ลมหายใจวาบหวามในยามนี้
เอ่ยวจีรับกันวันสลัว
ไม่ทันคิดเกินคาด เราหวาดกลัว
ท้องฟ้ามัวตัวสั่น, หวั่นละเมอ
แสงไฟส่องสว่างบนทางเท้า
ทิศทางเศร้าเหงาไปใคร? เสนอ
ผ่านเช้ารุ่งมุ่งตรงคงจะเจอ
ระหว่างเพ้อกับฝัน, อันไหนจริง
การเดินทางของหัวใจในตอนดึก
มันเต้นตึกตึกรัวตัวไม่นิ่ง
ไม่ทันได้มาหลบหรือซบอิง
ถูกทอดทิ้งเอาไว้, อย่างใจเย็น
จะมองบนที่ไหนไกลกว่าฟ้า
แต่ทว่าความรู้สึกมันนึกเห็น
อยากมองที่ตัวเธอเพ้อลำเค็ญ
เหมือนเธอเป็นแผ่นฟ้า, น่าท้าทาย
หรือมองที่ผืนดินถิ่นละเอียด
ความละเมียดละไมยังไม่หาย
หรือมองที่สายลมพรมพัดพราย
มีความหมายทุกอย่าง, ต่างแค่มอง!
ฉันไม่อยากมองฟ้า...แต่..ทว่าอยากอยู่บนนั้น
ฉันอยากอยู่เหนือฟ้าเวหาหาว
ท่ามหมู่ดาวดารา..ด้วยตาสอง
ปีกแห่งรักอยากโฉบโอบประคอง
ชุ่มละอองน้ำฟ้า ณ ราตรี
ด้วยไม่อยากแหงนมองเพื่อรองรับ
แต่ฉันกลับก้มหาเธอครานี้
ผ่านภูเขา.เถาไม้.สายชลธี
ซ่อนวลีอ่อนละมุน...ดั่งคุ้นเคย
ฉันอาจอยู่.เหนือเมฆที่เสกสรร
ฉันอาจอยู่.บนสวรรค์กล้าฝันเฉย
ฉันอาจอยู่.ในลมพรมรำเพย
หมายลงเอยเกี่ยวข้อง...จับจ้องเธอ
ท่ามหมู่ดาวดารา..ด้วยตาสอง
ปีกแห่งรักอยากโฉบโอบประคอง
ชุ่มละอองน้ำฟ้า ณ ราตรี
ด้วยไม่อยากแหงนมองเพื่อรองรับ
แต่ฉันกลับก้มหาเธอครานี้
ผ่านภูเขา.เถาไม้.สายชลธี
ซ่อนวลีอ่อนละมุน...ดั่งคุ้นเคย
ฉันอาจอยู่.เหนือเมฆที่เสกสรร
ฉันอาจอยู่.บนสวรรค์กล้าฝันเฉย
ฉันอาจอยู่.ในลมพรมรำเพย
หมายลงเอยเกี่ยวข้อง...จับจ้องเธอ