กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้ by บ้านกลอนไทย klonthaiclub.com
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
30 ตุลาคม 2024, 10:44:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว:
 
  หน้าแรก ภาพตกแต่งเว็บ ค้นหา ติดต่อเรา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 ... 10
 11 
 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2024, 03:57:PM 
เริ่มโดย kapheetam - กระทู้ล่าสุด โดย kapheetam
เพลานั้น  วังทวาร  บานเปิดอ้า
เสียงพูดจา  พาเงียบพลัน  หันมองเห็น
องค์นงลักษณ์  พักตร์หม่นเมิน  เดินโคลงเคลง
แอบซ่อนเร้น  ทุกข์เข็ญทน  ระบมใน

ผ่านบุรุษ   มากมาย  ลายตาสบ
ยังมิพบ  สบใจ  ชายคนไหน
ทั้งสูงต่ำ  ดำด่าง  แตกต่างวัย
ทั้งหล่องาม  ทรามคละไป  เรียงรายปน

วาสพเฒ่า  เฝ้ามอง  ใจตรองตริ
ตนมาติด  ปิดหลัง  ช่างไม่สม
ต้องยืนหน้า  ฉุดพานาง  ห่างผู้คน
ถึงจักพ้น  คนรู้  นางอยู่ใด

จึงพินิจ  คิดการ  พานางหนี
เยี่ยงไรดี  ที่คน  ไม่สงสัย
นึกได้พลัน  ตะโกนดัง  ไปทันใด
เปิดทางให้  ขรัวเฒ่าไป  ในบัดดล

สิ้นตะโกน  เฒ่าทโมน  ก็โจนฝ่า
ดุจอาชา  แรงกล้านัก  ทัพพหล
เหล่าบุรุษ  กระจุกออ  พอถูกชน
กระเด็นพ้น  ล้มคลุก  ฟุบหมอบดิน

ส่งเสียงคราง  ลานตา  หน้าแผลเกลื่อน
เหล่าผองเพื่อน  เบือนหัน  กลับหลังสิ้น
ตกใจเสียง  สำเนียงร้อง  ก้องได้ยิน
เห็นเพื่อนกลิ้ง  นอนดินคราง  พลางงงงัน

ฝ่ายชรา  พริบตาผึง  ถึงแถวหน้า
ทันเวลา  อ่าอนงค์  องค์เฉิดฉัน
ย่างมาสบ  พบพันตา  ประหม่าพลัน
เฒ่าผลุนผลัน  คว้าหัตถ์  ผละจากจร

เหล่าฉกรรจ์  มัวหันดู  หมู่คนเจ็บ
ไม่ทันเอะ  ใจมอง  จ้องสมร
พอรู้ตัว  ขรัวเฒ่าพา  สุดาจร
จึงก้องร้อง  โกรธา  ดุด่าไป

โอ้กระไร  ชราวัย  ไยมากเล่ห์
ช่างเสเพล   เสแสร้ง  แกล้งเหลวไหล
ทำงกเงิ่น   เดินสั่น  นั่นปะไร
ฉุดนางได้  ลวดลายออก  ลอบจากจร

เพียงประเดี๋ยว  เดียวเผ่น  ไม่เห็นหลัง
องค์ร้อยชั่ง  ช่างกระไร  ไม่ทุบถอง
กลับตามชิด  ติดไป  ใจสมยอม
ทิ้งฉกรรจ์  ทั้งผอง  คับข้องใจ

กล่าวถึงเฒ่า  เครายาว  สาวเท้าย่าง
จูงนงคราญ  พรางหลีก  ปลีกลับหาย
ถึงสำนัก  พักพิง  สิ้นหวั่นใจ
เชิญอ่อนไท้  คลายอึดอัด  ขึ้นพักบน

องค์ชายา  หน้าตรอม  ใจหมองเฉา
ยินผู้เฒ่า  กล่าวคำ  ฟังฉงน
นึกแปลกใจ  เรือนผู้ใด  ใหญ่ชอบกล
ช่างสวยสม  ภิรมย์รื่น  ชื่นฤทัย

จึงเอ่ยถาม  ความไป  ใครเจ้าบ้าน
ช่างโอฬาร  งามเขื่อง  กว่าเรือนไหน
เฒ่าจำแลง  แถลงพลัน  ในทันใด
ขอกลอยใจ  คลายฟุ้งซ่าน  บ้านพี่เอง

