กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
02 เมษายน 2025, 02:48:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8 ... 10
 31 
 เมื่อ: 19 มีนาคม 2025, 02:09:PM 
เริ่มโดย toshare - กระทู้ล่าสุด โดย toshare
ภุชงคประยาตรฉันท์ ๑๒

@ จะกล่าวถ้อย ติเตือนใคร
.....ตระหนักใจ มุเที่ยงธรรม
อุเบกขา ประจักษ์ค้ำ
.....ลุสอบย้ำ สิหลักฐาน

@ คะนึงกาล และบุคคล
.....จะเข้มข้น พิเคราะห์หาญ
ละ ลด เลิก วิชามาร
.....กระจ่างฉาน สถานเดียว


 32 
 เมื่อ: 18 มีนาคม 2025, 10:07:PM 
เริ่มโดย กวินพัฒน์ - กระทู้ล่าสุด โดย ViVee
ในยามรัก...โหมกระหน่ำคำว่า"รัก"
ยามอกหัก...พัดพาความผันผวน
แรงอารมณ์ลั่นปะทุสุดรัญจวน
จิตเพียงหวนคิดถึงจึงอาลัย

พร่ำรำพันสาดตนจนหดหู่
ใจน่ะหรือ...มิรับรู้การแก้ไข
เมื่อตัวยังดั้นรัก...เกินหักใจ
ก็พร่ำถาม...ว่าเหตุใด...ไม่ลืมเธอ.

ฺViVee

ทักทายจ้า

 33 
 เมื่อ: 18 มีนาคม 2025, 03:59:PM 
เริ่มโดย toshare - กระทู้ล่าสุด โดย toshare
ริเริ่ม : คมทวน คันธนู
ผัง
@ ลคค ลคค
ลลค ลคค
คคลค ลลลค
ลคค ลคค

@ มนุษย์ แต่ละฅน ถาง
ชะมล้าง กิเลสตน   
ยามยาก ปะหนัก พละจะดล
ประสบผล ประจักษ์เห็น

@ พลังใจ จะสู้จน
มน(ะ)ผล สงบเย็น
กูลเกื้อ"ระทม" ลุ ชย(ะ)เข็ญ
ธราเป็น สวรรค์ครัน

ธรา
 [ทะรา]  (แบบ) น. แผ่นดิน. (ป., ส.).






 34 
 เมื่อ: 18 มีนาคม 2025, 08:38:AM 
เริ่มโดย toshare - กระทู้ล่าสุด โดย toshare
อ่อน แข็ง

@ อ่อน แสดง สงบ
แข็ง สยบ ผยอง
แข็ง มิพรั่น ประลอง
อ่อน ประคอง "ระทม"

สมาน(ะ)ฉันท์ ๕

 35 
 เมื่อ: 18 มีนาคม 2025, 08:08:AM 
เริ่มโดย toshare - กระทู้ล่าสุด โดย toshare

สมาน(ะ)ฉันท์ ๕
ค ลค ลค

ลด ตัว ตน กู

@ ลด ละ"กู" ผยอง
ตัว สนอง กิเลส
ตน ประพฤติ สิเหตุ
"กู" นรก สวรรค์



 36 
 เมื่อ: 17 มีนาคม 2025, 08:13:PM 
เริ่มโดย กรีนซี - กระทู้ล่าสุด โดย กวินพัฒน์
หลับตาลงจะนอนเห็นหนอนอ้วน
เป็นรถด่วนหรือไม่ใจถวิล
ทอดฟูฟ่องกรอบอร่อยบ่อยเคยกิน
เป็นอาหารท้องถิ่นกินเพลินจัง

กวินพัฒน์

 เอ้อ..จริงว่ะ  เห็นนอนตัวอ้วนเยอะไปหน่อย หยอกๆนะจ๊ะ

 37 
 เมื่อ: 17 มีนาคม 2025, 08:02:PM 
เริ่มโดย กวินพัฒน์ - กระทู้ล่าสุด โดย กวินพัฒน์
เพียงชั่วครู่หลับตาเวลาสั้น
ชั่วคืนวันใจคนวกวนเปลี่ยน
สิ้นราตรีผันอุทัยใจคนเวียน
หมดความเพียรก่อรักแต่หนักใจ

