หัวข้อ: เสียงขลุ่ยแว่ว เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 07 มกราคม 2010, 09:03:PM เสียงขลุ่ยแผ่ว...แว่วสำเนียง...เสียงโศกเศร้า...
ใครหนอเป่า...เล่าความใน...เหมือนใจช้ำ ครวญตามลม...ผสมโศก...วิโยคตาม สะอื้นร่ำ...พร่ำเอื้อน...สะเทือนใจ แผ่วโหยหวน...ป่วนท้อ...หนอดวงจิต... ยามชีวิต...หม่นหม่อง...ต้องหวั่นไหว... เสียงขลุ่ยโศก..โยกครวญ...กระชากใจ... บาดทรวงใน...เราแท้...แม่เนื้อนวล... นั่งกอดเข่า...ก้มหน้า...น้ำตาไหล... น้องจากไกล...ไม่บอกลา...ไร่นาสวน... แม้แต่พี่...เจ้ายังหลบ...ไม่ทบทวน... ใยน้องด่วน...หลบลี้...หนีพี่ไป... ฝากเสียงขลุ่ย...พลิ้วล่อง...ทำนองอ้อน... ถึงบังอร...วอนถาม...แทนได้ไหม... พี่นี้ผิด...จิตทราม...หรืออย่างไร... น้องจึงทิ้ง...พี่ไป...ไม่ใยดี... ปล่อยพี่ไว้...เดียวดาย...ในท้องทุ่ง... ที่ข้าวสูง...เหลืองอร่าม...งามเช่นนี้... กับเสียงขลุ่ย...ที่โศกเศร้า...เหงาสิ้นดี... ข้างกระท่อม...หลังนี้...ที่เคยเคียง..... ***กระท่อมนางเมิน*** [/color] [/font] [/size] หัวข้อ: Re: เสียงขลุ่ยแว่ว เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 07 มกราคม 2010, 10:10:PM ระบายใจใส่เพลงบรรเลงหวน
พรมนิ้วครวญสะอื้นอั้นขลุ่ยครั่นเสียง เพลงแผลเก่าเจ้าคลอล้อสำเนียง ลมขลุ่ยเพียงหวิวหวาดแทบขาดใจ หัวข้อ: Re: เสียงขลุ่ยแว่ว เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 07 มกราคม 2010, 10:15:PM ระบายใจใส่เพลงบรรเลงหวน
พรมนิ้วครวญสะอื้นอั้นขลุ่ยครั่นเสียง เพลงแผลเก่าเจ้าคลอล้อสำเนียง ลมขลุ่ยเพียงหวิวหวาดแทบขาดใจ......(สายใย) คลองแสนแสบ แสบจริง ยิ่งกว่าชื่อ เพราะมันคือ รังรักเก่า เราเคยใกล้ ครวญเสียงขลุย แว่วยิน ยิ่งกินใจ รำลึกย้ำ จำได้ ครั้งเคยเคียง......(ลีฯ แอบต่อ..ขอแจม อิอิ) หัวข้อ: Re: เสียงขลุ่ยแว่ว เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 07 มกราคม 2010, 10:53:PM ระบายใจใส่เพลงบรรเลงหวน
พรมนิ้วครวญสะอื้นอั้นขลุ่ยครั่นเสียง เพลงแผลเก่าเจ้าคลอล้อสำเนียง ลมขลุ่ยเพียงหวิวหวาดแทบขาดใจ......(สายใย) คลองแสนแสบ แสบจริง ยิ่งกว่าชื่อ เพราะมันคือ รังรักเก่า เราเคยใกล้ ครวญเสียงขลุย แว่วยิน ยิ่งกินใจ รำลึกย้ำ จำได้ ครั้งเคยเคียง......(ลีฯ แอบต่อ..ขอแจม อิอิ) เรียมของขวัญปันใจไปให้เขา ทิ้งขวัญเศร้าโศกศัลย์สวรรค์เบี่ยง สิ่งใดหนอดลใจให้เอนเอียง คนใจเที่ยงโดนทิ้งฤๅหญิงลวง.....(ก็แจ่มดีนะ...ส.ย.) หัวข้อ: Re: เสียงขลุ่ยแว่ว เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 07 มกราคม 2010, 11:06:PM ระบายใจใส่เพลงบรรเลงหวน