พี่อยู่เดียว  เปลี่ยวกาย  มาหลายหนาว
ขาดคนเคล้า  เศร้าตรม  ทนทุกข์เข็ญ
ราตรีค่ำ  ระกำฝืน  ตื่นลำเค็ญ
หวังจักเป็น  เช่นเขาอื่น  ชื่นคู่คลอ

ฟ้าเบื้องบน  คงรู้  ให้คู่พี่
เป็นเทวี  ศรีบังอร  พร้อมห้องหอ
หวังให้ไท้  ได้พงศ์เผ่า  สืบเหล่ากอ
นวลลออ  อย่าแคลง  แหนงหน่ายเลย

หลังขึ้นบน  เชิญอนงค์  นั่งบนแท่น
พญาแถน  แสดงท่า  โอ่อ่าเผย
บอกบังอร  นอนพัก  หลับได้เลย
อย่าเอื้อนเอ่ย  ถ้อยใด  ให้ใจตรอม

จบวาจา  ชราพลาง  มือวางจับ
แผ่วสัมผัส  หัตถ์พธู  ทั้งคู่สอง
องค์นงนาฏ  คาดไม่ถึง  ตะลึงมอง
ไม่ทันร้อง  ล้มนอนพับ  หลับทันใด



บัดนั้น  เฒ่าจำแลง  แปลงร่างกลับ
กลายรูปลักษณ์  เรืองรอง  ผิวผ่องใส
เป็นราชา  สุรารักษ์  งามจับใจ
อุ้มนงโพธ  โอบอกไว้  เหาะไคลคลา

ผ่านสัตต  บริภัณฑ์  เจ็ดบรรพต
เขาวงกต  วกวน  ยากค้นหา
สีทันดร  ละอองพลิ้ว  ริ้วงามตา
ข้ามสิเนรุ  ทะลุฟ้า  ลับตาไป

ถึงอัมพร  นครหาว  วาวปราสาท
งามพิลาส  วาบเพชร  เม็ดวาวใส
ศักรพุ่งตรง  วางนางลง  ในทันใด
เหนือแท่นใหญ่  วิไลงาม  กลางไพชยนต์

หลังวางเสร็จ  เสด็จออก  นอกปราสาท
เทวราช  อิ่มอาบใจ  ให้สุขสม
ประทับตั่ง  นั่งสุข  บัณฑุกัมพล
เหล่านางฟ้า  ล้อมวง  องค์สุเรนทร์



เมื่อนั้น  สีลวดี  นรีรัตน์
หลังฟื้นหลับ  พักตื่น  ขึ้นมองเห็น
ห้องโกสีย์  ที่งามเหลือ  เหนือกฎเกณฑ์
วิจิตรเด่น  เปล่งประกาย  ลายแปลกตา

จึงตรองตรึก  นึกพินิจ  คิดเรื่องผ่าน
ถึงเรื่องบ้าน  กว้างใหญ่  ให้กังขา
มาห้องหอ  ห้องหับ  งามจับตา
ทั่วแผ่นหล้า  หาใดเทียบ  จักเปรียบดัง

หรือชรา  สวมผ้าเก่า  ผู้เฒ่านี้
เป็นโกสีย์  เทวราช  จากสวรรค์
มาช่วยเรา  พ้นชายเขลา  เหล่าฉกรรจ์
จึงงามขำ  ถลันทาง  ทวารา

พ้นทวาร  บานเปิด  องค์เฉิดโฉม
ให้งุนงง  พิกลเห็น  เป็นนักหนา
สิ่งรอบข้าง  ช่างประหลาด  งามแปลกตา
ทั้งแผ่นดิน  แผ่นฟ้า  พาแปลกใจ

มวลไม้ดอก  รอบตระการ  งามพิลาส
สวยผุดผาด  พาดคบ  งดงามไฉน
ยืนต้นซุ้ม  พุ่มกอ  ลออวิไล
บานสดใส  ไกวตาม  ยามต้องลม

ฟ้าสดใส  เลื่อมแปลก  แดดไม่จัด
เย็นลมพัด  เพลินนักสบาย  กายสุขสม
หอมบุปผา  ผกาชื่น  รื่นกมล
ทุกแห่งหน  ชมละลาน  ไม่วางตา

ถัดวิมาน  ใกล้ติด  ทิศอีสาน
มีหญิงงาม  ล้นหลามห้อม  ล้อมแน่นหนา
ใต้ไม้ใหญ่  ใบตระการ  อร่ามตา
นั่งสง่า  อ่าองค์เห็น  เช่นราชัน

โฉมบังอร  มองวงพักตร์  รัศมี
เทพบดี  สีเขียววาม  งามเฉิดฉัน
จึงมั่นใจ  ใช่องค์อินทร์  มิ่งเทวัญ
จึงงามขำ  พลันก้าว  เดินเข้าไป

