๐ หาดทราย ชายทะเล ร่วมเห่กล่อม
โค้งฟ้าอ้อม ล้อมรอบ จรดขอบสินธุ์
เหมือนหลอมรวม น้ำฟ้า ธรณิน
สายลมริน โลมผ่าน ธารระยับ
๐ เมื่อเม็ดทราย พรายคลื่น เต้นตื่นหยอก
เกลียวระลอก เกลือกกลิ้ง ทิ้งตัวกับ-
อ้อมกอดทราย พรายคลื่น กลืนร่างลับ
ลงซึมซับ แทรกซบ แล้วลบเลือน
๐ ระลอกคลื่น ตื่นอยู่ ไม่รู้หลับ
คลออยู่กับ ทรวงทราย ไม่คลายเคลื่อน
เนิ่นนานกาล ผ่านผัน กี่วันเดือน
ไม่แชเชือน ร้างลา แม้นาที
๐ สายลมโชย โบยพัด ระบัดพลิ้ว
ใบไม้ปลิว ร่วงคว้าง ห่างจากที่
พรากกิ่งก้าน ร่วงหล่น ปนวารี
ลอยเรื่อยลี้ ลับหาย จมสายธาร
๐ ภาพความหลัง ย้อนย้ำ ให้ลำลึก
เปิดผนึก ออกเผย ยามเคยหวาน
ท่ามคลื่นเห่ ทะเลห่ม กลับล่มลาญ
พรากตามกาล ผ่านพ้น เกินด้นดึง
๐ เหมือนเม็ดทราย พรายคลื่น ที่กลืนซบ
แล้วเลือนกลบ จบวัน เคยฝันถึง
ทรายคลื่นยัง หยอกย้ำ ให้คำนึง
แต่เคยซึ้ง กลับเศร้า คอยเร้ารุม
๐ โค้งฟ้าอ้อม ล้อมรอบ จรดขอบสินธุ์
ภาพกลางจินต์ ผุดพราย คล้ายเพลิงสุม
ห้วงอกคน เคยรัก ดังกักกุม
เช่นไฟรุม ยามร้าง อ้างว้างนัก
๐ ระลอกคลื่น ตื่นอยู่ ไม่รู้หลับ
ยามลาลับ ร้างหวาน ลงราน, หัก
ใจนั้น..ยาก หากหมาย ให้คลายภักดิ์
ยังประจักษ์ เต้นตื่น ดังคลื่นครวญ
๐ สายลมโชย โบยพัด ระบัดพลิ้ว
ใจคนปลิว ลับไกล ไม่คืนหวน
หวังพระพาย โผยผ่อน พัดย้อนทวน
พารักอวล แอบสู่ ผู้อาลัย
๐ ห่างร้างแสน ยาวนาน รักรานล่ม
เพียงสายลม พรมลูบ ก็วูบไหว
ความอาวรณ์ เร้ารุม ดังสุมไฟ
พรากร้างไกล สุดหล้า เกินคว้าครอง
๐ ลมทะเล เห่ครวญ หวลสะอื้น
เคยหวานชื่น รื่นรมย์ กลับตรมหมอง
อ้อมอุ่นไอ ใครเอ๋ย เคยตระกอง
วันนี้จ้อง มองหา คว้าเพียงเงา
๐ เพียงลมโบก โกรกผ่าน สะท้านวูบ
ลมไล้ลูบ วูบไหว กับใจเหงา
กอดตัวเอง เร่งกาย หมายบรรเทา
โอ้ว่าเรา เหงาจน จะทนแล้ว
๐ ยังงดงามน้ำฟ้า สุดตาไกล
ทะเลไหว ระลอกริ้ว ลมพลิ้วแผ่ว
เลื่อมวับวาว พราวพร่าง กระจ่างแวว
ดังเกร็ดแก้ว ประกาย วาบพรายตา
๐ คลื่นคลอเคล้า เย้าอยู่ เคียงคู่หาด
ยามซัดสาด เสียงสั่ง ดังครวญหา
พลิ้วพลิกคว้าง ใบไม้ ปลิวไกลตา
ดุจสายใย เสน่หา เลื่อนลาลับ
๐ ฟ้ายังครอบ รอบทะเล คลื่นเห่กล่อม
หากโอบล้อม คืนคลาย แล้วกลายกลับ
คืออ้อมกอด แห่งรัก ที่หักยับ
เคยประดับ กลับพัง สุดรั้งไว้
