บาป
.................
ภายใต้จิตสำนึก .
ไม่มีใครที่อยู่โดยปราศจากความด่างพร้อย
เมืองนรกโลกันต์ชั้นอเวจี และสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อยู่ใกล้กันนิดเดียว
เจตภูตกำลังรอรับวิญญาณดวงใหม่
เหล่าทวยเทพยดาและเหล่านางฟ้าต่างร่ายรำอยู่ข้างๆกัน
ท่ามกลางความมืดมิดแห่งรัตติกาล
เสี้ยวหน้า ผุดรับกับความเงียบสงบ รู้สึกนึกคิดถึงแววตาแห่งการเหยียดหยาม
ปลุกจิตสำนึกในส่วนที่เป็นมนุษย์
ตั้งปณิธาน ว่าจะไม่ห่อเหี่ยวสิ้นหวัง ด้วยความละเมียดละไมแห่งดวงจิต
จริงแท้ เป็นแค่คำโป้ปด อาณาจักรแห่งความผิดแผก โสโครกเริ่มครอบงำ
เกิดการวิวาทภายในจิตใจ, หนักหน่วงแสนเข็ญ เหมือนตกอยู่ในความมืด
ช่างลี้ลับยิ่งนัก รอวันที่จะก้าวข้ามไปสู่อีกฟากฝั่งหนึ่ง
ด้วยดวงจิต, ด้วยศรัทธา และด้วยนิจนิรันดร์แห่งสางสูร.
........................
ดั่งภูตผีวิญญาณซาตานหลอน
แอบหลบซ่อนอยู่หลังหวังมาหา
ไม่อาจหนีดวงจิตติดกายา
พิพากษาจองจำด้วยกรรมเวร
พวกมนุษย์ทุกตนเป็นคนบาป
ชะตาอาบสาบส่งตรงกางเขน
เริ่มหวาดกลัวหัวหดจากกฎเกณฑ์
ล้วนเศษเดน, เศษกรรมที่ทำมา.
...........................
เธอเอ๋ย ฉันสงสัย
โลกันต์ และอเวจี อยู่คนละที่ถึงจะแม้จะเป็นชื่อนรก
เจตภูติ คือมนัส คือใจ คืออัตตา คืออาตมา ไฉนมารอรับวิญญาณดวงใหม่
จิตสำนึกแห่งมนุษย์กับเหล่าเทวามิได้ต่างกันเลย
คือการปลาบปลื้มกับกามคุณทั้ง ๕ ผิดแต่ว่ามนุษย์กระทำได้ด้วยกายเนื้อเท่านั้น
สางสูรนั้นมีนิรันดร์หรือ? หากสางคือรุ่งสาง สูรคือสูรยคือพระอาทิตย์
สางสูรคือรุ่งแสงสุริยา หรือจะมีตราบนิรันดร์?
เอาเถอะ มนุษย์ทุกผู้ต่างประกอบกรรม
หากยังไม่กระทำจะมีบาปได้อย่างไร
สงสัยนัก