หัวข้อ: หัวข้อ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ เริ่มหัวข้อโดย: webmaster ที่ 06 ธันวาคม 2009, 10:50:PM ห้องแต่งกลอนตามฉันทลักษณ์มีกติกาไม่เหมือนห้องอื่น...รบกวนอ่านก่อนนะครับ โดยคลิ๊กที่นี่ (http://www.klonthaiclub.com/index.php/topic,9308.0.html)
อินทรวิเชียรฉันท ๑๑ กฏ 1. บทหนึ่งมี 2 บาท บาทหนึ่งมี 2 วรรค วรรคหน้ามี 5 คำ วรรคหลังมี 6 คำ รวมบาทหนึ่งมี 11 คำ จึงเรียกว่า ฉันท์ ๑๑ 2. ครุ-ลหุ : คำที่ 3 ของวรรคหน้า กับคำที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ของวรรคหลังเป็นลหุ นอกนั้นเป็นครุ 3. ส่งสัมผัสแบบกาพย์ คำสุดท้ายของวรรคที่ 1 สัมผัสกับคำที่สามของวรรคที่ 2 (เป็นสัมผัสไม่บังคับ แต่ถ้ามีจะทำให้ฉันท์บทนั้นไพเราะยิ่งขึ้น) และ คำสุดท้ายของวรรคที่ 2 สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ 3 สัมผัสระหว่างบท คือคำสุดท้ายของวรรคที่ 4 ของบทแรก จะต้องสัมผัสกับ คำสุดท้ายของวรรคที่ 2 ในบทถัดไป 4. ความนิยม อินทรวิเชียรฉันท์ นิยมใช้แต่งข้อความที่เป็นบทชมหรือบทคร่ำครวญนอกจากนี้ยังแต่งเป็นบทสวด หรือพากย์โขนด้วย (http://www.klonthaiclub.com/picture/indrara11.jpg) คำครุ ได้แก่คำที่ประสมด้วยสระเสียงยาวในแม่ ก กา เช่น กา ตี งู กับคำที่ประสมด้วยสระเสียงสั้นหรือยาวก็ได้ที่มีตัวสะกด เช่น นก บิน จาก รัง นอน และคำที่ประสมด้วยสระ อำ ไอ ใอ เอา ซึ่งถึอว่าเป็นเสียงมีตัวสะกด คำลหุ ได้แก่คำที่ประสมด้วยสระเสียงสั้นในแม่ ก กา เช่น จะ ติ มุ เตะ และคำที่ใช้พยัญชนะคำเดียว เช่น ก็ บ่ ณ ธ นอกจากนี้คำที่ประสมด้วย สระอำ บางทีก็อนุโลมให้เป็นคำลหุได้ เช่น ลำ คำลหุ เวลาเขียนเป็นสัญลักษณ์ ใช้เครื่องหมายเหมือนสระอุ แทน ตัวอย่าง ธมฺโม หเว รกฺ- ขติ ธมฺมจารึ ชนใดหทัยอิง สติยึดประพฤติธรรม ซื่อสัตย์วิรัติชั่ว บมิกลั้ว ณ บาปกรรม เว้นทิฏฐิสารัม ภกิเลสและโทษผยอง พร้อมกายวจีจิตร สุจริตพินิจตรอง ธรรมแลจะคุ้มครอง นรนั้นนิรันดร ให้ปราศนิราศทุกข์ ประลุสุขสโมสร หลักฐานสถาพร ธุระกอบก็เกิดผล ธรรมแลจะแผ่กั้น และก็กันมิให้ตน ตกต่ำถลำจน เจอะอบายวิบัติเขว ฉตฺตัง มหนฺตัง วิย วสฺสกาเล เหมือนเมื่อวสันต์เท ชลหลั่งถะถั่งสาย ร่มใหญ่ผิกางกั้น จะประกันมิเปียกกาย ธรรมดุจร่มหมาย เฉพาะธรรมจารี เหตุนี้ประชาชาติ ละประมาทประพฤติดี ยึดธรรมประจำชี วิตเถิดประเสริฐแล ที่มา : www.kruwallapa.com (http://www.kruwallapa.com/unit4/unit40104.html) และ หนังสืออ้างอิง รศ.วิเชียร เกษประทุม,2550,ลักษณะคำประพันธ์ไทย,สำนักพิมพ์พัฒนาศึกษา,หน้า 22,139 หัวข้อ: Re: หัวข้อ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ เริ่มหัวข้อโดย: ธาตรี พฤกษา ที่ 30 มีนาคม 2010, 09:07:AM *นักเขียนรุ่นใหม่ จงเคารพนักเขียนรุ่นเก่า* ภาษิต
