หัวข้อ: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 03 ตุลาคม 2009, 08:13:PM ก วี เ ดี ย ว ด า ย
อาทิตย์อัสดงหลบซ่อนสายตาอยู่หลังพงหญ้า เสียงน้ำที่แหวกโขดหินลงมาจากสรวงสวรรค์ เหล่าใบไม้เริงระบำเมื่อต้องน้ำสาดกระเซ็น กบเขียดหมอบตัวแน่นิ่งอยู่แต่โคลนตม บนท้องฟ้าหากเต็มไปด้วยเรื่องราวและการสนทนา กับฝูงนกกระสาและห่านป่าโบยบิน สายลมเยียบเย็นเดินผ่านแล้วจากฉันไป ปล่อยให้ฉันอยู่อย่างเดียวดาย เขียนบทกวี ... สกินเฮด 20/09/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 03 ตุลาคม 2009, 08:14:PM ท่ามกลางสายฝนหยดสุดท้ายปลายเดือนกันยา
ท่ามกลางสายฝนหยดสุดท้ายปลายเดือนกันยา บทกวีของฉันหล่นหาย ความชุ่มแฉะชะล้างจนไร้ร่องรอย จวบจนกระทั่งท้องฟ้าแดงเรื่อ สายรุ้งปรากฏกาย สายลมพัดพราย หมู่นกเร่งร้อง บทกวีของฉันหล่นหายอยู่แห่งหนใด อยู่บนต้นไม้บนรังคอน หลบซ่อนภายในหุบเขา หลบมุมพูดคุยอยู่กับหมู่ดาว ปลอบประโลมแด่ผืนป่า โอบกอดท้องฟ้า ริมขอบฝั่งฝัน อยู่บนดวงจันทร์ หาดทรายท้องทะเลเรือเห่ หรือบทกวีที่ตกหล่นของฉัน คือจิตวิญญาณอันเคว้งคว้าง หากร่อนเร่พเนจรไปจนทั่วพื้นพสุธา และจักรวาล... สกินเฮด 23/09/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 03 ตุลาคม 2009, 08:15:PM เพียงเฉียดหัวใจของฉัน
จังหวะเต้นรวยริน ของหัวใจที่เต็มไปด้วยบาดแผล บาดลึก... ระคนเสียงระฆังที่ดังมาจากหุบเขา ลมหายใจแผ่วเบา ทยอยเดินออกจากภายในอย่างเชื่องช้า ร่างกายที่บอบช้ำนอนจมลิ่มเลือด ที่แผ่กระจายไปทั่วผืนทรายฉาบขาว เสียงคลื่นซัดสาดจนสะเทือนสวรรค์ หากหัวใจของฉันกลับไม่ได้ยิน ทั้งชีวิตที่ฝากไว้แด่เธอ บัดนี้มันถูกเชือดเฉือนด้วยถ้อยคำ ท้องฟ้าสีแดงก่ำ เสียงนกขับทำนองเศร้าสร้อย เปลือกหอยเปลือยเปล่าเกลือกกลิ้ง และวิญญาณของฉันกำลังย่ำเท้าออกจากร่าง กามเทพแผลงศรลงมา เพียงเฉียดหัวใจของฉัน คำว่ารักแท้มันจึงเป็นเพียงคำลวง... สกินเฮด 26/09/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 23 ตุลาคม 2009, 12:55:PM Suicide Is Painless
ในห้องที่มืดมิด... ฉันกักขังตัวเองด้วยนิยามของคำว่ารักอันเลิศหรู ในขณะจิตวิญญาณของฉันกำลังเดินย่างสู่สถานทัณฑ เสียงฝนตกกระหน่ำ กระแทกหลังคาจนสนั่นสะเทือนสะท้าน ราวเสียงโห่ร้องดีใจของเหล่าภูติผีปีศาจ กุหลาบแดงหนามแหลมกับคำสัญญาปากเปล่าซ้ำๆ แสงสว่างจากภายนอกหลบซ่อนสะอื้นร่ำไห้ กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจาย ทะลักออกมาจากภายในและกลิ่นอับ ถ้อยคำสีแดงสดปรากฏจนเต็มผนัง ด้วยตัวอักษรที่พร่าเลือน... ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ มีดเล่มบางเปรอะเปื้อนถูกปล่อยทิ้งขว้างห่างออกไป... สกินเฮด 3/09/52 01.45 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 23 ตุลาคม 2009, 12:56:PM เช้าหนึ่ง...เมื่อวังน้ำเขียว
สายธารหมอกเช้านวลขาวเคลื่อนลอยจากฝั่งตะวันตก ทอดยาวจนสุดปลายอีกฝั่งคือตะวันออก เทือกเขาเขียวขจีสลับลายเรียงซ้อนเป็นฉากอยู่เบื้องหลัง ตัดเขียวมรกตแกมเหลืองอำพันตระการตาร้อยพันหมื่นฝักข้าวโพด แสงแดดที่แสนเกียจคร้านค่อยๆคืบคลานลงจากเตียงนอน เสียงกระซิบซาบด้วยถ้อยคำของหนุ่มสาว หยาดหยดจากน้ำค้างกลางหาว เสียงร้องดังก้องลงมาจากดวงดาว สายลมที่แสนเหน็บหนาว เสียงเพลงท่วงทำนองมาลีฮวนน่า หนุ่มใต้หนวดงามกับใบหน้าฉาบยิ้ม กลิ่นกาแฟอบอวลลอยโชยโอบกอดบ้านเดียวดายบนเนินเขา ดูซิ ...คลื่นลมที่ไม่อาจคาดเดา กำลังโศกเศร้าอยู่เหนือเขื่อนมหึมาที่เงียบสงบ ... สกินเฮด 18/10/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 23 ตุลาคม 2009, 12:57:PM หุบเหวนิรันดร์
ฉันโอบกอดตัวตนคละความมัวหม่นอ่อนแอ ลัดเลาะทิวป่าเนินเขามุ่งสู่ยอดสูงเทียบทางสวรรค์ ปลายเท้าจรดปริ่มขอบแห่งยอดเขา สายลมโหมกระหน่ำซัดร่างของฉันเริ่มสั่นเทาแม้นยืนนิ่ง เบื้องล่างเมื่อฉันมองลงไปมันคือหุบเหวอันไร้เสียงก้องกังวานกลับสะท้อน ท้องฟ้า ณ ชั่วยามแสดเทาเศร้าโศกก้อนเมฆระทม นกสวรรค์เป็นเพียงภาพในความฝันหาได้ปรากฏร่างอวดโฉมให้ชื่นชม ชีวิตที่ผ่านมามันแสนทรมานความสมหวังถอยห่างความอ้างว้างกลับอยู่คู่ตลอดกาลเคียงกาย ปี่พาทย์มโหรีวงใหญ่ผสานเสียงสวดบทบาลีของนักบวชชราเพรียกหา... ฉันจะปลดปล่อยตัวตนลงสู่พื้นเบื้องล่างมืดมิดอันเป็นที่สิ่งสถิตจนชั่วนิจนิรันดร์... สกินเฮด 21/10/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 29 ตุลาคม 2009, 11:14:AM ผู้เดินตาม
นักเดินทางเช่นกาลเวลา ผู้ไม่เคยหันหลังกลับมามอง มุ่งสู่แต่ภายภาคหน้า ผู้เดินตามเช่นข้า หดหู่กับเส้นทางที่เดินผ่านอย่างเหลือประมาณ เกือบค่อนชีวิตกลับมาอยู่บ้านเกิดอีกครั้ง มาพร้อมกับเสื้อผ้าอาภรณ์ที่แหว่งวิ่น เฉกเช่นวันที่เดินจากบ้านมา รอยเหี่ยวย่นปรากฏเต็มใบหน้า เส้นผมสีขาวขึ้นแซมตลอดศีรษะ ผู้คนไร้ซึ่งการจดจำ นกตัวแล้วตัวเล่าบินข้ามห้วงฟ้าผ่านบ้านข้าไป ... สกินเฮด หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 03 พฤศจิกายน 2009, 09:13:AM แพ้พ่าย
อสุรกายใต้เปลือกโลกแหวกมหาสมุทรขึ้นมาแสยะยิ้ม ก่อนสำรอกความรักเฆียนตีจิตวิญญาณของฉันปริแตกเลือดซึม ร้องไห้เถิดหากมันคือความปรารถนาจากภายใน รากเจ็บปวดทรมานฝั่งลึกถอนโคนอย่างไรก็ไร้ที่สิ้นสุด เสียงเพลงเสแสร้งแสดงบทโศก บทกวีขมุกขมัวตัวอักษรโย้เย้ เพียงเงาสะท้อนของฉันจากแววตาของเธอ ก่อนสิ้นแสงแห่งดวงตะวัน ก่อนสายหมอกปลิดหนาวในสายลม ก่อนร่างของฉันจะถึงกาลดับสลายไปในกองเพลิง... สกินเฮด 2/11/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 09 พฤศจิกายน 2009, 09:36:AM Poet
