หากเหนื่อยอ่อนนอนพักแนบตักขวัญ
ดูตะวันผันฉายปลายฟ้าใส
ลมทะเลเห่กล่อมเข้าล้อมไกว
แล้วหลับใหลให้สนิทแนบนิทรา
ลืมโลกลวงห้วงหลอนให้ห่อนหาย
ลืมฝันร้ายพ่ายรักเจ็บหนักหนา
ลืมถ้อยพจน์ทดท้อทรมา
ลืมเวลาคราเหงาที่เศร้าซม
จงแนบฟัง..ครั้งเสียงสำเนียงหวาน
ปลอบดวงมานผ่านถ้อยสร้อยผสม
ยามเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอุราตรม
ได้ภิรมย์ชมชื่นทุกคืนวัน
ดูตะวันผันฉายปลายฟ้าใส
ลมทะเลเห่กล่อมเข้าล้อมไกว
แล้วหลับใหลให้สนิทแนบนิทรา
ลืมโลกลวงห้วงหลอนให้ห่อนหาย
ลืมฝันร้ายพ่ายรักเจ็บหนักหนา
ลืมถ้อยพจน์ทดท้อทรมา
ลืมเวลาคราเหงาที่เศร้าซม
จงแนบฟัง..ครั้งเสียงสำเนียงหวาน
ปลอบดวงมานผ่านถ้อยสร้อยผสม
ยามเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอุราตรม
ได้ภิรมย์ชมชื่นทุกคืนวัน
เพียงจำนรรจ์ ขวัญเยื้อน เอ่ยเอื้อนปลอบ
ประโลมมอบ กอบแต่ง สำแดงฝัน
ชวนชี้ชม ลมคลื่น รื่นรำพัน
พลางกำนัล ปันกรุ่น ไออุ่นนอน
ตักนุ่มเกย เขนยหนุน ละมุนเนื้อ
ใจเคยเจือ เฝือเฝื่อน คลายเลือนหลอน
ขอซบแนบ แอบนาน ยามรานรอน
กระซิบอ้อน วอนนวล อย่าด่วนชัง
มองฟ้าใส ไหวหวาม ช่างงามพริ้ง
มองยอดหญิง มิ่งขวัญ หมายกลั่นหวัง
มองแวววาด หวาดนัก หวั่นจักพัง
มองเรื่องพลั้ง ครั้งก่อน อ่อนกมล
ถามว่าเหนื่อย ไหมใจ ไยยังฝืน
ทนกล้ำกลืน ขื่นคำ ร่ำฉงน
เถอะ!หนักหน่าย พ่ายแพ้ แก่กมล
ทิ้งเพื่อคน ที่ให้ หนึ่งใจมา
ปภัสร์
๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๔