ได้ระยะ  พอประมาณ  นงคราญหยุด
ย่อกายคุก  บังคม  องค์ฤาสาย
เจ้าชั้นหาว  ดาวดึงส์  หวังพึ่งภัย
วอนจอมไท้  ได้สงสาร ประทานพร



บัดนั้น...ศักรินทร์  ผินมา  สบตาถี
องค์เทวี  สีลวดี  ศรีสมร
พลางเอื้อนโอษฐ์  โปรดตรัส  ทักบังอร
อรชร  น้องยา  อย่าทุกข์ใจ

น้องคงรู้  ผู้ชรา  พามานี่
คือตัวพี่  มัฆวา  เทวาใหญ่
หวังโฉมฉิน  ศีลพิสุทธิ์  เป็นสุขใจ
น้องอยากได้  สิ่งใด  ให้บอกมา

พี่เต็มใจ  ให้พร  น้องหนึ่งข้อ
หวังเจ้าพอ  ฤทัย  ในปรารถนา
ได้สมมาด  ปราศทุกข์  สุขอุรา
ตัวพี่ยา  ก็พา  ผาสุกใจ

นงพะงา  รื้นน้ำตา  อุราสะอื้น
ให้ชื่นมื่น  ฟังคำ  พลันสดใส
บอกองค์อินทร์  ปิ่นสวรรค์  ไปทันใด
ขอโอรส หนึ่งองค์ให้  ไท้ราชา

เป็นทายาท  สืบชาติพงศ์  วงศ์กษัตริย์
ราษฏร์ประจักษ์  อึดอัดคลาย  หายกังขา
ประเทศแดน  แคว้นรัฐ  วัฒนา
ปวงประชา  หน้าใส  ใจเบิกบาน





 12 
 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2024, 03:56:PM 
เริ่มโดย kapheetam - กระทู้ล่าสุด โดย kapheetam
จอมราชัน  ฟังประชา  พาอึดอัด
เอ่ยดำรัส  ตรัสแจ้ง  แถลงไข
บอกทดสอบ  ครอบคลุมถ้วน  มวลนางใน
แต่ไฉน  ไร้ทายาท  ยากกล่าวคำ

เหล่าพสก  ตระหนกฟัง  ทรงธรรมตรัส
ให้ข้องขัด  คับใจ ไยสิ้นหวัง
ยากจักเชื่อ  หน่อเชื้อพงศ์  วงศ์เทวัญ
จะมาสั้น  สะบั้นไป  กระไรฤา

จึงรวมพล  ระดมแจง  แสดงเหตุ
แห่งอาเพศ  ธเรศมี  ที่ใดหรือ
จึงไร้ซึ่ง  หนึ่งนาง  กระนั้นฤา
ให้ทายาท  สืบวงศ์ชื่อ  เลื่องลือไกล

หลังปรึกษา  หารือนาน  พานสรุป
เหล่านงนุช  ยุพยง  องค์ฤาสาย
ล้วนทุศีล  สิ้นถ้วน  มวลนางใน
เป็นเหตุให้  ไร้สามารถ  ยากตั้งครรภ์

เนื่องทายาท  มากบุญ  สกุลรุนชาติ
จุติจาก  ฟากฟ้า  เทวาสวรรค์
ห่อนฝังจิต  สนิทแนบ  แทรกในครรภ์
หญิงไม่มั่น  คงธรรม  ยากนำพา

จึงน้อมทูล  ภูมิบดี  วิธีใหม่
หากจอมไท้  ใคร่สมดัง  ปรารถนา
ได้ทายาท  สืบพงศ์  วงศ์ราชา
โปรดบัญชา  พระชายา  สีลวดี

ด้วยโฉมฉิน  ศีลลออ  บริสุทธิ์
งามประดุจ  อินทุเพ็ญ  เปล่งราศี
เกินหญิงใด  ในหล้า  บรรดามี
เป็นแม่ศรี  มิ่งแดน  แคว้นพวกเรา

หากองค์อร  ยอมทำ  ต้องสำเร็จ
ได้แก้วเพชร  เม็ดงาม  อร่ามเสลา
เป็นทายาท  ราชบัลลังก์  มัลละเรา
ขอผ่านเผ้า  เจ้ามหิ  ตริตรองดู

