หัวข้อ: น้ำค้าง เริ่มหัวข้อโดย: duaen ที่ 20 พฤศจิกายน 2009, 11:28:PM ดูราอุษาโยคอย่าโศกเศร้า เร่งเร้าให้รุ่งรางสว่างไสว ฉันจะเริงระบำรำอวยชัย ในลำนำหนาวอะคร้าวปฐพี ฯ เพื่อหย่อมหญ้าพฤกษาลดาชาติ งามสะอาดเขียวชะอุ่มพุ่มสดศรี โอยทานธาตุน้ำทุกชีวี นาทีเกษมสมัยกลางใจกัลป์ ฯ หัวข้อ: Re: น้ำค้าง เริ่มหัวข้อโดย: duaen ที่ 20 พฤศจิกายน 2009, 11:34:PM แม่นมั่นฉันนี้ราวสาวใช้ แห่งแสงฉายดาริการะย้าสวรรค์ เจ้าหญิงระยับอยู่กับแจ่มจันทร์ ชั้นไตรตรึงษ์ซึ่งซึ้งวิสุทธิ์นัก ฯ ดึกดื่นนี้ร่อนเร่วเนจร มานอนหิมวันต์อันสูงศักดิ์ สะท้อนแสงดาริกาน่ารัก ชักนำจุมพิตแคว้นแดนดิน ฯ หัวข้อ: Re: น้ำค้าง เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้จ่อย ที่ 21 พฤศจิกายน 2009, 12:43:AM อนิจจาแมลงกระจิริด (วิจิตร) ปีกติดลายคำล้ำเลิศศิลป์ คลุกเคล้าเรณูบุหงามากิน แล้วบินลิ่วปลิวไปในกาล ฯ เจตภูติเพ้อร้องทำนองเพลง วังเวงเสียงเอกวิเวกหวาน เหนือหูหมู่มนุษย์สุดประมาณ คลื่นจักร-วาลไหล-ไปรินริน ฯ ฉันเคยหลับไหลในกลีบบุหงา ลอยธารานาวาวิเศษศิลป์ เคยให้นกน้อยพลอยอาบกิน เป็นแรงบินร่อนร้องคะนองไพร ฯ หัวข้อ: Re: น้ำค้าง เริ่มหัวข้อโดย: กริชอักษร ที่ 21 พฤศจิกายน 2009, 01:20:AM หยาดหยดน้ำค้างริมทางฝัน
ในคืนเหมันต์จันทร์สาดส่อง หวีดหวิวใบใม้สีกีฏร้อง ครู่กลับเงียบทั่วท้องทุ่งนา นอนไม่หลับเลยพับผ้าห่ม เดินมาทอดอารมณ์ชมจันทร์ฉาย ลมพัดวูบหนาวสั่นสะท้านกาย หยาดน้ำค้างร่วงไหลใส่หัวคน เย็นยะเยือกเทือกลมเริ่มโหมอีก จึงต้องหลีกขึ้นห้องมานอนฝัน หนาวอย่างนี้วันพุ่งคงตื่นเกือบเที่ยงวัน ขอหลับฝันหวานเย็นเช่นน้ำค้างกลางหัวคน หัวข้อ: Re: น้ำค้าง เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้จ่อย ที่ 21 พฤศจิกายน 2009, 01:54:AM ฉันย้อยหยาดวาดลายสไบทอง ของแม่ธรณีศรีศุภสมัย แต่งแต้มลายขจายทรายดินไป ในป่าชัฏช้าน่าอัศจรรย์ ฯ พอพ้นอรุโณทัยใสแสง ฉันอ่อนแรงระโหยระเหยสวรรค์ อ้อมเมฆเอาแรงฟ้าวิลาวัณย์ ฉันคือสายรุ้งรุ่งเรืองรอง ฯ เคยเก็บคติทิพย์จากสายรุ้ง หรือสะดุ้งอัปยศสยดสยอง หมดอิสระเสรีที่จะมอง ให้หม่นหมองค่ามนุษย์เวไนยนา. หัวข้อ: Re: น้ำค้าง เริ่มหัวข้อโดย: duaen ที่ 21 พฤศจิกายน 2009, 09:46:AM วิมานน้ำค้างสร้างด้วยธาตุฝัน เอาไกวัลเป็นหอห้องแก้ว อัจกลับระยับระย้าอยู่พรายแพรว คือแววรุ้งรัตนาดาราราย ฯ หาดทรายอ่อนฉะอ้อนดั่งบรรจถรณ์ หมอนท่อนไม้คือเขนยฟ้าถวาย ธาราบ่าเซาะหินดินทราย คือนางไม้ขับกล่อมอ้อมใจ ฯ หัวข้อ: Re: น้ำค้าง เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 21 พฤศจิกายน 2009, 10:34:AM เขตคีรีศรีสมัยวิไลเลิศ เพียงกำเนิดแสงทิพย์ระยิบผืน พณาสณฑ์อนนทกาลผ่านแรมคืน ก็เร่งฟื้นคืนภาพระนาบดาว เปล่งประกายรายล้อมห้อมแนวป่า ดุจดั่งว่าฟ้าร่วงทั้งห้วงหาว แก้วมณีใดในหล้าระดาดาว จะเทียมเท่าแก้วหล่นคว้างน้ำค้างไพร.. ...