เพียงแอบรักแอบมองจดจ้องภาพ
ดั่งต้องสาปวาบไหวด้วยใจเหิม
เรียวปากอิ่มยิ้มแย้มเหมือนแต้มเติม
นัยน์ตาเยิ้มเคลิ้มฝันอันประกาย
ยากสัมผัสกลัดกลุ้มไฟสุมอก
แสร้งหยิบยกถกเถียงเลี่ยงจุดหมาย
แม้ทรวงในใกล้แตกแหลกมลาย
ทุกข์ปางตายท้ายสุดจึงหยุดฟัง
เสียงเรียกร้องของใจที่ไหวสั่น
ที่แสร้งรั้นบั่นจิตกลัวผิดหวัง
เพราะเคยเจ็บเหน็บหนาวร้าวภวังค์
แม้จิตสั่งยังค้าน...สงสารใจ
ปรางทิพย์
ดั่งต้องสาปวาบไหวด้วยใจเหิม
เรียวปากอิ่มยิ้มแย้มเหมือนแต้มเติม
นัยน์ตาเยิ้มเคลิ้มฝันอันประกาย
ยากสัมผัสกลัดกลุ้มไฟสุมอก
แสร้งหยิบยกถกเถียงเลี่ยงจุดหมาย
แม้ทรวงในใกล้แตกแหลกมลาย
ทุกข์ปางตายท้ายสุดจึงหยุดฟัง
เสียงเรียกร้องของใจที่ไหวสั่น
ที่แสร้งรั้นบั่นจิตกลัวผิดหวัง
เพราะเคยเจ็บเหน็บหนาวร้าวภวังค์
แม้จิตสั่งยังค้าน...สงสารใจ
ปรางทิพย์
๐ แกล้งเมินหน้าคราครั้งเธอนั่งชิด
ก็ถูกฤทธิ์พิษสงตรงหวั่นไหว
สั่นทั้งร่างเรือนกายจิตภายใน
คนที่ใช่ไฟรักหลากเพราะเธอ
๐ มุมของคนทนแอบแนบส่งรัก
ซ่อนเก็บกักรักที่มีเสนอ
มรสุมรุมเร้าเหงา,เศร้าเจอ
ชินนิยามความเก้อทุกข์เหม่อลอย
๐ แกล้งไม่รักภักดีที่คอยซ่อน
ตื่น,หลับนอนนัยน์ตาพร่าหยาดฝอย
ฉุกยั้งใจในรักหนักสำออย
คนบุญน้อยบ่อยครวญ..ป่วนระทม
ระนาดเอก
ก็ถูกฤทธิ์พิษสงตรงหวั่นไหว
สั่นทั้งร่างเรือนกายจิตภายใน
คนที่ใช่ไฟรักหลากเพราะเธอ
๐ มุมของคนทนแอบแนบส่งรัก
ซ่อนเก็บกักรักที่มีเสนอ
มรสุมรุมเร้าเหงา,เศร้าเจอ
ชินนิยามความเก้อทุกข์เหม่อลอย
๐ แกล้งไม่รักภักดีที่คอยซ่อน
ตื่น,หลับนอนนัยน์ตาพร่าหยาดฝอย
ฉุกยั้งใจในรักหนักสำออย
คนบุญน้อยบ่อยครวญ..ป่วนระทม
ระนาดเอก