ด้วยกายเปลือยเปล่าเกลือกกลิ้งอยู่บนที่นอน ผ้าห่มผืนบางตลบลงไปกองอยู่ตรงปลายเท้า สายลมหนาวแลบเลียผิวกายจรดปลายท้องฟ้าแดนสวรรค์ ฉันเขียนบทกวีด้วยเข็มปลายแหลม ลงบนแขนซ้ายดั่งคนวิกลจริตบ้าใบ้ เลือดซึมไหลเดินตามรอยเข็มร้าวตัวอักษร ทับถมจนไม่อาจมองเห็นถ้อยคำอื่นใด ความรู้สึกเย็นชาแห่งเดือนพฤศจิกา จะปกปิดบทกวีที่บอบช้ำตราบจนคราบเลือดที่รินหลั่งแห้งสนิท... สกินเฮด 6/11/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 12 พฤศจิกายน 2009, 09:45:AM Coma
เสียงเพลงบรรเลงเนิบนาบ ทว่าถ้อยคำท่วงทำนองกลับกรีดลึก เสียดแทงทะลุหลุมศพจนถึงฝาโลงที่ผุพัง วิญญาณอับชื้นชอกช้ำกำลังถูกปลุก กาลเวลากัดกินเนื้อหนังจนย่อยสลาย เหลือเพียงโครงกระดูกดิ้นกระตุกกระตุก ขณะรัตติกาลเคลิ้มหลับและเซื่องซึม หมอกนิพพานลอยผ่านแล้วจางหาย ดอกไม้แห่งความหวังริบหรี่ กลับส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจาย อบอวลไปทั่วท้องฟ้าสวนสวรรค์อันเวิ้งว้าง... สกินเฮด 9/11/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 09 มกราคม 2010, 10:01:AM The Boxer
เสียงบีบแตรดังสนั่นแสบสะท้านทรวง หมอกขาวควันจากท่อไอหาใช่จากครรภ์มารดาแถบเทือกภูหุบ แสงแดดแลบเลียผิวกายและหัวใจจนอ่อนล้า เหงื่อหยดยืนย่ำสับสนกลางสี่แยกร้อนกับพวงดอกที่เหี่ยวเฉา บนทางเท้าผู้คนเหมือนคุ้นเคยกลับดูแปลกหน้าคลาคล่ำ ตึกแถวแลบ้านผุดกำเนิดเติบราวทุ่งดอกพิกุลในสวนหลังบ้านชายชราห้วงคำนึง คืนค่ำฉันนอนหนาวหลั่งน้ำตาไร้โอบกอด พลันฝันที่งดงามถึงทุ่งข้าวเหลืองอร่ามหลังร่วมกันแต้มจนเต็มท้องทุ่ง เข็มนาฬิกากลับเดินถอยหลังหากการเดินทางกำลังเริ่มต้น... สกินเฮด 10/11/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 09 มกราคม 2010, 10:02:AM No' n Know
ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไร... เสียงลมแหวกอากาศเสียดอณูฝุ่น ท้องถนนล้นผู้คนใบหน้าดำกร้านยืนนิ่งเหม่อลอย แววตาไร้ประกายเปล่งสว่างทอแสง ตึกแถวทรุดโทรมผนังเปื้อนคราบคาวเลือดแห้งสนิท อบอวลกลิ่นโชยกระชากเหม็นซากจมอสุภ ม้านั่งกลางสวนกับใบไม้โรยร่วงคือเพื่อน บทกวีร้างถ้อยคำกับความเงียบเหงาเข้าเกาะกุม ความฝันเมื่อวันวานฝังร่างอยู่กลางภูหุบ ความหวังกระโจนทะยานสู่เบื้องล่างลึกที่สุดห้วงสมุทร ดวงตะวันลาลับไปจากท้องฟ้า นกกลางคืนอันตรธาน ม่านน้ำค้างดั่งหยดน้ำตาราดรดเต็มพื้นท่วมถนน แสงสีขาวดวงจันทร์สาดส่องทะลุเมืองและห้องที่เหม็นอับ คมมีดผู้ครองนครตัดขั้วหัวใจประชาชนทั้งหลายอย่างไร้ความสำนึกรู้ผิด... สกินเฮด 12/11/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 09 มกราคม 2010, 10:06:AM ร้าวราน
ถึงแม้นจะเป็นฤดูหนาวอันเยียบเย็น บางคราสายลมแห่งความร้อนรุ่มก็รุมเร้าพัดผ่านเข้ามา เป็นเวลานานแล้วที่ข้าตกอยู่ในภวังค์ เวียนวนจมปลักอยู่กับความร้าวราน หยากไย่เกาะเกี่ยวเต็มฝาข้างบ้าน กลับไร้เงาแมงมุมตัวใดไต่ระโยง เป็ดน้อยพึ่งออกจากไข่ ทยอยเดินตามหลังผู้เป็นแม่ลงไปในสายน้ำ ฝูงปลาแหวกว่ายกับคลื่นลมที่ซัดหายกระทบฝั่ง ท้องฟ้าทึมเทากว้างใหญ่กับลมหายใจเบาแผ่ว สรรพสิ่งเคลื่อนไหวรวดเร็วเชื่องช้า สุดแต่ใจของเราที่ว่าหรือกำหนด... สกินเฮด 12/11/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 09 มกราคม 2010, 10:07:AM ฆาตกร
เสียงเร่งเครื่องยนต์ดังสนั่นรถติดอย่างยาวนานบนตรอกทางที่คับแคบ หลอดไฟข้างทางกะพริบติดดับตามลำพังโดดเดี่ยว คำถามมากมายยื้อแย่งแข่งคว้าหาคำตอบ ชาวเมืองรุมด่าสาปแช่งพรั่งพร้อมแววตาอาฆาตเดือดแค้นจ้องประทุษ เพียงนกตัวหนึ่งอยู่อย่างพอเพียงและมีความสุข กลับกลายเป็นศพหมดลมหายใจด้วยหัวใจที่กล้าแกร่งและบริสุทธิ์ หากเลือดภายในยังคงเวียนไหลดั่งมหาสมุทรผู้ยิ่งใหญ่ร่ำไห้เศร้าโศก แผนประกอบคำรับสารภาพประหนึ่งตอกย้ำถึงความเลวทรามชั่วช้าของคนบางกลุ่ม ถ้อยคำจากปากฆาตกรด้วยใบหน้าที่เย็นชายิ่งกว่าเทือกเขาที่หนาวที่สุด ไร้เหตุผลนำพาปรารถนาแค่ความอยากเพียงมองลอดผ่านเสื้อผ้าเนื้อหนังที่แลเห็น ท้องฟ้ามัวสลัวแสงสว่างที่พร่ามัว รอยเลือดหยดเป็นทางจรดดินแดนต้องห้ามขึ้นแท่นประหารสำหรับอัปรีย์ทรชน สกินเฮด 13/11/52 16.31 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 09 มกราคม 2010, 10:08:AM คืนค่ำต่อมา
ลางร้ายตั้งเค้ากับเงามัจจุราชสยายปีกปกคลุม พายุทึมเทาพัดถล่มเมืองเฉียงใต้ สำทับขนาดใหญ่งูเลื้อยฉกฉวยโอกาสแด่ผู้ยากจน บ้านช่องพังทลายตึกซากกองพะเนินท่วมสูง ทะเลเพลิงลุกโชนเผาไหม้ประลัยกัลป์กวาดต้อนผู้คนหลีกหลบ ท่อนไม้ขนาดใหญ่เผยกายจากที่หลบซ่อน ความแหลกสลายจึงมาเยือนหมู่บ้านกลางป่าพนาสูญ วัวควายล้มตายซากศพทับถมอนาถไร้ญาติแม้นแมลงวันบินว่อนดอมดม ท้องทุ่งเขียวขจีเปรอะเปื้อนสีเลือดข้นคลั่กราดรดจนช้ำระทม ความวอดวายประจักษ์ในพริบตาเพียงเผลอหลับตาหัวใจติดหล่ม สวนดอกไม้ไร้ลมหายใจหลับใหลในยามนิทรา กลีบดอกที่งดงามกลับเป็นเพียงตำนานประดับวางพวงหรีดหน้าโลงศพ ความเศร้าโศกซ้ำๆกับนาฏกรรมแห่งความตายครั้งใหญ่ หากไร้เงาสีดำคลุมร่างผู้คนร่วมงานว่างเปล่า เศษกระดาษม่วงเทาฉีกขาดกลับบินลับหายไปกับรัตติกาลคืนค่ำต่อมา... สกินเฮด 15/11/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 09 มกราคม 2010, 10:09:AM ชายนิรนามผู้พลิกอ่านบทกวี
บนท้องฟ้ายามเย็น ก้อนเมฆเดินเล่นไร้ท่วงทำนองและกลิ่นฝน นกกระเรียนบินผ่านอย่างเงียบเชียบ กระรอกป่าบนเถาวัลย์พันกิ่งชราต้นสน สายลมพัดทิวหญ้าลู่เอนค้อมต่ำ รอยจุมพิตเคว้งคว้างเพียงความว่างเปล่าไขว่คว้าดักซุ่ม ความรักถูกผลักไสถอยร่นเข้าไปในหุบเหวป่าลึก ดวงตะวันกำลังร่ำลากับบทเพลงใบไม้ที่กำลังร่วงหล่น บทกวีถูกพลิกอ่านจากชายนิรนามไร้แหล่งที่มาและความใฝ่ฝัน... สกินเฮด 15/11/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 15 มกราคม 2010, 10:31:AM สายน้ำกาลเวลา