เพียงชั่วคราวเราพบแล้วจบรัก
จึงประจักษ์ความจริงสิ่งที่ใช่
กาลเวลาล้างกมลคนเรื่อยไป
มิมีใครไม่เปลี่ยนเวียนกระมัง

แม้โลกหมุนเวียนครบบรรจบรอบ
ถึงเส้นขอบเริ่มแรกแยกสองฝั่ง
ยังมิเหมือนเดิมได้ไม่จีรัง
แล้วรักยังจะอยู่เกินรู้นา

รู้ก็รู้เกินทำใจในทุกครั้ง
เมื่อความหลังรักมีก็หนีหน้า
แม้เจ็บช้ำหัวใจยังไขว่คว้า
เจ็บซ้ำมาตรอมตรม..ก็สมควร


กวินพัฒน์



 38 
 เมื่อ: 17 มีนาคม 2025, 06:00:PM 
เริ่มโดย Yodyanyong - กระทู้ล่าสุด โดย Yodyanyong
เบญจางคอักษร ๑

โคลงสี่สุภาพ
หยาดฝนลงหยดย้อย        เย็นสรวง
โปรยหล่นหลบดาวดวง     ดับหล้า
เย็นชื่นจากฝนหลวง          ลงพร่าง
พรมทั่วแดนฟากฟ้า           ฟ่องฟ้าฟองขจร

     (โคลงศิลป์โสฬส หกสุภาพ)
คิดค้นโดยคมทวน คันธนู กวี นักเขียน
   ดอนดาลด่านพื้น         พสุธา
  อุระอุรา                        เร่าร้อน
  แสงสาดพาดผา           พงไร่
  ความชุ่มฉาบอ้อน         อับเฉา

สีเทาทั่วหล้า               หลากหลง
ควันหมอกโหมลง        รุกเร้า
ดินฝุ่นเป็นผง               แผ่เพิ่ม
รอเริ่มฝนเข้า               เขม่าหาย

     (นาคาคะนองฝนฉันท์ ๒๖)
คิดค้นโดย  คมทวน  คันธนู กวี นักเขียน

นภาหม่นระคนหมอง   รวิส่องละอองลาย
หมอกกั้นตะวันสุริยะฉาย     พนากลายจะสิ้นหวัง

พยูงยางจะรอฝน       และอุบลจะขึ้นฝั่ง
อากาศจะเอื้อรึก็มิยัง   พลังใจจะได้มี

    (กาพย์โกสุม ๒๔)
คิดค้นโดย  คมทวน  คันธนู กวี นักเขียน

  ขอบฟ้าเริ่มเพิ่มสดใส
ชนชาวไทยใจยินดี
พฤกษาชื่นคืนวิถี
ฝนปรานีโปรยหยาดสาย

แนวดินดอนนอนแห้งแล้ง
ฝนจำแลงลงแปลงกาย
ควันหมอกล่องแสงส่องฉาย
เมฆเลือนหายสายน้ำมา

เมฆฝนลอยย้อยลงต่ำ
ความชุ่มฉ่ำแทรกนำพา
มองออกไปในเวหา
ลมหยอกหญ้าฟ้าปรีดิ์เปรม

            (กลอนสุภาพ)
      ขอบฟ้าล้อมพร้อมเหล่าเราหลายแหล่ง
รีบวิ่งแซงมุ่งสู่สุขเกษม
น้ำในอ่างอวบอั๋นวันอิ่มเอม
คือเพชรเหมพลอยหุงลุงฮาเฮ

ทอเทือกสวนจอบเสียมเตรียมสะสาง
ลงมือสร้างเสริมสรรค์หมั่นสรวลเส
หมดสิ้นทุกข์ปลุกทำย้ำทุ่มเท
ไม่ว้าเหว่วาดไว้ในต่อวัน

ท้องทุ่งงามยามแหงนแก่นใบงอก
ลมพัดหยอกแย้มยวนยั่วเย้ยหยัน
รวงข้าวร่วงพวงร้อยห้อยโรมรัน
ลมถลันนำข่าวล่าราคาลง