เมื่อนั้น…โอกกากราช  ฟังคำ  พลันอึดอัด
ผินหน้าผละ  ไม่ปะใคร  ใจอดสู
ให้ลำบาก  ยากบอก  ยอดพธู
มิ่งเมียชู้  คู่ขวัญ  ทำอย่างไร

แต่เพื่อชาติ ราษฎร์ประชา  ต้องมาก่อน
ความเดือดร้อน  ผองชาวเมือง  เรื่องยิ่งใหญ่
ต้องขจัด  ปัดเป่า  ทุกข์เศร้าไป
องค์จอมไท้  ฝืนใจตัด  หักใจทน

จึงบัญชา  เสนา  มหาอำมาตย์
สั่งข้าราช  ประกาศแจ้ง  ทั่วแห่งหน
ศาลากลาง  ร้านค้า  แน่นหนาคน
ตรอกถนน  หนทางแพร่ง แจ้งทั่วกัน

นับเวลา  เจ็ดวัน  จากวันนี้
พระเทวี  สีลวดี  นารีขวัญ
จะเสด็จ  ดำเนินออก  ยังนอกวัง
เพื่อฝากฝัง  สัมพันธ์ชู้  คู่ฤทัย

เลือกชายชาติ  อาชาไนย  ให้ทายาท
สืบต่อราชย์  ชาติพงศ์  วงศ์อดิศัย
ให้ยืนยง  คงอยู่  คู่ไผท
เป็นหน่อเนื้อ  เชื้อไข  ไชยราชา

ชายใดหวัง  สัมพันธ์รัก  สมัครสมาน
กับจอมนาง  ผู้งามสรรพ  ยากจักหา
หญิงใดเปรียบ  เทียบทัน  กัลยา
ให้จงมา  รอลาน  ทวารวัง

สิ้นประกาศ  ราชโองการ  ภูบาลแจ้ง
ทุกแยกแพร่ง  แหล่งชุมชน  คนมากฝัน
ทั้งหนุ่มอ่อน  ค่อนเฒ่า  เฝ้าโจษจัน
ต่างมุ่งหวัง  กัญญา  ต้องตาตน

จึงเมื่อถึง  ซึ่งกาล  ตามกำหนด
เหล่ามานพ  สมทบกัน  คับคั่งถนน
ยืนยัดเยียด เบียดเสียดออ  รออนงค์
จากทุกหน  ทุกแห่ง  แย่งกันมา



ณ เวลา  เดียวกัน  เบื้องชั้นหาว
มรุเจ้า ท้าวสุรินทร์  ตาวติงสา
อยู่อยู่เกิด  ร้อนใจ  ให้สงกา
จึงกำหนด  จดจิตหา  ปัญหาใด

ฉับพลันทราบ  พิลาสถี  ผู้มีศักดิ์
นารีรัตน์  พระจักรี  ศรีสมัย
โอกกากราช  ราษฎร์ทวยเทิด  เกริกเกียรติไกล
จักเลือกชู้  คู่ฤทัย  ให้บุตรา

เพื่อสืบชาติ  ราชบัลลังก์  จำสละ
ศีลข้อวัตร  ยอมตัดใจ  ไม่รักษา
หวังราษฎร์ไท้  ได้ดัง  จินตนา
องค์ชายา  อุราตรม  ทนจาบัลย์

มเหสักขเทวัญ  ครั้นทราบเหตุ
ให้นึกเวทนานาง  พลางผลุนผลัน
นั่งไม่ติด  ครุ่นคิดการ  ช่วยนางพลัน
ให้สมหวัง  ดังใจ  ไม่ทุกข์ตรม

จึงตริตรอง  มองหา  เทวาแถน
ในเมืองแมน  แดนสรวง ล่วงเวหน
ผู้ใดจึง  คู่ควร  นวลอนงค์
เป็นทายาท  ชาติพงศ์  วงศ์ไพบูลย์

บัดนั้น  ท้าววัชเรนทร์  เห็นนิมิต
ภาพอดิเทพ  ครรไล  ไปเบื้องสูง
ทิ้งดาวดึงส์  ขึ้นฟ้า  ตุสิตาภูมิ
เนื่องบุญหนุน  ผดุงส่ง  องค์เทวา

ท้าวสุเรนทร์  เกรงไม่ทัน  พลันเร่งรุด
พร้อมเทพบุตร  ผุดผ่อง  คล่องแกล้วกล้า
ยังสำนัก  โพธิสัตว์  เลื่องศักดา
เพื่อสกัด  ดักหน้า  อมราไคล

ถึงวิมาน  มัฆวาน  สั่งการตรัส
ไม่เอ่ยทัก  รับสั่งพลัน  กันสงสัย
ให้อมร  พร้อมจรัล  ยังกรุงไกร
จุติฟ้า  ลาไป  ในภูวดล

