หากต้องร้างลากันฉัน..ก็เจ็บ
มีคำเหน็บเล็บขบพบเสมอ
ไม่มีใครที่จากฝากละเมอ
ทั้งฉันเธอต่างเศร้าเข้ารุมทรวง
หัวใจฉันหนึ่งเนื้อเพื่อบอกรัก
มีชีวิตที่รู้จักรักห่วงหวง
ใช่พล๊าสติกเหล็กไหลให้พุ่มพวง
โดนรักลวงรู้สึกสำนึกดี
เจ็บ...รู้ไหม...ใช่ฉันรู้......
ความรักอยู่ด้วยชื่นรื่นสุขี
หากวันใดรักร้างห่างฤดี
ใช่เธอมี...ฉันก็มี...ที่เจ็บตรม
บอกให้รู้..ฉันแคร์ แท้ความรัก
ผูกสมัครรักไว้ให้สุขสม
มันไม่ง่าย..ใช่ไหม..กว่าได้ชม
ปล่อยให้รักระทม..ขมทำไม ?
เมื่อรักลอยถอยหายคล้ายหดหู่
ยามรักอยู่ดูละเลยเฉยไฉน
แทนจะเฝ้าเคล้าถนอมกล่อมดวงใจ
กลับเชิดหน้าเข้าใส่หนอใจนาง
แล้วร้องร่ำฉ่ำน้ำตา...พาสงสาร
ว่าดวงมานเจ็บล้นคนถากถาง
เมื่อมีรักไม่ถนอมยอมวายวาง
ก็ช่างนาง..ให้ครางครวญ..สมควรแล้ว.
มีคำเหน็บเล็บขบพบเสมอ
ไม่มีใครที่จากฝากละเมอ
ทั้งฉันเธอต่างเศร้าเข้ารุมทรวง
หัวใจฉันหนึ่งเนื้อเพื่อบอกรัก
มีชีวิตที่รู้จักรักห่วงหวง
ใช่พล๊าสติกเหล็กไหลให้พุ่มพวง
โดนรักลวงรู้สึกสำนึกดี
เจ็บ...รู้ไหม...ใช่ฉันรู้......
ความรักอยู่ด้วยชื่นรื่นสุขี
หากวันใดรักร้างห่างฤดี
ใช่เธอมี...ฉันก็มี...ที่เจ็บตรม
บอกให้รู้..ฉันแคร์ แท้ความรัก
ผูกสมัครรักไว้ให้สุขสม
มันไม่ง่าย..ใช่ไหม..กว่าได้ชม
ปล่อยให้รักระทม..ขมทำไม ?
เมื่อรักลอยถอยหายคล้ายหดหู่
ยามรักอยู่ดูละเลยเฉยไฉน
แทนจะเฝ้าเคล้าถนอมกล่อมดวงใจ
กลับเชิดหน้าเข้าใส่หนอใจนาง
แล้วร้องร่ำฉ่ำน้ำตา...พาสงสาร
ว่าดวงมานเจ็บล้นคนถากถาง
เมื่อมีรักไม่ถนอมยอมวายวาง
ก็ช่างนาง..ให้ครางครวญ..สมควรแล้ว.
"บ้านริมโขง"
๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