๐ หากน้ำตา พาใจ ให้หายเศร้า
ช่วยบรรเทา เหงาลง ก็จงไหล
ล้างโศกศัลย์ รันทด ให้หมดใจ
อย่าเก็ยใย ไว้เยื่อ เป็นเชื้อฟืน
๐ เมื่อความช้ำ ค้ำคอ จนท้อแท้
ยากเกินแก้ แม้ใจ ให้ขัดขืน
ปล่อยเวลา หาหลัก สักชั่วคืน
ครั้นพอตื่น ทิ้งไว้ ในวันวาน
๐ ลบอดีต กรีดใจ เสียให้หมด
ความสวยสด งดงาม ยามรักหวาน
ทอดทิ้งวัน อันท้อ ทรมาน
เก็บดวงมาน สานฝัน วันต่อไป
๐ เสียงคลื่นครวญ หวลหา คล้ายว่ายัง-
ย้ำความหลัง ครั้งนั้น จนหวั่นไหว
ในวันที่ หม่นเศร้า ไร้เงาใคร
คืออาลัย อาวรณ์ ยากผ่อนปรน
๐ ตัดสิ้นสาย เยื่อใย จากใครหนึ่ง
กลับจะตรึง ตรวน-ราน ยิ่งผลาญ-ป่น
ยิ่งตัดรอน ยิ่งเร้า เข้าหลอม-ลน
ยากหลุดพ้น รอยหวาน เคยผ่านพบ
๐ ดังคลื่นคง ครวญคร่ำ ร่ำอาลัย
ก็เช่นใคร ช้ำอยู่ ไม่รู้จบ
หลายระลอก หยอก-เยือน แล้วเลือนลบ
ยากสงบ ลำนำ ยังคร่ำครวญ
๐ อกใจเอ๋ย เคยแอบ แนบด้วยรัก
แล้วสลัก รอยช้ำ โศกกำสรวล
สายใยหวาน ซ่านซึ้ง คล้ายตรึงตรวน
ยังแย้มยวน หยอกย้ำ ให้คำนึง
๐ เสียงคลื่นเห่ ทะเลห่ม ลมสะบัด
วานช่วยพัด พรากฤทธิ์ ความคิดถึง
กับร่องรอย เสน่หา เคยตราตรึง
และพรากซึ้ง แสนเศร้า เคล้าลมลอย..ฯลฯ
โค้งฟ้าอ้อม ล้อมรอบ จรดขอบสินธุ์
เหมือนหลอมรวม น้ำฟ้า ธรณิน
สายลมริน โลมผ่าน ธารระยับ
๐ เมื่อเม็ดทราย พรายคลื่น เต้นตื่นหยอก
เกลียวระลอก เกลือกกลิ้ง ทิ้งตัวกับ-
อ้อมกอดทราย พรายคลื่น กลืนร่างลับ
ลงซึมซับ แทรกซบ แล้วลบเลือน
๐ ระลอกคลื่น ตื่นอยู่ ไม่รู้หลับ
คลออยู่กับ ทรวงทราย ไม่คลายเคลื่อน
เนิ่นนานกาล ผ่านผัน กี่วันเดือน
ไม่แชเชือน ร้างลา แม้นาที
๐ สายลมโชย โบยพัด ระบัดพลิ้ว
ใบไม้ปลิว ร่วงคว้าง ห่างจากที่
พรากกิ่งก้าน ร่วงหล่น ปนวารี
ลอยเรื่อยลี้ ลับหาย จมสายธาร
๐ ภาพความหลัง ย้อนย้ำ ให้ลำลึก
เปิดผนึก ออกเผย ยามเคยหวาน
ท่ามคลื่นเห่ ทะเลห่ม กลับล่มลาญ
พรากตามกาล ผ่านพ้น เกินด้นดึง
๐ เหมือนเม็ดทราย พรายคลื่น ที่กลืนซบ
แล้วเลือนกลบ จบวัน เคยฝันถึง
ทรายคลื่นยัง หยอกย้ำ ให้คำนึง
แต่เคยซึ้ง กลับเศร้า คอยเร้ารุม
๐ โค้งฟ้าอ้อม ล้อมรอบ จรดขอบสินธุ์
ภาพกลางจินต์ ผุดพราย คล้ายเพลิงสุม
ห้วงอกคน เคยรัก ดังกักกุม
เช่นไฟรุม ยามร้าง อ้างว้างนัก
๐ ระลอกคลื่น ตื่นอยู่ ไม่รู้หลับ
ยามลาลับ ร้างหวาน ลงราน, หัก
