คารวะท่าน บอมซองดุ๊ก
กลอนปลอบปลุกรุกเร้นเด่นอักษร
คมวาทะไร้สิทธิ์คิดต่อกร
เฝ้าอาทรกลอนผูก, เหมือนถูกคน
คารวะท่าน ดาวระดา นภาโชติ
แสงรุ่งโรจน์จากตัวไม่มัวหม่น
ส่องประกายหนุนเนื่องอยู่เบื้องบน
ขยายค้นด้วยหัตถ์, ที่จัดเจน
คารวะท่าน ปภัสร์ จำรัสหล้า
งดงามค่าวจีที่ดีเด่น
เหมือนรุ้งทอ บริบทของกฎเกณฑ์
ไม่โอนเอนลิขิต, สนิทใจ
คารวะท่าน ยามพระอาทิตย์อัสดง
ยังผุดผ่องและมั่นคงอยู่ตรงไหน
ตราบตะวันทอแสงแรงวิไล
ทั้งใกล้ไกลอบอุ่น, ด้วยสุนทร
คารวะท่าน (ฟ้า)มารสุรา
ผันผ่านมาเนิ่นนานในกาลก่อน
ได้เห็นมิตรภาพอาบอาวรณ์
บริสุทธิ์ดุจกลอน, ตอนได้ยิน
คารวะท่าน ไม่รู้ใจ เป็นไงมั่ง
หอมประดังหวนโหยได้โชยกลิ่น
ความหวังดีมีไว้ให้โบยบิน
เมื่อได้ยินถ้อยคำ, ล้ำสำนวน
คารวะท่าน สล่าผิน อยู่ถิ่นเหนือ
ความเอื้อเฟื้อบรรทุกสนุกถ้วน
วลีทิพย์กำซาบอาบอบอวล
เมื่อชักชวนมวลมิตร, ลิขิตคำ
คารวะท่าน เจียว ผู้เกี่ยวข้อง
ท่วงทำนองลองลิ้มต้องอิ่มหน่ำ
สุดสรรหาสาระมาประจำ
รู้จักนำชีวิต, มาพลิกแพลง
คารวะท่าน นพ เกินพบหน้า
ด้วยวาจานำพามาแถลง
หวานน้ำคำกุหลาบอาบแก้มแดง
จำรัสแสงแรงเนื่อง, อยู่เบื้องบน
คารวะท่าน สายลมสีขาว
กับเรื่องราวทำนองอันหมองหม่น
ทั้งหวานซึ้ง ปนเศร้า เหงาในตน
อ่านแล้วจนขานรับ, ถึงกับครวญ
คารวะท่าน ฉันเอง บทเพลงเศร้า
กวีเหงา กลอนหม่น บนลานสวน
มีดอกไม้มามอบปลอบทั้งมวล
แลก็ล้วนหวานขม, อารมณ์ดี
คารวะท่าน กาแฟดำ ประจำถิ่น
ได้เสพย์ศิลป์กลิ่นคำนำวิถี
รสกาแฟหอมหวลชวนวจี
คือสิ่งที่มีค่า, น่านิยม
คารวะท่าน บัณฑิตเมืองสิงห์
งดงามยิ่งไพเราะความเหมาะสม
ด้วยทำนองพลิ้วไหวในอารมณ์
ทั้งหวาน-ขมชมชื่น, เหนืออื่นใด
คารวะท่าน แม่ค้าหน้าหวาน
สุขสำราญกานท์กลอนอันอ่อนไหว
ลืมทุกสิ่งหลงเกี้ยวจนเปลี่ยวใจ
อบอุ่นในเอื้อเฟื้อ, มาเชื้อเชิญ
คารวะท่าน รุ่งอรุณ อุ่นบ้างไหม
ด้วยหัวใจสะอาดไม่ขาดเขิน
คงจะได้ประสบพบทางเดิน
อย่างเพลิดเพลินไม่น้อย, จากร้อยกรอง
คารวะท่าน Kanthita ผู้น่ารัก
ได้ประจักษ์วลีไม่มีสอง
บริสุทธิ์ดุจฝันอันรังรอง
ท่วงทำนองสอนฝาก, เมื่อจากกัน
คารวะท่าน สุวรรณ ผูกพันมิตร
คือชีวิตคิดหาน่าไหวหวั่น
ตราบที่เราคงเหงาด้วยเงาจันทร์
บทประพันธ์ยืนหยัด, ยังชัดเจน
คารวะท่าน แป้งน้ำ ในยามเช้า
กับเรื่องเล่างดงามตามความเห็น
จากความหมายสายลมพรมพัดเย็น
ประหนึ่งเป็นทุกสิ่ง, อย่างจริงจัง
คารวะท่าน บ้านริมโขง ผู้โยงโลก
สุข-ทุกข์โศกปรากฏไม่หมดหวัง
ทุกสำนวนชวนเห็นเป็นพลัง
ขึงและขลังดั่งว่า, น่าท้าทาย
คารวะท่าน ณัชชา แววตาโศก
จะเปลี่ยนโลกให้ดีมีความหมาย
ด้วยถ้อยคำสำเนียงมาเรียงราย
วิจิตรพรายลายคำ, เด่นล้ำทรวง
คารวะท่าน Music บุคลิกมั่น
งานประพันธ์ปั้นแต่งจากแหล่งสรวง
แสงกำเนิดเพริศพราวจากดาวดวง
ลงสู่ห้วงหัวใจ, เมื่อได้ยิน
คารวะท่าน มานพ เกินหลบเร้น
เมื่อตอนเย็นรันทดจนหมดสิ้น
หวานกวีที่โปรยมาโรยริน
ดั่งเพลงพิณเร่งรุด, ฉุดให้ยืน
คารวะท่าน My smile ผู้หลายหลาก
บรรจงฝากจากมานตระการตื่น
ให้กำหนดจดจำของค่ำคืน
เป็นเกลียวคลื่นอิสระ, จังหวะคำ