ข้าวระทมตรมท้อรอถามไถ่
น้ำตาไหลรวงหล่นจนลืมหลง
ข้าวหลายพันธุ์ผันผกค่าเพียงพง
ผิดประสงค์ส่งเสริมเพิ่มพูนทรัพย์

ยอดยรรยง เยี่ยมเยือน ประพันธ์



 39 
 เมื่อ: 17 มีนาคม 2025, 11:59:AM 
เริ่มโดย กรีนซี - กระทู้ล่าสุด โดย กรีนซี



ฝัน ท่ามกลางฤดูฝน

กระเซ็นสายหยาดฝน...หลบตนซ่อน
ลังเลใต้ไม้ขอนหนอนตัวอ้วน
ไร้แสงแดดยามเช้าเฝ้าทบทวน
รอบกายล้วนมืดสนิทเหมือนปิดตา

เสียงสายลมพัดผ่านก้านไม้กิ่ง
หวังพึ่งพิงฝนสาดขาดความกล้า
ใต้ขอนไม้ผุพังคือหลังคา
มิสร่างซา..เม็ดฝนหล่นโปรยปราย

ฟ้าสีหม่นคลุมครอบโอบรอบทั่ว
หวังความกลัวว้าเหว่ถูกเทถ่าย
รอคอยแสงรังรองส่องประกาย
สาดทอฉายสู่ฟ้าธราดล

มองแผ่นฟ้ามืดสลัวหนอนตัวอ้วน
ร่างขดม้วนไร้คำเอ่ยพร่ำบ่น
ใต้ไม้ขอนซ่อนบังหวังหลบพ้น
ฤดูฝนปนหนาวคราวโรมรัน

คีตรังสรรค์บรรเลงเพลงใบไม้
ลมโล้ไกวแรมรอนหนอน เ เ ค่ ฝั น
อยากเป็นนกผกผินบินได้นั้น
หลีกหนีความหวาดหวั่นอันน่ากลัว

เพียงแค่ฝันมีปีกเพื่อหลีกพ้น
อยากทำตามลืมตนจนคิดมั่ว
อ้วนตุ๊ต๊ะอุ้ยอ้ายร่างกายตัว
มืดสลัวแค่ฝันแต่นั้นมา

ปาฏิหาริย์มีไหมไม่อาจรู้
เปลี่ยนฤดูปลายฝน รอ จน กว่า
แสงทอดเงาหักเหเส้นเวลา
ดาวบนฟ้าสาดทอพอเห็นทาง

หนอนตัวอ้วนเจริญวัยร่างกายเปลี่ยน
โลกหมุนเวียนไปตามความมืดสว่าง
สู่ดักแด้เป็นผีเสื้อเรื่อสีจาง
ข ยั บ ปี ก บ อ บ บ า ง พร้อมโบยบิน

กรีนซี







 40 
 เมื่อ: 17 มีนาคม 2025, 06:49:AM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ



…อสงไขย…


…ในบางวัน บางขณะ บางเวลา ที่ปลีกตัวจาก
ภาระหน้าที่ความวุ่นวายต่างๆในชีวิตได้

วันที่สามารถปลดปล่อยให้ อายตนะทั้งหก
ทำงานของมันได้อย่างอิสระเต็มที่

ก็จะมีความรู้สึกเสมือน
เป็นเครื่องรับคลื่นความถี่ของอารมณ์
ที่ลอยมากระทบ
ไม่ว่าจะมาเป็นภาพ เสียง ข้อความ
หรือบางครั้งก็มาในรูปคลื่นความคิด
ที่ดูเหมือนว่าจับต้องไม่ได้ แต่รู้สึกได้

แล้วสิ่งที่มากระทบดังกล่าว
ก็ถูกนำเข้ากระบวนการ ถอดรหัส
ผ่านการซึมซับเข้าสู่ใจ
และแปลงข้อความเป็นการรับรู้เฉพาะตน

