พิมพ์หน้านี้ - มาลาคำหอม .. โดย นารถ กิตติวรรณกร

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => ห้องรวบรวมบทกลอน,บทกวีจากที่อื่น.. => ข้อความที่เริ่มโดย: gizon ที่ 19 มกราคม 2010, 12:24:AM



หัวข้อ: มาลาคำหอม .. โดย นารถ กิตติวรรณกร
เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 19 มกราคม 2010, 12:24:AM
มาลาคำหอม


๐ สานใยรักถักร้อยสร้อยคำหอม
คลอขับกล่อมเพลงกานท์สืบงานศิลป์
อวลอบร่ำอารมณ์พรมประทิน
ประโลมจินต์เจิมใจให้เบิกบาน

๐ ประจงนิ้วพลิ้วส่ายวาดลายสือ
ประเลงสื่ออักษรเป็นกลอนสาร
จำเรียงพจน์รสคำชื่นฉ่ำมาน
บังเกิดกานท์มนต์กลอนออดอ้อนใจ

๐ หนึ่งคำหอมแห่งพจน์หนึ่งรสถ้อย
คือหนึ่งร้อยมนต์กลอนที่อ่อนไหว
เป็นแพรคำสร้อยคำที่อำไพ
เอื้ออุ่นไอภาษามาห่มทรวง

๐ ดื่มด่ำสุขอิ่มสุขทุกศัพท์เสียง
เสนาะเพียงเพลงพิณจากถิ่นสรวง
คลี่แพรคำฉ่ำสุขใจทุกดวง
หลับในห้วงเสน่หามาลาคำ


                                                                                (http://add.klonthaiclub.com/images/6986f5941e43d6.gif)

จากหนังสือ "จาก...พวงชมพู สู่...มาลาคำหอม" เขียนโดย นารถ กิตติวรรณกร


หัวข้อ: ไม่มีน้ำจะดับไฟ .. โดย นารถ กิตติวรรณกร
เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 19 มกราคม 2010, 12:35:AM
ไม่มีน้ำจะดับไฟ


๐ โลกกำลังจะหมุนไปกลางไฟร้อน
ตามวรรคตอนแบ่งแยกการแตกดับ
มนุษย์จึงเตรียมพร้อมเพื่อยอมรับ
ก่อนพบกับความตายที่คล้ายกัน

๐ จากยุคหินหมุนมาสู่อารยะ
โดยวาระกำหนดเป็นกฎกั้น
โลกได้สร้างปัญหาสารพัน
และสร้างวันเวลาไว้ฆ่าคน

๐ ด้วยวิวัฒนาการด้านวัตถุ
โลกบรรลุสิ่งที่ไม่มีผล
จึงคนขลาดหวาดผวาทั่วสากล
ไฟกังวลโชติช่วงทุกดวงตา

๐ การเข่นฆ่าทำลายกระหายเลือด
ถึงจุดเดือดเชือดขวัญหวั่นผวา
สงครามแห่งชนชั้นมีปัญญา
กำลังพาโลกพบจุดจบลง

๐ สู่ยุคหินอีกหนเยี่ยงคนป่า
ถือการฆ่าเป็นนิยามความสูงส่ง
แสวงหา บ้าอำนาจ หลงชาติพงศ์
นี่โลกคงมีศีลธรรมไว้ย่ำยี

๐ คนกระหายสงครามสนามรบ
จึงซากศพกลบดินทุกถิ่นที่
ไม่มีน้ำจะดับไฟในวันนี้
เมื่อคนมีปัญญาไว้ฆ่ากัน


                                                                                (http://add.klonthaiclub.com/images/6986f5941e43d6.gif)

จากหนังสือ "จาก...พวงชมพู สู่...มาลาคำหอม" เขียนโดย นารถ กิตติวรรณกร


หัวข้อ: Re: ไม่มีน้ำจะดับไฟ .. โดย นารถ กิตติวรรณกร
เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 24 มกราคม 2010, 12:20:AM
แล้ง


