จากความหมายไร้ค่า ว่า “หมา –หมา”
มันเจ็บช้ำทุกคราถ้ากล่าวถึง
เป็นคำด่ารุนแรงแสร้งปังปึง
พอตังตึง ดึง “หมา” น่าเจ็บใจ
สิ้นราคา “อย่าง หมา-หมา” พารู้สึก
ขาดสำนึกคุณค่าคราขานไข
ความสัตย์ซื่อรักนายคล้ายเลือนไป
ขาดเยื่อใยซึมซับกับอารมณ์
เพราะมนุษย์ลุ่มเหลิงเชิงป้อยอ
ขาดคำขอ “สัตย์ซื่อ” คือสุขสม
กตัญญูหายาก..จากนิยม
มีคำคม “อายหมา” มาเย้ยเอา
จึงเห็นคน “อิจฉา” หมา มามากนัก
ใครฟูมฟักรักหมาพากันเหมา
เป็นเสแสร้งแกล้งเลี้ยงเพียงบรรเทา
ไม่นานเขาก็ปล่อยให้คอยทาง
หากว่าคนสำนึกระลึกค่า
ถือสัจจาให้มากไม่ถากถาง
“เอาอย่างหมา” มาตรองลองเป็นกลาง
สังคมต่างเป็นสุขไม่ทุกข์ทน
คือมนุษย์ ผู้สร้าง ผู้ทำลาย
คือผู้หมายวางเผ่าเฝ้ากุศล
คือตัวอย่างข้างหน้า..มหาชน
คือมากล้น บนนิยาม..ตามต้องการ.
มันเจ็บช้ำทุกคราถ้ากล่าวถึง
เป็นคำด่ารุนแรงแสร้งปังปึง
พอตังตึง ดึง “หมา” น่าเจ็บใจ
สิ้นราคา “อย่าง หมา-หมา” พารู้สึก
ขาดสำนึกคุณค่าคราขานไข
ความสัตย์ซื่อรักนายคล้ายเลือนไป
ขาดเยื่อใยซึมซับกับอารมณ์
เพราะมนุษย์ลุ่มเหลิงเชิงป้อยอ
ขาดคำขอ “สัตย์ซื่อ” คือสุขสม
กตัญญูหายาก..จากนิยม
มีคำคม “อายหมา” มาเย้ยเอา
จึงเห็นคน “อิจฉา” หมา มามากนัก
ใครฟูมฟักรักหมาพากันเหมา
เป็นเสแสร้งแกล้งเลี้ยงเพียงบรรเทา
ไม่นานเขาก็ปล่อยให้คอยทาง
หากว่าคนสำนึกระลึกค่า
ถือสัจจาให้มากไม่ถากถาง
“เอาอย่างหมา” มาตรองลองเป็นกลาง
สังคมต่างเป็นสุขไม่ทุกข์ทน
คือมนุษย์ ผู้สร้าง ผู้ทำลาย
คือผู้หมายวางเผ่าเฝ้ากุศล
คือตัวอย่างข้างหน้า..มหาชน
คือมากล้น บนนิยาม..ตามต้องการ.
"บ้านริมโขง"
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนทครับ