาลัยเหลือ
ทุกคืนค่ำพร่ำเสียงสำเนียงเครือ
เหงาเคล้าเจือห่วงหาพาคร่ำครวญ
นกขมิ้น..บินถลา...
สุดขอบฟ้าแลหายคล้ายไม่หวน
ไร้คอนเกี่ยวเหนี่ยวไว้ให้ชื่นชวน
จักเจียนจวน..ซวนซบ..จบชีวี
โอ้อกเรา..เศร้าอาภัพ..
ไร้แรงจับซับเหนี่ยว...เกี่ยววิถี
เหมือนเร่ร่อนร้อนรุ่มสุมฤดี
ห่างไกลไป..ทุกที...ที่หวังปอง.
"บ้านริมโขง"
เหมือนเป็นนก-ที่บิน-อย่างสิ้นหวัง
โลกแลหลัง-ยังเห็น-เป็นเราสอง
กลับมาเด่น-เป็นอื่น-ยืนประคอง
น้ำตานอง-เพ่งวัก-แล้วชัดเจน
โลกยังหมุน-ต่อไป-ใช่จะหยุด
วันสิ้นสุด-ของหวัง-ยังไม่เห็น
เธอจะอยู่-ในฝัน-เช้ายันเย็น
แม้จะเป็น-โลกลวง-แค่ช่วงนึง
แม้ความจริง-อาจหยุด-สะดุดแล้ว
แต่เพริดแพ้ว-เมื่อจิต-หวนคิดถึง
ชีวิตนี้-ขื่นขม-ไม่กลมกลึง
จะไม่ดึง-เหนี่ยวรั้ง-ขอยั้งใจ