เมื่อปวดหัวตัวร้อนนอนไม่หลับ
มีไข้จับสับสั่นขวัญผวา
เหงาอกหักรักเดาะเจาะอุรา
แวบเข้ามามุมกาแฟแก้ทุเลา
ได้ระบายคลายทุกข์คลุกกับเพื่อน
ช่วยตักเตือนยามพลาดผิดขลาดเขลา
ปัญหาหนักจักจางลงบางเบา
ยั่วหยอกเย้าเอาจิตมิตรทุกวัย
ยามกลัดกลุ้มมุมนี้มีตลอด
แวะมาจอดถอดอารมณ์ที่ตรมไหม้
นั่งดื่มคุยลุยเล่นร้องเต้นไป
พอสุขใจไขว้ลำทำกิจตน
ใคร่ถามทักสักนิดปิดไฉน
หรือเลศนัยไล่ขับจนสับสน
หรือเหนื่อยหน่ายก่ายเบือแล้วเหลือทน
จึงปลีกตนพ้นไปไกลสุดแดน
อรุณเบิกเถิกฟ้าสางครานี้
คงไม่มี"เพื่อนเรา"เศร้าโศกแสน
ไร้ภิรมย์ซมสลดระทดแทน
เหลืออดีตติดแขวนกลางแผ่นทรวง
หลังจากแอบ แนบฟัง หลังตู้ครัว
ให้เก็บชิด มิดตัว หัวก้มต่ำ
จึ่งได้เห็น ใครมาเต้น เล่นระบำ
เป็นหัวโจ่ก ร้องนำ ทำเพลินใจ
หลังตรากตรำ ทำวัด สงัดเงียบ
ให้เลาะเลียบ เทียบร้าน ทิ้งงานไว้
เนื่องคิดถึง จึงมา หาเพื่อนใจ
ชวนใครๆ เต้นแข่ง และแต่งกลอน
ด้วยเฮียดำ ทำกาแฟ แต่เนิ่นนาน
ลืมท่าเต้น ปรมจารย์ แบบก่อนๆ
กลับเหลียงซาน ฝึกลมปราณ ทุกขั้นตอน
เพื่อท่าเต้น และต่อกลอน รพีกาญจน์
คงมิหาย ย้ายไป ให้เป็นห่วง
ยังต้องทวง ค่ากาแฟ แชร์ที่ร้าน
แถมต้องกลับ รับหน้าที่ ที่ล้างจาน
เพิ่มร้อยยิ้ม เพิ่มสำราญ ร้านกาแฟ...
ปล. อ๋อ หายไปฝึกเต้นนี่เอง ...