ไม่มีแล้วตาฉายประกายหวาน
ไร้ปากขานคำมอบมาปลอบขวัญ
หมดไม่ตรีจากใจคนใกล้กัน
ยิ้มชวนฝันช่างฝืนไม่ชื่นชนม์
ความคิดเธอเป็นใหญ่กว่าใครอื่น
จึงหยิบยื่นยาขมตรมหมองหม่น
แทนทุกสิ่งเคยเกื้อเอื้อกมล
มันเกินทนแล้วนะแทบจะตาย
เคยห้ามใจไว้เสมอยังเผลอจิต
ความใกล้ชิดอำนาจประหลาดหลาย
เพราะพันธะหน้าที่ที่เป็นชาย
เพียงเพื่อนกายสนองยามต้องการ
แววสายตาลากันเมื่อวันจาก
คือการฝากขมขื่นกลบชื่นหวาน
ยิ้มยามพบเคยซึ้งตะลึงลาน
จะพบพานอีกไฉนจากใครกัน
อยากจะพ้อต่อว่าประสายาก
ก็เหมือนปากถูกปิดสนิทมั่น
เป็นสามัญสำนึกระลึกพลัน
วาระนั้นถูกเธอเสนอคืน
คนอาภัพจึงเป็นเช่นสวะ
ยามเธอจะจมน้ำจำคว้าฝืน
เพื่อประทังยังกายหมายชีพยืน
ขอนไม้อื่นปะทะก็ผละไป
ดาว อาชาไนย
ไร้ปากขานคำมอบมาปลอบขวัญ
หมดไม่ตรีจากใจคนใกล้กัน
ยิ้มชวนฝันช่างฝืนไม่ชื่นชนม์
ความคิดเธอเป็นใหญ่กว่าใครอื่น
จึงหยิบยื่นยาขมตรมหมองหม่น
แทนทุกสิ่งเคยเกื้อเอื้อกมล
มันเกินทนแล้วนะแทบจะตาย
เคยห้ามใจไว้เสมอยังเผลอจิต
ความใกล้ชิดอำนาจประหลาดหลาย
เพราะพันธะหน้าที่ที่เป็นชาย
เพียงเพื่อนกายสนองยามต้องการ
แววสายตาลากันเมื่อวันจาก
คือการฝากขมขื่นกลบชื่นหวาน
ยิ้มยามพบเคยซึ้งตะลึงลาน
จะพบพานอีกไฉนจากใครกัน
อยากจะพ้อต่อว่าประสายาก
ก็เหมือนปากถูกปิดสนิทมั่น
เป็นสามัญสำนึกระลึกพลัน
วาระนั้นถูกเธอเสนอคืน
คนอาภัพจึงเป็นเช่นสวะ
ยามเธอจะจมน้ำจำคว้าฝืน
เพื่อประทังยังกายหมายชีพยืน
ขอนไม้อื่นปะทะก็ผละไป
ดาว อาชาไนย