ณ แว่นแคว้น  แดนดิน  ถิ่นมนุษย์
เกิดเป็นบุตร  สุทธิกานต์  ตามประสงค์
โอกกากราช  ราชา  ผู้อ่าองค์
เทวีพ้น  มลทิน  ศีลสมบูรณ์

โพธิสัตว์  สดับคำ  มิทันแย้ง
ศักรพลันแจ้ง  แถนเคียงใกล้  ให้ตามหนุน
ลงไปเกิด  กำเนิดข้าง  พุทธางกูร
คอยเกื้อหนุน  จุนเจือ  เมื่อจำเป็น

จบความมี  วัชรี  ก็ตีจาก
ทิ้งเวหาส  เหาะจากฟ้า  หาไม่เห็น
สองเทวัญ  ยังงันงง  องค์วัชเรนทร์
มาหลีกเร้น  เผ่นลับ  คับข้องใจ



ฝ่ายองค์อินทร์  ทิ้งหาว  ลงด้าวดิ่ง
ถึงแผ่นดิน  ผินมา  พาสงสัย
กลายรูปลักษณ์  พักตร์แก่เฒ่า  เคราสั่นไกว
ผมเผ้าขาว  ราวเปลือกไข่  ให้พิกล

เดินยักแย่  ยักยัน  มาวังไท้
เยื้องย่างกราย  หายใจขัด  อึดอัดสับสน
ถึงหน้าลาน  ทวารวัง  พลันก้มลง
โก่งก้นโค้ง  ผายลมคั่ง  ลั่นทั่วลาน

เหล่าบุรุษ  กระจุกออ  พอยินเสียง
ปู้ดป้าดเปรี้ยง  เสียงท้องลั่น  พลันแตกซ่าน
บ้างสำลัก  กระอักไอ  รากไหลยาน
บ้างถูกหาม  ออกลานพ้น  เป็นลมไป

หลากฉกรรจ์  หันมอง  จ้องผู้เฒ่า
ดุว่ากล่าว  แก่คราวปู่  ดูไม่ไหว
ยังอุตส่าห์  พาสังขาร  มาทำไม
เหตุไฉน  ไม่อยู่เหย้า  คอยเฝ้าเรือน

บ้างดรุณ  หนุนตาม  ประจานซ้ำ
พูดหยามหยัน  ซ้ำเหลือบมอง  จ้องเชือดเฉือน
จวนกลายฟอน  นอนไฟ  ไยเลอะเลือน
แม้ย่างเยื้อง  กระย่องกระแย่ง  แรงไม่มี

องค์เทวะ  สหัสนัยน์  ในร่างเฒ่า
แสร้งตาวาว  เคราสั่นฟัง  คำเสียดสี
พูดติดขัด  ตะกุกตะกัก  กลับทันที
เจ้า..พวก..นี้  นี่..ยัง.เยาว์  เขลา..เหลือ..ทน

ขิง..จะ.เด็ด  เผ็ด..จริง  เพราะ..ยิ่งแก่
หมอ.จะ..แน่  เพราะ..แก่.วัย  ไม่..ฉงน
ไม้..จะ..แกร่ง  แก่น..แก่.นาน  จึง..ทาน.ทน
ชาย..เหมาะ..สม  หญิง.งาม..พักตร์  นับที่วัย

เหล่าบุรุษ  สุดกลั้น  ขันทั่วหน้า
ฟังวาจา  ชราอ้าง  ช่างเหลวไหล
เปรียบเทียบเขลา  เอาข้างสี  ดีกว่าใคร
บุรุษไหน  ไม่เหมาะเท่า  ขรัวเจ้าเอง

 13 
 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2024, 03:55:PM 
เริ่มโดย kapheetam - กระทู้ล่าสุด โดย kapheetam
กุสติณราช

(เทวโลก)                       
ณ เมืองแมน  แดนสรวง  ล่วงเวหน
พระสุริยน  หม่นแสง  ไม่แดงใส
ดวงดารา  สุกตาวับ  งามจับใจ
รุ่งไสว  ไร้เมฆหมอก  ครอบบดบัง

เหนือสุเมรุ  เกินเกณฑ์นับ  วัดสูงได้
มีเมืองใหญ่  วิไลงาม  ปานเสกสรร
เหล่าทวยเทพ  เสพสุข  ทุกคืนวัน
นามลือลั่น  สรวงสวรรค์  ชั้นดาวดึงส์

