Re: ..**ถมทาง ให้นางเดิน**..
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
29 กันยายน 2024, 04:30:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ..**ถมทาง ให้นางเดิน**..  (อ่าน 13150 ครั้ง)
หมากสีสุก
LV4 นักเลงประจำหมู่บ้าน
****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 34
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 51



« เมื่อ: 28 เมษายน 2011, 11:54:PM »

ทั้งรู้ดี..มีสิทธ์..เพียงคิดถึง
ยังคงซึ้ง..ตรึงใน..หทัยมั่น
หวังรอยหนุน..บุญสร้าง..ครั้งปางบรรพ์
มาคล้องขวัญ..หนึ่งนาง..ไว้ข้างกาย


แม้นบุญนี้..มีบ้าง..แต่ปางก่อน
บุญจงย้อน..คืนเยือน..อย่าเลือนหาย
ปักดวงแด..แน่นอน..มิคลอนคลาย
จวบวันตาย..หมายซึ้ง..ด้วยหนึ่งนาง


เธอคือยูง..สูงกว่า..จะคว้าได้
เพียงชื่นใจ..ในฝัน..ยังหวั่นหมาง
แค่สัมพันธ์..ฉันเพื่อน..ยังเลือนลาง
ยังคงวาง..นางแอบ..ไว้แนบทรวง


ตราบสิ้นหล้า..ฟ้าสวรรค์..มหรรณพ
ตราบสิ้นภพ..จบแถน..สิ้นแดนสรวง
ตราบสุริยัน..จันทรา..ลับลาดวง
ผูกพันพ่วง..ห่วงหา..หนึ่งนารี


โปรดจงจำ..ใส่ใจ..ไว้เสมอ
มอบให้เธอ..ทุกอย่าง..แม้ร่างนี้
ยินดีน้อม..ยอมตัด..เพื่อบัดพลี
ใช้ชีวี..ถมทาง..ให้นางเดิน....
(หมากสีสุก)

๐ คำกรองมอบปลอบขวัญในวันโศก
วันที่โลกร้าวร้างเพราะห่างเหิน
คนเคยรู้ใจกันมาผันเมิน
เศร้านั้นเกินเสกสรรถ้อยบรรยาย

๐ จึงค่อยคลายเหน็บหนาวเมื่อคราวร้าง
ความหมองหมางมัวหม่นก็พ้นหาย
กลางลมหนาวพัดโหมเข้าโลมกาย
คำพี่ชายเอื้ออุ่นละมุนทรวง

๐ แม้ล่วงวันผันผ่านความหวานซึ้ง
กลับยิ่งตรึงรั้งให้หัวใจหวง
ด้วยพจีร้อยงามเนื้อความปวง
นั้นคล้ายหน่วงเหนี่ยวสิ้นทั้งวิญญาณ

๐ หากเพรงบุญพี่สร้างเอาวางไว้
วอนเทพไท้ขีดวงรอบสงสาร
เอาอุบัติวัฏฏะเป็นสะพาน
เพื่อข้ามผ่านคั่นขวางร่วมทางเดียว

๐ ขอมือใครกุมกักพิทักษ์นุช
คอยยื้อยุดพ้นวิบากอันกรากเกรี้ยว
เอาความรักสมัครสมานเข้าสานเกลียว
แล้วยึดเหนี่ยวผูกพันนิรันดร์ไป

๐ แม้ลิขิตเพรงกรรมกระหน่ำท้น
ให้ชีวิตปลิดป่นจนดับขัย
จะเคียงพี่แนบข้างไม่ห่างไกล
ยอมสิ้นใจทอดร่างกลางมรรคา

๐ รอเพรงบุญหนุนภพให้สบพ้อง
ผูกพันสองสายสวาทปรารถนา
ด้วยดวงจิตยึดมั่นในสัญญา
ตราบชั่วฟ้าดินสลายไม่คลายคลอน..ฯลฯ


รับฝากไว้ร่วมแจมค่ะ คริ..คริ..

ยินเพรงกาลหวานล้ำในคำพจน์
เพียงมธุรสปลอบใจที่ไหวอ่อน
ปลอบขวัญห้วง-อุรา-คราร้าวรอน
และลดทอนความเศร้าให้เบาบาง

ความรวดร้าวคราวจากก็พรากสิ้น
รอยถวิลตรึงอยู่มิรู้สร่าง
ที่ลำบากยากเข็ญพอเห็นทาง
ประกายแห่งแสงสว่างนำทางเดิน

จากที่เคยท้อแท้กลับแน่แน่ว
เสียงกระซิบวิบแว่วเพียงแผ่วเผิน
ก็เพียงพอชักนำให้ดำเนิน
แม้เผชิญพลัดพรากวิบากกรรม

หากบุญญาพารักสลักให้
สมดั่งใจใฝ่เฝ้าในเช้าค่ำ
ความรวดร้าวคราวเจ็บเคยเก็บ-จำ
ที่ครอบงำกลางมานก็รานไป

หมายนวลเรียงเคียงขวัญประหวั่นจิต
ด้วยรู้แจ้งแห่งฤทธิ์พิสมัย
ยามรักจากพรากพลัดยากตัดใจ
ต้องคร่ำครวญหวลไห้อาลัยนุช

เพราะเพรงกาลขานสู่จึงรู้ว่า
ปรารถนาในจินต์มิสิ้นสุด
ยังหมายปองสองมือยังยื้อยุด
หมายรั้งฉุดรักไว้มิให้กลาย

คำกรองมอบปลอบขวัญในวันนี้
ทุกทุกถ้อยร้อยวลีมีความหมาย
ปลุกปลอบห้วงดวงฤดีของพี่ชาย
ผ่อนความเศร้าเหงากายให้คลายลง...

วันหลังฝากมาน้อยๆหน่อยก็ได้นะจ้ะ...

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

hathaichanok

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ก็เขียนกลอนอ้อนบ้างถ้าว่างนัก
กลอนอกหักรักจรกลอนอ่อนไหว
กลอน นู่น-นี่-นั่น-นั้น-หนา ลั่นล้าไป
จารนัยใจรักของนักกลอน

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s