พิมพ์หน้านี้ - หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => ห้องฝึกเขียนกลอนตามฉันทลักษณ์ => ข้อความที่เริ่มโดย: webmaster ที่ 06 ธันวาคม 2009, 10:08:PM



หัวข้อ: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: webmaster ที่ 06 ธันวาคม 2009, 10:08:PM
ห้องแต่งกลอนตามฉันทลักษณ์มีกติกาไม่เหมือนห้องอื่น...รบกวนอ่านก่อนนะครับ โดยคลิ๊กที่นี่ (http://www.klonthaiclub.com/index.php/topic,9308.0.html)

กาพย์ยานี ๑๑
      กาพย์ยานี ๑๑ หรือ กาพย์ยานี คือ กาพย์ ชนิดหนึ่ง มีคำ ๑๑ คำในหนึ่งบาท จึงเรียกว่า กาพย์ยานี ๑๑ นิยมใช้ในการเล่าเรื่อง ในหนังสือประเภทคำกาพย์ ร่วมกับกาพย์ชนิดอื่นๆ หรือในหนังสือประเภทคำฉันท์ ร่วมกับกาพย์และฉันท์ชนิดอื่นๆ ในยุคปัจจุบัน นิยมแต่งกาพย์ยานีเป็นบทสั้นๆ โดยไม่ได้ร้อยกับฉันทลักษณ์ประเภทอื่นๆ
กาพย์ยานี มีลักษณะบังคับ หรือโครงสร้างของ ฉันทลักษณ์ ดังนี้คือ

(http://www.klonthaiclub.com/picture/kapyanee11.jpg)

คณะ
• ใน ๑ บาท มี ๒ วรรค วรรคหน้ามี ๕ คำ วรรคหลังมี ๖ คำ รวมเป็น ๑๑ คำ
• ใน ๑ บท มี ๒ บาท บาทละ ๒ วรรค รวมเป็น ๔ วรรค

สัมผัส
• สัมผัสระหว่างวรรค มีสัมผัส ๒ คู่ คือ
• คำสุดท้ายของวรรคหน้า สัมผัสกับ คำที่สามของวรรคหลัง แทนด้วยอักษร ก ในแผนภาพโครงสร้างด้านล่าง
• คำสุดท้ายของวรรคที่สอง สัมผัสกับ คำสุดท้ายของวรรคที่สาม แทนด้วยอักษร ข ในแผนภาพโครงสร้างด้านล่าง
• สัมผัสระหว่างบท มี ๑ คู่ คือ
• คำสุดท้ายของแต่ละบท สัมผัสกับ คำสุดท้ายของวรรคที่สองของบทที่ตามมา แทนด้วยอักษร ง ในแผนภาพโครงสร้างด้านล่าง

ลักษณะอื่นๆ
กาพย์ยานี ๑๑
      กาพย์ยานี ๑๑ หรือ กาพย์ยานี คือ กาพย์ ชนิดหนึ่ง มีคำ ๑๑ คำในหนึ่งบาท จึงเรียกว่า กาพย์ยานี ๑๑ นิยมใช้ในการเล่าเรื่อง ในหนังสือประเภทคำกาพย์ ร่วมกับกาพย์ชนิดอื่นๆ หรือในหนังสือประเภทคำฉันท์ ร่วมกับกาพย์และฉันท์ชนิดอื่นๆ ในยุคปัจจุบัน นิยมแต่งกาพย์ยานีเป็นบทสั้นๆ โดยไม่ได้ร้อยกับฉันทลักษณ์ประเภทอื่นๆ
กาพย์ยานี มีลักษณะบังคับ หรือโครงสร้างของ ฉันทลักษณ์ ดังนี้คือ

(http://www.klonthaiclub.com/picture/kapyanee11.jpg)

คณะ
• ใน ๑ บาท มี ๒ วรรค วรรคหน้ามี ๕ คำ วรรคหลังมี ๖ คำ รวมเป็น ๑๑ คำ
• ใน ๑ บท มี ๒ บาท บาทละ ๒ วรรค รวมเป็น ๔ วรรค

