( จะขอโยนคำถ้อยลอยอากาศ ใครหมายมาดสิ่งไหนจงไขว่คว้า
หากรำคาญผ่านไปอย่าปรายตา หากเข้าท่าเลือกใช้ใคร่ขอบคุณ )
๑
"ครั้งหนึ่ง..จึงอยากขยาย"
จะขอโยนคำถ้อยลอยอากาศ
ใครหมายมาดสิ่งไหนจงไขว่คว้า
หากผนึกตรึกใจได้ตรึงตรา
อย่าคอยท่าเลือกเอาเข้าใจตน
ลางเนื้อชอบลางยา วาจาไหน
หากชอบพอถูกใจก็ใฝ่ขน
เก็บเกี่ยวถ้อยร้อยเอาเข้ากมล
อาจพอมีสิ่งดลยลเข้าตา
หากรู้สึกไม่ดีมีคำถาม
จงอย่าห้ามรู้สึกตรึกตรองหา
ด้วยเหตุใดในกาลที่ผ่านมา
ประมวลค่าดูก่อนอย่าร้อนใจ
มิพอใจในคำที่ต่ำค่า
อย่าพึ่งว่าเชือดเฉือนเหมือนเผาไหม้
เพียงอย่าซับรับเอาพี่เข้าใจ
หากมีใครใฝ่ชอบก็ขอบคุณ
มีถ้อยคำย้ำเตือนเหมือนสมบัติ
โบราณจัดคัดมาน่าอุดหนุน
พี่ได้รับสมต่อก่อเป็นทุน
จึงอยากมอบต่อรุ่นเป็นทุนรอน
ใครที่รักอยากได้..ไม่จำกัด
ตรองให้ชัดเถิดนะอย่าหน่ายถอน
เจ้าจะได้สินทรัพย์เพื่อขับกลอน
จากเรื่องเล่าเก่าก่อนย้อนเนิ่นนาน
(แค่คนหนึ่งอ่อนหัดมิจัดกลอน ได้ถูกเสี้ยมถูกสอนจนคลอนหู
ขอบพระคุณยิ่งนักรักพี่ครู ไม่หลบหลู่วิชชาค่าคำกลอน)
๒
"นักกลอนอ่อนหัด"
จากเด็กน้อยร่อนเร่เห่กลอนกาพย์
ย้อนก่อนภาพวันนี้ที่ผันผ่าน
ก็คือหนึ่งน้องใหม่รักในกานท์
มีพี่ครูสอนงานจึงกานท์งาม
เมื่อเวลาผันผ่านกาลผันเปลี่ยน
วัฎฎ์หมุนเวียนเปลี่ยนรอบขอบสยาม
กำเนิดคลื่นลูกใหม่ในเขตคาม
ที่เหลืออยู่คือนามนิยามตน
ก่อนเป็นน้องอ่อนวัยที่ใสซื่อ
วันนี้หรือสื่องานเพื่อสานผล
เป็นรุ่นพี่มีน้องพ้องกมล
เป็นวังวนหมุนเปลี่ยนวนเวียนกัน
จากพี่แล้วแคล้วไย..ได้เป็นป้า
ไม่ทันหมดยศฐาจะเปลี่ยนผัน
ประดับยศย่ายายไม่นานวัน
สิ่งสำคัญมั่นไว้ในจุดยืน
ได้ผ่านร้อนน้ำตาปร่าเปลี่ยวเหงา
ผ่านความเศร้าเคล้าหมองทำนองฝืน
มีทุกข์โศกโรครักหักกล้ำกลืน
พบสุขชื่นรื่นรมย์ผสมมี
เมื่อยืนสูงจูงใจได้มองเห็น
ในประเด็นของเก่าเข้าใจพี่
จึงอยากเอ่ยเผยใจในวลี
มอบสิ่งดีแก่น้องแค่มองมา