สายลมโอบกอดเนื้อกายหนาวสั่น ริมถนนกลางเมืองโบราณซอกเหลือบตึกโทรม กับร้านหนังสือคร่ำครึขึ้นป้ายหยากไย่เกาะกุม เปิดประตูสู่อาณาจักรอันเวิ้งว้างลอยล่อง โต๊ะเก้าอี้ค้อมคำนับเป็นการต้อนรับแขกผู้มาเยือน เสียงคั่วกาแฟเมล็ดพันธุ์คัดสรรชั้นยอด กลิ่นหอมรำพันฟุ้งกระจายสัมผัสด้วยใจอันอบอุ่น หนังสือเบียดเสียดกองพะเนิน กับรอยยิ้มฉาบแววสดใสประหนึ่งประกายเชื้อเชิญ ท่านพุทธทาสนิ่งสงบสยบสายน้ำกาลเวลา ท่านติช นัท ฮันห์ กระท่อมกลางป่า ณ หุบเขาหมู่บ้านพลัม กวีหลี่ไป๋บนหอกระเรียนเหลืองเหลือเพียงแม่น้ำแยงซีไหลรี เฮอร์มานน์ เฮสเส ผู้ป้ายพู่กันเรื่องราว ฮั่น ฟุก ปรารถนาคือกวีที่แท้จริง เหมา เจ๋อ ตุง ลุงโฮ คือศรัทธาแห่งลุ่มน้ำตะวันออก ประชาธิปไตยบนความเดียวดายในท้องทุ่ง ไอสไตน์คิดคำนวณจักรวาลเกิดดับ เศษฝุ่นดาวหางร่วงหล่นเป็นฝนดาวตกร่วมทางสวรรค์ จิตรภูมิศักดิ์คือตำนานกล่าวขาน ถวัลย์ดัชนี สุนารีราชสีมา คมกระสุนปลิดชีพ Smells Like Teen Spirit แห่งเนอร์วานา กรีดแขนร่ายบทกวี The Manic Street Preachers Marilyn Manson กับความอัปลักษณ์เรือนร่างในสายตา ฟักทองแตกกระจายในบทเพลงDisarm Pearl Jam ร้อยเรียงเนื้อร้องแหบพร่าสุมเผา เหล่าปีศาจขานรับSepultura สาธารณรัฐกวีนิพนธ์ซะการีย์ยา อมตยา ฝนเดือนลีลาหยดน้ำค้างกลางกลีบบุปผา ถ้อยคำโหยหวนกรีดร้องด้วยบทกวีปิ่นณรี_ รำพัน นายตาพรานบุญบนวิถีแห่งทิศบูรพา หลงทางในท้องปลาวาฬจากปากคำของท่านกวีฮาริส แก้วตาธัมอินอย่างที่ท่านเกียทซ์เกริ่นกล่าว วาดวลีวาดชีวิตที่งดงามท่ามเพลิงพลังแห่งความรัก ถ้วยกาแฟเปรอะคราบสีดำแห้งสนิท พลิกอ่านจรดบรรทัดสุดท้ายวาบไหวด้วยลมหายใจเบาแผ่ว หากก้าวย่างไปบนหนทางยังคงลัดเลาะตามขอบแห่งความจริง... สกินเฮด 19/11/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 24 มกราคม 2010, 07:56:AM วาดลีลาด้วยถ้อยคำ
หมอกเช้าลอยเอื่อยเกียจคร้าน แสงแดดเผยร่างเมื่อยามเช้าตรู่ สายลมจากทิศบูรพาไม่หวนกลับ ทะเลหมอกบนยอดเขา ความเหน็บหนาวจากแผ่นดินใหญ่แผ่คลุม ผู้คนหวั่นไหวไร้โอบกอดแอบกระซิบ ติดปีกหนีอาญาแผ่นดินบนถิ่นเกิด หลบเลียแผลกายบนดินแดนไร้สรรพนามเมื่อทุกคนเอ่ยถาม ทิ้งรอยร้าวกลิ่นไหม้แม้นอยู่ในที่ห่างไกลยังแลเห็น เหนื่อยล้าสักเพียงใดหาได้หยุดหย่อนครุ่นคิด อาฆาตเคียดแค้นแม้นตัวตายสรรพสิ่งคือความย่อยยับ จ้องมองเผาทำลายบ้านเมืองศรัทธาท่ามกลางฝูงชน ในขณะนักปกครองที่ทดลองเถลิงอำนาจ กลับฉีกขาดมิตรภาพกัดกินทุกอย่างที่ประชาชนทำหล่น ด้วยคมวาจาประดุจอาวุธประทุษร้ายเข่นฆ่า มิเคยเหลียวหลังแหงนมองท้องฟ้าที่อยู่เบื้องบน ในยามหลังคาซุกร่างช่องทะลุผุพังเรือนชานแดดเลีย หวั่นเพียงบัลลังก์สั่นสะท้านโยกคลอนไหวเอน เอาแต่เพ่งมองห่วงใยที่ปลายเท้าด้วยเหม็นคาวกลิ่นโชย ท้องนารวงข้าวแล้งน้ำขาดฝน ทิวหญ้าไร้พู่กันแต่งแต้มหลากสี ท้องฟ้าแห้งขอดหยดน้ำค้างในยามราตรี ท้องทะเลสีครามฉาบใสกลับขุ่น ใบหน้าผู้คนหมองคล้ำพลบค่ำย่ำอรุณ ความรักคือถ้อยคำแห่งความว่างเปล่า ความโศกเศร้าชันเข่าร่ำไห้บนซากศพเกลื่อนตายกองพะเนิน... สกินเฮด 20/11/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 27 มกราคม 2010, 09:20:AM ร้อยเล่ห์เสน่ห์บุปผา
กลีบดอกซ้อนสลับเหลืองน้ำผึ้งผิวพรรณภู่แมลงตอมกระพือปีก งดงามปากรูปกระจับแตะสัมผัสกระดังงาร้อนรน เอวบางออดอ้อนสายตาพลบค่ำหยดน้ำค้างที่กำลังร่วงหล่น แววตาเปล่งประกายสดใสลูบไล้วงหน้าเสน่หา เรียวขากิ่งก้านสายลมพลิ้วหัวใจเต้นกระเส่าเข้าออก ถมความเดียวดายด้วยจุมพิตแผ่วเบาลอยล่อง ความรักสะดุดพลิกคว่ำดวงดาวบนท้องฟ้าหัวเราะเริงร่าเต้นระบำ ความหนาวชักนำความชอกช้ำเพียงข้ามคืนวันพลันสลาย หญิงสาวซ่อนเงาพริ้มพรายในบทกวีคืนนิทรา ... สกินเฮด 21/11/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2010, 04:50:PM ท่วงทำนองกรีดร้องก้าวเดิน
กรีดนิ้วลงบนเส้นสายอายตนะประตูทั้งหก เสียงเบสกีตาร์กระตุกกระชากจิตวิญญาณแห่งฉัน ท่ามกลางพายุหิมะพัดถล่มกลางเมืองที่เคยร้อนระอุ กับบทเพลง Snow แห่งวง Red Hot Chilli Peppers เสียงกลองฟาดกระหน่ำเฆียนตีความรู้สึกผู้คน กรีดร้องทักทายความฝันติดปีกเร้นหายสุดปลายฟ้า จังหวะชีวิตเจ็บปวดทุกครึ่งค่อนก้าวกับเรื่องราวที่ยังคงอยู่ หนทางอีกยาวนานแสนขรุขระเราแย้มสรวล เสียงเพลงบรรเลงท่วงทำนองบางคราโศกตรม Anthony Kiedis บนเวทีการแสดงผู้คนนับแสนจับจ้อง The Flea หม้ดไรไร้ผู้ใดสนใจในวิถี มิคาดหวังเพียงท้องฟ้าเป็นสีฟ้าบ้างบางคราฉาบสีชมพู ปุถุชนบนหมื่นแสนล้านพันก้าวทับถม กู่ก้องร้องสะกิดสวรรค์ริมธารสายน้ำหลั่งรินเฝ้าดู สิ้นถ้อยคำดนตรีมิสิ้นเสียงสั่นระรัวของหัวใจ เก็บซ่อนดวงตาเอาไว้ใต้เปลือกโลกบางห้วงเวลาที่เราสับสน... สกินเฮด 21/11/52 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2010, 07:52:PM โคราฆะปุระเสมา
