"เงาดำ"
เมฆวนเวียนเปลี่ยนทรงไม่คงที่
ดูมากมีแตกต่างฟ้าช่างก่อ
เหมือนใจคนวนไปไม่รู้พอ
ปรุงเติมต่อล่อลวงห้วงมายา
สิ่งแวดล้อมห้อมข้างต่างวิถี
ประเพณีที่ถือสื่อภาษา
วัฒนธรรมดำรงค์สืบพงศ์มา
พัฒนานิสัยจิตใจคน
ประสบการณ์นานมาแต่คราหลัง
คำสอนสั่งครั้งเก่าเฝ้าฝึกฝน
ทั้งสนุกสุขเศร้าเหงาทุกข์ทน
ความสับสนหม่นหมองนองน้ำตา
จึงซึมซับรับรู้ที่ดูเห็น
ก่อตัวเป็นตะกอนก้อนใหญ่หนา
หยาบกระด้างล้างลบกลบจรรยา
เพียงเพราะว่าค่าวัตถุฉลุใจ
ความเป็นเพื่อนเลื่อนลอยเริ่มถอยหนี
ความอารีมีกันเคยปันให้
เปลี่ยนเป็นเกลียดเคียดแค้นฝังแน่นใน
เต็มฤทัยอภัยนั้นมันไม่มี
จากเป็นมิตรผิดแผกแบ่งแยกออก
กลิ้งกลับกลอกหลอกล่อเติมต่อสี
คอยระบายป้ายเปื้อนเพื่อนทุกที
เอาสิ่งดีทาทาบเคลือบอาบตัว
เมฆนั้นลอยคล้อยเคลื่อนแล้วเลือนหาย
ฟ้าก็กลายสดใสคลุมไปทั่ว
แต่กิเลสตัณหาอันน่ากลัว
ยังหม่นมัวทั่วใจไม่รู้เลือน
เมฆวนเวียนเปลี่ยนทรงไม่คงที่
ดูมากมีแตกต่างฟ้าช่างก่อ
เหมือนใจคนวนไปไม่รู้พอ
ปรุงเติมต่อล่อลวงห้วงมายา
สิ่งแวดล้อมห้อมข้างต่างวิถี
ประเพณีที่ถือสื่อภาษา
วัฒนธรรมดำรงค์สืบพงศ์มา
พัฒนานิสัยจิตใจคน
ประสบการณ์นานมาแต่คราหลัง
คำสอนสั่งครั้งเก่าเฝ้าฝึกฝน
ทั้งสนุกสุขเศร้าเหงาทุกข์ทน
ความสับสนหม่นหมองนองน้ำตา
จึงซึมซับรับรู้ที่ดูเห็น
ก่อตัวเป็นตะกอนก้อนใหญ่หนา
หยาบกระด้างล้างลบกลบจรรยา
เพียงเพราะว่าค่าวัตถุฉลุใจ
ความเป็นเพื่อนเลื่อนลอยเริ่มถอยหนี
ความอารีมีกันเคยปันให้
เปลี่ยนเป็นเกลียดเคียดแค้นฝังแน่นใน
เต็มฤทัยอภัยนั้นมันไม่มี
จากเป็นมิตรผิดแผกแบ่งแยกออก
กลิ้งกลับกลอกหลอกล่อเติมต่อสี
คอยระบายป้ายเปื้อนเพื่อนทุกที
เอาสิ่งดีทาทาบเคลือบอาบตัว
เมฆนั้นลอยคล้อยเคลื่อนแล้วเลือนหาย
ฟ้าก็กลายสดใสคลุมไปทั่ว
แต่กิเลสตัณหาอันน่ากลัว
ยังหม่นมัวทั่วใจไม่รู้เลือน
เงาดำที่พาดโลก
พอเมฆโยกก็คลาเคลื่อน
คืนแสงตะวันเยือน
สกลจ้าทิวาชัด
เงาดำที่พาดใจ
ซ่อนลึกไว้ไม่กำจัด
ปล่อยทิ้งยิ่งรึงรัด
สนตะพายพฤติกรรม
หมั่นจ้องมองใจตน
ฝึกและฝนเป็นประจำ
ล้างใจด้วยรสธรรม
ไล่เงาดำที่แฝงรอย