คล้ายประหนึ่งทำนองของเพลงเศร้า
ก้องกังกวานกล่อมเกลา...เข้าฉะเฉือน
ยามผ่านโสตสะกิดสิ่งติดเตือน
หมุนความคิดคล้อยเคลื่อน...ซึ่งเลือนราง
สู่อดีตสุข-เศร้า คราเก่าก่อน
ค่อยค่อยย้อนก่อนใครจะไกลห่าง
ภาพฝันเก่าเหงาชืดสีจืดจาง
แฝงอำพรางคำฝากว่าอยากเจอ
แค่คิดว่าได้พบเพียงในฝัน
ความอัดอั้นคงคลายหายหมอง-เหม่อ
กิริยาท่าทีที่เป็นเธอ
คงเสน่ห์เสมอ...ชวนเพ้อรอ
แต่ใครเล่าจักย้อนผ่อนกระแส
ของตัวแปรเวลานำพาก่อ
ยามไร้แสงแรงเงาเคล้าพะนอ
ก็เก็บห่อกายห่มระทมทุกข์
แสงสะท้อนวูบหนึ่งถึงมองเห็น
นั่นกลับเป็นแก้วเก็จเม็ดความสุข
ที่เปล่งหลอกตาหลอนแล้วซ่อนซุก
ไหวกระตุกสิ่งตกค้างอกคน
หากเงารักตกค้างบ้างเพียงน้อย
คนรักลอยคงสุขไม่ทุกข์หม่น
แต่รักร้างห่างหายสลายจน
ไม่เหลือหล่นสิ่งใดให้ใคร่ครวญ
คิดนะคิดถึงเขาทุกเช้าค่ำ
เศร้านะเศร้าทุกคำนำจิตหวน
หลงนะหลงละเมอเพ้อรัญจวน
รักนะรักปักป่วนชวนระทม
อยากจะชิดชูชื่นได้คืนกลับ
อยากจะปรับเปลี่ยนแปลงแหล่งขบขม
อยากร้องขอรอชื่นกลับคืนชม
อยากคลายปมความเศร้าให้เงาคลาย
หวังให้แสงแห่งสรวงดวงสวรรค์
ฉายส่องพลันล้างเงาเข้าสลาย
พรหมบนฟ้าปรายตามาเยี่ยมกราย
คืนรักหมายครั้งก่อนให้ย้อนคืน
จะได้ไหมอย่างหวังตั้งตาเฝ้า
เพียงให้เขาห่วงหาอย่าทนฝืน
อย่ายืนยันอำลาพากล้ำกลืน
...กลับมารื่นคืนย้อนก่อนวันลา
อยู่กับเงาตกค้างอย่างเหงาหงอย
อยู่ด้วยคอยวันชื่นกลับคืนหา
อยู่ด้วยหวังวันหนึ่งซึ่งกลับมา
อยู่ด้วยว่าวันไหน...ใจเธอยอม.
คนรักลอยคงสุขไม่ทุกข์หม่น
แต่รักร้างห่างหายสลายจน
ไม่เหลือหล่นสิ่งใดให้ใคร่ครวญ
คิดนะคิดถึงเขาทุกเช้าค่ำ
เศร้านะเศร้าทุกคำนำจิตหวน
หลงนะหลงละเมอเพ้อรัญจวน
รักนะรักปักป่วนชวนระทม
อยากจะชิดชูชื่นได้คืนกลับ
อยากจะปรับเปลี่ยนแปลงแหล่งขบขม
อยากร้องขอรอชื่นกลับคืนชม
อยากคลายปมความเศร้าให้เงาคลาย
หวังให้แสงแห่งสรวงดวงสวรรค์
ฉายส่องพลันล้างเงาเข้าสลาย
พรหมบนฟ้าปรายตามาเยี่ยมกราย
คืนรักหมายครั้งก่อนให้ย้อนคืน
จะได้ไหมอย่างหวังตั้งตาเฝ้า
เพียงให้เขาห่วงหาอย่าทนฝืน
อย่ายืนยันอำลาพากล้ำกลืน
...กลับมารื่นคืนย้อนก่อนวันลา
อยู่กับเงาตกค้างอย่างเหงาหงอย
อยู่ด้วยคอยวันชื่นกลับคืนหา
อยู่ด้วยหวังวันหนึ่งซึ่งกลับมา
อยู่ด้วยว่าวันไหน...ใจเธอยอม.
"บ้านริมโขง"
๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๔