๑ ริมฝั่งลำตะคอง ตระการรุ่งเรือง โคราฆะปุระกับเมืองเสมา ทว่ากาลเวลาได้กัดกร่อน ลักพาความรุ่งเรือง ตกหล่นแต่เพียง เศษก้อนของความเสื่อมโทรม ในแผ่นดินพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช แผ่สยายเขตขอบพัทธสีมา กอบเศษดินเศษหินขึ้นสู่ท้องฟ้า แล้วเปล่งวาจา "นครราชสีมา จงกำเนิด " หลอมเมืองทั้งสองเป็นหนึ่ง เคลื่อนคน นับหมื่นพันเท้าที่ก้าวย่ำ สู่ชัยภูมิแห่งหนปัจจุบัน ทุ่งหญ้า ต้นไม้ และหุบเขา ต่างเรียกขานนามว่า "โคราช " ขอบจรด พุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ทิวาราตรี ดวงดาว จดบันทึกชั่วกาลนาน บนทางช้างเผือก ก้อนหินทุกก้อน ถูกเรียงซ้อนด้วยความศรัทธา พระเจ้าสุริยวรมันที่หนึ่ง อาณาจักรขอมโบราณ ถวายแด่พระพุทธองค์ ปราสาทหินพิมาย ๒ ฟ้าร้องดังคำราม อสุนีบาตฟาดลงมา ประหนึ่งบ่งสัญญาณ บัดนี้ ผู้มีบุญได้ถือกำเนิด สตรีนางหนึ่ง ในร่างปุถุชน โลกยากจะลืมเลือน หัวใจดวงน้อย ได้มอบไว้เป็นข้า แด่แผ่นดิน ปรารถนาปลดโซ่ตรวน ดวงใจทุกดวงที่ถูกคุมขัง ไร้แสงแห่งดวงตะวัน ไร้เสียงหมู่นกร้องประสาน ไร้เสียงหยดน้ำค้าง ยามกระทบผิวดิน อริรุกราน กวาดต้อนผู้คน พวกเจ้าคือเชลย ครุ่นคิดทุกวันค่ำเช้า จวบกระทั่งถึงทุ่งสัมฤทธิ์ ที่เมืองพิมาย มีด ขวาน พร้า ด้ามไม้ ไพร่พลชาวบ้านพรั่งพร้อม ห่ำหั่นกับกองทัพอันเกรียงไกร ด้วยหัวใจที่น่ากราบ แทบฝ่าเท้า อริพ่ายยับ กับร่างที่ไร้วิญญาณ พลีกายถวายแผ่นดิน นางสาว "บุญเหลือ " ดุจดั่งบุตรหลานแท้ๆของท่าน ผู้ร่วมรินหลั่ง กอบกู้ ทุกผู้ทุกนามจักต้องโจษจัน สตรีนางนั้นชื่อ" โม " ภรรยาปลัด พระยาสุริยเดชวิเศษฤทธิ์ทศทิศวิชัย ผู้ป้องเมืองหากไปราชการ เลือดล้างหลั่งรับใช้ ล้นเกล้ารัชกาลที่สาม ฐานันดรศักดิ์ของท่าน "ท้าวสุรนารี " ๓ ดวงตะวันกระพริบตาอยู่เบื้องหลัง เทือกเขาดงพญาเย็น เช้าแล้ว ผืนป่าอันกว้างไพร ไร้ซึ่งขอบฝั่ง กาลหนึ่งขาน เทือกเขาดงพญาไฟ ยากลำบากหนทาง มากด้วยเดรัจฉาน หมายเหยื่ออันโอชะ หลากน้ำฤดู กรรโชกสรรพสิ่งสาบสูญ บัดดล คืออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คือมรดกแห่งมวลมนุษยชาติ สิงสาราสัตว์ที่ยากพบ น้ำตกสูงเสียดแทงท้องฟ้า หุบเขางดงามสุดพรรณนา ละอองฝน เปียกปอน ละอองความสุขล้นทะลัก พืชเมืองหนาว และไวน์องุ่น หากพลบค่ำย่ำสนธยา บนเนินเขา ห้อมล้อมไปด้วยหมู่ดาว เอื้อมมือสัมผัสอย่างแผ่วเบา จักจั่นขับเสียง ลมราตรีสัญจร กลิ่นรัญจวนมากมวลบุปผา แววตาอันอ่อนโยนของผืนป่า น้ำตาปีติหลั่งเถิด ! หากปรารถนานั่งมองท้องฟ้าอย่างเดียวดาย หมู่ดาวกำลังตก อธิษฐานซิ ! จักเป็นจริง ๔ แนวทิวเทือกเดียวกัน เดินข้ามเพียงเนินเขา คือวังน้ำเขียว คราหนึ่งคือปักธงชัย สรวงสวรรค์เพียงเอื้อม ทะเลหมอกที่ปกหนา ประหนึ่งนั่งจิบน้ำชา กับหมู่เทวดาและเหล่าทวยเทพ ๕ ฟังซิ ! เสียงหวูดรถไฟ ที่บรรทุกความรักมาจนเต็ม เดินทางมาจากดินแดนอันไร้สรรพนาม เทียบชานชลา ณ สถานีชายป่า เขื่อนลำตะคอง เพื่อชื่นชม แสงสีทองผ่องอำไพ ส่องประกายระยิบพรายในยามเช้า บนระลอกคลื่น อีกไม่นาน รถไฟขบวนนี้ คงเดินทางจากไป บนเส้นทางสายสีรุ้ง เพื่อส่งมอบความรัก แด่ผู้ที่กำลังชะเง้อรอ และมองหา ๖ ศาสนิกชน สืบทอดเส้นทางแห่งธรรม เสมาธรรมจักรและวัฏสงสาร ทุกอณู ฝั่งรากหยั่งลึก ก้นบึ้งจิตวิญญาณ ศรัทธา หลั่งรินดั่งสายน้ำ ทั่วทุกสารทิศ จึงมาบรรจบ หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี ) ในอำเภอสีคิ้ว มาลัยดวงใจ ร้อยรวมเข้าด้วยกัน น้อมถวายแด่ท่าน บนแท่นบูชา สาธุ ! ๗ นับย้อนหลายร้อยล้านปี กว่าจะถึงวันนี้ ต้นไม้โบราณขนาดยักษ์ นอนขดหลับอยู่ใต้พื้นพิภพ อย่างเงียบเชียบ กาลเวลากลับพ่ายแพ้ ในสงครามแห่งการเสื่อมสลาย ต้นไม้ได้กลับกลาย แปลงร่างเป็นหินผาผู้กล้าแกร่ง น่าอัศจรรย์แด่ผู้พบเห็น พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน บ้านโกรกเดือนห้า ตำบลสุรนารี อำเภอเมือง ๘ แหงนหน้าขยับแขน แล้วเหินทะยานสู่ท้องฟ้า ฝูงนกจะเป็นผู้นำพา ข้ามไปอีกฝั่ง ครบุรี เสิงสาง หนองบุญมาก ละลานตากับต้นมันสำปะหลัง เขียวขจีแรกรุ่น ดุจดั่งดรุณีผลิบาน ยามใดเมื่อสายลมพัดผ่าน ใบระบัดอ่อนๆฟ้อนรำ ออดอ้อนด้วยสายตา อย่ามองนาน แก้มเริ่มแดงระเรื่อ หญิงสาวแรกแย้ม ขวยเขิน ๙ เดินตามรอยเท้าของหนอนตัวหนึ่ง ตลอดทางใบหม่อนถูกกัดกร่อนจนแหว่งวิ่น สายฝนเวียนวน สายลมเดินผ่าน โมงยามขยับตาม รอยเท้าอันตรธาน กลับพบพาน ฝูงผีเสื้อที่บินเหนือทุ่งหญ้า กับเศษไหมและเส้นใยที่ร่วงหล่น เราถักทอเศษไหม เราถักทอเส้นใยที่ร่วงหล่น เราถักทอจากภูมิปัญญา เราถักทอด้วยชีวิตปู่ย่า เราถักทอจวบจนปัจจุบัน เราถักทอจวบจนอนาคตกาล เราถักทอจวบจนชีวิตลูกหลาน เราถักทอจวบจนนิจนิรันดร์ เราถักทอผ้าไหมจากปักธงชัย ๑๐ หลังคามุงจากที่ผุพัง แสงลอดทอดออกเป็นลำ ม่งสู่พื้นเบื้องล่าง ท่ามกลางเม็ดกรวดและผืนทราย ทอประกายส่องสว่างวับๆ แจกันดินเผาถูกจัดเรียง ห่างออกไป เตาเผาขนาดใหญ่ ภายในปราศจากสรรพสิ่ง กองฟืนถูกวางเรียง รถอีแต๋นจอดแน่นิ่ง นกกาเหว่าอยู่บนต้นไม้ เม็ดเหงื่อขนาดใหญ่ผุดพราย ไหลลงท่วมกายและปลายนิ้ว ชายหนึ่งกับร่างที่เลอะเปื้อน เส้นเลือดปูดโปน เท้าถีบปั่นจนแท่นขยับหมุน จินตนาการก่อกำเนิดรูปร่าง จากก้อนดิน เสียงน้ำที่กำลังไหล เสียงหัวใจที่กำลังสั่น ดินจากลำน้ำมูล หลอมรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน คือจิตวิญญาณ แห่งหมู่บ้านด่านเกวียน ๑๑ ตำรับสืบครั้นบรรพกาล ตั้งไฟอ่อนๆด้วยโอบกอดที่อบอุ่น เส้นหมี่จากท้องทุ่งชูรวงท่วมปฐพี เต็มรอยยิ้มผีเสื้อละเมอฝัน เหยาะความหอมหวานจากน้ำผึ้ง ที่อาบแสงจันทร์ ใส่ความหวัง ซอยแสงสีรุ้งแห่งสุริยัน โรยหน้าด้วยความผูกพัน ถั่วงอกเจริญงอกงาม หัวใจได้กลิ้งหล่นลงไปในกระทะ ตั้งนานแล้ว ผัดหมี่กระโทก อำเภอโชคชัย เพียงแตะด้วยริมฝีปาก เจ้าก็จะลุ่มหลง จมปลักอยู่กับความงดงาม ที่แสนอร่อย ๑๒ หันหน้ามุ่งทางทิศเหนือ ห้อยย้อยระย้าระโยงยาง สามร้อยปีกว่า จากยอดสุดดิ่งสู่พื้นพสุธา แผ่ขยายกว้างไกลนับแสนตารางฟุต แสงแดดแลบเลียผิวกาย ความร้อนรุมโทรมโหมทำร้าย หลับเถิด ! ท่ามเงาไทร ท่านจะห่อคลุมกาย ไทรงามคือนามของท่าน สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ในสมเด็จพระปิยมหาราช ทรงพระราชทานนาม ริมฝั่งลำน้ำมูลไหลผ่าน เมืองพิมาย ๑๓ ห่างเพียงกระพริบตา หยดน้ำตา เลือดสักกี่หยด ล้มทับสักกี่ศพ บนพื้นดินที่แตกระแหงแล้งน้ำ แสงแดด ถิ่นทุรกันดารอันกว้างใหญ่ บัวใหญ่ โนนไทย ประทาย ชุมพวง พระทองคำ ห้วยแถลง สายฝนหลงฤดู ฝนหลวง แอ่งน้ำชลประทาน วิถีพึ่งตน ทุ่งทองที่โอบล้อม รวงเหลืองชูค่อมแล้วน้อมต่ำ ดุจโค้งเคียว ด้วยพระบารมีของพระองค์ แผ่ไพศาลล้น เหนือเกล้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ๑๔ ลัดเลาะริมคูคลอง อีกสระน้ำ ในเขตเมืองเก่า สระแก้ว สระแมว สระขวัญ และสระบัว เวียนชมประตูเมือง ประตูผี คือประตูไชยณรงค์ คือหนทางผ่านสู่สรวงสวรรค์ แด่ผู้วายชนม์ ประตูพลแสน และประตูพลล้าน ห่างแค่ชำเลือง เรือสำเภาโบราณตั้งตระหง่าน คือรูปทรงอุโบสถอันวิจิตร วัดศาลาลอย เล่าว่า คุณย่าโมและพระยาปลัด ล่องเรือมาตามลำน้ำ หากสร้างแพเป็นรูปศาลา แล้วปล่อยให้ลอยละล่อง เมื่อหยุด ณ แห่งหนใด จะสร้างวัดไว้ ณ แห่งหนนั้น เจดีย์บรรจุอัฐิของท่าน คุณหญิงโม ประดิษฐานภายในวัดแห่งนี้เมื่อแรกเริ่ม วันนี้ อัฐิของท่าน บรรจุใต้ฐานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ในปัจจุบัน ๑๕ ดวงอาทิตย์กำลังหลับตา หกโมงเย็นบริเวณสวนรัก อากาศเริ่มหนาว สปอร์ตไลท์ถูกสาดส่อง ต้นสาธรสูงใหญ่ เปรียบร่มเงาแด่สรรพสิ่ง ฝูงนกบินกลับรัง ร้องร่ำโหยหา จนเต็มฟากฟ้าและเต็มต้น หญิงสาว ผัดหน้าจนขาว แต่งแต้มด้วยชุดวาบหวิว ยืนยิ้มอยู่ริมทางเท้า หมอดูข้างสวน คร่ำเคร่งกับการพยากรณ์ แด่ผู้ที่กำลังพลัดหลง รูปปั้นแสดงถึงวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ น้ำพุพวยพุ่ง เอื้องกุหลาบเหลืองโคราช สนามเด็กเล่น เนรมิตกลางสวน เด็กๆพากันปีนป่าย เสียงหัวเราะ คลุกความสุข เคล้าจินตนาการ ไร้เดียงสา พ่อแม่กระซิบซาบ กับสายตาที่ห่วงหา ฝูงลิงทโมน บนม้านั่งหินอ่อนถัดไป แมวสีสวาดกำลังหลับใหล มัสยิดหนึ่งเดียวอยู่ห่างออกไป ๑๖ เสียงแหวกอากาศของรถแห่ ดังแว่วมาแต่ไกล เสียงเด็กร้องไห้ เล็ดลอดออกมาจากร้านเกม คนเดินผ่านไปมา หน้าลานคุณย่า หลายคนคล้องพระ ศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อคูณ นักพรตชรา ผู้ล่วงรู้สัจธรรม อาม่ายังคงนั่งอยู่หน้าศาลเจ้า สามล้อยังคงถีบผ่านศาลเจ้า มอเตอร์ไซค์รับจ้างจอดเรียง รถสองแถวขนคนมุ่งสู่จุดหมาย รถแท็กซี่วิ่งผ่าน หมูแผ่นหมูหยอง ตั้งแผงอยู่บริเวณทางเท้า เครื่องเงินจากชนชาวเขา ขนมจีนประโดก ผ้าไหมปักธงชัย ๑๗ ธูปควันลอยอบอวล เปลวเทียนกำลังลุกช่วง พวงมาลัยดอกดาวเรือง สีเหลืองอร่าม สักการะ รูปปั้นประติมากรรมคุณย่า ผู้คนพลุกพล่าน กราบไหว้อธิษฐานขอพร แววตา ฉาบด้วยความอิ่มอุ่น อิ่มบุญ แสงไฟจากกล้องถ่ายรูป ประกายวาววับ ความจริงแปรเปลี่ยน เป็นความทรงจำ ว่าครั้งหนึ่ง... ๑๘ ฝูงปลา ดีดไหวอยู่กลางสระ โฉบเฉี่ยวระเรี่ยพื้นผิว ๑๙ จูงมือผู้ที่คาดหวัง สู่ซุ้มประตูโบราณ ซุ้มประตูชุมพล ถูกสร้างแต่ครั้นกำเนิดเมือง ต่างถิ่นที่เดินลอดผ่าน ตำนานเล่าขาน รุ่งเช้าเจ้าจะกลับมาเยือนอีกหน กับหัวใจที่หล่นหาย อย่างไร้ร่องรอย ๒๐ อีกสี่ห้าก้าว ก็ล่วงเท้าเข้าสู่งาน เทศกาลดนตรี หน้าศาลากลาง เสียงกระเซ้าของนักร้องสาว ปลายนิ้วเริงระบำ บนเส้นสาย ผู้ชมกรีดร้อง ท่วงทำนองสามช่า ลูกเอื้อนกระดกและลูกคอ ของเพลงลูกทุ่ง แทรกสำเนียงอีสาน และสำเนียงด้ามขวาน เด็กๆเล่นไล่จับอยู่หน้าเวที บีบอย-กลุ่มใหญ่ กระโดดโลดเต้น โชว์เพลงและสเต๊ปเท้า เสียงปรบมือที่ดังกึกก้อง แสดงออกถึงความชื่นชม เสียงแซกโซโฟนสะกดตรึง ละเมียด สุนทรียแห่งดนตรีแจ๊ส เวทีเพลงพื้นบ้าน คนแก่นุ่งโจงกระเบน เคี้ยวหมาก จับกลุ่มนั่งอยู่หน้าเวที เรียกขานว่าเพลงโคราช ขับร้องด้วยภาษาโคราช ร่ายรำด้วยท่วงท่า ไร้เสียงดนตรีอื่นใด ไร้เครื่องดนตรีชนิดไหน หนึ่งเดียวในสยาม ขับกล่อม สายไหมหยอดเหรียญ ปลาหมึกย่าง ขนมถังแตก ขนมเบื้องญวน คนรุมซื้อ ขนมหม้อแกง แตงไทยใส่น้ำแข็ง ลูกโป่งสวรรค์ เด็กๆร้องครวญคร่ำ ร่ำไห้ ๒๑ คืนค่ำ... ลอยเรือท่ามกอดแห่งขุนเขา ในอ่างเก็บน้ำ ที่ลำพระเพลิง ริ้วคลื่นสะบัดไกว ลมรำลึกฝากความคิดถึง ฝูงปลากระซิบบอก สารภาพ ตะเกียงหนึ่งหรี่แสง จักรวาลปลอมประโลม หมู่ดาวที่กำลังหนาวสั่นข้าแลเห็น จนรุ่งสาง แสงแดดในยามเช้า โลมเลียหัวใจของข้าจนตื่น หลับฝัน ... สกินเฮด 20/06/52 20.07 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2010, 01:49:PM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/sea/galicia.jpg)
ค่อนสายบนถนนหนทางแห่งเมืองราชสีมา ปกคลุมกลิ่นหมอกลมหนาวเหยียดยาวอบอวล เด็กน้อยหญิงสาวชายชรากับเสื้อผ้าเฉดสีตัวหนาหนาวอุ่น แววตาเป็นประกายทุกครั้งยามมองเรือนร่างถิ่นเกิด สายลมมิเคยหอมหวลความหนาวลากยาวจรดดินแดนท้องสมุทรมรสุม เกลื่ยวคลื่นหาดทรายชาวเลปราศจากผ้าห่มผืนใดเปล่าเปลือย เสื้อเก่ากางเกงขาดถูกยัดลงกระเป๋าสองข้างขนาบขวา เทือกเขาสันกาลาคิริกับอ้อมกอดของท่านยามนิทรา หยาดน้ำค้างหยดฝนกลิ่นทะเลเกล็ดเค็ม นกกระจอกโบยบินออกจากรังพาดผ่านเทือกเขาแห่งดงพญา จักนำพาซุกปีกแห่งท่านคือฝันอันนิจนิรันดร์ ... สกินเฮด 23/11/52 โบยบินสู่นิรันดร์ หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2010, 08:51:AM (http://img168.imageshack.us/img168/9633/goth2ye4.gif)
พระจันทร์บดบังตัวฉันจนมืดมิด ผิดแผกขืนขวางสรรพสิ่งตามทางวิถี ไร้เงาทอดตัวยาวบนพรมสีขาวของโลก มิเคยหลาบจำกลับฝั่งร่างลงบนถ้อยคำอันเคว้งคว้างเลื่อนลอย เสียงสวรรค์เบื้องบนเพียงกล่อม เสียงนกร้องดังกู่ก้องเสียดภูผา หรือว่ามันเป็นเสียงแห่งความหวาดกลัวหวาดผวา ต้องอีกสักกี่ครั้ง ต้องอีกสักกี่วัน กับการค้นหาความหวังที่ตกหล่นบนความเลือนราง ทั้งๆปุถุชนเดรัจฉานเหยียบย่ำจมอสุภอันโสมมคือฉันบอบช้ำ... สกินเฮด 16/2/53 Dive With Me หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2010, 01:01:AM (http://img91.imageshack.us/img91/5127/rosesforvenusbydhollui0.jpg)