....คารวะนักเขียนบ้านกลอนไทย... คำนับกวีแก้ว สติแพร้วอุดมชาญ ร้อยกรองและคำกานท์ คณะท่าน ณ บ้านกลอนฯ ข้าน้อยคำนับนัก วุฒิศักดิ์ลุอักษร เคารพคุณากร อนุข้าฯมิล่วงเกิน ดุจปราชญ์ฉลาดเลิศ และประเสริฐสิสรรเสริญ เชี่ยวชาญกระบวนเชิญ ก็เจริญนิวัฒน์ไกล คำฉันท์มิสันทัด ปฏิบัติและจริงใจ ผิด,โทษประโยชน์ใด จะอภัยก็ขอบคุณ.... ธาตรี พฤกษา......ซาบซึ้งในน้ำใจไมตรีทุกท่าน 30 มีนาคม 2553 emo_111 emo_79 emo_85 emo_106 emo_89 หัวข้อ: Re: หัวข้อ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ เริ่มหัวข้อโดย: อัลิปรียา ที่ 11 เมษายน 2010, 12:42:PM สายน้ำระรินไป ชลไหล บ หยุดริน
ในสายกระแสสินธุ์ ดุจซ่อนกิระความ รักเอื่อยระเรื่อยไหล จรไกลมิอาจตาม คิดถึงคะนึงนาม ฤจะถามก็พรั่นใจ ยามพิศนทีนั้น จิตพลันนิราศไป น้ำพัดละล่องไกล สิจะพามนัสหาย คิดถึงมธุรส ก็สลดระทดกาย พร่ำพ้อ บ สมหมาย สินะเจ้าเขย่าแด น้ำใจสิเอนเอียง ผิจะเที่ยงก็ยากแท้ ต่างมักสิผันแปร ชลแม่ชะเคยเชี่ยว ตั้งแต่จะไหลแรง กวะแล้งสิแห้งเหี่ยว ไหลผ่าน ฤ ลดเลี้ยว อนุสรณ์ก็โศกา ลำธารชะไหลเอื่อย ชลเฉื่อยสิไหลช้า ชื่นเย็นนะธารา ดุจพาฤทัยลอย ลืมแล้ว ฤ ใจเจ้า มนเศร้าสิโศกสร้อย วาทีวจีร้อย ผิว่าเอื้อนบ่ฟังเรา กระแสสิไหลแรง ดุจแสร้งสิลวงเศร้า ซัดสาดมโนเรา สินะท่านฤดีชา ไหลเชี่ยวก็ชื่นจิต บ่มิคิดจะเหว่ว้า พอแล้งสิอ่อนล้า บ่มิกล้าประวาที ก่อนกาลฤทัยแห้ง ดุจแล้งนะใจนี้ หนึ่งน้ำประพรมที่ ฤดิให้ฤทัยเย็น สุดท้าย ฤ หายหมด มละลดสิได้เข็ญ เคยซัดกระสาดเซ็น ก็ประจักษ์นะดวงแด ว่าเสียง ฤ คำหวาน วจีท่านก็พ่ายแพ้ อ่อนไหว ฤ อ่อนแอ ก็มิทราบมิรู้ตัว ว่าน้ำ ฤ ชุ่มเย็น กระแซะเซ็นบ่ใช่ชั่ว เหือดแห้งมิรู้ตัว ระริรินอดีตเอย หัวข้อ: Re: หัวข้อ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 06 กันยายน 2010, 04:13:PM ล้านักลุสิ้นวัน
