จ่ายค่ายาล่วงหน้า
มีเรื่องราวอยากเล่าเราเคยอ่าน ก็เลยสานกลอนว่ามาขยาย
ฝึกลองแต่งแปลงเป็นเช่นนิยาย หวังคงขายได้ออกไม่หลอกลวง
เรื่องนั้นมีอยู่ว่าเวลาหนึ่ง แม้ค้าซึ่งโวยวายด้วยใจหวง
จับเด็กน้อยโขมยยาที่มาลวง น้ำตาร่วงรู้ใจว่าไม่ดี
แม่หญิงย่างเยื้องไปด้วยใจห่วง เห็นเจ๊ดวงตบเด็กฉาดไม่อาจหนี
แล้วกล่าววอนพร่ำคำย้ำพาที พี่ดวงนี่มีอะไรใจเย็นเย็น
เจ๊เงยหน้าสบตาว่าตวาด มันบังอาจโขมยยาป้ามาเห็น
มันน่าจับตบให้ฟันกระเด็น อยากได้เห็นเลือดมันสีอะไร
แม่หญิงยกมือนาบขึ้นทาบอก ทั้งใจตกตกใจน่าร้องให้
จึงเอ่ยถามเด็กน้อยด้วยอ่อนใจ หนูทำไมไม่จ่ายให้ค่ายา
เด็กชายเงยหน้าอ่อนถอนสะอื้น แล้วก็ฝืนแผ่วตอบมอบภาษา
แม่ผมป่วยมานานต้องการยา แต่ไม่มีเงินซื้อหาด้วยว่าจน
ไปหาหมอก็ต้องจ่ายมากมายนัก ทั้งงานหนักงานเบาเอาทุกหน
แต่ด้วยว่าพ่อทิ้งไปไม่มายล แม่กับตนเหลือครองสองชีวา
แต่หลายวันผ่านมามารดาป่วย ไม่อาจช่วยด้วยวัยไร้เดียงสา
ไปรับจ้างเขาไล่ไม่มองมา เพราะระอาร่างเล็กเด็กเกินกาย
วันนี้ใจร้อนรนแสนหม่นจิต เพราะไข้พิษหลายวันมันไม่หาย
จึงไปถามเอายาจากร้านยาย แม้ต้องตายขอแค่ให้แม่ได้ยา
แม่หญิงก็เห็นใจด้วยวัยเด็ก ตัวก็เล็กงานใดไม่อาจหา
กตัญญูรู้บุญคุณมารดา เลยเปล่งขานวาจาว่าออกไป
เอาอย่างนี้พี่คะค่ายานี่ น้องขอพี่จ่ายแทนจะแค้นไหม
เด็กยังเล็กโปรดเมตตาด้วยว่าวัย เด็กเกินไปอาจคิดผิดครรลอง
ป้าก็ว่ายังดีมีคนจ่าย เอาก็ได้จ่ายมาเก้าสิบสอง
แม่หญิงจ่ายให้แล้วแก้วประคอง เด็กชายร้องขอบคุณที่หนุนนำ
แม่จึงกล่าวเล่าไปให้คราวหน้า ไร้เงินตราอย่างไรไม่ถลำ
ไปเป็นโจรผิดหนาเจ้าอย่าทำ จะกลืนกล้ำอย่าไรขอให้มา
มาหาน้าหน้าซอยที่หนูอยู่ หากไม่รู้ถามมาหาป้าสา
แล้วแจ้งคิดสิ่งใดให้พูดมา อย่าเที่ยวหาโขมยไปมันไม่ดี
แล้วส้มนี้แทนใจไปเยี่ยมแม่ เป็นส้มแก่กินง่ายร้านยายศรี
ให้แม่กินจะได้รีบหายดี ให้โชคมีข้างเจ้าจงเอาไป
เด็กชายมองจ้องมานัยน์ตาอึ้ง ดวงจิตซึ้งตรึงใจไม่ไปไหน
ก้มพนมไหว้มาแล้วลาไป รีบเร็วไวกลับไปหามารดาตน
ลูกสาวถามแม่ขาด้วยตาใส ไปช่วยเขาทำไมให้ขัดสน
แม้จะไม่ลำบากไม่ยากจน เราก็คนรับจ้างทั่วทั่วไป
แล้วเขาก็เป็นโจรมิใช่หรือ เขาก็คืนคนเลวไม่เอาไหน
แล้วแม่จ๋าไปช่วยเขาทำไม เมื่อก่อนใครบอกโจรคนไม่ดี
แม่สาจึงลูบหัวเจ้าตัวเล็ก เจ้ายังเด็กชีวิตนี้มีวิถี
อาจต้องเลวร้ายบ้างในบางที เด็กคนนี้จำโขมยโดยจำเป็น
บ้านเขาอยู่ท้ายซอยคอยหาบเร่ ไม่เกเรแม่เขาเจ้าเคยเห็น
คอยหาบเร่ช่วยขายจนบ่ายเย็น เด็กนั้นเป็นคนดีไม่มีลาย
