ชีวิตคู่อยู่ไปคล้ายมีห่วง
ทั้งลับ-ลวง อำพราง วางกับดัก
หาความสุขที่ไหนให้ผ่อน-พัก
เมื่อถูกควักสาวไส้ ให้กากิน
ถ้าเพราะฉันพูดพล่าม ย้ำอดีต
มันไปกรีดใจร้าวให้ด่าวดิ้น
ก็จงหยุดตราหน้าว่าใช้ลิ้น-
ฉุดดวงจินต์เธอต่ำ เจ็บช้ำลึก
หากดวงใจที่แท้ฉันแย่มาก
อย่าลำบากให้หยามความรู้สึก
พิษอารมณ์มันแล่นแค้นยามนึก
มันสะอึกทุกครั้ง เมื่อยังคิด
จะให้ลืมเรื่องยุ่งเลิกฟุ้งซ่าน
ลองกลับด้านเป็นว่า ถ้าฉันผิด
เธออภัยให้ไหมเปิดใจนิด
อาจวิกฤตทิ่มแทง แรงกว่านี้
ชีวิตคู่ อยู่อย่าง คนห่างเหิน
ฉันก็เกินอยู่ไปไร้ศักดิ์ศรี
ต่อให้พร่ำคำง้อขอคืนดี
ที่จะมีคือลา...คงสาใจ
ชีวิตคู่ จะอยู่ หรือจะแยก
ให้มันแตกป่นปี้เลยดีไหม?
ครั้นเห็นเธอเรียกหามาแต่ไกล
กลับโผไปโอบกอด...ไม่รู้ตัว.
[เหมือนบางอย่างอัดอั้นบีบคั้นใจ
ถูกลบทิ้งออกไป...ไม่รู้ตัว. ]
-คนกันเอง-
ระหว่างซอยเท้าไปไม่ไกลมาก
หลังปิดฉากนิยาม..ความเป็นผัว
กลองหนังอกข้างซ้ายคล้ายเร่งรัว
ส่งสัญญาณตื่นกลัว..การเดียวดาย
ปฏิบัติการ..ยุติ..ชีวิตคู่
เกือบสวยหรูรูดปิดตามคิดหมาย
ความเป็นโสด ขยิบตา อย่างท้าทาย
อยู่ไม่ห่างจากกาย..แค่ปลายเท้า
หากแต่เมื่อลมพัด...ซัดหนึ่งวูบ
คล้ายโปรยรูปภาพหลัง..เมื่อครั้งเก่า
ภาพผูกพัน..พราวพร่างระหว่างเรา
ถูกพัดเข้าเกลื่อนทั่ว..ลานหัวคิด
เป็นเวลาเท่าใดไม่อาจรู้
ระหว่างอยู่ในห้วงของดวงจิต
กระทั่งจนไออุ่นอันน้อยนิด
เคลื่อนประชิดแก้มฉ่ำ..ผ่านน้ำตา
ความสับสน...คลี่คลาย..ไปหลายเปลาะ
โดยเฉพาะ..การที่ ได้รู้ว่า
หนึ่งก้อนเนื้อแน่นแน่น..ในอุรา
ปรารถนาเช่นใด...ต่อไปนี้
...........
ระหว่างซอยเท้าสวนเพื่อหวนกลับ
เร่งขยับเท้าไปไวเต็มที่
กลองอกซ้ายตื่นตัวระรัวตี
ยิ่งกว่ากลองหนังดี..ละแวกใด
.............
ขอบคุณที่ยังอยู่...คู่ชีวิต
ขอบคุณที่ไม่คิด..จากไปไหน
หลังโผเข้าสวมกอด...ยิ่งมั่นใจ
เราเริ่มต้นกันใหม่..นะที่รัก
หลังโผเข้าสวมกอดยอดยาใจ
ฉันขาดเธอไม่ได้...แล้วที่รัก
จ้อง เจรียงคำ