"เอาล่ะข้าเข้าใจเจ้าโกวตี่
ในคืนนี้คิดเอาคงเหงาหงอย
ว่าจะนอนกลางดงคิดเลื่อนลอย
ดั้นด้นดอยจนมาถึงที่นี่
ข้านักจรนอนไพรไม่นึกหวั่น
เพียงมีดสั้นคุ้มครองต่างกระบี่
มาเห็นเจ้าทั้งสถานแสนยินดี
นั้นเห็นทีจะอยู่พักดูสักคืน..."
...........................................
ราตรีที่เงียบเหงามิเศร้าสร้อย
เสียงหิ่งห้อยเฝ้าร่ำเสมอเพื่อน
แสงจันทร์ฉายพรายพราวดาวและเดือน
มิรู้เลือนดั่งมืตรผู้ชิดใกล้
กลางสถานลานมีโต๊ะล้วนเก็บตั้ง
เหลือเพียงนั่งตัวกลางเเสงโคมใส
สองหนุ่มเสวนาประสาใจ
ไม่อาลัยทุกข์โศกทั้งโลกมี
จางฟงยี่มาถึงรำพึงถาม
ทุกถ้อยถามความเอ่ยในวิถี
แลชำเลืองมองชายข้าไม่ยินดี
แต่ไม่มีคำใดจะปรักปรำ
"คาราวะท่านชาย อ้อเสียวตุ้ย
อย่าหน้ามุ่ยเลยหนามารินร่ำ
รสสุราข้าจะอยู่ต่อถ้อยคำ
จวบฟ้าสางจึงอำลาก็ยินดี
เจ้าโกวตี่ไปจัดแจงพวกห้องหับ
ให้ท่านชายได้หลับเป็นสุขี
โต๊ะสุราปล่อยไว้เป็นหน้าที่
ของตัวข้านี้..เจ้ารีบไป"
อ้อเสี่ยวตุ้ยว่า..
"นี่แม่นางข้าเมาหรือว่าฝัน
เมื่อท่านนั้นอยู่ต่อหน้าสวยไฉน
เห็นทีข้าจะทนง่วงเหงาเพียงใด
จะฝืนใจจวบสว่างมิห่างไกล"
..............................
ในคืนที่แสงจันทร์สาดฉายรัศมี
สุนทรีย์แห่งเวลานับห่างไร้
ชายผู้หลงรสในเมรัย
จึงซบโต๊ะเพียงเหล้าไหนั้นหมดลง
จางฟงยี่นึกเอือมละอา
ด้วยเวทนาในความไหลหลง
นางสั่งชายข้าเป็นมั่นคง
"โกวตี่..เจ้าจงพาเขาเข้าห้องนอน"
จบตอน...
แล้วคอยติดตามอ่านตอนต่อไป
ในคืนนี้คิดเอาคงเหงาหงอย
ว่าจะนอนกลางดงคิดเลื่อนลอย
ดั้นด้นดอยจนมาถึงที่นี่
ข้านักจรนอนไพรไม่นึกหวั่น
เพียงมีดสั้นคุ้มครองต่างกระบี่
มาเห็นเจ้าทั้งสถานแสนยินดี
นั้นเห็นทีจะอยู่พักดูสักคืน..."
...........................................
ราตรีที่เงียบเหงามิเศร้าสร้อย
เสียงหิ่งห้อยเฝ้าร่ำเสมอเพื่อน
แสงจันทร์ฉายพรายพราวดาวและเดือน
มิรู้เลือนดั่งมืตรผู้ชิดใกล้
กลางสถานลานมีโต๊ะล้วนเก็บตั้ง
เหลือเพียงนั่งตัวกลางเเสงโคมใส
สองหนุ่มเสวนาประสาใจ
ไม่อาลัยทุกข์โศกทั้งโลกมี
จางฟงยี่มาถึงรำพึงถาม
ทุกถ้อยถามความเอ่ยในวิถี
แลชำเลืองมองชายข้าไม่ยินดี
แต่ไม่มีคำใดจะปรักปรำ
"คาราวะท่านชาย อ้อเสียวตุ้ย
อย่าหน้ามุ่ยเลยหนามารินร่ำ
รสสุราข้าจะอยู่ต่อถ้อยคำ
จวบฟ้าสางจึงอำลาก็ยินดี
เจ้าโกวตี่ไปจัดแจงพวกห้องหับ
ให้ท่านชายได้หลับเป็นสุขี
โต๊ะสุราปล่อยไว้เป็นหน้าที่
ของตัวข้านี้..เจ้ารีบไป"
อ้อเสี่ยวตุ้ยว่า..
"นี่แม่นางข้าเมาหรือว่าฝัน
เมื่อท่านนั้นอยู่ต่อหน้าสวยไฉน
เห็นทีข้าจะทนง่วงเหงาเพียงใด
จะฝืนใจจวบสว่างมิห่างไกล"
..............................
ในคืนที่แสงจันทร์สาดฉายรัศมี
สุนทรีย์แห่งเวลานับห่างไร้
ชายผู้หลงรสในเมรัย
จึงซบโต๊ะเพียงเหล้าไหนั้นหมดลง
จางฟงยี่นึกเอือมละอา
ด้วยเวทนาในความไหลหลง
นางสั่งชายข้าเป็นมั่นคง
"โกวตี่..เจ้าจงพาเขาเข้าห้องนอน"
จบตอน...
แล้วคอยติดตามอ่านตอนต่อไป