ดอกไม้ตกหล่นจากมือของฉัน มันแห้งเหี่ยวซีดเซียวปราศจากความฝัน เลือดหยดรดหลั่งหลังมือท่วมเท้า แสงแดดจากดาวดวงนั้นสำทับส่องสะท้านทับร่างของฉันจนเปื่อย เสียงสวดภาวนาด้วยภาษาสันสกฤต หวังดับความฟุ้งซ่านจากภายใน เพียงลมพัดไหวหัวใจก็โยกขยับ มันไม่อาจตอบรับแม้นกระทั่งวจนะแห่งพระพุทธองค์ เปลี่ยนแปลงคือนิรันดร อาจเป็นเพียงถ้อยคำสัจธรรมทว่าคราบความทรมานยังคงเปรอะเปื้อน ... สกินเฮด 19/2/53 Valentine's Day Flowers drop from my hands. Haggard haggard dream without them. Shed blood after drop reduce flood foot cell. Sunlight from the star is nearly as loudly reiterate my lap draft and rot. Complaint with the Sanskrit prayer. Hope to be distracted by internal fighting. Just wind it possible heart rock moved. It may not be accepted even though Word of the Buddha. Change is eternal. You may be the only word the truth that suffering continues stains stained. ขอบคุณ...คุณเคียงดินนะครับ สำหรับคำแปลภาคภาษาอังกฤษ หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2010, 02:07:PM (http://img27.imageshack.us/img27/3704/rainingn.jpg)
เสียงน้ำแตกแผดซ่านสั่นสะเทือนท้านสรวงสวรรค์มหาสมุทร ดำดิ่งเพียงกายหากจิตวิญญาณยังคงลอยเคว้ง ทะเลสีดำหยาดละอองหยดน้ำท่วมร่างชายนิรนามกับความบอบช้ำ คว้าหาความหมายแห่งรักแท้ไร้สรรพสิ่งใดๆตอบสนอง สิ่งที่วาดหวังหากคือความเดียวดายท่ามท้องน้ำนามสมมุติ ทับถมนับหมื่นพันกับถ้อยคำแห่งความโหยหา ลมหายใจแห่งรัตติกาลเร้นหาย นับแต่ปลายร่างจรดขอบภูผาท้องนภานัยน์ตาแดงก่ำ ... สกินเฮด 24/2/53 sad หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 02:35:PM (http://xchange.teenee.com/up01/post-27976-1212310313.jpg)
เสียงกลองไร้สรรพนามฟาดกระหน่ำดังมาแต่หนไหน หมายว่าท้องฟ้าสีดำทะมึนกำลังคืบคลานมาเยี่ยมเยือน หยาดเหงื่อหยดหล่นดั่งสายน้ำนิจนิรันดรร่วงลงมาจากแดนสวรรค์ ผุดพรายล้นทะลักสุสานกลางป่าหิมพานต์เยี่ยงในตำนานร่ำลือ คุ้ยเขี่ยราวสัตว์เดรัจฉานอดโซ ควานคว้าหาอักษรนับล้านหากหลบซ่อนมิยอมเผยร่าง เสียงเต้นสั่นระทึกก้องกังวานออกมาจากภายใน หวังอักษรเพียงเดียวแม้นคลุกฝุ่นจนโทรมเปรอะเปื้อน ปรารถนาวาดความงดงามดั่งจินตนาการแห่งฉันคือเธอ ... สกินเฮด 25/2/53 " From The Inside " หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 02 มีนาคม 2010, 08:15:AM (http://thummada.com/php_upload2/Moon103.jpg)
คืนค่ำแห่งนิทราด้วยถ้อยคำวาจาไร้ปรากฏ สายลมหอบพาเสียงปืนดังมาจากฝั่งชะแล้ เขม่าควันเลือนรางหากความตายได้สิงสถิต ความตะลึงงันคือภาพความจริงที่กำลังร่วงหล่น หมอกหนาหยดน้ำตาระคนความโหยหาคับคั่งร่วมงานศพ หากยังคงไร้ซึ่งความหมายในคำตอบที่เงียบสงบ ... สกินเฮด 26/11/52 "เสียงปืนดังมาจากฝั่งชะแล้ " หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 02 มีนาคม 2010, 04:00:PM (http://www.o2blog.com/upload/pim357/upload-dcCWz41.jpg)
คุดคู้อยู่บนชีวิต นอนจมความทุกข์ร้อนจนง่อยเปลี้ยเสียขา อนัตตาเดินผ่านร้องระงม เพียงขยับเปลือกตาปีนข้ามขอบสูงเชิงผา ท้องฟ้าครามท่ามเมฆาต่างเริงร่าเต้นระบำ ... สกินเฮด 2/3/53 "เจ็บปวด" หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 04 มีนาคม 2010, 08:47:PM (http://www.dnp.go.th/fca16/file/tqngp789pajw6uz.jpg)
ดาวเสาร์ทับลัคน์ ดาวมฤตยูเดินทางมารู้จัก คือผู้กำหนดดวงชะตาตัวอักษรพลิกหล่นจากเส้นบรรทัด วิบากกรรมมิเคยหยุดหย่อนซ้ำๆนับก้าวพึ่งผ่านเพียงหนึ่ง ความบอบช้ำสลัดพรมผืนนั้นวางทาบดวงดาวมิจรดรอบแห่งวงโคจร ความทุกข์แสนสาหัสวางเท้าเหยียบย่ำ ถาโถมด้วยคลื่นลมทะเลผู้บ้าคลั่ง ซัดพาความทะเยอะทะยานจนแหลกสลายซากเกลื่อน เพ่งมองเพียงจิตวิญญาณบนเชิงตะกอนริมหาดเกรียมไหม้ด้วยไฟประลัยกัลป์อนันตกาล ... สกินเฮด 2/3/53 Fire หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 08 มีนาคม 2010, 10:00:AM (http://webboard.yenta4.com/uploads/2009/08/20/333110-2173824_attachment.jpg)
แหงนหน้าสบถคำด่าแด่ท้องฟ้า ถ่มถุยน้ำลายราดรดตัวตนจนเปียกฉ่ำ นั่งจมความเศร้าอดีตกาลที่ผ่านมิลืม เหตุใดหัวใจจึงอ่อนแอร่ำไห้ เหตุใดท้องฟ้าสีใสหากยังคงเป็นสีดำหรือฉันกำหนด เกลือกกลิ้งอยู่แต่โคลนตม มิยอมโผล่ผุดเหนือน้ำแหวกอากาศกลางมหานทีแห่งชีวิต พร่ำบอกแด่สรรพสิ่งเมื่อตั้งคำถามฉันสบายดี พร่ำบอกตัวตนเมื่อตั้งคำถามฉันมีความสุข พร่ำบอกสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าฉันคือความว่าง แม้นทุกอย่างก้าวล่วงผ่านมาอย่างเนิ่นนาน ... สกินเฮด 4/3/53 I'm Fine หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 14 มีนาคม 2010, 07:57:AM (http://www3.telus.net/charleslie/FootFuck.jpg)