สัมผัส
• สัมผัสระหว่างวรรค มีสัมผัส ๒ คู่ คือ
• คำสุดท้ายของวรรคหน้า สัมผัสกับ คำที่สามของวรรคหลัง แทนด้วยอักษร ก ในแผนภาพโครงสร้างด้านล่าง
• คำสุดท้ายของวรรคที่สอง สัมผัสกับ คำสุดท้ายของวรรคที่สาม แทนด้วยอักษร ข ในแผนภาพโครงสร้างด้านล่าง
• สัมผัสระหว่างบท มี ๑ คู่ คือ
• คำสุดท้ายของแต่ละบท สัมผัสกับ คำสุดท้ายของวรรคที่สองของบทที่ตามมา แทนด้วยอักษร ง ในแผนภาพโครงสร้างด้านล่าง

ลักษณะอื่นๆ
• กาพย์ยานีอาจมีความยาวร้อยต่อกันกี่บทก็ได้ ไม่จำกัด
• บาทที่สองของแต่ละวรรค อาจไม่ต้องมีสัมผัส จากคำท้ายวรรคหน้า ไปยังคำที่สามของวรรคหลังก็ได้

การอ่านกาพย์ยานี
การอ่านทำนองเสนาะสำหรับกาพย์ยานี อาจอ่านได้หลายแบบ เช่น อ่านเป็นทำนองสวด เป็นต้น โดยนิยมอ่านเว้น 2,3 / 3,3

ตัวอย่าง บทร้อยกรอง

๏ วิชาเหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล
ต้องยากลำบากไป จึงจะได้สินค้ามา
จงตั้งเอากายเจ้า เป็นสำเภาอันโสภา
ความเพียรเป็นโยธา แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ
นิ้วเป็นสายระยาง สองเท้าต่างสมอใหญ่
ปากเป็นนายงานไป อัชฌาสัยเป็นเสบียง
สติเป็นหางเสือ ถือท้ายเรือไว้ให้เที่ยง
ถือไว้อย่าให้เอียง ตัดแล่นเลี่ยงข้ามคงคา
ปัญญาเป็นกล้องแก้ว ส่องดูแถวแนวหินผา
เจ้าจงเอาหูตา เป็นล้าต้าฟังดูลม
ขี้เกียจคือปลาร้าย จะทำลายให้เรือจม
เอาใจเป็นปืนคม ยิงระดมให้จมไป
จึงจะได้สินค้ามา คือวิชาอันพิศมัย
จงหมั่นมั่นหมายใจ อย่าได้คร้านการวิชาฯ

๏ สาธุสะ จขไหว้ พระศรีไตรสรณา
พ่อแม่แลครูบา เทวดาในราศี
ข้าเจ้าเอา ก ข เข้ามาต่อก กา มี
แก้ไขในเท่านี้ ดีมิดีอย่าตรีชา
๏ จะร่ำคำต่อไป ภรใจกุมารา
ธานีมีราชา ชื่อภาราสาวัตถี
ชื่อพระไชยสุริยา มีสุดามเหสี
ชื่อว่าสุมาลี อยู่บุรีไม่มีภัย
ข้าเจ้าเหล่าเสนา มีกริยาอัชฌาสัย
พ่อค้ามาแต่ไกล ได้อาศัยในภารา

ที่มา : http://th.wikipedia.org (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5_%E0%B9%91%E0%B9%91)

Revised by : victoriasecret


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: แมวเหมียว ที่ 07 ธันวาคม 2009, 02:49:PM
ลองแต่งดูนะคะ

กาพย์ยานีสิบเอ็ด
เคยท่องเคล็ดเมื่อวานก่อน
ขึ้นใจก่อนเข้านอน
ที่ครูสอนมีดังนี้

วรรคหน้ามีห้าคำ
วรรคหลังจำหกคำมี
แต่งให้ไพเราะดี
จำต้องมีสัมผัสใน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 14 ธันวาคม 2009, 12:12:PM
ส่งงานและส่งงาน
ทำการบ้านตั้งหลายวัน
ตรวจทีมีผิดพลัน
มานั่งแก้แก้หลายหน