แบบว่า..ไม่รู้สิ หัวข้อ: Re: น้ำค้าง เริ่มหัวข้อโดย: kaya ที่ 21 พฤศจิกายน 2009, 01:43:PM ละเมอผวาหาเสี้ยวเดือนทอง คือน้องนางแก้วแววขวัญสมัย อ่อนไท้โลมไล้ทิพย์ละมุนละไม แสงเสน่ห์ใสสุดสวาทบ่วาย น่านำน้องท่องหล้ามหาสมุทร สุดฝั่งฝันกว่าสวรรค์จะหาย หมั้นเจ้าด้วยค่าฟ้าพรรณราย สุดสายใจบุรุษรัตน์..รมณีย์ ฯ หัวข้อ: Re: น้ำค้าง เริ่มหัวข้อโดย: แมวเหมียว ที่ 21 พฤศจิกายน 2009, 06:54:PM หยาดน้ำค้างวางอยู่คู่ใบไม้
ค่อยค่อยไหลไปตามใบงามรื่น น้ำค้างหลังวังฝนปนความชื้น ค่อยรวมมาเป็นผืนยื่นประกาย เปล่งสีทองปองแสงอันแรงฤทธิ์ น้ำค้างจะประดิษฐ์เพียงสิทธิ์หมาย วังน้ำค้างแห่งแมลงที่แปลงกาย หยดลงที่ส่วนปลายใบไม้งาม หัวข้อ: วิมานน้ำค้าง เริ่มหัวข้อโดย: มะไฟ ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 01:36:AM ละเมอผวาหาเสี้ยวเดือนทอง คือน้องนางแก้วแววขวัญสมัย อ่อนไท้โลมไล้ทิพย์ละมุนละไม แสงเสน่ห์ใสสุดสวาทบ่วาย น่านำน้องท่องหล้ามหาสมุทร สุดฝั่งฝันกว่าสวรรค์จะหาย หมั้นเจ้าด้วยค่าฟ้าพรรณราย สุดสายใจบุรุษรัตน์..รมณีย์ ฯ นั่นผาชะโงกโตรกชะง่อนง้ำเงื้อม อาจเอื้อมเอาดาววาววิเศษศรี หรือช่อปาริชาตสุดแสนดี หรือวิถี มิติฝันอนันตกาล ฯ พู้นทางช้างเผือกผุดผ่องสกาว บางดวงดาวพุทธเจ้าประดิษฐาน บางเอกภพคือทิพยนิรพาน คลื่นอดีตผ่านนานนับกัปป์กัลป์ ฯ หัวข้อ: Re: วิมานน้ำค้าง เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 11:25:AM ละเมอผวาหาเสี้ยวเดือนทอง คือน้องนางแก้วแววขวัญสมัย อ่อนไท้โลมไล้ทิพย์ละมุนละไม แสงเสน่ห์ใสสุดสวาทบ่วาย น่านำน้องท่องหล้ามหาสมุทร สุดฝั่งฝันกว่าสวรรค์จะหาย หมั้นเจ้าด้วยค่าฟ้าพรรณราย สุดสายใจบุรุษรัตน์..รมณีย์ ฯ...(kaya) นั่นผาชะโงกโตรกชะง่อนง้ำเงื้อม อาจเอื้อมเอาดาววาววิเศษศรี หรือช่อปาริชาตสุดแสนดี หรือวิถี มิติฝันอนันตกาล ฯ พู้นทางช้างเผือกผุดผ่องสกาว บางดวงดาวพุทธเจ้าประดิษฐาน บางเอกภพคือทิพยนิรพาน คลื่นอดีตผ่านนานนับกัปป์กัลป์ ฯ...(มะไฟ) มาเรื่อแสงแรงร่ายที่ปลายสมัย เฉิดวิไลชุบด้าวดินสิ้นโศกศัลย์ โอ้น้ำค้างเจ้าบอบบางลางลาวัลย์ พนมวันนี้ซึ้งซาบถึงวาบทรวง แสงละอ่อนอ้อนเอื้อยเลื้อยหลบเร้น นิมิตเห็นเป็นโฉมฟ้ามาห้อมหวง คะนองนักหลอกรักชายให้หลงลวง แล้วรินร่วงหล่นแสงกรรแสงดาว...(จะไม่เด็ด) ..แบบว่า หัวข้อ: Re: น้ำค้าง เริ่มหัวข้อโดย: akom ที่ 24 พฤศจิกายน 2009, 11:33:AM ตะวันลับดงไม้เชิงชายเขา ฟ้าลบเงาทิวาราตรีหวน หรีดเรไรร้องร่ำเฝ้าคร่ำครวญ จันทร์สีนวลสาดทอลออตา น้ำค้างหยดรดใบไม้ ไหวระริก บางใบพลิกร่วงหล่นจนเกลื่อนหล้า ตะแบกโทนเดียวดายอยู่ปลายนา ดวงดาราวาววับกับฟ้าไกล เย็นสายลมพรมพลิ้วแตะผิวเนื้อ หนาวลมเหนือพัดมาจากป่าไหน เสียงนกร้องก้องดังระวังไพร เพลงจากไผ่เสียดกอพ้อราตรี ฯ |