ฉันเขียนกลอนผ่อนคลายเพื่อหายเหงา
ขจัดเศร้าใจหม่นบนทางฝัน
นั่งอ่านกลอนที่แต่งแล้วแบ่งปัน
เป็นสีสันสร้างสุขให้ทุกข์คลาย
อาจมีบ้างบางครั้งยังไม่เหมาะ
ความไพเราะแลลดถึงหดหาย
ใส่ถ้อยคำซ้ำซากเบื่อมากมาย
ไม่เฉิดฉายฉ่ำชื่นระรื่นจินต์
คือคำพูดจากใจในบางครั้ง
ย่อมมีพลั้งมีพลาดมีขาดวิ่น
ด้อยสัมผัสจัดวางต่างเคยชิน
ผู้ได้ยินผินหน้าระอาเมิน
แต่ตนเองชอบใจว่าไพเราะ
แม้ใครเยาะเย้ยฉันไม่สรรเสริญ
ก็ช่างเขาเราไซร้ใช่ส่วนเกิน
เราย่อมเดินตามทางที่วางมา
เป็นนักกลอนอ้อนฝันในวันว่าง
รักเสียอย่างมีใจเฝ้าใฝ่หา
ก็เขียนไปในถวิลจินตนา
ถึงใครบ่นว่าบ้าข้าไมฟัง
กลอนประตูหน้าต่างข้าวางไว้
ตามแต่ในใจข้าจะว่าขลัง
ก็ข้าแต่งตามใจใช่อยากดัง
ถึงจะกลอนพังพังก็ยังลง
มิใช่กลอนประตูอ่ย่าตู่ค่อน
มิใช่กลอนหน้าต่างวางส่งส่ง
มิใช่กลอนคนบ้าอย่าเจาะจง
มิใช่กลอนก็ยังคงกวีงาม
ใครเยาะรสบทกวีอย่างที่ว่า
คือคนป่าควรใช้ไม้หน้าสาม
ซัดตรงปากไม่ดีที่ลวนลาม
สืบทอดตามโบราณการกวี