หลังสู้ฟ้าใบหน้ายังสู้ฝน
แสงสู้คนร้อนไหม้ไม่หน่ายหนี
แขนหอบกล้าปักดำนำชีวี
เหงื่อไหลปรี่ทั่วร่างกลางทุ่งนา
ตื่นเช้ามืดพอแสงแยงทางส่อง
เพียงได้มองเห็นทางย่างก้าวหา
ไก่ขันแจ้วถึงแล้ววันเวลา
ต้องเดินหน้าเพื่องานสานชีพตน
อากาศเย็นยามเช้าก้าวสู่ทุ่ง
ต้องรีบมุ่งสู้เวลายามฟ้าหม่น
หากรวีฉายแสงร้อนแรงลน
เกินจะทนหม่นไหม้ในอาการ
จากนี้ไปอีกหน่อยครุ่นคอยหนอ
ข้าวชูช่อรออรุณอุ่นไอหวาน
จินตนาพาฝันนั้นไม่นาน
ข้าวเต็มลานบานไสวได้ชื่นชม
พ่อแม่ฝันให้ฉันนั้นเรียนต่อ
ข้าวคงพอเหลือขายได้ดั่งสม
ใจเรารื้นคืนวันไม่หวั่นตรม
...แต่..นาล่มกลางทางอย่างยับเยิน !
ชีวิตนี้ที่หวังต้องยั้งหยุด
จินตนาล้าหลุดฉุดขัดเขิน
จินตนาคนจนข้นแค้นเกิน
ก้มหน้าเดินด้วยคล้าย..อายฟ้าดิน.
แสงสู้คนร้อนไหม้ไม่หน่ายหนี
แขนหอบกล้าปักดำนำชีวี
เหงื่อไหลปรี่ทั่วร่างกลางทุ่งนา
ตื่นเช้ามืดพอแสงแยงทางส่อง
เพียงได้มองเห็นทางย่างก้าวหา
ไก่ขันแจ้วถึงแล้ววันเวลา
ต้องเดินหน้าเพื่องานสานชีพตน
อากาศเย็นยามเช้าก้าวสู่ทุ่ง
ต้องรีบมุ่งสู้เวลายามฟ้าหม่น
หากรวีฉายแสงร้อนแรงลน
เกินจะทนหม่นไหม้ในอาการ
จากนี้ไปอีกหน่อยครุ่นคอยหนอ
ข้าวชูช่อรออรุณอุ่นไอหวาน
จินตนาพาฝันนั้นไม่นาน
ข้าวเต็มลานบานไสวได้ชื่นชม
พ่อแม่ฝันให้ฉันนั้นเรียนต่อ
ข้าวคงพอเหลือขายได้ดั่งสม
ใจเรารื้นคืนวันไม่หวั่นตรม
...แต่..นาล่มกลางทางอย่างยับเยิน !
ชีวิตนี้ที่หวังต้องยั้งหยุด
จินตนาล้าหลุดฉุดขัดเขิน
จินตนาคนจนข้นแค้นเกิน
ก้มหน้าเดินด้วยคล้าย..อายฟ้าดิน.
"บ้านริมโขง"
๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๔