"กองอาทมาต..ประวัติศาสตร์ต้องจารึก?"
(๔)
๐ กองกำลังอาทมาตพิฆาตศึก
เชี่ยวชาญคึกชำนาญการต่อสู้
เวทคาถาคงกระพันรบพันตู
บนหลังม้าหรือหมู่รู้วางกล
๐ จึงสั่งรองปลัดชูผู้เหี้ยมหาญ
นำกำลังของท่านอันเข้มข้น
ทหารม้าสี่ร้อยทยอยคน
ทั้งดักปล้นลอบฆ่าพม่ามอญ
๐ ให้ท่านยกไปเถิดเปิดการรบ
เดินทัพพลบค่ำนี้เข้าตีก่อน
เราจะยกไปหนุนตะลุมบอน
เป็นการทอนกำลังหยั่งไพรี
๐ รองปลัดรับสารบงการศึก
สูดลมลึกเยี่ยงชาติราชสีห์
หัวใจเพชรห้าวหาญการราวี
ร่างกูนี้ขอสนองปกป้องเมือง
๐ พลวิเศษไชยชาญผู้หาญกล้า
ทั้งสี่ร้อยชีวากายาเขื่อง
ล้วนผิวคล้ำกรำศึกฝึกเนืองเนือง
เชี่ยวชาญเรื่องศาตราวิชามวย
๐ ต่างประจุอาคมเป่าพรมร่าง
พุทธคุณเสริมสร้างทางจิตช่วย
ผ้าประเจียดเสกย้ำฤทธิ์อำนวย
ปลุกตะกรุดพร้อมด้วยดาบอาคม
๐ ทุกชีวิตเข้าใจในการศึก
ต่างผนึกหลอมจิตคิดใคร่ข่ม
ข้าศึกมากกลางเถื่อนหลากเงื่อนปม
ต่างมิล้มความคิดปลิดไพรี
๐ ทั้งมีดสั้นดาบยาวลับวาววับ
เพื่อรอสับศัตรูสู้ไม่หนี
ปืน,ธนูคู่กายชายชาตรี
เตรียมเพื่อกรีธาพลผจญรบ
(๕)
๐ กำลังพลคนม้าฝ่าความมืด
แสงจันทร์ชืดดาวพรายลับหายหลบ
เคลื่อนจากกุยบุรีไม่มีคบ
ร่างกลืนกลบพฤกษ์ไพรในค่ำคืน
๐ เร่งขับม้าตามทิศที่จิตหมาย
เลียบหาดทรายสายลมพรมด้วยคลื่น
ธงแม่กองสะบัดพัดกลมกลืน
สติตื่นเกาะเกี่ยวทุกเสี้ยวกาล
๐ หยุดพักม้ายามสามติดตามข่าว
หาดหว้าขาวดาษดื่นคลื่นทหาร
ทัพมังระตั้งรอบริวาร
กองเสบียงขนผ่านบ้านตะนาวฯ
๐ จึงสบช่องวางแผนแสนอาจหาญ
หลอมกำลังเตรียมการสะท้านด้าว
ทหารม้าทั่วถ้วนล้วนดาบวาว
จู่โจมกร้าวกลางทัพลุยสับนาย
๐ อาศัยแรงม้าศึกผนึกรบ
ชั้นเชิงดาบสยบกลบความพ่าย
เร่งเข้าตีเช้าตรู่จู่โจมกาย
เล็งเป้าหมายแม่ทัพดับชีพมัน
๐ หวังเปิดศึกดีร้ายใช้หลอกล่อ
ทัพเจ้าคุณหนุนหนอต่อเข้าบั่น
ตีตลบนอกในใคร่พร้อมกัน
การศึกนั้นอาจจบเราพบชัย
๐ จบกลศึกปลัดชูผู้เจนจบ
ต่างทวนทบรอบด้านด้วยการใหญ่
พอหายเหนื่อยขึ้นม้ามุ่งหน้าไป
อ่าวหว้าขาวยามอุทัยเริ่มไขลำ
(มีต่อครับ)
ระนาดเอก