ใจนั้น..ยาก หากหมาย ให้คลายภักดิ์
ยังประจักษ์ เต้นตื่น ดังคลื่นครวญ
๐ สายลมโชย โบยพัด ระบัดพลิ้ว
ใจคนปลิว ลับไกล ไม่คืนหวน
หวังพระพาย โผยผ่อน พัดย้อนทวน
พารักอวล แอบสู่ ผู้อาลัย
๐ ห่างร้างแสน ยาวนาน รักรานล่ม
เพียงสายลม พรมลูบ ก็วูบไหว
ความอาวรณ์ เร้ารุม ดังสุมไฟ
พรากร้างไกล สุดหล้า เกินคว้าครอง
๐ ลมทะเล เห่ครวญ หวลสะอื้น
เคยหวานชื่น รื่นรมย์ กลับตรมหมอง
อ้อมอุ่นไอ ใครเอ๋ย เคยตระกอง
วันนี้จ้อง มองหา คว้าเพียงเงา
๐ เพียงลมโบก โกรกผ่าน สะท้านวูบ
ลมไล้ลูบ วูบไหว กับใจเหงา
กอดตัวเอง เร่งกาย หมายบรรเทา
โอ้ว่าเรา เหงาจน จะทนแล้ว
๐ ยังงดงามน้ำฟ้า สุดตาไกล
ทะเลไหว ระลอกริ้ว ลมพลิ้วแผ่ว
เลื่อมวับวาว พราวพร่าง กระจ่างแวว
ดังเกร็ดแก้ว ประกาย วาบพรายตา
๐ คลื่นคลอเคล้า เย้าอยู่ เคียงคู่หาด
ยามซัดสาด เสียงสั่ง ดังครวญหา
พลิ้วพลิกคว้าง ใบไม้ ปลิวไกลตา
ดุจสายใย เสน่หา เลื่อนลาลับ
๐ ฟ้ายังครอบ รอบทะเล คลื่นเห่กล่อม
หากโอบล้อม คืนคลาย แล้วกลายกลับ
คืออ้อมกอด แห่งรัก ที่หักยับ
เคยประดับ กลับพัง สุดรั้งไว้
๐ หากน้ำตา พาใจ ให้หายเศร้า
ช่วยบรรเทา เหงาลง ก็จงไหล
ล้างโศกศัลย์ รันทด ให้หมดใจ
อย่าเก็ยใย ไว้เยื่อ เป็นเชื้อฟืน
๐ เมื่อความช้ำ ค้ำคอ จนท้อแท้
ยากเกินแก้ แม้ใจ ให้ขัดขืน
ปล่อยเวลา หาหลัก สักชั่วคืน
ครั้นพอตื่น ทิ้งไว้ ในวันวาน
๐ ลบอดีต กรีดใจ เสียให้หมด
ความสวยสด งดงาม ยามรักหวาน
ทอดทิ้งวัน อันท้อ ทรมาน
เก็บดวงมาน สานฝัน วันต่อไป
๐ เสียงคลื่นครวญ หวลหา คล้ายว่ายัง-
ย้ำความหลัง ครั้งนั้น จนหวั่นไหว
ในวันที่ หม่นเศร้า ไร้เงาใคร
คืออาลัย อาวรณ์ ยากผ่อนปรน
๐ ตัดสิ้นสาย เยื่อใย จากใครหนึ่ง
กลับจะตรึง ตรวน-ราน ยิ่งผลาญ-ป่น
ยิ่งตัดรอน ยิ่งเร้า เข้าหลอม-ลน
ยากหลุดพ้น รอยหวาน เคยผ่านพบ
๐ ดังคลื่นคง ครวญคร่ำ ร่ำอาลัย
ก็เช่นใคร ช้ำอยู่ ไม่รู้จบ
หลายระลอก หยอก-เยือน แล้วเลือนลบ
ยากสงบ ลำนำ ยังคร่ำครวญ
๐ อกใจเอ๋ย เคยแอบ แนบด้วยรัก
แล้วสลัก รอยช้ำ โศกกำสรวล
สายใยหวาน ซ่านซึ้ง คล้ายตรึงตรวน
ยังแย้มยวน หยอกย้ำ ให้คำนึง
๐ เสียงคลื่นเห่ ทะเลห่ม ลมสะบัด
วานช่วยพัด พรากฤทธิ์ ความคิดถึง
กับร่องรอย เสน่หา เคยตราตรึง
และพรากซึ้ง แสนเศร้า เคล้าลมลอย..ฯลฯ