ไม่แก้ไม่รู้เพิ่ม
ผิดเดิมเดิมตามติดตน
แก้ซ้ำก็จำทน
รีบจำใหม่ใดถูกควร


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 26 ธันวาคม 2009, 12:57:PM
ส่งงานและส่งงาน
ทำการบ้านตั้งหลายวัน
ตรวจทีมีผิดพลัน
มานั่งแก้แก้หลายหน

ไม่แก้ไม่รู้เพิ่ม
ผิดเดิมเดิมตามติดตน
แก้ซ้ำก็จำทน
รีบจำใหม่ใดถูกควร


..แปลกแท้แก้ไม่หาย
หูตาลายคล้ายลมสวน
ความเดิมเริ่มเรรวน
ต้องทบทวนควรใคร่ดู

แก้แล้วไม่แคล้วผิด
เตือนสักนิดจิตต้องสู้
จำไว้ให้ติดหู
ผิดเป็นครูรู้แล้วจำ...
emo_85 emo_85


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 28 ธันวาคม 2009, 10:31:PM
..ส่งงานและส่งงาน  ทำการบ้านตั้งหลายวัน
ตรวจทีมีผิดพลัน  มานั่งแก้แก้หลายหน..

..ไม่แก้ไม่รู้เพิ่ม  ผิดเดิมเดิมตามติดตน
แก้ซ้ำก็จำทน  รีบจำใหม่ใดถูกควร..

..แปลกแท้แก้ไม่หาย  หูตาลายคล้ายลมสวน
ความเดิมเริ่มเรรวน  ต้องทบทวนควรใคร่ดู..

..แก้แล้วไม่แคล้วผิด  เตือนสักนิดจิตต้องสู้
จำไว้ให้ติดหู   ผิดเป็นครูรู้แล้วจำ..


..วันวานงานว่างเว้น  จับประเด็นเล่นลงซ้ำ
เหมือนไม่มีไรทำ   นั่งหน้าดำคร่ำเคร่งเพียร..

..เติมต่อข้อกระทู้    หวังให้ครูดูที่เขียน
ผิดชอบตอบนักเรียน  ที่วนเวียนเขียนมั่วมา..

..ด้วยจิตพิศมัย    เฝ้าหลงใหลในภาษา
จึงคิดติดตามมา  แสวงหาวิชาดี..

..คำนึงถึงครั้งหลัง  กาพย์ฉบังยังไม่หนี
มองไปไม่เห็นมี   ขอโทษทีที่ท้วงติง..

 emo_85 emo_94


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: (ฟ้า) มารสุรา ที่ 29 ธันวาคม 2009, 10:48:PM
กาพย์ยานี๑๑               เขียนสรรพเสร็จให้ถูกทาง
วรรคหน้า๕พยางค์        วรรคหลังบ้างมี๖เอย
พะ-ยาง  นับเป็น๒        ฟ้า-คน-ยอง  ๓ใช่เลย
จำไว้นะทรามเชย          มี๑๑เป็นพยางค์
[/color]


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 30 ธันวาคม 2009, 10:08:AM
..คำนึงถึงครั้งหลัง  กาพย์ฉบังยังไม่หนี
มองไปไม่เห็นมี   ขอโทษทีที่ท้วงติง..[/color]

 emo_85 emo_94

จัดให้จ้า http://www.klonthaiclub.com/index.php/topic,9568.0.html (http://www.klonthaiclub.com/index.php/topic,9568.0.html)
ปล. ขอย้ายกาพย์ฉบังที่แต่งต่อกันมาไปหัวข้อใหม่เลยนะจ๊ะ ^^


