แม้ตัวไกลไร้แสงแสดงชัด
ดังคลื่นจัดซัดทรายจนหายหน
ยินเสียงหวิวหวีดไหวในสกล
ก็ไร้คนเห็นลมที่พรมมา
มองไม่เห็นเป็นร่างอย่างวัตถุ
มองจนปรุทะลุลายอย่าหมายหา
เหลือเพียงเงาจางจางหว่างอุรา
พร้อมกับกลิ่นเสน่หาพาคร่ำครวญ
เขาจากเราไปแล้วแก้วแตกปริ
เรานี่สิปวดปร่าคราใดหวน
ความเลือนรางวางไว้ให้รัญจวน
จิตปั่นป่วนล้วนร่ำคำอาลัย
เงาตกค้างวางแน่นบนแก่นจิต
เงาสถิตกลางทรวงห่วงไฉน
เงาเจ้าเอย...เคยชัดไยปัดไป
เงาของใคร...ไยวาง...กลางใจเรา.
ดังคลื่นจัดซัดทรายจนหายหน
ยินเสียงหวิวหวีดไหวในสกล
ก็ไร้คนเห็นลมที่พรมมา
มองไม่เห็นเป็นร่างอย่างวัตถุ
มองจนปรุทะลุลายอย่าหมายหา
เหลือเพียงเงาจางจางหว่างอุรา
พร้อมกับกลิ่นเสน่หาพาคร่ำครวญ
เขาจากเราไปแล้วแก้วแตกปริ
เรานี่สิปวดปร่าคราใดหวน
ความเลือนรางวางไว้ให้รัญจวน
จิตปั่นป่วนล้วนร่ำคำอาลัย
เงาตกค้างวางแน่นบนแก่นจิต
เงาสถิตกลางทรวงห่วงไฉน
เงาเจ้าเอย...เคยชัดไยปัดไป
เงาของใคร...ไยวาง...กลางใจเรา.
"บ้านริมโขง"