....... ๑ ........
หนึ่งระยะ..ระหว่าง..ความห่างหนึ่ง
จากฉันถึงเธอไกล การไปหา
กำลังถูกโดยสารสู่บ้านนา
ตะบึงหลายแรงม้าอยู่ช้านาน
หากแต่ระยะทาง...ระหว่างถึง
ไม่มีหนึ่งระยะห่าง...ระหว่างฐาน-
ความคิดถึง ฉัน-เธอ เสมอมาน
แนบชิดปาน ทั้งปวง ดวงเดียวเป็น
ระหว่างล้อรถแล่นแกนเพลารอบ
จึงหมายมอบโดยจิตแต่คิดเห็น-
ดวงหน้าคนปลายทางข้างดวงเพ็ญ
ให้ชุ่มเย็นเหมือนอย่างเคียงข้างยืน
อาจคงอีกนานเอนระเนนเบาะ
แต่ใจเคาะเปิดแง้มเปี่ยมแช่มชื่น
แม้กลางดึกมืดดำกลบค่ำคืน
มิอาจพอแผ่ผืนกลืนแววตา-
ที่เปี่ยมทั้งหวังแววท้นแนวเนตร
กระจายเขตกระจ่างไปข้างหน้า
ถึงร่างที่เอนพิง เพลีย, นิ่ง, ล้า
แต่เติมจินตนา..สารพัน
คืนที่บรรยากาศ..อาจคว้างเคว้ง
แต่กลับดูครื้นเครงหฤหรรษ์
แม้แทบทุกที่นั่ง..หลับทั้งคัน
ไม่เงียบงันเครื่องยนต์กล่อมดนตรี
เสมือนดังสั่งลาเมืองฟ้ามุ่ง-
สู่บ้านทุ่งหนแห่งน้อยแสงสี
หัวใจคนพลัดถิ่นกลับยินดี
หลังจากที่จำร้างเพื่อสร้างตัว
.......... ๒ ..........
ค่ำคืนแสนยาวนานกว่าผ่านพ้น
สภาวะกมล...ร้อนรนทั่ว
เฝ้าจดจ่อรอจนแทบหม่นมัว
เริ่มระรัวหัวใจเต้นไหวชัด
เมื่อเข้าเขตคดเคี้ยวเปลี่ยววิเวก
เข็มผ่านเลขเวลารอบหน้าปัด
ผู้โดยสารแทบหมดจากรถบัส
ณ จังหวัดสุดสายเกือบชายแดน
.......... ๓ .........
เพียงห้าปีที่ผ่าน..ยาวนานนัก
ที่ฉันหักใจยอมลาอ้อมแขน
พร้อมคำมั่นที่มอบ..หวังตอบแทน
เธอผู้แสนดีพร้อมโอบอ้อมใจ
อรุณรุ่งทุ่งเขียว..ด้วยทิวข้าว
ฉันลุกเดิน..ด้วยก้าว..เช้าวันใหม่
หอมดินกรุ่นอุ่นแผด..ของแดดไอ
หอมแต่ไกลกลิ่นฝัน..ของฉัน-เธอ
สัมภาระอะไร..มีไม่มาก
นอกเสียจาก สินสอด ยอดเสนอ
จากน้ำอดน้ำทนจนพบเจอ
ฝันเลิศเลอ..เราสองปองวิวาห์
การรอคอยเหมือนคล้าย..วูบหายวับ
ภาพเธอยืนรอรับมือซับหน้า
เช็ดหยดชื้นตื้นตัน..การกลับมา
ตามคำมั่น..สัญญา..ครบห้าปี
หนึ่งระยะระหว่าง..ความห่างหนึ่ง
จากฉันถึงเธอนั้น..สั้นเต็มที่
และกำลังสิ้นลง..ณ ตรงนี้
เมื่อเราคลี่แขนสอด...สวมกอดกัน
........ ๔ ........
สุดระยะระว่างความห่างแล้ว
เมื่อตาแววฉายพบบรรจบฝัน
กลางแขกเหรื่อพร้อมหน้า..วิวาห์วัน
ก่อนจุมพิตยืนยัน..ฉันรักเธอ
...................
ต่อสักขีพยาน..จวบนานวัน
จากนี้จนนิรันดร์..มั่นรักเธอ
จ้อง เจรียงคำ
๒๙ มีนาคม ๒๕๕๔