พิมพ์หน้านี้ - ~~ตัณหารมณ์~~

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: มะไฟ ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 03:13:AM



หัวข้อ: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: มะไฟ ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 03:13:AM

.........................................
หักอารมณ์ข่มใจไม่หายหวน
ฤทธิ์ความอยาก มาก-ล้ำ คอยกล้ำกวน
ชอบมาชวนทำชั่วเหมือนตัวมาร

ให้เห็นเลวมากมีเป็นดีหมด
ขมกำหนดให้เห็นว่าเป็นหวาน
ให้เห็นบาปเป็นบุญเลิศสุนทาน
ว่าเกียจคร้านคบไว้จะให้คุณ ฯ




หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: โรแมนติค ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 04:29:AM

ทุกครั้งมากันทีคล้ายผีปอบ
หวังโกยกอบกำไรให้เกื้อหนุน
เพราะรู้ชาติรู้เช่นอยู่เป็นทุน
หากกระตุ้นนิดหน่อยย่อมคล้อยตาม

ด้วยใจมีจุดอ่อนซุกช่อนอยู่
หมั่นโจมจู่ย่อมสำเร็จแม้เข็ดขาม
ถือหลัก"ตื๊อครองหล้า" พยายาม
คร้านเห็นงาม เห็นดี ทุกทีไป ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: กอบรัก ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 05:34:AM

เป็นมนุษย์เดินดินกินข้าวสุก
ที่อยากทุกข์ทับทวีมีที่ไหน
ถึงจะเย็นเพียงครู่โจนสู่ไฟ
ยังเต็มใจศรัทธากล้าทดลอง

ตัวตัณหาอยู่ที่ใครให้สังเกต
มักเป็นเหตุพาให้ใจหม่นหมอง
มากตัณหาพาให้ขาดไตร่ตรอง
แม้หินกองกลับหาว่าวิเชียร ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 11:50:AM

ยิ่งอารมณ์อ่อนไหวราวไผ่ลู่
ตัณหาสู่ สุดจะ ทรงเสถียร
ย่อมหมุนตาม อยากก่อ เป็นล้อเกวียน
ยากจะเปลี่ยน ใจกลับ ระดับเดิม

ยิ่งขาดการ ศึกษา ปัญญาต่ำ
ขาดศีลธรรม เคลือบแฝง เป็นแรงเสริม
ย่อมเป็นช่อง ทางชั่ว ก่อตัวเติม
ให้เคลิบเคลิ้ม คิดตาม ความอยากพา ฯ



หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวฯ ที่ 23 พฤศจิกายน 2009, 03:00:PM

เมื่อได้รู้ ยุทธวิธี เช่นนี้แล้ว
ก็เคลื่อนแถว ทัพพลัน ประจันหน้า
"ความรู้สึก" เป็นอาวุธ ยุทธนา
ตัว"ตัณหา" เป็นแม่ทัพ  กำกับการ

จู่โจมเข้า โรมรัน กับ"ขันติ"
อีก "หิริโอตัปปะ" พลทหาร
จนขันติ แตกป่น หนีลนลาน
สุดทัดทาน..กิเลส..เหตุกาลี..ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: มะไฟ ที่ 26 พฤศจิกายน 2009, 08:59:AM

ฝ่ายตัณหามีชัยเห็นได้ท่า
ยกโยธารุกไล่ไม่ให้หนี
หวังทำลายพ่ายลงเป็นผงคลี
แต่กลับมีมารร้ายอีกฝ่ายมา

ทัพ "ทมะ" มาตั้งกำลังหนุน
สาดกระสุน "ธรรม" ใส่ไม่ไว้หน้า
หนุนกำลังเข้าขัดเต็มอัตรา
จนตัณหา ใจหาย กลัววายปราณ ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: กอบรัก ที่ 26 พฤศจิกายน 2009, 12:54:PM

ร้องสั่งพวกพลไกรเร็วไวถอย
เร็วเร็วหน่อยเดี๋ยวจะถูกประหาร
เหล่าบรรดารี้พลรีบลนลาน
วิ่งซมซานเซซุนจนฝุ่นปลิว

