มาอ่านเพลงยาวที่ผมเคยเขียน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 09:44:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: มาอ่านเพลงยาวที่ผมเคยเขียน  (อ่าน 5229 ครั้ง)
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« เมื่อ: 26 มิถุนายน 2011, 05:26:PM »





เพลงยาวนี้เขียนได้สิบกว่าปีแล้วตอนอายุยี่สิบต้นๆ ใช้เวลาในการเขียน 3 ชั่วโมง



                                                  ก่อนจะจากกันไปในวันนี้
ได้คบหาหนึ่งเดือนดั่งเหมือนปี           รักไมตรีน้ำใจในทุกคน
จึงเขียนความตามใจอาลัยมิตร           หวั่นเหมือนคิดไม่มัธยัสเลยขัดสน
จะซื้อของส่งฝากก็ยากจน                จำทุกข์ทนเขียนคำมาร่ำไร
ตามประสามาแต่ไรเพราะใจรัก           ก็นานนักเมื่อว่างเว้นเป็นนิสัย
ใครได้อ่านสาล์นเรื่องอย่าเคืองใจ       ยิ้มละไมเป็นสุขเสียทุกราย
ที่เคยคิดงอนแง่แต่เมื่อก่อน               ขอผัดผ่อนลงเถิดนะเฉิดฉาย
จะว่ารักก็หักใจอย่าได้อาย                จงผ่อนคลายลงบ้างความหมางเมิน



เป็นมนุษย์สุดดีคือมียศ                    พอปรากฏให้ชนชั้นเขาสรรเสริญ
ถ้าสิ้นเนื้อประดาตัวกลัวแต่เมิน           ไม่เชื้อเชิญชักนำช่วยบำรุง
อย่างตัวพี่ที่ไร้คนคำนับ                    ทั้งสินทรัพย์ก็ยากไร้จะใส่ถุง
พวกเผ่าพงษ์วงศาพวกป้าลุง             ไม่มีสุงสิงด้วยช่วยดูแล
คราวตกยากบากหน้าพึ่งซึ่งพี่น้อง       หาเพื่อนพ้องพอมีดีแต่แม่
เมื่อยากเย็นเข็ญใจได้ดูแล                ยามท้อแท้ผิดหวังยังตักเตือน
ยามห่างแม่มาไกลได้รู้จัก                 แน่นตระหนักคบหาเกินกว่าเพือน
ทั้งหญิงชายหลายหน้ามาแรมเดือน     จะจากเหมือนอาลัยหลังหลั่งน้ำตา
ต่อไปนี้ถ้าไม่มีพวกเจ้าแล้ว               เหมือนคลาดแคล้วตกประดาษวาสนา
อันความดีพี่สู้แต่บูชา                      ถึงจะลาร้างกันไปแสนไกล
พี่ห่วงแต่พวกเจ้าเอาแต่โกรธ            คนชื่ดโรจน์ปากไม่ดีเสียนิสัย
ก็เคยมีทีพาลรำคาญใจ                   ไม่ได้หมายกลั่นแกล้งยุแยงเลย
พูดลวนลามเพียงแต่ต้องลองฉลาด    แม้นประมาทผิดพลั้งฟังเฉลย
อย่าเอาแต่งอนเง้าเถิดเจ้าเอย           อย่าเฉยเมยพี่จะสั่งจงฟังคำ



ทั้ง-ปิ-เป้า-นาค-ออนและน้องโอ๋        ต่างแต่โตเพราะนามทั้งงามขำ
คนชื่อโรจน์ไม่เคยขรึมชอบพึมพำ      เช่นคำร่ำหยิบยกตลกกลอน
ก็ด้วยรักบทกวีดั่งชีวิต                    คอยลิขิตขีดเส้น้ป็นอักษร
ร้อยคำความตามวิสัยใจรักกลอน       มาเว้าวอนชื่นชมคารมครวญ



อันว่าปินั้นงามนามเสนาะ                ชอบเฉาเลาะเนื้อนวลล้วนสงวน
จะเขียนแต่คมคมพอสมควร             วานเนื้อนวลอย่าง้องอนวอนแต่ฟัง
เจ้านั้นงามความหมายให้ชายชอบ      พี่เคยลอบเอ่ยปากจะฝากฝัง
ไฉนแล้วแก้วใจก็ไม่ฟัง                  ถึงตึงตังโกรธขึ้งทำบึ้งตึง
หรือว่าพี่จนทรัพย์สินสิ้นเงินบาท       คอก็ขาดสร้อยคล้องทองสลึง
ทั้งนิสัยแต่ไรซะชอบทะลึ่ง              เธอถึงบึ้งเบี้ยวบูดสุละอา
แต่อย่างไรพี่ได้เคยเอ่ยว่ารัก            นั้นสุดหักใจจิตไม่คิดหา
รักทั้งรู้ว่างามขำจะล่ำลา                สุดจะอาลัยหวังแต่สั่งความ
แม้ตอนอยู่ดูแต่หน้าว่าไม่รัก             คอยถามทักหยอกเย้ากระเซ้าถาม
ยามเจ้าโกรธยอดหญิงเจ้ายิ่งงาม      โอ้นงรามดั่งหนามดงคงคาใจ
ก่อนจะจากฝากไว้แต่ใจรัก              จะแน่นหนักรักปิมิหวั่นไหว
ต่อวันหน้ากลับมาอีกมิหลีกไกล         จะเสริมใจรักมั่นกว่าวันวาน




ส่วนน้องเป้าหน้าอ่อนเด็กเหมือนเจ๊กนัก  เคยถามทักหน้าบูดแต่พูดหวาน
ดูนิสัยใจคอพอประมาณ                     ประสบการณ์ก็ออกอ่อนชอบค้อนคน
เจ้าน่ารักพี่ทักทายหมายหยอกเย้า         พี่รักเจ้าเหมือนดั่งน้องอย่าหมองหม่น
คนอย่างพี่มิชั่วร้ายคล้ายคำคน            อย่าบึ้งบูดคิดค้นคำประณาม
ก่อนจะพรากจากกันหวั่นวิตก              จึงหยิบยกกล่าวกลอนมาย้อนถาม
เธออย่าหาว่าไม่ควรคำลวนลาม          ได้อ่านความจงรู้ไว้พี่ใจดี




แล้วน้องนาคปากกว้างเคยถางถาก       เพียงลมปากเย้าน้อวอย่าหมองศรี
เจ้ารูปงามนามวิไลนิสัยดี                  มีพี่พี่คอยสอนสั่งเจ้าทั้งนั้น
ก็ดีแล้วมีพี่น้องคุ้มครองรัก                จงประจักษ์ว่าโลกล้วนโศกศัลย์
ถ้าไม่มีที่ซึ่งจะพึ่งกัน                       เพราะนาคนั้นมีแต่พี่ที่แสนดี
มีคนคอยอบรมบ่มนิสัย                    ทุกข์สิ่งใดยังได้พึ่งพี่พี่
คนชื่อโรจน์โปรดอย่าป้ายร้ายราคี        พี่เป็นพี่เธอคนหนึ่งได้พึงคิด




ยังมีต่อีกยาวมาก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

ช่วงนี้ไม่ว่าง, ...สียะตรา.., นพตุลาทิตย์, รุ่งอรุณ, สายใย, อ้อนจันทร์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, กาญจนธโร, Thammada, รพีกาญจน์, อริญชย์, จารุทัส

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า


Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s