เสียงกรีดร้องเหล่าทวยเทพบนสรวงสวรรค์ นกฟีนิกซ์มิฟื้นคืนร่างจากเถ้าถ่าน ท้องฟ้ามิกลับมาแจ่มใสขุนเขานั่งกอดเข่าคุดคู้ ท้องทะเลยอมจำนนต่อสายลมบนเกลียวคลื่น เสียงที่เงียบสงบกำลังก่อร่าง อสูรกายถูกขังในสันดานกำลังสะบัดโซ่ตรวน บ้านเมืองมิเป็นดังที่หวังปวงชน มันคือความปรารถนาของใครบางกลุ่มเยี่ยงเดรัจฉานขาดสามัญสำนึก อำนาจถูกโอบกอดด้วยคนจำนวนเพียงน้อย เฉดสีต่างๆมิเคยคิดผสานหลอมรวม สึนามิรอบใหม่กำลังย่างกายเข้าถล่ม กี่ครั้งสักกี่ครั้งกับความพังพินาศ กี่ครั้งสักกี่ครั้งกับความฉิบหายกองพะเนิน กี่สักกี่ครั้งกับถ้อยคำกล่าวอ้างทำเพื่อชาวบ้านและคนส่วนใหญ่ หากบนซากปรักหักพังเนื้อหนังเท้าเฒ่าทารกเดินย่ำซ้ำๆนัยน์ตาใสซื่อ ... สกินเฮด 4/3/53 !!! CENCER !!! หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 15 มีนาคม 2010, 08:20:AM กวีเดียวดาย...ร่ายถ้อย...เรียงร้อยพจน์ จึงปรากฏ...บทกวี...ที่สวยใส ปล่อยความคิด...จิตตน...ให้ด้นไกล ล่องลอยไป...ในห้วง...ของช่วงกาล ร้อยสลัก...ถักคำ...นำมาเขียน ช่างพากเพียร...เนียนนวล...ชวนให้อ่าน ลีลางาม...ความรู้...ดูเชี่ยวชาญ เป็นตำนาน...จารไว้....ในวงวรรณ โอ... emo_28 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 19 มีนาคม 2010, 05:26:PM (http://images.palungjit.com/attachments/21330d1250569074-emo-cry-m179840-jpg)
เสียงร่ำไห้คร่ำครวญปานฟ้าถล่มแผ่นดินแยกแตกสลาย สายธารน้ำตาเอ่อไหลท่วมจักรวาลจนสุดทางช้างเผือก การเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์อันเที่ยงแท้ การเดินจากมิหันหลังมันคือความทรมานแสนสาหัส เฝ้ารอความหวังทั้งๆที่ประตูตอกหมุดลงกลอน ร้องไห้เถิด...ร้องไห้จนเลือดไหลออกจากกายเหือดแห้ง ร้องไห้เถิด...ร้องไห้จนไม่เหลือใครแอบมอง หากทุกอย่างที่แหลกสลายก็มิอาจกลับมาเป็นเช่นดังเดิม ... สกินเฮด 4/3/53 Cry หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 20 มีนาคม 2010, 04:33:PM (http://img210.imageshack.us/img210/5530/missyoupimua0.jpg)
ดวงตะวันวาดวงหน้าร่ำไห้หลบซ่อน ยามสนธยากับการสนทนาพร่ำบ่นดังระงม เสียงเห่าหอนของสุนัขป่าดังมาจากฝั่งตะวันออก บนหนทางที่แสนขรุขระมือกุมกำพลัดหลุดพลัดหลง ความผูกพันอย่างเนิ่นนานโอบรัดปกปิดดวงตาของฉันจนมืดสนิท ระยะทางเริ่มถอยห่างเมื่อเธอเดินย่างตามฝัน ถูกผิด ผิดถูก มิมีคำตอบ สะกิดหัวใจตัวตนที่เปลี่ยวเหงาเพียงนั่งลำพังชันเข่าบนพื้นพรมแห่งความจริง กระซิบกระซาบถามจันทร์นั่งเล่าความหลังอันงดงามระหว่างกันอบอุ่น ... สกินเฮด 9/3/53 Star And Me หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 23 มีนาคม 2010, 09:11:AM (http://i21.photobucket.com/albums/b279/Moody81Blues/kopia_011.jpg)
ดวงตาที่โศกเศร้ากับความเงียบเหงาเหม่อลอย นอนเปลือยกายพันร่างด้วยความทรมานปักตรึง ริมฝีปากเครือสั่นเมื่อการเดินทางมาถึงทางตันสิ้นสุด เก็บงำทุกอย่างไว้ในซอกเหลือบเหม็นอับ อมพะนำทุกครั้งกับคำถามซ้ำๆซากๆเจ็บปวด เพียงพอหรือยังกับการกระทำชำเราความรู้สึกของฉันห้วงลึก เพียงพอหรือยังกับการสำเร็จความใคร่บนกองเลือดหลั่งไหลออกจากหัวใจไม่ยอมหยุด หรือความตายเท่านั้นคือแสงสว่างแห่งความหวังอันนิรันดรเที่ยงแท้ ... สกินเฮด 9/3/53 Dead Poem หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 27 มีนาคม 2010, 08:05:AM (http://mblog.manager.co.th/uploads/2727/images/emo00.jpg)
ก้อนเมฆสีดำปกปิดทุกอย่างจนหวาดผวา เสียงขู่ตะคอกของฝูงอีกาดังสนั่นมาแต่ท้องฟ้าที่กว้างไกล ในห้องที่อับชื่น เปลวไฟกำลังเผาไหม้ความหวังมลายกลับกลายเถ้าถ่าน หากวิญญาณที่ถูกกักขังยังคงลอยล่อง แม้นกระทั่งลมหายใจอันเบาแผ่ว เนิ่นนานบนความเจ็บช้ำระทม กาลเวลาล่วงผ่าน ความรู้สึกมิเคยล่วงเลย ขอหยุดทุกอย่างลงอย่างเงียบๆ ขอหยุดทุกอย่างไม่ขอทำความเข้าใจ ขอหยุดความเคลื่อนไหวไว้ลงบนกองเลือดของฉันที่กำลังหยดไหล ... สกินเฮด 13/3/53 Stop หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 03 เมษายน 2010, 11:48:AM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/skinheadpoet/thebook.jpg)
ท่ามเงาจันทร์มิเคยเฉียดผ่าน ผวากอดเพียงความว่างเปล่า โมงยามฝั่งร่างในห้องที่รกรื้อ เสียงซาตานสิงสถิตครางอืออึง คือหัตถ์แห่งความตาย ผู้แผ่สยายทับซากกองกระดูก รอยเลือดแห้งกรังเป็นเส้นทาง ความทรงจำอดีตกาลฝั่งรอยปวดร้าว ถาโถมขืนขย่มคืนวันอันเปลี่ยวเหงา หากจิตวิญญาณแห่งฉันคือผู้โหยหวน ... สกินเฮด 21/3/53 NiGht Of EmPty หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 05 เมษายน 2010, 06:54:PM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/skinheadpoet/Xgirl.jpg)
เสียงเขย่ากรงดังออกมาจากภายใน ของเหยื่อตัวสุดท้ายผู้พ่ายสารภาพ แผลเป็นเมื่อครั้งอดีตกาลปูดโปน ท่ามท้องฟ้าถูกทารุณกรรมรอยฟกช้ำบาดแผล กลิ่นเหม็นเน่าซากศพทับถม หยดเลือดหยดกระเด็นเปรอะคราบ หลับตาหมายว่าหลีกหลบ คมเขี้ยวกลับฝั่งร่างจมลึกอีกครั้งและอีกครั้ง ฉีกกระชากเนื้อหนังหัวใจที่บอบช้ำ ป้ายแขวนความหมายของคำว่ารักจับฝุ่น หวังว่าความทรมานคือผู้ปลดปล่อย ความเจ็บปวดคือหนทางแห่งการดับทุกข์ หรือแสงตะวันกำลังเจิดจ้า ภายใต้หน้ากากแห่งพญามัจจุราชที่ไม่อาจหลุดพ้น ... สกินเฮด 22/3/53 VicTim หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 09 เมษายน 2010, 09:19:PM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/skinheadpoet/Aberrant.jpg)
กะโหลกหนาด้วยอัตตา จิตวิญญาณถูกประมูลราคาต่ำสุด คำสอนพระศาสดาจึงพร่าเลือน หวังเพียงการผสมพันธุ์อย่างเมามัน แวดล้อมกักขฬะและการฆาตกรรมอำพรางซ่อนเงื่อน แม้นหนทางเมือก-ลื่นอีกยาวไกล ด้วยเล่ห์เหลี่ยมอกุศลนโยบาย เพียงเดียวอสุจิจัญไรจึงกลายเป็นผู้กำชัยในการศึก สรวงสวรรค์สะเทือนสะท้านทั่วรังไข่ มดลูกแอบสะอื้นร่ำไห้ ความวุ่นวายก่อตัวถือกำเนิด ... สกินเฮด 22/3/53 Sperm หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 10 เมษายน 2010, 06:13:PM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/skinheadpoet/PatienceAngel.jpg)
