.....ไข่เค็ม..
๏ เสียงสะอื้นร่ำไห้ในเวหา
ท่ามกลางราตรีหนึ่งซึ่งฉันฝัน
ว่าจะหาพบใหม่ที่ไหนกัน
เพราะเรามันเพียงวิญญาณ"สุวานนิล"
๏ หยาดน้ำค้างพร่างพรมโพยมหล้า
ทุกชีวาหลับใหลไปหมดสิ้น
หนาวยะเยียบเงียบสงัดทั่วปัฐพิน
ตื่นแต่ฉันพลันได้ยินเสียงวิญญาณ
๏ เป็นสำเนียงเสียงหมาน้อยฟังสร้อยเศร้า
คงซากเน่าลอยล่องท้องละหาน
ที่อืดเอียนเหียนเห็นเมื่อเย็นวาน
จึงเอ่ยขานถามเรื่องเบื้องหลังดู
๏ มันเล่าว่าข้าชื่อ"นิล"ไร้ถิ่นฐาน
วันหนึ่งผ่านอารามหนึ่งงามหรู
เห็นอาหารโอชาทั้งปลาปู
ที่กุฎิเจ้ากูผู้สมภาร
๏ วันนั้นข้าท้องกิ่วหิวเต็มที่
ทั้งราตรีแล้วที่ข้าขาดอาหาร
จึงแอบคาบไข่ไก่ไปจากจาน
แล้วเผอิญสมภารเห็นทันที
๏ ท่านฝากเด็กในอารามตามพิฆาต
จนชีวาตม์ข้าปลงลงเป็นผี
แล้วให้ลากซากข้าทิ้งวารี
ลอยมาที่เจ้าเห็นเมื่อเย็นวาน
๏ ชีพที่รักข้าตักษัยเพราะไข่นิด
บรรพชิตได้เปล่าเปล่าจากชาวบ้าน
ถึงข้าไม่คาบไข่ไก่ไปจากจาน
ท่านสมภารก็ไม่ฉัน....เพราะมันเค็ม
แบบว่า....เป็นสำนวนกลอนที่ข้าน้อยมีโอกาสได้ศึกษาเมื่อครั้งเขียนกลอนใหม่ๆ
เป็นบทกลอนของกวีครูท่านหนึ่งเขียนไว้เมื่อนานมาแล้ว....ชอบเป็นการส่วนตัว ประมาณนั้นอ่าครับ
๏ เสียงสะอื้นร่ำไห้ในเวหา
ท่ามกลางราตรีหนึ่งซึ่งฉันฝัน
ว่าจะหาพบใหม่ที่ไหนกัน
เพราะเรามันเพียงวิญญาณ"สุวานนิล"
๏ หยาดน้ำค้างพร่างพรมโพยมหล้า
ทุกชีวาหลับใหลไปหมดสิ้น
หนาวยะเยียบเงียบสงัดทั่วปัฐพิน
ตื่นแต่ฉันพลันได้ยินเสียงวิญญาณ
๏ เป็นสำเนียงเสียงหมาน้อยฟังสร้อยเศร้า
คงซากเน่าลอยล่องท้องละหาน
ที่อืดเอียนเหียนเห็นเมื่อเย็นวาน
จึงเอ่ยขานถามเรื่องเบื้องหลังดู
๏ มันเล่าว่าข้าชื่อ"นิล"ไร้ถิ่นฐาน
วันหนึ่งผ่านอารามหนึ่งงามหรู
เห็นอาหารโอชาทั้งปลาปู
ที่กุฎิเจ้ากูผู้สมภาร
๏ วันนั้นข้าท้องกิ่วหิวเต็มที่
ทั้งราตรีแล้วที่ข้าขาดอาหาร
จึงแอบคาบไข่ไก่ไปจากจาน
แล้วเผอิญสมภารเห็นทันที
๏ ท่านฝากเด็กในอารามตามพิฆาต
จนชีวาตม์ข้าปลงลงเป็นผี
แล้วให้ลากซากข้าทิ้งวารี
ลอยมาที่เจ้าเห็นเมื่อเย็นวาน
๏ ชีพที่รักข้าตักษัยเพราะไข่นิด
บรรพชิตได้เปล่าเปล่าจากชาวบ้าน
ถึงข้าไม่คาบไข่ไก่ไปจากจาน
ท่านสมภารก็ไม่ฉัน....เพราะมันเค็ม
แบบว่า....เป็นสำนวนกลอนที่ข้าน้อยมีโอกาสได้ศึกษาเมื่อครั้งเขียนกลอนใหม่ๆ
เป็นบทกลอนของกวีครูท่านหนึ่งเขียนไว้เมื่อนานมาแล้ว....ชอบเป็นการส่วนตัว ประมาณนั้นอ่าครับ