กลางอัมพร  นครหาว  วาวปราสาท
งามพิลาส  ยากเกินคน  ด้นดั้นถึง
เวชยันต์  วังจอมไท้  แห่งไตรตรึงษ์
ช่างสวยซึ้ง  ตรึงตา  น่าเพลินมอง

สูงเสลา  พราวระยับ  นับร้อยโยชน์
รายธงโบก  โบยพลิ้ว  ริ้วสลอน
ประดับมณี  สีหลากแปลก  แทรกลายทอง
ไทวะผอง  ไม่รองไหน  ในดินแดน

ถัดวังไท้  ใกล้ติด  ทิศอีสาน
มีสวนงาม  ละลานตา  น่าสุขแสน
นามปุณฑริก  นิรชร  ค่อนเมืองแมน
เปรียบดุจแม้น  แดนสถาน  สำราญใจ

มวลพันธุ์ไม้  รายแยก  แตกกิ่งช่อ
ซุ้มพุ่มกอ  ลออบาน  งามสดใส
บ้างสูงกร่าง บ้างลามแผ่  แพร่ออกไป
ดูไสว  พร่างใบดอก  รอบอุทยาน

กลางสวนงาม  มีอาราม  นามเกริกก้อง
เทพทั้งผอง  พร้อมพรัก  สมัครสมาน
มาประชุม  ชุมนุมฟัง  ธรรมตามกาล
ยังสถาน  สุธรรมา  ศิวาลัย

ใต้ไม้ใหญ่  เหลือคณา  ปาริฉัตร
หนึ่งสุร  อัครแถน  ผิวแดงใส
ยืนทอดตา  ผกามาลย์  เบิกบานใจ
เนื่องจวนใกล้  ครรไลหาว  ดาวดึงส์

ด้วยบุญญา  ธิการทำ  น้อมนำส่ง
สัมฤทธิ์ผล  ดลจอมสัตว์  อุบัติถึง
ตุสิตา  เหนือฟ้าไกล  แดนไตรตรึงษ์
เป็นชั้นซึ่ง  โพธิสัตว์  พำนักกาย



(โลกมนุษย์)                     
ณ  แผ่นดิน  ถิ่นแดน  แคว้นมัลละ
มีกษัตริย์  ทรงศักดิ์เด่น  เช่นไศล
เลื่องระบือ  ลือนาม  แผ่กว้างไกล
นามจอมไท้  โอกกากราช  ราษฎร์ชื่นชม

พระทรงภพ  ทรงยกธรรม  นำประเทศ
ใต้เศวต  ฉัตรไท้  ไพร่สุขสม
กิจการ  ร้านค้า  แน่นหนาคน
ทุกแห่งหน  ชนสราญ  ชื่นบานใจ

ภูมิบดี  มีชายา  สง่าแสน
ทั่วเขตแดน  แคว้นสกล  ชนเลื่อมใส
สีลวดี นามเสนาะ  เพราะจับใจ
ตั้งเป็นใหญ่  กว่านางใด  ในดินแดน

องค์จอมไท้  ไว้พระทัย  ให้อำนาจ
ด้วยเปรื่องปราด  มากปัญญา  เก่งกล้าแสน
มอบนางใน  ให้ปกครอง  พอผ่อนแรง
เพื่อช่วยแบ่ง  เบาภาระ  พระจักรี



องค์ผ่านเผ้า  เฝ้าหวัง  บัลลังก์ราชย์
มีทายาท  สืบชาติพงศ์  ดำรงศรี
ราชสกุล  ครองกรุง  กุสาวดี
ผ่านหลายปี  ไร้ทีท่า  น่าแปลกใจ

เหล่าข้าราช  มากล้น  ชนทั่วหล้า
ต่างตั้งตา  ตั้งหน้ารอ  หน่อเชื้อไข
องค์ภูมินทร์  ปิ่นเกล้า  เจ้ากรุงไกร
เหตุไฉน  ไยเนิ่นนาน  พานกังวล

จึงชักชวน  รวมกัน  พลันมุ่งหน้า
สู่พารา  หาบพิตร  คิดประสงค์
แจ้งกษัตริย์  พิบัติใหญ่  ใกล้กรายองค์
หากไม่ทรง  มีทายาท  ชาติมลาย



นโรดม  ทรงสดับ  ถ้อยอรรถราษฎร์
ให้ลำบาก  ยากจิต  คิดมากหลาย
จึงเผยความ  ตามดำริ  อธิบาย
เหตุไฉน  ไร้ทายาท  ชาติล่มจม