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 08 มกราคม 2010, 09:05:AM
กาพย์ยานี๑๑               เขียนสรรพเสร็จให้ถูกทาง
วรรคหน้า๕พยางค์        วรรคหลังบ้างมี๖เอย
พะ-ยาง  นับเป็น๒        ฟ้า-คน-ยอง  ๓ใช่เลย
จำไว้นะทรามเชย          มี๑๑เป็นพยางค์
[/color]
ทิ้งไว้ให้สะสาง               ปล่อยเหลือว่างไว้ให้ใคร
มามะมาไวไว                 ใครต่อได้รีบเข้ามา

ยานีเล่นไม่ยาก              ไม่ลำบากหากค้นหา
สิบเอ็ดเด็ดตำรา              ยิ่งแต่งพายิ่งเพลิดเพลิน

หาใช่อวดว่าเก่ง             แท้จริงเกรงกลัวขัดเขิน
ใครชอบตอบคำเชิญ       หากบังเอิญเดินเข้าวง (แงซาย)


 emo_85 emo_94


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 08 มกราคม 2010, 09:13:AM
กาพย์ร่ำทำนองร่าย
แค่ระบายคำให้ตรง
กรอบล้อมอย่าลืมหลง
ช่วยส่งความงามละไม


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010, 12:32:PM
กาพย์ร่ำทำนองร่าย
แค่ระบายคำให้ตรง
กรอบล้อมอย่าลืมหลง
ช่วยส่งความงามละไม


แม้ตอนจะร่ายกาพย์    ต้องกำราบปราบวิสัย
อารมณ์มักพาไป      ให้หลงใหลการแต่งกลอน


 emo_น้องใหม่ครับ emo_85


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010, 12:39:PM
กาพย์ยานี๑๑               เขียนสรรพเสร็จให้ถูกทาง
วรรคหน้า๕พยางค์        วรรคหลังบ้างมี๖เอย
พะ-ยาง  นับเป็น๒        ฟ้า-คน-ยอง  ๓ใช่เลย
จำไว้นะทรามเชย          มี๑๑เป็นพยางค์
[/color]
ทิ้งไว้ให้สะสาง               ปล่อยเหลือว่างไว้ให้ใคร
มามะมาไวไว                 ใครต่อได้รีบเข้ามา

ยานีเล่นไม่ยาก              ไม่ลำบากหากค้นหา
สิบเอ็ดเด็ดตำรา              ยิ่งแต่งพายิ่งเพลิดเพลิน

หาใช่อวดว่าเก่ง             แท้จริงเกรงกลัวขัดเขิน
ใครชอบตอบคำเชิญ       หากบังเอิญเดินเข้าวง (แงซาย)


 emo_85 emo_94
ลองเพียงคลิกเข้ามา       อ่านไปมาพาให้หลง
เฝ้าเพ้อและพะวง          อาจงวยงงเพราะแต่งกลอน
ลองแล้วแต่งยานี          กาพย์นี้เรียงเป็นอักษร
ด้วยหลักของคำกลอน    แต่งๆตอนนอนรำพัน



 emo_101ร้ายบริสุทธิ์ emo_101


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: meen love t.p. ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2010, 12:08:PM
พิทักษ์ภาษาไทย เชิดชูไว้ให้มั่งคง
ศักดิ์จะดำรง        และยืนยงตลอดกาล
 emo_111 emo_79


