หัวข้อ: ศาลาพักร้อน บทกลอนพักใจ เริ่มหัวข้อโดย: สายลมสีขาว ที่ 23 ธันวาคม 2009, 09:25:PM เคยดื่มด่ำ คำพจน์ รดรินโสต
ขานจันโจษ โยชน์ฟ้า นภาใส อาบคำหวาน ซ่านซาบ นาบดวงใจ อบอวลกรุ่น กริ่นไอ ในวจี กลางศาลา ท่าใจ ที่ใคร่อยู่ เพียงพธู บุปผา ดาวิถี แต่วันนี้ ตัวเธอ กลับไม่มี เหตุใดจึง ลาลี ตีจากกัน เป็นศาลา ล้าร้าง กลางสวนใหญ่ ที่ไร้ใจ ใส่เติม เพิ่มสีสันต์ กับอีกหนึ่ง นารี ที่รำพัน รอตัวเธอ ผู้นั้น จะกลับมา คือสถาน ชานพัก ต้องวิจิตร รอผู้ผ่าน สถิต พิศรักษา เป็นที่วาง สร้างสุก เพียงศาลา หวังให้เพียง ผู้ผ่านมา พักแดดวง เสมือนว่า ภาษา ที่ใหลหลับ รอคนคอย ขานขับ สลับสรวง เพื่อผ่อนคลาย รายร้าว ที่ฉาวทรวง ปล่อยรอยรวง ความเศร้า ให้เพลาลง emo_115 ... หัวข้อ: Re: ศาลาพักร้อน บทกลอนพักใจ เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 23 ธันวาคม 2009, 11:01:PM ยามใจเหี่ยวเรี่ยวแรงคล้ายแล้งผ่าน แห้งขอดนานพานพบประสบเศร้า เหลือเพียงคำพร่ำพรอดทอดบรรเทา ใต้ร่มเงาอักษรกลอนบรรยาย หยิบความช้ำขยำไว้ในสำนึก ด้วยเจ็บลึกเหลือล้นจนขยาย เขียนความเศร้าเหงาโศกโบกระบาย กลั่นเป็นสายนทีกานท์สายธารกลอน หัวข้อ: Re: ศาลาพักร้อน บทกลอนพักใจ เริ่มหัวข้อโดย: จ้อง เจรียงคำ ที่ 24 ธันวาคม 2009, 01:13:PM เมื่อหม่นหมองซ่องสุม..ที่มุมโศก
ซ้ำกรรโชกโบกโหมถาโถมไล่ ขาดที่พักพึ่งพิงอิงแอบใจ ศาลาใดกันเล่า..ให้เข้านอน ศาลาร้างทางริม..ยังยิ้มเย้ย ไร้ที่เกยกายเกื้อ..เหมือนเมื่อก่อน ศาลาใหม่ไหนจะแง้ม..ให้แรมรอน ดั่งเช่นศาลากลอน..ที่ผ่อนคลาย คือศาลาในยามเศร้าได้เข้าพัก เพราะไร้หลักรักล่มมิสมหมาย เปรียบมิตรแท้..แลเหลียวยามเดียวดาย ขอซุกกาย..ใต้ชายคา..ศาลากลอน ขอบคุณ..คุณงายที่สะกิดครับ(สะกดคำผิดไป..ขอโทษทีครับ) หัวข้อ: Re: ศาลาพักร้อน บทกลอนพักใจ เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 24 ธันวาคม 2009, 02:04:PM ศาลาเก่าเสาไม้ไร้ผนัง
มีความหลังเรียงสายเป็นลายเส้น ลูบภาษาจารึกตรึกนัยเร้น เอาหลังเอนอิงหลับรับลมล้อ พลิ้วลมหยอกบอกเล่าเรื่องเก่าก่อน คนจากจรอ่อนไหวใจจดจ่อ ลมเรียงร้อยถ้อยคำรำพันพ้อ ใครกันหนอเคยรอรักกลับหักใจ หัวข้อ: Re: ศาลาพักร้อน บทกลอนพักใจ เริ่มหัวข้อโดย: (ฟ้า) มารสุรา ที่ 24 ธันวาคม 2009, 06:22:PM เคยชื่นใจในคำหวานซาบซ่านโสต
มธุรสซดดื่มด่ำน้ำเสียงใส ช่างไพเราะเสนาะหูประตูใจ กรุ่นกลิ่นไอในถ้อยร้อยวจี เปิดศาลาท้าหัวใจให้เธออยู่ ยอดพธูอยู่แห่งใดในวิถี แต่รอเจ้าเท่าไหร่กลับไม่มี โธ่คนดีอย่าได้พรากตีจากกัน จากศาลาพาฝันอันยิ่งใหญ่ กลับเศร้าใจไร้คนงามยามสุขสันต์ เหลือชายหนุ่มกลุ้มเศร้าเฝ้ารำพัน รอคนรักสักวันคงหลงกลับมา ใช่สถานเริดหรูดูวิจิตร แต่เหมือนมิตรหลบแดดฝนบังรักษา เป็นที่นั่งยังพักใจในศาลา ให้ผู้คนผ่านมาจักพักแดดวง เสมือนว่าพรสวรรค์อันใหลหลับ ถูกบังคับให้ตื่นฟื้นจากสรวง เขียนบรรยายร่ายรักที่หนักทรวง ฉุดออกบ่วงห้วงความเศร้าให้เพลาลง[/color] emo_111 |