เราใช้ธรรม  นำพา  รักษาประเทศ
ไยเป็นเหตุ  พิบัติภัย  ไพร่ขื่นขม
ทั่วแว่นแคว้น  แดนดิน  ถิ่นสกล
ราษฎร์สุขสม  คนไร้ทุกข์  สุขสำราญ

อาณาจักร  จรัสเรือง  เลื่องนามก้อง
ใต้ครรลอง ปรองดองรัก สมัครสมาน
ประเทศราช  มากพร้อม  น้อมบรรณาการ
ไยปวงท่าน  พรั่นวิตก  อกร้อนรน



เหล่าข้าไท้  ได้ฟัง  ราชันตรัส
จึงตอบกลับ  ดำรัสไท  ไม่ฉงน
เพลานี้  ทั่วธาษตรี  ที่มั่นคง
ด้วยพระองค์  ทรงสามารถ  ยากใครเทียม

แต่ความคิด  จิตมนุษย์  สุดหยั่งรู้
มีกายอยู่  ศัตรูหลบ  หดหายเศียร
สิ้นกายา  ศัตรูคล่อง  จ้องเบียดเบียน
ช่วงผลัดเปลี่ยน  เสี่ยงพินาศ  ชาติอัปรา

ขอพระองค์  ทรงดำริ  ตริตรองเถิด
ถึงประเสริฐ  เลิศใหญ่  เกินใดหา
ถึงเก่งกาจ  สามารถ  มากปรีชา
สุดท้ายหน้า  ดินกลบ  จบชีวัน

แต่ชาติคง  ดำรงอยู่  มิรู้ดับ
เปลี่ยนกษัตริย์  สัตราช  ชาติสุขสันต์
ได้กษัตริย์  ทรราช  ชาติจาบัลย์
ควรฤานั่น  ชั่งพระทัย  ทรงไตร่ตรอง



ธรณิศ  คิดทวน  ชวนอึดอัด
ฟังถ้อยอรรถ  ประจักษ์เห็น  เช่นทั้งผอง
แต่อับจน หนทางออก  กลอกตามอง
ข้าไท้จ้อง  มองทรงธรรม  พลันเข้าใจ

จึงทูลตอบ  บอกวิธี  ที่สามารถ
สืบทายาท  ชาติพงศ์  วงศ์อดิศัย
แต่ภูวนาถ  คงยาก  ลำบากใจ
หากจักใช้  แนวทาง  ตามประชา

จอมราชัน  ฟังคำ  ท่านอมาตย์
ให้เอิบอาบ  วาบใจ  เกินใดหา
ปัญหาหนัก  สลัดได้  คลายอุรา
แม้ต้องฝ่า  ทุกข์ใด  ไม่อินัง

จึงตรัสถึง  ซึ่งวิธี  มีไฉน
เป็นอย่างไร  ยากเพียงไหน  ไม่หนีหัน
ถึงข้ามเขา  ราวป่า  จักฝ่าฟัน
บ่คร้ามยั่น  พรั่นลาน  วานบอกมา



อมาตย์ฟัง  พลันแถลง  แจ้งธเรศ
ถึงมูลเหตุ  องค์เอกไท้  ไร้วงศา
เนื่องเป็นหมัน  ยากหวังให้  ได้บุตรา
จึงเนิ่นช้า  เหนื่อยล้าคอย  พลอยกังวล

หากผ่านเผ้า  เฝ้าหวัง  บัลลังก์ราชย์
มีทายาท  สืบชาติพันธุ์  ดังประสงค์
ต้องยอมหัก  ตัดพระทัย  หมองไหม้ทน
ปล่อยสนม  ทรงมากมี  ที่ในวัง

ให้ออกนอก  วังไป  ในหนึ่งอาทิตย์
เลือกคู่ชิด  สนิทกาย  ชายในฝัน
ร่วมสังวาส  เอิบอาบอิ่ม  ผินกลับวัง
หนึ่งเดือนผัน  ครรภ์สงัด  นางถัดไป

โสฬสพัน  อังคณา  บรรดาสนม
งามอ่าองค์  นงคราญ  นางทั้งหลาย
ต้องมีหนึ่ง  ซึ่งสามารถ  สืบชาติไท
ให้ทายาท  จอมไท้ได้  ในไววัน

นโรดม  ทรงฟัง  ทำตามบอก
ไม่กลับกลอก  ตอบแน่นหนัก  ตรัสขึงขัง
ให้ยุพา  บรรดามี  ที่ในวัง
ร่วมตุนาหงัน  ฉันท์ชู้สาว  คราวละคน