เมื่อถอยมาตั้งหลักพอพักเหนื่อย
จนปวดเมื่อยหมดหายไม่วายฉิว
ตัวเราหรือพยัคฆาใช่ปลาซิว
ต้องชูนิ้ว สองนิ้วอยู่ สู้ไว้ลาย ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: โรแมนติค ที่ 27 พฤศจิกายน 2009, 04:51:AM

มีบัญชาเสนาธิการหมด
เตรียมกำหนดเต็มอัตราอย่าให้หาย
แล้วช่วยกันคิดค้นกลอุบาย
เพื่อมุ่งหมายเอาชนะดัสกร

ขืนสู้กันซึ่งหน้าเห็นท่าแย่
เท่าที่แพ้พ่ายมาอุทาหรณ์
จำต้องใช้กลยุทธราญรอน
แทรกซึมบ่อนทำลายส่งสายไป ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: ย่อง~~ ที่ 27 พฤศจิกายน 2009, 10:40:AM

หรือใช้สงครามกองโจรที่โชนโชก
อย่ามัวโยกโย้อยู่ดูไฉน
เหล่าเสนาธิการผู้ชาญชัย
เห็นพร้อมให้ยุแยกเข้าแทรกแซง

จัดทุกฝ่ายย้ายแยกเข้าแทรกสู่
ทั้งหมวดหมู่น้อยใหญ่อย่าให้แหยง
แต่ระวังอย่าให้ได้ระแวง
แล้วพลิกแพลงลูกไม้ออกใช้พลัน


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: akom ที่ 29 พฤศจิกายน 2009, 11:44:AM


ฝ่ายอารมณ์ข่มกลั้นด้วยขันติ
อีก หิริโอตตัปปะไม่ผละผัน
มี ทมะ จับกลุ่มคอยคุ้มกัน
สติสัม-ปชัญญะ แวดระวัง

จัดจตุรพลพร้อมสรรพมั่น
ไม่หวาดหวั่นปัจจามิตรคิดโอหัง
ขืนรุกรานพานผองกองกำลัง
จะต้องฝังซากศพลงกลบดิน ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: นกฯ ที่ 29 พฤศจิกายน 2009, 12:08:PM

แต่ไม่นานเท่าไรที่ได้คิด
รู้สึกจิตอ่อนแอแทนเป็นหิน
เพราะอมิตรเข้ามาก่อราคิน
เฝ้าถวิลสิ้นกันสันติธรรม

เหลือสติสัมปชัญ-ญะขันสู้
ขันติรู้หลบยั้งพลั้งถลำ
เหลือหริโอตตัปปะทมะนำ
ซ้ำเพลี่ยงพล้ำแพ้พ่ายล้มตายลง ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: โรแมนติค ที่ 29 พฤศจิกายน 2009, 04:07:PM

เพราะประมาทข้าศึกนึกไม่ถึง
เหตุนี้จึงได้กระจุยเป็นผุยผง
หมดลายแล้วที่จะทระนง
ถูกขังกรง "เวทนา" โอดอาดูร

ด้วยเวทนา ในนรก มีหกอย่าง
หนึ่งคือตาแลมองจ้องเล็งศูนย์
อยากเห็นนั่นเห็นนี่ทวีคูณ
ไม่เกื้อกูลก็กลุ้มร้อนรุ่มทรวง ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: นกฯ ที่ 29 พฤศจิกายน 2009, 05:34:PM

อยากดูหนังดูละครแทนนอนบ้าน
ทั้งที่งานการค้างอย่างใหญ่หลวง
อยากดูมวยดูม้าหาคู่ควง
ถึงจะห่วงทรมาจนตาแดง

ไม่เคยท้อพอทนที่หม่นหมอง
แต่เงินทองหมดไปให้แสลง
ต้องดื่มน้ำตามแกนแทนข้าวแกง
ถึงท้องแห้งยังอยากเห็น ช่างเวรตา ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 29 พฤศจิกายน 2009, 06:12:PM