พรมนิ้วครวญสะอื้นอั้นขลุ่ยครั่นเสียง เพลงแผลเก่าเจ้าคลอล้อสำเนียง ลมขลุ่ยเพียงหวิวหวาดแทบขาดใจ......(สายใย) คลองแสนแสบ แสบจริง ยิ่งกว่าชื่อ เพราะมันคือ รังรักเก่า เราเคยใกล้ ครวญเสียงขลุย แว่วยิน ยิ่งกินใจ รำลึกย้ำ จำได้ ครั้งเคยเคียง......(ลีฯ แอบต่อ..ขอแจม อิอิ) เรียมของขวัญปันใจไปให้เขา ทิ้งขวัญเศร้าโศกศัลย์สวรรค์เบี่ยง สิ่งใดหนอดลใจให้เอนเอียง คนใจเที่ยงโดนทิ้งฤๅหญิงลวง.....(ก็แจ่มดีนะ...ส.ย.) มิได้ลวง ดวงใจ ใครเจ็บช้ำ แต่ต้องจำ ใจจาก ทั้งยังห่วง รู้หรือไม่ ใจซ้อนเก็บ เจ็บในทรวง ถูกบังคับ ให้ต้องล่วง คำสาบาน......(ลีฯ แจมต่อ อิอิ) หัวข้อ: Re: เสียงขลุ่ยแว่ว เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 07 มกราคม 2010, 11:33:PM ระบายใจใส่เพลงบรรเลงหวน
พรมนิ้วครวญสะอื้นอั้นขลุ่ยครั่นเสียง เพลงแผลเก่าเจ้าคลอล้อสำเนียง ลมขลุ่ยเพียงหวิวหวาดแทบขาดใจ......(สายใย) คลองแสนแสบ แสบจริง ยิ่งกว่าชื่อ เพราะมันคือ รังรักเก่า เราเคยใกล้ ครวญเสียงขลุย แว่วยิน ยิ่งกินใจ รำลึกย้ำ จำได้ ครั้งเคยเคียง......(ลีฯ แอบต่อ..ขอแจม อิอิ) เรียมของขวัญปันใจไปให้เขา ทิ้งขวัญเศร้าโศกศัลย์สวรรค์เบี่ยง สิ่งใดหนอดลใจให้เอนเอียง คนใจเที่ยงโดนทิ้งฤๅหญิงลวง.....(ก็แจ่มดีนะ...ส.ย.) มิได้ลวง ดวงใจ ใครเจ็บช้ำ แต่ต้องจำ ใจจาก ทั้งยังห่วง รู้หรือไม่ ใจซ้อนเก็บ เจ็บในทรวง ถูกบังคับ ให้ต้องล่วง คำสาบาน......(ลีฯ แจมต่อ อิอิ) มิเข้าใจ ใยรัก จึงจักซ้อน เพียงเอ่ยอ้อน กลอนพร่ำ แต่คำหวาน มิเข้าใจ ใครเหน็บ เจ็บดวงมาน คำสาบาน รานล่วง เธอห่วงใคร หัวข้อ: Re: เสียงขลุ่ยแว่ว เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 07 มกราคม 2010, 11:39:PM ระบายใจใส่เพลงบรรเลงหวน
พรมนิ้วครวญสะอื้นอั้นขลุ่ยครั่นเสียง เพลงแผลเก่าเจ้าคลอล้อสำเนียง ลมขลุ่ยเพียงหวิวหวาดแทบขาดใจ......(สายใย) คลองแสนแสบ แสบจริง ยิ่งกว่าชื่อ เพราะมันคือ รังรักเก่า เราเคยใกล้ ครวญเสียงขลุย แว่วยิน ยิ่งกินใจ รำลึกย้ำ จำได้ ครั้งเคยเคียง......(ลีฯ แอบต่อ..ขอแจม อิอิ) เรียมของขวัญปันใจไปให้เขา ทิ้งขวัญเศร้าโศกศัลย์สวรรค์เบี่ยง สิ่งใดหนอดลใจให้เอนเอียง คนใจเที่ยงโดนทิ้งฤๅหญิงลวง.....(ก็แจ่มดีนะ...ส.ย.) มิได้ลวง ดวงใจ ใครเจ็บช้ำ แต่ต้องจำ ใจจาก ทั้งยังห่วง รู้หรือไม่ ใจซ้อนเก็บ เจ็บในทรวง ถูกบังคับ ให้ต้องล่วง คำสาบาน......(ลีฯ แจมต่อ อิอิ) มิเข้าใจ ใยรัก จึงจักซ้อน เพียงเอ่ยอ้อน กลอนพร่ำ แต่คำหวาน มิเข้าใจ ใครเหน็บ เจ็บดวงมาน คำสาบาน รานล่วง เธอห่วงใคร ห่วงไอ้เรียว เพื่อนเก่า เราเคยขี่ ต่อจักมี ใครดูแล มันหรือไม่ แต่ที่ต้อง ซ่อนรัก ไว้ภายใน ก็เพราะใจ ก็กลัวเจอ เธอหลอกลวง......(ลีฯ อิอิ) หัวข้อ: Re: เสียงขลุ่ยแว่ว เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 08 มกราคม 2010, 12:02:AM ระบายใจใส่เพลงบรรเลงหวน