ปวงประชา  หน้าใส  ยินไท้ตรัส
สิ้นอึดอัด  ทุกข์คลาย  ใจสุขสม
ต่างเพรียงพร้อม  น้อมกราบ  บาทยุคล
หายหน้าพ้น  องค์ราชา  ลากลับไป



จำเนียรกาล  ผ่านพ้น  วนเวียนกลับ
ยังสงัด  ข่าวมงคล  ชนสงสัย
หลายปีเลื่อน  เคลื่อนจาก  ราษฎร์ทุกข์ใจ
ด้วยยังไร้  ข่าวทายาท  ยากเบิกบาน

จึงประชา  มาประชุม  ชุมนุมใหม่
หน้าวังไท้  ทนไม่ไหว  ใคร่ทวงถาม
ถึงทายาท  สืบชาติพงศ์  องค์ภูบาล
ไยยังว่าง  ให้ฉงน  พิกลใจ


 14 
 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2024, 11:19:PM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ


…คำหวาน (ต่อ)…



…รสหวานใดฤาเปรียบเทียบหวานรัก
จารประจักษ์ปักในฤทัยสอง
เสน่หารัญจวนนวลละออง
พาใจล่องลอยขานเพรียกหวานคำ

“อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก“
แต่ลมปากหวานติดพินิจพร่ำ
อยากฝากวรรคหวานเห็น…เป็นประจำ
กล่อมทุกค่ำคืนสดับ หลับฝันดี…

Soul Searcher
Inspired to write 18/10/2024



 15 
 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2024, 08:12:AM 
เริ่มโดย toshare - กระทู้ล่าสุด โดย toshare

(รับ) รวมพลัง ผองเหล่า ประชา
ร่วมจิต วิญญาณ์
สืบสาน ประชา- ธิปไตย (ซ้ำ)

ผู้คน (ยัง)ลำบาก ยากเข็ญ
ทุกข์แท้ ลำเค็ญ
ไม่เห็น ที่ซึ่ง พึ่งพา

ทุรชน กดขี่ บีฑา
แปลงแฝง เร้นมา
สูบเลือด วิญญาณ์ สูญสิ้น

"ผู้ปกครอง" หนวกบอด ยลยิน
บ้างร่วม โกงกิน
ผลาญเผา แผ่นดิน แห้งเหือด
(รับ)



 16 
 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2024, 08:10:AM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย toshare

@ มอง เมล็ดข้าวหนึ่งนั้น
.....เน่ามลาย
เพียงเพื่อพงศ์ขจรขจาย
.....จากเจ้า
หวงห่วงแต่ตนจะกลาย
.....กลับจบ
พันธุ์เผ่านั้นแน่เศร้า
.....สบสิ้นสูญสลาย



 17 
 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2024, 08:08:AM 
เริ่มโดย toshare - กระทู้ล่าสุด โดย toshare


@ เมตตารัก จักต้อง "ผ่อง"ปรากฏ
มุละลด กิเลส เหตุ"กู"ผยอง
รักแบ่งปัน มั่น"ทำ" ธรรมครรลอง
ชนทั้งผอง สบสันติ นิรันดร์เทอญ




 18 
 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2024, 02:54:PM 
เริ่มโดย hort39 - กระทู้ล่าสุด โดย masapaer
เมื่อความรักมันเก่าจับเจ่าทุกข์
จงรีบลุกขัดล้างบ้างสักหน
ให้ไหวหวามวาวแววแพรวกมล
ก็น่ายลอยู่นะพี่ว่าไง

 เอ้อ..จริงว่ะ


 19 
 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2024, 10:08:PM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ


สุดดราม่าจริงจริง บอลคิงส์คัพ
ยิงไม่จับเมสซี่เจ เฮกันว่อน
ไทยชนะซีเรีย นั่งเชียร์บอล-
มิต้องนอน ฉลองชัย ไทยเอาวา…เย้เย้

โซ…เซอะเซอ
14 ตุลาคม 2567


 ฉลองกัน


 20 
 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2024, 09:07:PM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ

…บอลไทยขึ้นนำแล้ว…

ไทยขึ้นนำ หนึ่งศูนย์ พูนสวัสดิ์
ขอช่วยจัด อีกสักสอง คลายหมองหมาง
แชมป์คิงส์คัพปีนี้ มีหนทาง
เชียร์บอลไทยไปพลางพลาง หว่างเขียนกลอน

โซ…เซอะเซอ
14 ตุลาคม 2567


 ฉลองกัน


หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 ... 10

Email:   Policy
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!