พฤกไพรเขียวดุจจะซ่อนความบ้าคลั่ง
แล้วอีกความพลาดพลั้งของผู้กล้า
อ้อเสี่ยวตุ้ยคิดครวญนางพรรณา
"แล้วพวกบ้านั่นพวกไหนที่อาจหาญ"
จางฟงยี่ตอบว่า
"พวกโจรถ่อยศิษย์จอมมารชั่ว
มันกำแหงไปทั่วทุกสถาน
นี่หลายปีที่มันไม่รุกราน
หนีโทษฐานล่วงล้ำคำท่านถังฯ
ข่าวว่ามันอาละวาดดักปล้นจี้
ซุ่มป่าดงพงพีควรจับขัง
แต่ทางการก็เฉยชาเรื่องปิดบัง
ขาดกำลังทั้งกันดารยากปราบปราม"
อ้อเสี่ยวตุ้ยว่า
"แล้วกระบี่ฝากฟ้าผู้กล้าเก่ง
ในแวดวงนักเลงข้าอยากถาม
เขาอยู่แห่งหนใดใคร่ทราบความ
แล้วชื่อนามจอมกระบี่มีใครรู้"
จางฟงยี่ครวญคิดอยู่ครู่หนึ่ง
จึงเล่าถึงจอมกระบี่เคยกอบกู้
ยุทธจักรจากจอมมารเหลียงหมิงจู
จอมชั่วช้าที่ภูผาเขาเหลียงฟาน
มีไม่ถึงสิบกระบี่ที่อาจเทียม
เทียบเพลงยุทธที่ยอดเยี่ยมคนเล่าขาน
ทั้งแผ่นดินเขาเป็นหนึ่งอย่างเทียมทาน
แต่เรือนชานบ้านช่องนั้นไม่รู้
ทั้งโฉมหน้าล้วนไร้คนเคยพบ
เขาเร้นหลบดำดินได้หรือไรอยู่
แต่ทุกครั้งที่มารกำแหงในผาภู
เขาคือผู้กำราบโจรบาปหนา
จางฟงยี่อ้อยอิ่งสำเนียงเล่า
ซบเซาแน่วนึกถึงกระบี่กล้า
"ข้าแน่ใจจอมกระบี่ผู้ปรีชา
ยังหนุ่มแน่นหนักหนาในน้ำเสียง
ข้ายังจำได้มั่นในวันนั้น
แม้แสนสั้นแคล้วคลาดมิพลาดเเพลี่ยง
ข้ามิลีมถ้อยคำในสำเนียง"
จางฟงยี่เล่าเรียงความเป็นจริง
จวบตะวันเบี่ยงบ่ายสาดแสงกล้า
อ้อเสี่ยวตุ้ยจึงชวนลาทั้งร้อนยิ่ง
สู่สถานบ้านมีที่พักพิง
เมื่อทุกสิ่งทราบถ้วนกระบวนความ
แม่น้ำหยางสะท้อนแสงอยู่วาบวับ
เงาระยับแสนไกลไหวไหวหวาม
จางฟงยี่จ้องมองความงดงาม
ทิ้งคำถามการใฝ่ฝ่หารักอาลัย
มันยังคงเป็นความหลังที่ฝังอยู่
ในจิตใจอย่างมิรู้นานแค่ไหน
ถึงจะเลือนร้างลามิจำไว้
ในพงไพรในสายน้ำในความหลัง
........................................
จบตอน..ขอบคุณที่ติดตามอ่าน โปรดติดตามตอนต่อไป
แล้วอีกความพลาดพลั้งของผู้กล้า
อ้อเสี่ยวตุ้ยคิดครวญนางพรรณา
"แล้วพวกบ้านั่นพวกไหนที่อาจหาญ"
จางฟงยี่ตอบว่า
"พวกโจรถ่อยศิษย์จอมมารชั่ว
มันกำแหงไปทั่วทุกสถาน
นี่หลายปีที่มันไม่รุกราน
หนีโทษฐานล่วงล้ำคำท่านถังฯ
ข่าวว่ามันอาละวาดดักปล้นจี้
ซุ่มป่าดงพงพีควรจับขัง
แต่ทางการก็เฉยชาเรื่องปิดบัง
ขาดกำลังทั้งกันดารยากปราบปราม"
อ้อเสี่ยวตุ้ยว่า
"แล้วกระบี่ฝากฟ้าผู้กล้าเก่ง
ในแวดวงนักเลงข้าอยากถาม
เขาอยู่แห่งหนใดใคร่ทราบความ
แล้วชื่อนามจอมกระบี่มีใครรู้"
จางฟงยี่ครวญคิดอยู่ครู่หนึ่ง
จึงเล่าถึงจอมกระบี่เคยกอบกู้
ยุทธจักรจากจอมมารเหลียงหมิงจู
จอมชั่วช้าที่ภูผาเขาเหลียงฟาน
มีไม่ถึงสิบกระบี่ที่อาจเทียม
เทียบเพลงยุทธที่ยอดเยี่ยมคนเล่าขาน
ทั้งแผ่นดินเขาเป็นหนึ่งอย่างเทียมทาน
แต่เรือนชานบ้านช่องนั้นไม่รู้
ทั้งโฉมหน้าล้วนไร้คนเคยพบ
เขาเร้นหลบดำดินได้หรือไรอยู่
แต่ทุกครั้งที่มารกำแหงในผาภู
เขาคือผู้กำราบโจรบาปหนา
จางฟงยี่อ้อยอิ่งสำเนียงเล่า
ซบเซาแน่วนึกถึงกระบี่กล้า
"ข้าแน่ใจจอมกระบี่ผู้ปรีชา
ยังหนุ่มแน่นหนักหนาในน้ำเสียง
ข้ายังจำได้มั่นในวันนั้น
แม้แสนสั้นแคล้วคลาดมิพลาดเเพลี่ยง
ข้ามิลีมถ้อยคำในสำเนียง"
จางฟงยี่เล่าเรียงความเป็นจริง
จวบตะวันเบี่ยงบ่ายสาดแสงกล้า
อ้อเสี่ยวตุ้ยจึงชวนลาทั้งร้อนยิ่ง
สู่สถานบ้านมีที่พักพิง
เมื่อทุกสิ่งทราบถ้วนกระบวนความ
แม่น้ำหยางสะท้อนแสงอยู่วาบวับ
เงาระยับแสนไกลไหวไหวหวาม
จางฟงยี่จ้องมองความงดงาม
ทิ้งคำถามการใฝ่ฝ่หารักอาลัย
มันยังคงเป็นความหลังที่ฝังอยู่
ในจิตใจอย่างมิรู้นานแค่ไหน
ถึงจะเลือนร้างลามิจำไว้
ในพงไพรในสายน้ำในความหลัง
........................................
จบตอน..ขอบคุณที่ติดตามอ่าน โปรดติดตามตอนต่อไป