...น้ำตารดต้นรักที่หักก้าน
เคยเบ่งบานก็ร่วงโรยให้โหยหา
ความร้าวรานยืนพอรอเวลา
ล้มกายาลงธุีรีพลีลงดิน
...เกิดดอกโศกโบกสะบัดผลัดกิ่งก้าน
เข้าแผ่ซ่านทรวงในให้ถวิล
น้ำตาเอย ก็เผยรด หยดลงริน
ตามด้วยกลิ่น ความเศร้า เข้ามาเยือน...
...ฟ้าฝนเอ๋ย ไฉนเจ้า เฝ้ากลั่นแกล้ง
ไยจึงแจ้งพรหมลิขิตมาติดเหมือน-
เป็นเงาถมห่มโศกมาโยกเรือน
มิคลาดเคลื่อนร้างลาพาจากไป
...ดอกรักร่วงลงสู่ทางที่วางจบ
ดอกโศกซบอกฉันพลันหวั่นไหว
ณ แห่งนี้ดอกรักเหี่ยวรอเหนี่ยวใจ
แต่ดอกโศก กลับแกว่งไกว ไสวรอ...
ตะวันฉาย
ฝนโปรยปรายต้นรักจักเติบใหญ่
เบิกบานใจแตกกิ่งก้านแตกสาขา
ดอกรักสวยออกสีสันตระการตา
สุขอุราเฉกสองเราอยู่เคียงกัน
คอกรักผลิเบิกบานจักเต็มต้น
ถ้าเปรียบคนรักสุขล้นแสนสุขสันต์
สองเรานั้นคงพบกันทุกคืนวัน
เพราะเติมรักนิรันทร์ตลอดกาล
เมื่อไหร่นะฝนจะโปรยหยาดน้ำฟ้า
ร่วงลงมาดอกโศกกลายต้นรักหวาน
เมื่อไหร่หนาฝนบนฟ้าประจักษ์พยาน
ว่าดอกโศกที่แบ่งบานกลับร่วงลง
เพราะดอกโศกโดนฝนหนักจึงเป็นรัก
เพราะประจักษ์โศกต่อไปคงเป็นผง
ขอเป็นรักต้นสูงใหญ่และมั่นคง
ขอสายฝนจงร่วงลงดอกรักบาน
หทัยกาญจน์