...รางเลือนลาง...
...น้ำตาหล่นบนรางทางรถด่วน
สิ้นขบวนก็อำลาพาใจหาย
คำสัญญาก็เคลื่อนเลือนมิวาย
คนข้างกายก็ไร้แวว...แก้วตารอ
...รถไฟฟรียังหนีจากให้ฉากรัก
ดีเซลรางเพียงทักพักใจหนอ
รถเร็วฝากน้ำตามาพะนอ
(รถ)ธรรมดาก็เทียวจ่อก่อทักทาย
...สิ้นเสียงวูดรถไฟใจแทบขาด
ความฝันวาดเคยประดับก็ปรับสาย
เหลือเพียงเจ็บเหน็บอยู่ไม่รู้คลาย
ยืนเดียวดายมองรถผ่านสะท้านทรวง
...ก่อนเคยให้คำสัญญาตรึงตรามั่น
รักนิรันดร์นั้นหนาพาเซ่นสรวง
สุดท้ายเหลือคำฝากจากคนลวง
หลงติดบ่วงล่วงล้ำช้ำจนตาย
...เสียงฉึก ฉัก คล้ายทับพักขยี้
ให้ฤดีมีรอย...ค่อยสลาย
เมื่อหัวใจเป็นรางทางใจชาย
ก็มิวายโดยขยี้ให้มีรอย
...มองรถไฟคล้ายมาอำลาจาก
เคลื่อนแล่นฝากความเศร้าให้เหงาหงอย
คำว่ารักปักรางเป็นทางซอย-
แผลใจคอยลอยเด่นเฝ้าเซ่นใจ
...ยังรอท่าชานชลา ณ ที่เก่า
ที่มีเราคู่ชิดพิสมัย
รอเสียงวูดร้องมาพาคนไกล
สู่รถไฟปลายทาง...รางแก่งคอย...
ตะวันฉาย
แก่งคอย
๒ มิถุนายน ๒๕๕๔
๐ รถไฟเลื่อนเคลื่อนตัวความมัวหมอง
เริ่มจับจองที่นั่งข้างเหงาหงอย
มือยังโยกโบกลาน้ำตาปรอย
เหมือนทยอยย้อยหยดตามรถไฟ
๐ ครั้งวันลาอาดูรยังพูนพอก
หวูดดังบอกตอกย้ำซ้ำหวั่นไหว
รางกระเพื่อมเอื้อมหน้าระอาใจ
โบกี้ใหญ่ไยคว้างดั่งร่างเดียว
๐ รับปากคำสัญญาน้ำตาภักดิ์
จากคนรักหนักแน่นตรึงแก่นเหนียว
ชานชลาเป็นพยานสานรวงเรียว
เธอผู้เดียวเท่านั้นที่ฉันมี
๐ จากแก่งคอยรอยทางเริ่มจางภาพ
ชลนัยน์ไหลอาบขนาบขยี้
ทั้งสองฝั่งผนังถ้ำร่ำไพรรี
เหมือนส่งมนต์ดลจี้บี้อกทรวง
๐ มองแมกไม้จำปาครารถผ่าน
กลิ่นหอมซ่านลอยเข้าเร้าห่วงหวง
ทานตะวันเจิดจ้าท้าแดดดวง
ให้ยิ่งห่วงจอมขวัญวันแดดแรง
๐ พิงกระจกวกลมพรมสะบัด
กิ่งไม้พัดหวืดเหวยเย้ยแสลง
ดุจดั่งรู้ว่าห่างนางแก้มแดง
เหมือนจะแสร้งทับถมส่งลมตี
๐ จวบจนมานปานนี้ที่แยกห่าง
ยังเร่งสร้างฐานะภักดิ์และศักดิ์ศรี
สมประสงค์วันใดรถไฟฟรี
จะพาพี่..ไปแต่ง..ที่แก่งคอย.....
(เศร้าได้ใจเลยครับพี่ตะวัน)
ปล.รถไฟฟรี..โดนดีเซลรางด่วนขบวนสุดท้ายของดรีมสับรางแซงหน้าซะงั้น!..ฮือๆ
เริ่มจับจองที่นั่งข้างเหงาหงอย
มือยังโยกโบกลาน้ำตาปรอย
เหมือนทยอยย้อยหยดตามรถไฟ
๐ ครั้งวันลาอาดูรยังพูนพอก
หวูดดังบอกตอกย้ำซ้ำหวั่นไหว
รางกระเพื่อมเอื้อมหน้าระอาใจ
โบกี้ใหญ่ไยคว้างดั่งร่างเดียว
๐ รับปากคำสัญญาน้ำตาภักดิ์
จากคนรักหนักแน่นตรึงแก่นเหนียว
ชานชลาเป็นพยานสานรวงเรียว
เธอผู้เดียวเท่านั้นที่ฉันมี
๐ จากแก่งคอยรอยทางเริ่มจางภาพ
ชลนัยน์ไหลอาบขนาบขยี้
ทั้งสองฝั่งผนังถ้ำร่ำไพรรี
เหมือนส่งมนต์ดลจี้บี้อกทรวง
๐ มองแมกไม้จำปาครารถผ่าน
กลิ่นหอมซ่านลอยเข้าเร้าห่วงหวง
ทานตะวันเจิดจ้าท้าแดดดวง
ให้ยิ่งห่วงจอมขวัญวันแดดแรง
๐ พิงกระจกวกลมพรมสะบัด
กิ่งไม้พัดหวืดเหวยเย้ยแสลง
ดุจดั่งรู้ว่าห่างนางแก้มแดง
เหมือนจะแสร้งทับถมส่งลมตี
๐ จวบจนมานปานนี้ที่แยกห่าง
ยังเร่งสร้างฐานะภักดิ์และศักดิ์ศรี
สมประสงค์วันใดรถไฟฟรี
จะพาพี่..ไปแต่ง..ที่แก่งคอย.....
(เศร้าได้ใจเลยครับพี่ตะวัน)
ปล.รถไฟฟรี..โดนดีเซลรางด่วนขบวนสุดท้ายของดรีมสับรางแซงหน้าซะงั้น!..ฮือๆ