เปรียบเธอเป็นเป็นสิ่งเติมขาด
ประหนึ่งหยาดหยาดในเวหน
เป็นธารใจใจไหลเลี้ยงกมล
ยามทุกข์หม่นหม่นให้แก่กัน
พลังใจล้าล้าเข้าถาโถม
คอยประโลมโลมโน้มปลอบขวัญ
ยามโศกตรมตรมขมจาบัลย์
ช่วยผลักดันดันจากบึ้งตรม
ประดุจลมลมพรมพัดชื่น
ให้ระรื่นรื่นชื่นสุขสม
ในดวงจิตจิตชิดเชยชม
ไออุ่นพรมพรมภิรมย์มี
เกินจะสรรสรรรายละเอียด
คำละเมียดเมียดใดเทียมที่
เป็นทุกสิ่งสิ่งในวันนี้
เป็นเพื่อนพี่พี่ดีสัมพันธ์
แม้อยู่ไกลไกลให้ความห่วง
ในทุกช่วงช่วงไม่เหหัน
ใยไหนดีดีไม่เทียมทัน
ใยเธอฉันฉันนั้นงามตา
เปรียบเธอเป็นเป็นสิ่งเติมขาด
ที่ไม่อาจอาจตีคุณค่า
หนึ่งเดียวชายชายให้สัญญา
ที่รอมามาอยู่เคียงกาย
"กานต์ฑิตา"
๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๔
ประหนึ่งหยาดหยาดในเวหน
เป็นธารใจใจไหลเลี้ยงกมล
ยามทุกข์หม่นหม่นให้แก่กัน
พลังใจล้าล้าเข้าถาโถม
คอยประโลมโลมโน้มปลอบขวัญ
ยามโศกตรมตรมขมจาบัลย์
ช่วยผลักดันดันจากบึ้งตรม
ประดุจลมลมพรมพัดชื่น
ให้ระรื่นรื่นชื่นสุขสม
ในดวงจิตจิตชิดเชยชม
ไออุ่นพรมพรมภิรมย์มี
เกินจะสรรสรรรายละเอียด
คำละเมียดเมียดใดเทียมที่
เป็นทุกสิ่งสิ่งในวันนี้
เป็นเพื่อนพี่พี่ดีสัมพันธ์
แม้อยู่ไกลไกลให้ความห่วง
ในทุกช่วงช่วงไม่เหหัน
ใยไหนดีดีไม่เทียมทัน
ใยเธอฉันฉันนั้นงามตา
เปรียบเธอเป็นเป็นสิ่งเติมขาด
ที่ไม่อาจอาจตีคุณค่า
หนึ่งเดียวชายชายให้สัญญา
ที่รอมามาอยู่เคียงกาย
"กานต์ฑิตา"
๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๔
**"กลบทคุลาซ่อนลูก" แบบที่ ๑**
คำที่ ๓ และ ๔ ซ้ำกัน โดยแต่ละวรรคมีเพียง ๗ คำ
คำที่ ๓ และ ๔ ซ้ำกัน โดยแต่ละวรรคมีเพียง ๗ คำ