[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[ช่ออักษราลี]

 ไปอ่านข่าวจากไทยโพสต์ นำมาฝากให้อ่านกันค่ะ    

      ประยุทธ์ลั่นเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่สุด จะดูแลผู้อยู่เบื้องหลังเต็มที่ เดือด! อัดเละ "นักวิชาการ-สื่อ” ที่วิจารณ์ "ผบ.ศบบ.” สรุปสาเหตุ 3 โศกนาฏกรรมเบื้องต้นมาจากอุบัติเหตุ อากาศวิปริต ทำให้ "ชนเขา-หลงสภาพ-ใบพัดดับ” รอ 2 เดือนชัดเจน คาด 1-2 วันเบลล์บินตามปกติ แจงเหตุ "ผบ.ทบ.” งดขึ้น ฮ.เพราะอากาศปิด ไม่เชื่ออย่าลบหลู่เตรียมทำบุญใหญ่

      พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การสูญเสียครั้งนี้ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะไม่ถึง 10 วันมีผู้สูญเสียถึง 17 ชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งน่าเสียใจ และเป็นการสูญเสียร้ายแรง เราสูญเสียตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาจนถึงชั้นผู้น้อย แต่ไม่ว่าจะเป็นชั้นยศใดก็ตาม ทุกชีวิตมีความหมายทั้งสิ้น เราจะดูแลทุกส่วน และจะให้ความเป็นธรรม และให้เกียรติยศสูงสุดเท่าที่จะทำตามระเบียบราชการได้ และสิ่งใดที่กองทัพบกจะเพิ่มให้ได้ก็จะทำ
       ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาวุธยุทโธปกรณ์มีปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า มูลค่ายุทโธปกรณ์มีมูลค่ามากหลายร้อยล้าน แต่เทียบค่าไม่ได้แม้แต่ชีวิตเพียงชีวิตเดียว จึงอยากเรียนให้สังคมรับรู้ว่า ที่ผ่านมากองทัพบกพยายามดูแลกำลังพลทุกระดับชั้นให้ดีที่สุด การจะวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ ก็ต้องอยู่ในหลักความเป็นจริง ต้องเข้าใจหลักเกณฑ์ต่างๆ การทำงานของกองทัพ
 "เรามีหลักการในการทำงาน มีขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนถึงทุกวันนี้ ทุกส่วนได้ปฏิบัติหน้าที่ของเขาตามหลักการ แต่สิ่งที่เราห้ามไม่ได้คืออุบัติเหตุ เรื่องลมฟ้าอากาศ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวและว่า อากาศยานที่เก่าทุกประเทศก็ยังใช้อยู่ เรามีหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแล ไม่ใช่ ผบ.ทบ.ดูแลทุกเรื่อง จะบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เกิดจากการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง ถือเป็นคนละประเด็น อย่าวิจารณ์อย่างนั้น เพราะถ้าวิจารณ์ก็ต้องวิจารณ์ทุกระบบของกองทัพบก แม้แต่ในระบบของประเทศก็ต้องผิดทั้งหมด
        ถามยืนยันว่า ขณะนี้งดใช้เครื่องเบลล์ 212 ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ถ้าเครื่องบินรุ่นใด หรืออาวุธยุทโธปกรณ์มีปัญหา ก็ต้องสั่งระงับใช้ล็อตนั้นทั้งประเทศ ซึ่งศูนย์นิรภัยการบินจะเป็นผู้ตรวจสอบในรายละเอียด แต่เข้าใจว่าเครื่องยนต์มีปัญหา จึงต้องตรวจสอบว่าตรงไหน เป็นที่เครื่องยนต์หรือโรเตอร์ (ปีกหมุน) และในระหว่างตรวจสอบเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ฮ.เบลล์ 212 ต้องชะลอการใช้งาน ซึ่งกองทัพมีอากาศยานใช้ไม่กี่รุ่น เก่าสุดคือ ฮท.1 ที่มีเครื่องยนต์เดียว ใหม่ที่สุดคือ เบลล์ 212 ล่าสุดที่ได้มาคือ เอ็มไอ 17
ประยุทธ์เดือดอัดพวกวิจารณ์