๐ ใบไม้ร่วงแต่ละใบตายจากต้น
คือหยาดฝนแต่ละหยาดที่ขาดสาย
เหตุเพราะป่าถูกคนโค่นทำลาย
ทะเลทรายจึงก่อตัวไปทั่วเมือง

๐ ผืนดินแห้งแล้งฝนคนแล้งสุข
โลกถึงยุคเลวร้ายแล้งหลายเรื่อง
มากปัญหาสารพันดุจฟันเฟือง
หนุนนับเนื่องเกินสำหรับจะรับเอา

๐ ยุติธรรมอยู่ที่ไหนมองไม่เห็น
หยาดน้ำใจไม่เย็นเหมือนเช่นเก่า
ความหวังดีมีบ้างเพียงบางเบา
ความเป็นเราโดยสายเลือดแห้งเหือดลง

๐ คนฆ่าคนเพียงจะดับกระหาย
ฉีกกฎหมายขาดกระจุยเป็นผุยผง
เมื่อสังคมจมอำนาจลืมชาติพงศ์
โลกนี้คงแล้งสันติอยู่นิรันดร์

๐ สัตย์, ศีลธรรมประจำใจแล้งไปก่อน
ใจจึงร้อนราคะความกระสัน
เมื่อสังคมชมค่าตัณหากัน
โลกนับวันขัดสนแล้งคนดี

๐ แผ่นดินแห้งแล้งฝนพอทนไหว
แล้งน้ำใจไม่อับจนหนทางหนี
แล้งศีลธรรมต่ำบ้างเพียงบางที
"แล้งสามัคคีในชาติ" ...ร้ายกาจนัก


                                                                                (http://add.klonthaiclub.com/images/6986f5941e43d6.gif)

จากหนังสือ "จาก...พวงชมพู สู่...มาลาคำหอม" เขียนโดย นารถ กิตติวรรณกร


หัวข้อ: Re: ไม่มีน้ำจะดับไฟ .. โดย นารถ กิตติวรรณกร
เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 24 มกราคม 2010, 12:23:AM
คำสั่งของพ่อ


๐ จากแผ่นดินล้านนามาสู่ใต้
สุโขทัยเรืองรุ่งถึงกรุงเก่า
พ่อเคยสอนเมื่อครั้งเรายังเยาว์
และได้เล่าเรื่องการฆ่ากลางป่าดง

๐ หยาดโลหิตและน้ำตาความกล้าหาญ
โดยวิญญาณของนักสู้ผู้สูงส่ง
บรรพบุรุษไทยฉกาจรักชาติพงศ์
ไทยจึงคงอยู่รอดตลอดมา

๐ ผืนไตรรงค์โบกบินทุกถิ่นที่
แผ่นดินนี้คือสมบัติพิพัฒน์ค่า
วีรชนไทยเชือดหลั่งเลือดทา
สู้รักษาปฐพีด้วยชีวิต

๐ ลูกหลานคือทายาทที่ชาติหวัง
เป็นพลังไปภายหน้ารักษาสิทธิ์
สืบเชื้อไทย "อยู่เป็นไทย" ไปทั่วทิศ
ลูกจงคิดทำความดีสี่ประการ

๐ หนึ่ง...รักชาติ ศาสนา มหากษัตริย์
สอง...รักวัฒนธรรมความอ่อนหวาน
สาม...รักเรียนเพียรหาวิชาชาญ
สี่...รักงานและรักสามัคคี

๐ คำของพ่อยังก้องทั้งสองหู
สอนให้รู้จักรักในศักดิ์ศรี
และเอ่ยคำพร่ำสั่งอย่างปราณี
"แม้ชีพพลีอย่าให้ชาติพินาศลง"


                                                                                (http://add.klonthaiclub.com/images/6986f5941e43d6.gif)

จากหนังสือ "จาก...พวงชมพู สู่...มาลาคำหอม" เขียนโดย นารถ กิตติวรรณกร