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2010, 12:15:PM

ลมลิ่วลิ่วแรงลม               จากแดนพรหมบนเวหา        เพื่อน
สายฝนชโลมมา            สู่พื้นดินส่งกลิ่นไอ           เซียนฯ
ฟ้าลั่นสะท้านภพ               ดั่งกลองรบปานไฉน                        เพื่อน
ฟ้าครางดังเสียงใคร         ก็เสียงพี่ที่ไร้นวล                        เซียนฯ
โรยร่วงพวงบุหงา                  เหมือนน้ำตาพี่กำสรวล                   เพื่อน   
พร่ำรักพี่ครางครวญ              สนั่นก้องทั้งพรหมอินทร์                  เซียนฯ
โหยหวนรัญจวนจิต              เคยแนบชิดกลับร้างสิ้น                  เพื่อน   
เสียงเจ้าเคยได้ยิน              ทั้งโอษฐ์อ่อนเคยจูบนาง         เซียนฯ
แสงแขดูเหมือนอับ             ดั่งน้องลับไกลเหินห่าง                    เพื่อน   
ดาราก็จืดจาง                    ทั้งท้องฟ้าดูมืดมน                         เซียนฯ   
ไหลร่วงเพี้ยงอุทก           น้ำตาตกดุจสายชล            เพื่อน
เรียมนี้ปวดกมล              อุราแตกโลหิตนอง            เซียนฯ
นวลเอยพี่ครวญคร่ำ           เฝ้าแต่พร่ำถึงนวลน้อง         เซียนฯ
กลับมามาเคียงครอง           เป็นคู่รักอย่าร้างไกล                         เซียนฯ

ต่อกับเพื่อน  ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยครับ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: กริชอักษร ที่ 11 มีนาคม 2010, 04:17:AM
คืนวันที่ผันผ่าน      
กับความฝันที่ฉันหา
เฝ้าย้ำนำอุรา          
ให้นำพาไปหาฝัน

ทุกอย่างวางเอาไว้    
ก็แค่ในความคิดนั้น
เลือนรางช่างห่างกัน  
คงอีกนานกว่าเป็นจริง

ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว  
ความคิดมัวเริ่มเข้าสิง
หันหน้าหาความจริง
ทำในสิ่งที่สำคัญ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: พิกุลแก้ว ที่ 11 มีนาคม 2010, 10:55:AM
กาพย์ยานี๑๑               เขียนสรรพเสร็จให้ถูกทาง
วรรคหน้า๕พยางค์        วรรคหลังบ้างมี๖เอย
พะ-ยาง  นับเป็น๒        ฟ้า-คน-ยอง  ๓ใช่เลย
จำไว้นะทรามเชย          มี๑๑เป็นพยางค์
[/color]
ทิ้งไว้ให้สะสาง               ปล่อยเหลือว่างไว้ให้ใคร
มามะมาไวไว                 ใครต่อได้รีบเข้ามา

ยานีเล่นไม่ยาก              ไม่ลำบากหากค้นหา
สิบเอ็ดเด็ดตำรา              ยิ่งแต่งพายิ่งเพลิดเพลิน

หาใช่อวดว่าเก่ง             แท้จริงเกรงกลัวขัดเขิน
ใครชอบตอบคำเชิญ       หากบังเอิญเดินเข้าวง (แงซาย)


 emo_85 emo_94
ลองเพียงคลิกเข้ามา       อ่านไปมาพาให้หลง
เฝ้าเพ้อและพะวง          อาจงวยงงเพราะแต่งกลอน
ลองแล้วแต่งยานี          กาพย์นี้เรียงเป็นอักษร
ด้วยหลักของคำกลอน    แต่งๆตอนนอนรำพัน



 emo_101ร้ายบริสุทธิ์ emo_101

ส่วนน้องคล้องภาษา        ในเวลางานเท่านั้น
หน้าที่ที่เกี่ยวพัน               อิสระสมดังใจ
จะทำหรือหยุดพัก             เรารู้จักพอดีได้
แบ่งแยกเวลาไป              ให้พอเหมาะเพราะจำเป็น
วันใดงานเร่งด่วน               คงจะง่วนจนไม่เห็น
ยุ่งเหยิงทั้งเช้าเย็น               จึงมิอาจสานต่อกานท์
หากว่าผ่อนคลายหน่อย      เรียงร้อยถ้อยสร้อยขับขาน
อารมณ์สุขสำราญ          แสนเบิกบานบ้านกลอนไทย.