        "อยากเรียนว่าการวิจารณ์ทำได้ แต่ต้องเอาหลักข้อเท็จจริงมาพูด ให้ความเป็นธรรม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 1.เป็นอุบัติเหตุ 2.สุดวิสัย และ 3.เครื่องยนต์ขัดข้อง ซึ่งสามเรื่องเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ทำให้กระทบต่อความรู้สึก แต่ผมเรียนว่าทหารท้อแท้ไม่ได้ เราเผชิญสถานการณ์อย่างนี้หลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ส่งผลกระทบมาก ทุกครั้งที่ ฮ.ตก กองทัพบกเสียใจทุกครั้ง กองทัพบกไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเราไม่ได้ผลิตเครื่องบินเอง เราซื้อเข้ามา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
 พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ทุกคนต้องมีจิตสำนึก เราต้องสร้างองค์กรกองทัพบกให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้ ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน อย่าเท้าความวันนั้นวันนี้ หรือเรื่องนั้นเรื่องนี้คนละเรื่องกัน ไม่เอาชีวิตของกำลังพลมาเสี่ยง สิ่งที่ ทบ.และทุกคนทำอย่างเต็มที่ไม่อยากให้เกิดอะไรทั้งสิ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเราพร้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมนำไปแก้ไข นำไปเป็นบทเรียน แต่ท่านมาบอกว่าการตกครั้งนี้แสดงว่ามีเหตุการณ์ทุจริตเกิดขึ้น ถามว่าเขาซื้อมา 20 ปี และซ่อมมานานเป็นสิบปีแล้ว ถ้าพูดไม่รับผิดชอบแบบนี้ไม่ได้
       "นักวิชาการหลายคนรู้ทุกเรื่อง รู้เรื่องรบ เรื่องชายแดน เรื่องทหารก็รู้ นี่ ฮ.ตกยังรู้อีก ซึ่งคนเดิมออกมาพูด แล้วผมถามกลับไปว่ารับผิดชอบอะไรหรือเปล่า กองทัพบกเสียหาย ประชาชนและสังคมเข้าใจผิด กำลังพลกองทัพบกเสียขวัญใครจะรับผิดชอบ ผมถามว่าไอ้คนที่ออกมาพูดรับผิดชอบหรือไม่ หนังสือพิมพ์บางฉบับ ทีวีบางช่อง นักวิชาการบางคน ผมไม่อยากพูด แต่ทำให้ผมกดดัน แล้วเราและประเทศชาติจะอยู่อย่างไร ถ้าท่านไม่มีเหตุผลเลย อยากพูดอะไรก็พูด ทำอะไรก็ทำ เว็บไซต์เฟซบุ๊กวาสนา นาน่วม เขียนเสียหายมาก ผมเรียนตรงนี้เลยหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และหนังสือพิมพ์บางฉบับอีกหลายเรื่อง ทีวีเอเอสทีวี ทีวีแดง บ้านเมืองเสียหาย ผมจำเป็นต้องออกมาพูด ถ้าประเทศไทยหรือคนไทยไม่เรียนรู้ว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างไร ก็อย่าอยู่กันเลย เสียเวลาเปล่า” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างมีอารมณ์
 ผบ.ทบ.ระบุอีกว่า ต้องมีกติกา กฎหมายช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้ไปในวันข้างหน้าให้ได้ กองทัพบกต้องยู่ ตนเองจะอยู่หรือไม่-ไม่สนใจ แต่กองทัพบกต้องอยู่ด้วยชื่อเสียง เกียรติยศกองทัพบกกำหนดแล้วว่าจะต้องเดินหน้าไปอย่างไร กองทัพบกมีพันธกิจ 4 ประการที่ต้องดำเนินการ อยากให้การเสียชีวิตเป็นบทเรียนที่คุ้มค่า แล้วเราพร้อมเรียนรู้สังคมว่าอย่างไร แต่ขอให้วิพากษ์วิจารณ์ให้ถูกต้อง มีหลักเกณฑ์ ทำอย่างไรที่จะทำให้ผู้เสียชีวิตไม่เสียเปล่า คือการรักษาแผ่นดินไทยไว้ให้ลูกหลาน สิ่งที่กองทัพบกคิดเสมอคือ การรักษาทรัพยากรให้ลูกหลาน หากในอนาคตถ้าไม่ทำวันนี้ วันหน้าอยู่ไม่ได้
