๐อนิจจาอาเพศเหตุการณ์ฝัน ทำไมมันเหมือนจริงยิ่งกว่าเก่า
สัมผัสได้ใบหญ้าใต้ขาเรา อีกทั้งเงาสูงเหยียดเสียดพระจันทร์
คือต้นไม้ขนาดใหญ่หลายคนโอบ ดังจะโฉบรุมทึ้งซึ่งตัวฉัน
เขม้นมองจ้องจับกับภาพนั้น คลับคล้ายมันแสยะยิ้มอิ่มเอิบใจ
มีมนุษย์หลุดหลงสู่วงล้อม มันคงพร้อมเชือดเนื้อเพื่อมื้อใหญ่
หลับตาแน่นนับหนึ่งถึงสิบไป ลืมตาใหม่ชัดเจนโอ้เวรกรรม
หยิกท่อนแขนแสนเจ็บจนต้องปล่อย เหนี่ยวหมัดต่อยตัวเองเร่งกระหน่ำ
ผลคงเดิมเพิ่มมาคือหน้าช้ำ สุดจะทำอย่างไรต่อไปดี
ใจวังเวงเคว้งคว้างอ้างว้างหนัก แจ้งประจักษ์แก่ใจในวิถี
คือความจริงสิ่งแท้ทั้งหมดนี้ หาใช่ผีอำเล่นเช่นทุกครั้ง
เรียกสติดำหริคิดพินิจเหตุ อันนิเวศสถานที่ที่เรานั่ง
เป็นที่ใดในโลกหรอกกระมัง แต่ติดยังราตรีกาลม่านบังตา
ครั้oคิดดูดีๆมีที่ไหน ละเมอไกลก้าวย่างสู่กลางป่า
เมืองหลวงล้วนตึกสูงฝูงรถรา พันธุ์พฤกษาคงคุดมุดดำดิน
๐เปลืองสมองตรองไปเปล่าประโยชน์ เกิดแต่โทษทั้งนั้นบั่นทิ้งสิ้น
เอนหลังนอนผ่อนแรงกลางแปลงดิน ระงับจินต์สงบใจใฝ่อรุณ
๐ดวงอาทิตย์ทอแสงตบแต่งฟ้า สกุณาร้องรับซับไออุ่น
ความมืดมนอนธกาลพาลเป็นจุล เหลือเพียงกรุ่นฝ้าบางอำพรางดง
เสียงงัวเงียเพลียพักตระหนักตื่น ดีดผลึ่งยืนพินิศรอบกรอบการหลง
ที่ไหนหว่าว่าแปลกแผกไพรพง จับจุดบ่งบอกวัดพิกัดกาย ฯลฯ