แม้แต่เรื่อง ลับไม่ ให้ใครเห็น
ยังแอบเร้นซอกซอนเล่นซ่อนหา
บางครั้งตาเจ้ากรรมนำภัยมา
เมื่อมองหน้าอันธพาลสันดานไพร

สองจากตามาหูฟังรู้แจ้ง
สิ่งเคลือบแคลงได้ยินสิ้นสงสัย
โสตสัมผัสเพลงเพราะเสนาะใจ
กลับเป็นไฟฟังว่าแช่งด่ากัน ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: มะดัน ที่ 30 พฤศจิกายน 2009, 03:02:PM

เรื่องร้อยแปดชอบฟังมานั่งคิด
จนเรื่องนิดกลับใหญ่นำไปฝัน
ให้ฟังหูไว้หูรู้เท่าทัน
ขืนสำคัญหูเบาต้องเศร้าตรม

สาม จมูกมีไว้ใช้ดมกลิ่น
หอมเหม็นสิ้นสิ่งของหมองหมักหมม
บางครั้งกลิ่นถามไปไม่ดอมดม
กลับนิยมดมขี้ฟันขันสิ้นดี ฯ



ทักทายเพื่อนๆ ทุกท่านจ้ะ....ยังหายใจสบายกันดีเน๊าะ.... emo_28 emo_45 emo_20 emo_57


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: psam ที่ 30 พฤศจิกายน 2009, 09:16:PM
หากแม้นเพียงยั้งคิดสักนิดก่อน
ทุกฉากตอนคงไว้ไม่หม่นศรี
ทั้งกายใจคงไร้ซึ่งราคี
ผิดชอบดีพึงจำกระทำไป
คนจะดีหรือร้ายใครเล่าชี้
ใครจะมีอำนาจสั่งการได้
จะทำดีหรือเลวอยู่ที่ใจ
แต่สุดท้ายไม่พ้นจนใจเอง


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: กอบรัก ที่ 01 ธันวาคม 2009, 07:58:AM

เรื่องร้อยแปดชอบฟังมานั่งคิด
จนเรื่องนิดกลับใหญ่นำไปฝัน
ให้ฟังหูไว้หูรู้เท่าทัน
ขืนสำคัญหูเบาต้องเศร้าตรม

สาม จมูกมีไว้ใช้ดมกลิ่น
หอมเหม็นสิ้นสิ่งของหมองหมักหมม
บางครั้งกลิ่นถามไปไม่ดอมดม
กลับนิยมดมขี้ฟันขันสิ้นดี ฯ



ทักทายเพื่อนๆ ทุกท่านจ้ะ....ยังหายใจสบายกันดีเน๊าะ.... emo_28 emo_45 emo_20 emo_57

ดมอะไรดมได้เขาไม่ว่า
ขึ้นรถอย่าไปดมผมโฉมศรี
ยิ่งดมแก้มเมียเขาไม่เข้าที
อารมณ์มีดมเข้าขี้เต่าตน

แต่ตัณหาพาให้เผลอใจคิด
อยากจุมพิตผู้อื่นสักหมื่นหน
เมื่อไม่สมเศร้าจิตคิดกังวล
หมดอดทนจมูกเป็นลูกยอ ฯ



หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: โรแมนติค ที่ 01 ธันวาคม 2009, 08:53:AM
สี่คือลิ้น ไว้ลิ้ม เชยชิมรส
เห็นคาวสดไม่วายน้ำลายสอ
ตามใจลิ้นเท่าไรก็ไม่พอ
อ้วนม่อต้อ เพราะกิน ถูกลิ้นกัน

สู้แสวง เสาะหา ร้านอาหาร
ทั้งคาวหวาน ถูกใจ ให้สุขสันต์
หมดเท่าไหร่ ไม่กลัว ช่างหัวมัน
ยามหัวสั่น ใครเขา ให้เรากิน ฯ