 วันเดียวกัน พล.ต.พิทยา กระจ่างวงษ์  ผู้บัญชาการศูนย์การบินทหารบก (ผบ.ศบบ.) ได้แถลงถึงสาเหตุเบื้องต้นที่ทำให้เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำประสบอุบัติเหตุว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของกองทัพและศูนย์การบินทหารบก เพราะ 11 ใน 14 คนทำงานกับตนเอง ซึ่งองค์ประกอบอุบัติเหตุประกอบด้วย 3 ข้อ คือ 1.คน 2.วัสดุอุปกรณ์ และ 3.สภาพแวดล้อม
 พล.ต.พิทยากล่าวว่า นักบินนั้นได้รับการฝึกจากโรงเรียนการบินศูนย์การบินทหารบก และจากต่างประเทศ นักบินและช่างได้รับการอบรมตามมาตรฐานของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา และยังมีการบินด้วยอากาศยานจำลอง โดยนักบินทั้ง 6 รายถือว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถทุกคน โดยนักบินที่ 1 มีชั่วโมงบินเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 1.5-3 พันชั่วโมง ซึ่งคนที่มีชั่วโมงบินสูงสุดคือ พ.ต.ประพันธ์ เจียมสูงเนิน นักบินแบล็กฮอว์ก ซึ่งมีชั่วโมงบิน 2.9 พันชั่วโมง ส่วนนักบินที่ 2 จะมีชั่วโมงบินประมาณ 600-1.5 พันชั่วโมง เฉลี่ยแล้ว 1 พันชั่วโมงต่อคน นอกจากนี้ ยังมีระบบการตรวจสอบและจัดมาตรฐานการบิน 2 ครั้งต่อปี ตามมาตรฐานสากล
 ส่วนที่สองคือ วัสดุอุปกรณ์ หรือเฮลิคอปเตอร์ แบบแรกคือ ฮท.1 หรือฮิวอี้ เป็นเครื่องมือสอง แต่ผ่านการซ่อมขั้นโรงงานมาแล้วเหมือนใหม่ นำเข้ามาประจำการในปี 2547 รวมเวลา 7 ปี สหรัฐอนุมัติจัดหาให้ไทยลักษณะให้เปล่า ส่วน ฮท.60 หรือแบล็กฮอว์ก เป็นเครื่องมือหนึ่ง ซื้อใหม่เมื่อปี 2545 ส่วนเบลล์ 212 เป็นเครื่องมือหนึ่ง ประจำการเมื่อปี 2535 อายุใช้งานร่วม 19 ปี แต่การซ่อมบำรุงทำอย่างปลอดภัยที่สุด มีการซ่อมและเปลี่ยนชิ้นส่วนตามระยะเวลา 
ชี้ 3 กรณีอุบัติเหตุล้วนๆ
 พล.ต.พิทยายังกล่าวว่า องค์ประกอบที่ 3 คือ สภาพแวดล้อม โดยฮิวอี้และแบล็กฮอว์กที่ตกเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อม คือ สภาพอากาศและสภาพภูมิประเทศที่ไม่เอื้อต่อการบิน มีทั้งเมฆ หมอก ฝน ลม ในขณะที่สภาพภูมิประเทศเป็นป่าเขา ทำให้สภาพอากาศยากลำบากไปอีก เพราะพื้นที่ป่า ภูเขา จะมีลมตีขึ้นลง ลมเฉือน ลมกระโชก โดยฮิวอี้ที่ประสบเหตุเมื่อวันที่ 16 ก.ค.นั้น นักบินพยายามนำ ฮ.ร่อนลง ณ ฐานจอด ฮ.ชั่วคราวที่เขาทำไว้ที่เนิน 1100 แต่สภาพอากาศไม่ดี อากาศปิดๆ เปิดๆ และมีเมฆจากทะเลอันดามันในช่วงฤดูมรสุมไหลเข้ามาแทน ทำให้นักบินไม่เห็นพื้นที่จะจอด จึงยกเลิกการจอดและพยายามยกตัวเพื่อไปใหม่ ซึ่งอาจวนกลับมาใหม่หรือยกเลิกภารกิจเลย แต่หลังจากยกตัวไปใหม่ก็มองไม่เห็นข้างหน้าเลยเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งสันนิษฐานว่าชนภูเขาอย่างแรง ส่วนสาเหตุที่แท้จริงคงต้องรอจากคณะกรรมการสอบสวนอีกครั้ง
 ผบ.ศบบ.กล่าวว่า กรณีแบล็กฮอว์กเกิดเหตุระหว่างบินตรวจภูมิประเทศ ณ จุดส่งลงบริเวณเนิน 1100 เช่นเดียวกัน สภาพอากาศก็ไม่เอื้อทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเบื้องต้นสันนิษฐานว่า นักบินสูญเสียการทรงตัว อาจเรียกว่าแก้ผิด คือไม่เห็นสภาพอากาศและพื้นดิน เพราะการทรงตัวของคนเรา 80% เกิดจากการมองเห็น อีก 20% เกิดจากระบบในหู ตัวนี้ถ้าไม่มีสิ่งเปรียบเทียบกับพื้น โอกาสที่จะหลงสภาพเป็นไปได้สูง คาดว่านักบินน่าจะหลงสภาพ ไม่น่าชนเขา ลักษณะคือบินจะถึงที่วางตัวแล้วและก็เป๋ไป
