ฤดูเศร้าเหงาจิตพิศวง
ดั่งจงกลคนเห็นเป็นกงจักร
ทุกสิ่งหมองมัวหม่นคนไร้รัก
อีกสักพักจักวายมลายลม
เมื่อโศกศัลย์วันไหนก็ไร้ค่า
โทมนัสซัดมาพาขื่นขม
หมดหนทางสร้างสุขคลุกโคลนตม
ครวญระทมจมดับแล้วลับเลือน
ฤดูเศร้าเหงาใจอาลัยเรียก
แลสำเหนียกเปียกโชนตะโกนเหมือน
ชลเนตรเศษเศร้าเข้ามาเตือน
กระซิบเยือนเหมือนใจใกล้วายปราณ
เป็นโลกันตร์บั่นอกระทกจิต
เพราะชีวิตติดเศร้าไม่เอาหวาน
ต้องรันทดหมดสุขทุกวันวาน
คือคำครูฤดูกาลมารเศร้าเยือน
ดั่งจงกลคนเห็นเป็นกงจักร
ทุกสิ่งหมองมัวหม่นคนไร้รัก
อีกสักพักจักวายมลายลม
เมื่อโศกศัลย์วันไหนก็ไร้ค่า
โทมนัสซัดมาพาขื่นขม
หมดหนทางสร้างสุขคลุกโคลนตม
ครวญระทมจมดับแล้วลับเลือน
ฤดูเศร้าเหงาใจอาลัยเรียก
แลสำเหนียกเปียกโชนตะโกนเหมือน
ชลเนตรเศษเศร้าเข้ามาเตือน
กระซิบเยือนเหมือนใจใกล้วายปราณ
เป็นโลกันตร์บั่นอกระทกจิต
เพราะชีวิตติดเศร้าไม่เอาหวาน
ต้องรันทดหมดสุขทุกวันวาน
คือคำครูฤดูกาลมารเศร้าเยือน
บัณฑิตเมืองสิงห์
ฤดูเศร้าเหงาใจไปเหงาจิต
เหงาชีวิตเหงาชีวาหาใดเหมือน
เหงาระทมตรมแท้แย่รักเลือน
เหงาเป็นเพื่อนไม่เคลื่อนคลายคล้ายฤดู
จึงต้องเป็น “ฤดูเศร้า” เนานานเนิ่น
หลายคนเดินผ่านไปให้อดสู
เขาพบใหม่ได้สุขทุกพธู
แต่เราอยู่คู่เศร้าเคล้าน้ำตา
เหงาชีวิตเหงาชีวาหาใดเหมือน
เหงาระทมตรมแท้แย่รักเลือน
เหงาเป็นเพื่อนไม่เคลื่อนคลายคล้ายฤดู
จึงต้องเป็น “ฤดูเศร้า” เนานานเนิ่น
หลายคนเดินผ่านไปให้อดสู
เขาพบใหม่ได้สุขทุกพธู
แต่เราอยู่คู่เศร้าเคล้าน้ำตา
ขอบคุณครับ
"บ้านริมโขง"