(http://glitter.kapook.com/files/glitter/photo/original/9/12337.gif)

แวะมาทักทาย.........บายก่อนครับ.....ทุกท่าน  ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ   emo_28 emo_46 emo_103


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: เฒ่าทารกฯ ที่ 01 ธันวาคม 2009, 10:36:AM

แต่กินมากแทนที่มีประโยชน์
กลับให้โทษจนอับสิ้นทรัพย์สิน
ผิดกับผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน
ที่ยิ่งกินยิ่งเศรษฐีมั่งมีเงิน

กินแบบนั้นแม้ใครว่าไม่เหมาะ
มีใครเยาะหยามหยันกลับสรรเสริญ
ตามใจปากยากนานพาลท้องเดิน
หากหลงเพลิน ลิ้นพา วุ่นอารมณ์ ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: นกฯ ที่ 01 ธันวาคม 2009, 08:16:PM

ห้าเกิดจากมุ่งหมายกายสัมผัส
เกิดกำหนัดขึ้นมาพาขื่นขม
อยากอิงแอบแนบนวลชวนชิดชม
เมื่อไม่สมโศกศัลย์ทุกวันคืน

จะทำการงานใดให้ข้องขัด
หนาวร้อนจัดจนเนื้อ เจ็บเหลือฝืน
ชอบกอดรัดลูบไล้ไม่ยั่งยืน
ต้องสะอื้น ซิฟิลิส เกิดติดมา ฯ
...... emo_49 emo_57


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: barame ที่ 19 ธันวาคม 2009, 01:07:AM

หก เวทนายิ่งใหญ่เกิดในจิต
ศูนย์กลางทิศอารมณ์สู่สมหา
เป็นนาย-กองสำคัญ คอยบัญชา
จะชั่วช้าหรือดีอยู่ที่ใจ

หากจิตคล้อยตามอารมณ์ไม่ข่มกลั้น
ก็นับวันโทรมเสื่อม ขาดเลื่อมใส
เขาว่าคนเราจักดีที่ฤทัย
จะสุขได้ ทุกข์ได้ ที่ใจตน ฯ


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: ปาระ ที่ 19 ธันวาคม 2009, 03:44:PM
อันตัณหา อารมณ์ ทมทับจิต
ตรึกตรองติด คิดตั้ง เลือกสรรหา
ตัดตัวทุกข์ ออกจาก เวทนา
จะนำพา สุขได้ ดั่งหมายปอง



หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: ปาระ ที่ 19 ธันวาคม 2009, 04:08:PM
อันราคะ โทสะ โมหะหลง
ดุจอาศรม ลงสู่ อู่ตัณหา
เป็นกองก่อ บ่อทุกข์ เวทนา
มันนำพา อาเพศ กิเลสกาม

จงนำใจ ตั้งมั่น ธรรมะรส
จงจรด บทธรรม กรรมทั้งสาม
ละเสียเถิด กองเกิด ทุกข์ที่ลาม
ไหม้เขตขาม ตามต่อ บ่ออบาย


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: มะไฟ ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2010, 12:23:PM
ตกเป็นทาสตัณหาพามัวหมอง
ต้องประคองชีวิตอย่าคิดหนี
ใครทำกรรมดีต่อก่อความดี
ก็จะพ้นราคีไม่มีภัย

ใครทำบาปหยาบช้าคร่ามนุษย์
ตามยื้อยุดฉุดสาวคราวหมองไหม้
นรกจะจดนาม ตามท่านไป
เกิดชาติไหนก็ไม่พ้น ทนใช้กรรม


หัวข้อ: Re: ~~ตัณหารมณ์~~
เริ่มหัวข้อโดย: roong ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2010, 03:24:PM
ตกเป็นทาสพิศวาสประหลาดจิต
อ่านลิขิต มิตรกานท์ พาลถลำ
แอบไปนั่ง ในใจ เป็นประจำ
หลงน้ำคำ อักษร กลอนมะไฟ....หุหุ  emo_55