มน(ะ)ฉัน ฤ สิ้นแรง ดวงสูรย์ ธ บ่ายแสง ดุจจินต์สิน้อมตาม เคหาทิวาคล้อย มิละคอย ณ เขตคาม เออ ใครจะไถ่ถาม ขณะกลับและรับยิ้ม บ้านเงียบยะเยียบเย็น อุระเห็นสะท้อนทิ่ม หอมข้าวก็เขาอิ่ม มละหวังมลายหาย (http://www.klonthaiclub.com/pic/fell_016.jpg) หัวข้อ: Re: หัวข้อ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 06 กันยายน 2010, 04:29:PM ...สู่เหย้าจะเข้าแล้ว มนแน่วซิเกิดกาย พี่เรานะ"เพรางาย" ก็บ่หายมิคลายเลือน ...เยือนมาณครานี้ มุวจีมิมีเหมือน เอื้อนฉันท์ประชันเตือน ปะทะเคลื่อนจะเลื่อนเคียง emo_73 ...................//ทอฝัน อยากแจม พี่งายอ่ะค่ะ คิดถึง...!!! หัวข้อ: Re: หัวข้อ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ เริ่มหัวข้อโดย: เอ๊พ ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2011, 04:34:PM ชนะใจหญิงกตัญญู จีบหญิงจะอย่างไร ณหทัยสิชอบเอา จริงจังสุภาพเรา ชนะเข้าณบ้านเธอ เคารพและช่วยเหลือ สิก่อเกื้อพการเกลอ ใส่ใจจะพบเจอ ณเวลามิคลาคลาย เงินทรัพย์ฤขัดสน ผิวจนมิเดียวดาย มอบทั้งหทัยกาย จะลุได้อนงค์นาง ได้ใจปิตุมาด ฤจะคลาดณสอางค์ ส่งรักต่อวรางค์ ธจะตอบต่อใจเรา emo_34 หัวข้อ: Re: หัวข้อ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 15 กรกฎาคม 2011, 07:28:PM ทบทวนกระบวนฉันท์ (อินทรวิเชียร ๑๑) ทบทวนกระบวนฉันท์ ขณะวันจะล่วงวัย เลือนหลงอสงไขย มนะนึกระลึกนาน คำเบาก็เขลานัก ครุหนัก บ เชี่ยวชาญ ลองลงผจงจาร ลหุร้อยกะร่อยทาง คำไทย บ่ใช่แขก สระแยกพยางค์วาง ยากเล่นผะเผ่นผาง ผงะโอ้ อะโหฉัน นาทีฤดีรัก ระอุหนักมโนผัน ร้อยศัพทพจน์พลัน ผิวเธอจะเผลอมอง เมียงเพลงเชลงทำ อุระร่ำกระหน่ำกลอง มารักเถอะเราสอง รติเลิศประเสริฐล้ำ หากชอบก็ลอบยิ้ม ขณะจิ้มนะพิมพ์จำ อ่านหน่อยนะงามขำ หฤทัยจะให้เธอ เชิดชั้นกระบวนชาญ เพลินคำขยับร้อย กระแจะถ้อยประจงเพ้อ ถ่อมตนถนัดเออ กลเชิงจะซ่อนชาญ แอบเทฤทัยทอด ขณะพลอดวจีหวาน ยิ้มตอบอุราพล่าน มละรักจะรานร้าว โปรดจงถนอมใจ พิเคราะห์นัยพิไรน้าว หลงเลศพิเศษคราว อติพจน์สะกดภักดิ์ หัวข้อ: Re: หัวข้อ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ เริ่มหัวข้อโดย: คอนพูธน ที่ 23 กรกฎาคม 2011, 11:41:AM เพียงยล
ชมลานตระการตา จิตพาอร่ามพลัน จึงฝากระบายฝัน ฉลุฟ้าสลักความ จารสร้อยพิศุทธิ์ใส ศิวิไลซ์สวรรค์ลาม เพลินวนประดิษฐ์หวาม วจิวางสนั่นเวียง เพลงคำสกาวคม อภิรมย์ประพนธ์เรียง ยินเสียงกระจายเสียง ปิติซึ้งประทับทรวง งามแลพินิจลักษณ์ สิริศักดิ์สะเทือนสรวง คำพราวสลอนพวง ดุจพร่างไสวพรม เพียงยลสลวยหยาด อภิชาติกระจ่างชม ร้อยสานสราญสม พิศแสนจรัสศรี แดดเช้าอรุณฉาน อุรปานเขษมปรีดิ์ เดินหลงพนาลี พจน์ล้วนละมุนหลาย ๚ะ๛ คอนพูทน emo_73 ขอบคุณคุณ ขอบคุณคำ ขอบคุณครับ |