แล้วจึงบอกว่าทำดีไปเถิดลูก ผลบุญผูกชีวีไม่มีหาย
แม้บ้านเราไม่ได้อยู่สุขสบาย แต่ก็ไม่เลวร้ายสักเท่าไร
กาลเวลาผ่านเคลื่อนเลื่อนบรรจบ เด็กหญิงครบปริญญาด้วยอาศัย-
บากบั่นเรียนเพียรหาเดินหน้าไกล จนมาได้งานประจำด้วยทำดี
แล้วเลี้ยงดูดูแลคุณแม่เขา สาวก็เอาใจใส่ไม่ห่างหนี
จนวันหนึ่งแม่บ่นทนทวี ปวดหัวมีโรคภัยอะไรกัน
ลูกจึงพาแม่สาไปหาหมอ รอแล้วรอวอนขอต่อสวรรค์
ขออย่าให้เป็นอะไรมากมายกัน หมอบอกพลันพักผ่อนน้อยคอยให้ยา
แล้วจึงกลับปวดเบาทุเลาให้ ไม่ทันไรเดือนกว่ามันมาหา
ปวดหนักเข้าไม่อาจแก้ไม่แพ้ยา ปวดเจียนบ้าลูกอาสาจึงพาไป
โรงพยาบาลเชี่ยวชาญด้านสมอง แม่ลูกสองปองรอวินิจฉัย
หมอตรวจแล้วบอกกันบอกบรรยาย เป็นเนื้อร้ายในสมองต้องเยียวยา
หลังปรึกษาหมอว่าต้องผ่าตัด ลูกไม่ขัดแต่ในใจหนักหนา
ค่าผ่าตัดหลายแสนแค้นชีวา แล้วจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายกัน
ลำพังเงินที่เก็บแค่หลักหมื่น ให้ใจชื้นเผื่อขัดจึงจัดสรรค์
แต่ครานี้เป็นแสนคิดแค้นกัน ว่าตัวฉันไร้น้ำยาร้องด่าตัว
คิดไม่ออกจนวันที่นัดหมอ ไม่รีรอผ่าแหวกหมอแหกหัว
ตัดเนื้อร้ายทิ้งไปใจระรัว กลัวแสนกลัวทำอย่างไรใครช่วยที
วันต่อมาเดินไปใจเหี่ยวห่อ ไร้ค่าหมอค่ายาน่าบัดสี
ต้องตกใจงงงันในทันที บิลเก็บมีพันกว่าน่าตกใจ
พยาบาล!ไยมาราคานี้ ตอบเร็วรี่สี่แสนเก้าเล่าไปไหน
พยาบาลว่ามาอย่าตกใจ เอานี่ไปหมอฝากไว้ก่อนจรลา
จึงกลับมาหาแม่ที่ห้องพัก แล้วก็ทักเรื่องยาค่ารักษา
บอกแม่ว่าหมอให้จดหมายมา แกะดวงตราแล้วอ่านสานส์ออกไป
ขอสรุปค่ารักษามาดังนี้ ผ่าตัดมีศูนย์บาทวาดไว้ให้
ทั้งค่ายาฟักฟื้นน่าตกใจ ต่างลงไว้เลขศูนย์เหมือนกันมา
ทั้งหมดนี้เขียนบอกสรุปไป แสดงให้ว่าจ่ายไว้แล้วหนา
ยี่สิบปีก่อนไงในราคา ยาน้าสาซื้อให้ไอ้โขมย
และอีกส้มหนึ่งถุงที่ฝากให้ ทั้งหมดไซร้แทนความเก่าที่เฝ้าโหย-
หาเวลาแทนคุณการุณโดย เด็กโขมยวอนขอ หมอเดชา...
แม่ได้ฟังมองหน้าลูกยาอึ้ง ต่างคนซึ้งในใจไร้ภาษา
มีเพียงรอยยิ้มรับกับน้ำตา กอดมารดาซึ้งใจจากใจจริง
จากเรื่องจริงถ่ายทอดพรอดภาษา กาลเวลาเคลื่อนไปในทุกสิ่ง
แต่ความดีทำไว้ได้จริงจริง อย่าละทิ้งความดีได้ดีเอย
กระรอกขาว
ปล.แต่งเองซึ้งเอง อิอิ แต่เรื่องราวหยิบมาจากเรื่องจริงนะครับ โครงเรื่องของจริงหมด มีแค่ชื่อตัวละครที่เปลื่ยนไปบ้างตามความเหมาะสม
แวบไปเจอของเก่าที่เคยเอามาลงเมื่อหลายปีก่อน ใครไม่เก็ทย้อนไปปอ่าน แบบร้อยแก้วได้ที่นี่นะจ๊ะ
http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=8951.0