ยามราตรีมีจันทร์นั้นส่องแสง
แม้อ่อนแรงบางเบาเงาสถิต
ได้มองเห็นเลือนรางบ้างเพียงนิด
เหมือนสะกิดใจหวังรั้งฤทัย
ว่าวันหนึ่งเงาจางหว่างเรานั้น
จะคืนฝันครั้งเก่าเรามาใหม่
หากยังคงเหลือบ้างเงากลางใจ
เริ่มต้นให้วันนี้..มีสุขยัง
จะดูแลห่วงใยไม่ไกลห่าง
จะร่วมวางใจคู่สู่ความหวัง
จะร่วมสร้างรักเพิ่มเติมพลัง
จะเป็นดังชีวิตกายติดกัน
ยังเลือนรางกลางใจในวันนี้
จะเกิดมีบ้างไหมที่ใฝ่ฝัน
ตั้งตาคอยหงอยเหงาเฝ้ารำพัน
เมื่อไหร่เงาจางนั้น...มันไม่เลือน
ยามราตรีมืดคลุมเป็นหลุมเศร้า
รอบกายเฝ้าเปล่าเปลี่ยวเกี่ยวเชือดเฉือน
ฤทัยหมองครองขมตรมสะเทือน
เงาดาวเดือนเหมือนแกล้งแสร้งซุกซน
ได้แต่ฝากรักลอยคอยห่วงหา
สู่จันทราฟ้าครามยามหลังฝน
มั่นคงนักรักนี้ที่กมล
มอบสู่คน ที่เห็นร่าง...เพียงบางเบา.
แม้อ่อนแรงบางเบาเงาสถิต
ได้มองเห็นเลือนรางบ้างเพียงนิด
เหมือนสะกิดใจหวังรั้งฤทัย
ว่าวันหนึ่งเงาจางหว่างเรานั้น
จะคืนฝันครั้งเก่าเรามาใหม่
หากยังคงเหลือบ้างเงากลางใจ
เริ่มต้นให้วันนี้..มีสุขยัง
จะดูแลห่วงใยไม่ไกลห่าง
จะร่วมวางใจคู่สู่ความหวัง
จะร่วมสร้างรักเพิ่มเติมพลัง
จะเป็นดังชีวิตกายติดกัน
ยังเลือนรางกลางใจในวันนี้
จะเกิดมีบ้างไหมที่ใฝ่ฝัน
ตั้งตาคอยหงอยเหงาเฝ้ารำพัน
เมื่อไหร่เงาจางนั้น...มันไม่เลือน
ยามราตรีมืดคลุมเป็นหลุมเศร้า
รอบกายเฝ้าเปล่าเปลี่ยวเกี่ยวเชือดเฉือน
ฤทัยหมองครองขมตรมสะเทือน
เงาดาวเดือนเหมือนแกล้งแสร้งซุกซน
ได้แต่ฝากรักลอยคอยห่วงหา
สู่จันทราฟ้าครามยามหลังฝน
มั่นคงนักรักนี้ที่กมล
มอบสู่คน ที่เห็นร่าง...เพียงบางเบา.
"บ้านริมโขง"
๙ มิถุนายน ๒๕๕๔