ก่อนจะถูกสะท้อนถ่ายทอด ออกมาเป็น
คำ หรือข้อความต่างๆ ซึ่งดลบันดาลใจ
ให้เขียนโคลงบ้าง กลอนบ้าง บทความ
มีฉันทลักษณ์บ้าง ไม่มีบ้างตามแต่อารมณ์
และจินตนาการจะพาไป

อย่างเช่นเช้าวันนี้…
เหมือนสายใยแห่งความคะนึง
ปลิวมากระทบใจ ระลอกแล้วระลอกเล่า
จนต้องลุกขึ้นมา พร่ำเพ้อพรรณนา…

“…ปล่อยความคิดถึงปลิวไปในอากาศ
ล่องลอยหัวใจสะอาดปล่อยไปแสนไกล
กรุ่นกลิ่นบุหงาพัดมาด้วยรักจากใจ
เพียงหวังให้ถึงใครคนที่รอคนนั้น…“

…บทเพลงซึ่งแม้เคยฟังมานับครั้งไม่ถ้วน
แต่ในบางบรรยากาศ ในบางห้วงอารมณ์
อย่างในวันนี้ เสียงเพลงและถ้อยคำที่ใช้นั้น
มันช่างไพเราะกินใจมากเป็นพิเศษ

ยิ่งเสียงนักร้อง เสียงดนตรี
ที่ถ่ายทอดอารมณ์ทำได้ดี
ก็ยิ่งปลุกจินตนาการให้ฟุ้งทะยาน
ไปกับเสียงเพลงนั้น


   ฝากปลิดปลิวลิ่วลอย ละห้อยโหย
ผ่านลมโชยชายพัด กระหวัดหวน
อาจเนิ่นนานอสงไขย เกินไกลทวน
ตราบชื่นชวนด่ำดื่ม มิลืมเลือน

   ฝากเพลงกลอนฟุ้งฟ้า บรรยากาศ-
เยื้องนวยนาดกรีดกราย ละม้ายเหมือน
ส่งข้อความคิดถึง คะนึงเยือน
คอยเป็นเพื่อนคลายเหงา ใต้เงารัก

   ฝากสายใยย้อนวาร ผสานสืบ
จากซอกหลืบลึกใจ วาบไหวตระหนัก
จิตถึงจิตแท้งาม กว่าถามทัก
นัยประจักษ์แจ้งท้น อยู่ล้นทรวง

   ฝากเพลงนี้ถึงเธอ ผู้เพ้อหา
กล่อมนิทราควงแขน ทั่วแมนสรวง
แม้ดื่นด้อยถ้อยสรรค์ สวรรค์ลวง
ขอผูกพ่วงคล้องเกี่ยว เพียงเสี้ยวใจ




“…ปล่อยความคิดถึงปลิวไปในอากาศ
ล่องลอยหัวใจสะอาดปล่อยไปแสนไกล
กรุ่นกลิ่นบุหงาพัดมาด้วยรักจากใจ
เพียงหวังให้ถึงใครคนที่รอคนนั้น

ส่งความคิดถึงปลิวไปในอากาศ
คิดถึงใจจะขาดเธออาจไม่เข้าใจ
แค่อยากให้รู้ไม่ได้ต้องการสิ่งใด
เธอไม่ต้องคืนใจถ้าเธอไม่ต้องการ

ฝากเป็นเพลงให้ลอยเล่นลมไป
ล่องลอยผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนานยังรักเธอ
ตราบนานอสงไขยเวลา

หากเพลงคิดถึง
ที่ปลิวไปในอากาศ
เพียงถ้ามันพลั้งพลาด
ไปไม่พบเธอ

ให้บทเพลงนี้
ล่องลอยเรื่อยไปเสมอ
รอสักวันที่เจอคนที่เขาต้องการ

ฝากเป็นเพลง
ให้ลอยเล่นลมไป
ล่องลอยผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนานยังรักเธอ
ตราบนานอสงไขยเวลา

แม้จะเนิ่นนานยังรักเธอ
ตราบนานอสงไขยเวลา…“


Soul Seacher
Inspired to write 16/3/2025




หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8 ... 10

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s