พรมนิ้วครวญสะอื้นอั้นขลุ่ยครั่นเสียง เพลงแผลเก่าเจ้าคลอล้อสำเนียง ลมขลุ่ยเพียงหวิวหวาดแทบขาดใจ......(สายใย) คลองแสนแสบ แสบจริง ยิ่งกว่าชื่อ เพราะมันคือ รังรักเก่า เราเคยใกล้ ครวญเสียงขลุย แว่วยิน ยิ่งกินใจ รำลึกย้ำ จำได้ ครั้งเคยเคียง......(ลีฯ แอบต่อ..ขอแจม อิอิ) เรียมของขวัญปันใจไปให้เขา ทิ้งขวัญเศร้าโศกศัลย์สวรรค์เบี่ยง สิ่งใดหนอดลใจให้เอนเอียง คนใจเที่ยงโดนทิ้งฤๅหญิงลวง.....(ก็แจ่มดีนะ...ส.ย.) มิได้ลวง ดวงใจ ใครเจ็บช้ำ แต่ต้องจำ ใจจาก ทั้งยังห่วง รู้หรือไม่ ใจซ้อนเก็บ เจ็บในทรวง ถูกบังคับ ให้ต้องล่วง คำสาบาน......(ลีฯ แจมต่อ อิอิ) มิเข้าใจ ใยรัก จึงจักซ้อน เพียงเอ่ยอ้อน กลอนพร่ำ แต่คำหวาน มิเข้าใจ ใครเหน็บ เจ็บดวงมาน คำสาบาน รานล่วง เธอห่วงใคร....(ส.ย.ขอตอบ อิ อิ) ห่วงไอ้เรียว เพื่อนเก่า เราเคยขี่ ต่อจักมี ใครดูแล มันหรือไม่ แต่ที่ต้อง ซ่อนรัก ไว้ภายใน ก็เพราะใจ ก็กลัวเจอ เธอหลอกลวง......(ลีฯ อิอิ) ห่วงอ้ายเรียว แล้วทำไม ไปกับเขา ทิ้งให้เศร้า กับศาล สาบานห่วง มิอาจคิด ลำเลิก เบิกทักท้วง มิหวังทวง ล่วงล้ำ ถึงคำนั้น......(ชิมิ...ส.ย.) หัวข้อ: Re: เสียงขลุ่ยแว่ว เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 08 มกราคม 2010, 10:04:AM สงสารเรียวเที่ยวถามตามตึกช่อง หาเจ้าของที่จากไกลไปตามฝัน ไม่เห็นหน้าพาคิดถึงคะนึงวัน เคยร่วมกันลงเก็บบัวทั่วหนองบึง..อิอิ ...แบบว่า..ไม่รู้สิ หัวข้อ: Re: เสียงขลุ่ยแว่ว เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 08 มกราคม 2010, 11:25:AM ขลุ่ยบันทึกนิยายใจของใครหนอ
จึงหวีดพ้อแหวกไพรคล้ายเสียขวัญ หรือครวญคำร่ำร้องฟ้องใครกัน ที่แปรผันรักพรากจากท้องนา จึงคมเคียวเกี่ยวรวงไม่ห่วงข้าว เหมือนลมหนาวว่าวร้างแขวนข้างฝา กลุ่มเมฆเกลื่อนเลือนจันทร์แสงพลันลา เหมือนน้ำตาฟ้าหล่นบนใบไม้ เสียงขลุ่ยแว่วแผ่วคล้ายวายชีวาตม์ ชะงักขาดหลังโรยระโหยไห้ ดอกราตรีรวยหอมมาย้อมใจ หยาดน้ำตาอาลัยให้ลมซับ... ช้าไปนิด โดนคุณจะ(ไม่)เด็ด ชิงสัมผัสไปซะแล้ว หัวข้อ: Re: เสียงขลุ่ยแว่ว เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 09 มกราคม 2010, 10:17:AM ขลุ่ยบันทึกนิยายใจของใครหนอ จึงหวีดพ้อแหวกไพรคล้ายเสียขวัญ หรือครวญคำร่ำร้องฟ้องใครกัน ที่แปรผันรักพรากจากท้องนา จึงคมเคียวเกี่ยวรวงไม่ห่วงข้าว เหมือนลมหนาวว่าวร้างแขวนข้างฝา กลุ่มเมฆเกลื่อนเลือนจันทร์แสงพลันลา เหมือนน้ำตาฟ้าหล่นบนใบไม้ เสียงขลุ่ยแว่วแผ่วคล้ายวายชีวาตม์ ชะงักขาดหลังโรยระโหยไห้ ดอกราตรีรวยหอมมาย้อมใจ หยาดน้ำตาอาลัยให้ลมซับ... ดอกราตรี..รวยหอม..มาย้อมชื่น ขลุ่ยสะอื้น..คืนสงัด..พัดใจลับ... สงสารเคียว...เรียวเจ้าร้าง...ปางประทับ... รอยรักดับ...จับด่างคว้าง...กลางด้ามเคียว... ดั่งน้ำตา...ฟ้าหล่น...บนใบไม้... น้ำตาใจ...ก็ไหลล้น...จนแรงเหนี่ยว... ครวญกลางจันทร์...ฝันสลาย...ร้ายนักเชียว เมื่อโดดเดี่ยว...เดียวดาย...วายชีวี... เหตุฉะนี้...แหละหนอ...จึงคลอขลุ่ย... ใช่ขุดคุ้ย...เหตุอ้าง...ที่นางหนี... แต่พี่เศร้า...เหงาปวด...รวดฤดี... จึงใช้ขลุ่ย...สำเนียงนี้...มาปลอบใจ |