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: nongpob ที่ 11 มีนาคม 2010, 11:29:AM
ห่างหายไปหลายวัน
กาพย์ฯรำพันนั้นสดใส
ทุกบทพจน์อำไพ
สัมผัสใจให้ติดตาม

ชื่นชมสมฤดี
น้องป๊อบรี่ลงสนาม
แกะรอยทุกถ้อยงาม
รื่นทุกยามนามกวี

น้องป๊อบกราบขออภัยที่บังอาจ มาต่อกลอนแจมท่านพี่ๆ  แต่ใจรัก อยากแต่งเป็นบ้างน่ะค่ะ










หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: กริชอักษร ที่ 25 พฤษภาคม 2010, 04:51:AM
กาพย์ร่ำทำนองร่าย
แค่ระบายคำให้ตรง
กรอบล้อมอย่าลืมหลง
ช่วยส่งความงามละไม


คล้ายว่าจะง่ายดาย
แต่มากมายที่เผลอไผล
ยังหนึ่งคนจนใจ
ขาดเกินไปไม่พองาม


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 30 มิถุนายน 2010, 09:17:AM
แก้วรอน้ำ

แก้วน้ำยังว่างเปล่า
รอน้ำเข้ามาเยี่ยมเยียน
หลายน้ำเคยแวะเวียน
วันนี้ยังไม่ยักมา

น้ำแข็งนานนานเห็น
แต่น้ำเย็นบ่อยรินหา
น้ำหวานเดือนมีนา
หรือลาหายไปกับแล้ง

เจอน้ำยาล้างจาน
สะอาดสะอ้านดังแสดง
น้ำไหนจะมาแต่ง
เติมแก้วเปล่า...เชิญเข้ามา


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 30 มิถุนายน 2010, 02:21:PM
ยามแล้งฝนก็แล้ง
ผืนดินแห้งเหือดนักหนา
หายลับใช่ลับลา
คราบชีวายังมีลม

ฝนโปรยลมโชยแล้ว
รีบเตรียมแก้วมาผสม
ยามว่างวางอารมณ์
ความขื่นขมถมทิ้งไป

น้ำฝนหล่นไม่หยุด
บริสุทธิ์สะอาดใส
ฝนพรำชุ่มฉ่ำใจ
ปล่อยความนัยลอยวารี..

 emo_26 emo_15 emo_20


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 30 มิถุนายน 2010, 03:00:PM
กาพย์ยานีนี่นี้                        แต่งให้ดีกวีสาน
แต่งไว้คล้ายตำนาน              วานวันก่อนตอนเล่าเรียน
ท่องจำพร่ำชื่นชม                บทท่องขรมชมชื่นเนียน
วิชาเหมือนสินเรียน              เพียรท่องมางามน่าจำ
ฝึกแต่งแพร่งอักษร              ประนมกรครูสอนคำ
ทุกถ้อยร้อยพจน์ล้ำ              ร่ำเรียนกานท์สานกาพย์กลอน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 30 มิถุนายน 2010, 03:39:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_092.gif)
อย่าเพ้อ...ถึงเขามาก
การลาจาก...พรากน้ำตา
สับสน...ปนเหว่ว้า
เศร้าไปใย...ให้พึงคิด

ใช่ว่า...อยู่โดดเดี่ยว
เหงาเปล่าเปลี่ยว...เลยสักนิด
ลองใช้...ใจเพ่งพิศ
ใช่แค่เรา...เหงาคนเดียว
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_092.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 30 มิถุนายน 2010, 04:21:PM
                                                                  ๐๐ รักเจ้าแล้ว๐๐

                                                   ๐๐เหม่อมองท้องนภา   หยดน้ำตาก็หลั่งไหล
                                               ร่ำร้องจากหัวใจ     ด้วยทรามวัยไกลจากจร
                                                        รอนรอนอาทิตย์ส่อง  เรียกหาน้องร้องเว้าวอน
                                               ดั่งใจพี่ขาดตอน     ถูกความร้อนบ่อนทำลาย
       
                                                    ๐๐หากเจ้ายังสงสาร  คนบ้านบ้านอย่างพี่ชาย
                                               โปรดเผยเอ่ยความหมาย อย่าทำลายสายไมตรี
                                                        ส่งยิ้มพี่สักนิด   ชุบชีวิตให้ผ่องศรี
                                               คุณค่าราคามี      วอนคนดีจงเมตตา
       