 พล.ต.พิทยากล่าวว่า เบลล์ 212 เกิดเหตุเมื่อบินใกล้ที่หมายแล้ว เหลืออีก 5 กิโลเมตรเท่านั้น ใกล้บริเวณสันเขื่อน ในขณะที่บินมาเครื่องมีอาการไม่ตอบรับในการบังคับใบพัดหาง หรือ tail rotor ข้อมูลได้จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และช่างประจำอากาศยานยืนยันว่าเครื่องไม่ได้ดับแน่นอน  ประเด็นน่าจะอยู่ที่ tail rotor ที่ทำงานบกพร่อง ก่อนบินก็ทำการตรวจตามขั้นตอนซึ่งไม่พบสิ่งผิดปกติ  ซึ่งถ้ารู้สาเหตุขั้นต้นก่อนต้องนำเครื่องลงที่สนามบิน แต่ตรงนั้นเป็นเสี้ยวนาที และเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ก็ได้ใช้เครื่องเบลล์ 212 บินมาจากลพบุรีเหมือนกัน เวลาถึงก็ใกล้เคียงกัน จึงลงพื้นที่ที่เกิดเหตุได้ทันที เห็นแล้วก็เสียใจ เห็นลูกน้องตัวเองถูกไฟไหม้อยู่
 พล.ต.พิทยาระบุว่า คณะกรรมการสอบสวนมี 2 ชุด สอบทางธุรการ เช่น คำสั่งการบิน สภาพนักบิน และสอบสวนทางเทคนิค ระยะเวลาสอบ 1 เดือน หากไม่สามารถทำได้ก็จะยืดเวลาไป ส่วนการงดบิน เบลล์ 212 ก็เป็นไปตามระเบียบ แต่ถ้าตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติก็สามารถปฏิบัติภารกิจต่อไปได้เลย ไม่ต้องรอผลคณะกรรมการสอบสวน คิดว่าใน 1-2 วันนี้น่าจะบินได้ ส่วนการที่ ผบ.ทบ.งดใช้เฮลิคอปเตอร์ไปร่วมพิธีศพที่ จ.กาญจนบุรี โดยใช้รถยนต์แทนนั้น เป็นเพราะสภาพอากาศไม่ดี มีฝนตกตลอดเส้นทาง ถือว่าเป็นการรักษาความปลอดภัยไว้ก่อน
 "ผบ.ทบ.และผมเอง แม้ว่าจะเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มั่นใจว่าผู้ใต้บังคับบัญชา ในส่วนนักบินหรือช่างขวัญอาจตกลงบ้าง แต่ผมว่าทุกคนยังพร้อมในการปฏิบัติภารกิจต่อไป และผมได้เรียนแม่ทัพภาคที่ 1 ไปว่า ในการเปิดยุทธการในพื้นที่นั้นก็น่าต้องคำนึงถึงสภาพอากาศด้วย ไม่ได้มีผลต่อหน่วยผมอย่างเดียว แต่หน่วยภาคพื้นเองก็ปฏิบัติงานได้ยากลำบาก ในครั้งต่อไปการจะปฏิบัติอะไรต้องคำนึงถึงสภาพอากาศด้วย” พล.ต.พิทยากล่าว
  ผบ.ศบบ.กล่าวว่า ตอนนี้เชื่อว่าความรู้สึกของผู้โดยสารทุกคนคงไม่ค่อยสบายใจ แต่ถ้ารักษามาตรฐานความปลอดภัยได้เรื่อยๆ ความปลอดภัยก็จะกลับมา เช่นช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทบ.ไม่เคยมีอุบัติเหตุใหญ่เลย ในขณะที่หน่วยงานอื่นมี แต่เมื่อเรามีก็กลายเป็น 3 รายติดต่อกันเลย ทำให้คนขาดความเชื่อมั่นไปเยอะ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าเป็นอาถรรพ์แต่อย่างใด แต่ก็จะจัดทำบุญใหญ่เพื่อความสบายใจ เพราะกำลังพลบางคนก็มีความเชื่อ
 ส่วนที่รัฐสภา พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวนักบินและช่างเครื่องที่เสียชีวิตจากกรณีอุบัติเหตุดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้กองทัพดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตให้ดี รวมทั้งขอให้เร่งเข้าไปบำรุงขวัญและจิตใจของนักบินและช่างเครื่องที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ โดยคณะกรรมาธิการทหารฯ จะมีการเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์มาให้ข้อมูล เพื่อหาข้อเท็จจริงและเสนอแนะเป็นแนวทางแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวอีก.

ที่มา  ไทยโพสต์ 26 ก.ค.54
http://www.thaipost.net/news/260711/42340