                                                   ๐๐ดอกไม้ส่งกลิ่นหอม ยามดมดอมย่อมห่วงหา
                                                ดั่งเช่นแก้มขวัญตา ยามพี่ยาคราได้ชม
                                                        คิดถึงคำนึงฝัน  ทุกคืนวันอันสุขสม
                                                เพ้อพร่ำคำฝากลม  ถึงชวนชมสมทรวงใน
 
                                                   ๐๐รักแล้วนะนวลเจ้า หวังสองเราเคียงชิดใกล้
                                                สร้างฝันคู่กันไป     ด้วยหัวใจให้มั่นคง
                                                       ทุกก้าวที่เยื้องย่าง  บนเส้นทางอย่างบรรจง
                                                จะรักและซื่อตรง   ต่ออนงค์เพียงผู้เดียว....

                                                 แฮะๆๆลองแต่งดู ผู้รู้โปรดชี้แนะด้วยนะครับฮ่าๆๆ
 
                                                                           ***เมฆา...***
   
       
 


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 02 กรกฎาคม 2010, 11:21:AM
                                                       ๐๐ดาวลวง๐๐

                                    ๐๐ราตรีที่เนิ่นนาน           รัตติกาลที่ยาวไกล
                                    ฉุดลากกระชากใจ           ให้หวั่นไหวในเอกา
                                         น้ำตาเริ่มท่วมท้น        ความหมองหม่นยลเยือนหา
                                     อ้างว้างค้างดวงหน้า         ดั่งเมฆาพร่าดวงเดือน
     
                                     ๐๐ยามร้างห่างไกลรัก       อกกระอักจักย้ำเตือน 
                                    ตอกซ้ำความปนเปื้อน         กระจายเกลื่อนเคลื่อนในทรวง
                                          ความท้อความถดถอย  ทีละน้อยค่อยคืบล่วง
                                    ให้รักหักทั้งดวง                  เช่นสายบ่วงควงบาดคา

                                      ๐๐มองดาวเหมาทึกทัก    ว่าเราจักเอื้อมไขว่คว้า
                                     แท้จริงสิ่งลวงตา                 แค่มายาล่อลวงจินต์
                                           ทำได้เพียงแค่มอง       กับเสียงร้องก้องถวิล
                                    ยามใจใกล้ดับสิ้น                ไร้แม้กลิ่นรักอาวรณ์

                                      ๐๐สุดท้ายเหลือเพียงฝัน     เฝ้ารำพันปั้นหลอกหลอน
                                    ขาดทรวงห่วงอาทร              พาริดรอนก่อนจากจาง
                                           ฝากดาวแลเดือนจ้า       เก็บน้ำตาคราอ้างว้าง
                                    ให้คนเคยเคียงข้าง              ที่ทิ้งขว้างอย่างเย็นชา....       

                                                       
                                                            ***เมฆา...***
 
                                                  แฮะๆๆ ลองอีกครั้งครับ 555...
             
     
   
     
     
   


หัวข้อ: Re: หัวข้อ กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 03 พฤศจิกายน 2010, 11:38:AM
ดาวลวง

ฟ้าคล้ำด่ำดาวดื่น
พร่างแผ่นผืนดูดวงเด่น
ระยับขับแสงเน้น
เช่นเพชรพร้อยย้อยระย้า

ใจหมองร้องระทม
ขื่นและขมเขาบีฑา
เจอนุชสุดงามตา
ราวดาราประโลมใจ

น้ำคำหวานล้ำเลิศ
หลงเตลิดเพริดไปไกล
สุดรู้สิ่งซ่อนใน
คือพิษซ่านผลาญชีวิน

ดาวงามอร่ามแสง
เติมเรี่ยวแรงที่สูญสิ้น
ลืมตาตระหนักจินต์
มายาพราว.....แค่ “ดาวลวง”