อรุณรุ่งฉีกขาด เสียงหวีดร้องของสายลม ทิวสนลู่เอนโยกไหว วิญญาณร่อนเร่ล่องลอย เหนือหลุมศพโบราณในป่าช้ารกร้าง บทกวีฝุ่นจับถูกรื้อพลิกอ่าน เพื่อตอกย้ำภาพความทรงจำอันแสนเจ็บปวด มาเถิด...ผู้ผิดหวัง เดินทางมาทบทวนความหลัง มาเถิด...ผู้บอบช้ำ คมมีดสนิมเขรอะจะกรีดบาด มาเถิด...ผู้พ่ายแพ้ แม้นนาฬิกาจะฆ่าตัวตายไร้ถ้อยคำอื่นใดให้รำลึก มาเถิด...!!! มารักษาบาดแผลด้วยเข็มปลายแหลมทิ่มแทง จนเลือดหยดไหลบทกวีบทสุดท้ายหลั่งชโลม ... สกินเฮด 25/3/53 CeMeTeRy ปล.งานเขียนชิ้นนี้เขียนขึ้นเพื่ออ่านเปิด " เทศกาลบทกวีกรีดร้องในป่าช้า " By...สกินเฮด CoMing Soon !!! หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 12 เมษายน 2010, 07:38:PM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/skinheadpoet/SpiritWalk.jpg)
ดาวน้อยใหญ่ยืนซากแบกจักรวาล ผู้พิการแขนขาผุหักสมองฟั่นเฟือน หากหมุนวนรอบตัวตนคือศูนย์กลาง หลุมดำแผ่กว้างกล่าวถ้อยคำเตือน โมงยามมิอาจเดินตาม ความฝันกิ่งก้านเกี่ยวเกาะ ทุกข์กลบฝั่งทับถมทรมาน เลือดหลั่งชโลมล้างบนความแตกร้าว ... สกินเฮด 29/3/53 Universe หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 12 เมษายน 2010, 07:39:PM อาจจะไม่ค่อยได้สื่อสารแด่มวลมิตรสหายสักเท่าไหร่
อยากให้ท่านทั้งหลายเสพงานอย่างเมามันมากกว่า สกินเฮด 12/4/53 หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 13 เมษายน 2010, 04:08:PM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/skinheadpoet/e61c252f7534511d.jpeg)
แหงนมองท้องฟ้ายามอรุณสาดแสง มันคือความเจ็บปวดรวดร้าว จมปลักบนความใฝ่ฝัน ทุกอย่างคือความงดงาม แม้นส่องร่างกระทบกระจกร้าว ถาโถมด้วยคลื่นลมแห่งความหวัง ทว่าคืนวันเดินทางอนันตกาล ปุถุชนถือคนเมายา กรีดแขนตัวตนอีกสักครั้ง หากความมืดดำยังคงปกคลุม ... สกินเฮด 30/3/53 Slit หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 14 เมษายน 2010, 09:42:AM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/skinheadpoet/jacek_yerka_13.jpg)
กับกาลเวลาที่เดินผ่าน เงื่อนงำแห่งการดำเนินพันผูก ห้วงเวลาที่มืดบอด เคว้งคว้างไร้หนทาง จินตนาการถูกปิดกั้น แม้นล่องลอยอยู่บนฟากฟ้าแต่ผู้เดียว หากคือความสับสน... เสียงเพลงแอบบรรเลง เสียงนกร้องผสาน และแสงตะวัน ฉันพยายามบีบคั้น เค้นเข็นทุกอย่างจากภายใน ว่างเปล่า... ไม่มีเหตุผล ไม่มีตัวตน ไม่พบแหล่งหน ไม่พบถ้อยคำและวาจาพ่นสบถ แม้นความปรารถนาอยากปะทุ รุมเร้าปลดเปลื้อง ฉันไม่อาจเขียนบทกวีชั้นดีได้อีกต่อไป... ... สกินเฮด 5/4/53 PusH หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 15 เมษายน 2010, 11:42:AM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/skinheadpoet/Wetworks___by_adonihs.jpg)
มนต์ดำทาบท้องฟ้าจรดภูผามหาสมุทร ประตูทวารทั้งหกถูกปิดตอกหมุด แสงแดดแยกเขี้ยวขย้ำ ฉีกกัดเนื้อหนังสรรพสิ่งสั่นกระตุก ความหวาดกลัวคืบคลาน ยังเสียงหายใจเข้าออกเพียงผ่าน ซากศพเดินย่ำรับคำสั่ง ตลอดทางจากปากช่องคลอดถึงมดลูกแฉะระรื่น เลือดคลั่งกับมารหัวขนจึงล้นทะลักออกจากครรภ์ สมุดข่อยคัมภีร์โบราณเนิ่นนานถูกสุม ปากขมิบกับเครื่องบรรณาการ ก็กล่าวอ้างพระสุรเสียงเสียบรรลุ ขอบพัทธสีมาป่าขึ้นรกชัฏกับใบไม้ร่วงหลุด มวลความหวังอันสัปดน คือผู้คนผู้ไม่เคยขุดค้น ถึงหลุมแหล่งที่ให้กำเนิด ตราบจนดินกลบฝังทั่วร่างชั่วกาลนาน ... สกินเฮด 6/4/53 HomE หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 15 เมษายน 2010, 11:46:AM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/skinheadpoet/alexiuss1.jpg)
ดวงตะวันบนเหลี่ยมขอบ สายลมโชยผ่าน ผู้โบกสะบัดริ้วผ้าแพรห่มสมุทร ฝูงนกจากดินแดนเทพนิยาย คลอเคลียท้องฟ้าเปลือยหัวใจไร้รอยขีด ต้นสนเรียวกิ่งแตกหัก ทิวเขาอันเงียบสงบ ละอองฟองกระเด็นกระดอน เสียงเคาะม้านั่งผุพังผสมผสาน บทกวีบอบช้ำสรรพางค์ตกหล่น ท่ามเปลวแดดลูบไล้เรือนกายเหงื่อหยด หากเงาสะท้อนทอดยาว บนรอยเท้าเปรอะเปื้อนหาดขาว หาใช่ปรารถนาความหมาย เมียงมองเพียงความเวิ้งว้าง อีกไม่นาน... ม่านรัตติกาลกำลังเดินทางมาปกคลุม ... สกินเฮด 7/4/53 EverLasTinG หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 17 เมษายน 2010, 10:03:AM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/skinheadpoet/Yours_Truly_by_angel1592.jpg)
ยิ่งผูกยิ่งมัดยิ่งพันหลัก... กาลเวลาหาใช่เข็มนาฬิการ่วงหลุด ภาระหน้าที่มุ่งมั่น คือความฝันอันวาดวางด้วยรอยเท้าและฝ่ามือ ตลอดหนทางที่เดินผ่าน หากยังคงรอยยิ้มหอมหวาน เมื่อแสงแดดงดงามสาดส่องผีเสื้อเหนือมวลบุปผชาติ ... สกินเฮด 11/4/53 ThE WoMan On ThE roaD ปล.แด่น้องสาวท่านหนึ่งครับ หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 28 เมษายน 2010, 09:32:AM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/skinheadpoet/Lush_by_Shinybinary.jpg)
หรือต่างช่องคลอด หรือต่างสายพันธุ์ แม้นกระทั่งมดลูก... สายรกจึงรัดคอพันร่าง ตรึงประทับด้วยถ้อยคำ มาตรจิตวิญญาณชั่วช้าสายเลือดแห่งเดรัจฉาน ท่ามน้ำคร่ำละเลงเลือดปะปน กดขี่เย็บย่ำทุกหนทางคือสัญจร หรือหลุดรอดแห่งครรภ์นั้นหมายหายนะ ทว่าแสงสว่างแต่ภายนอก คือมืดสลัวเดือนดับไร้หนทางเข้าออก อากาศหายใจเวียนไหลแต่ภายในวนจักรภพ ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนสลับสี แดงเถือกเหลืองอำพันสีดำยามคืนค่ำ หากยังคงถูกขังด้วยพลังแห่งตัณหาทั้งม่านมายา ตราบาปแห้งกรังคราบอสุจิติดผนังท้องถนน ... สกินเฮด 11/4/53 UteRus หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 08 พฤษภาคม 2010, 09:57:AM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/skinheadpoet/WoFt.jpg)
มาตรนิยามบทกวีกรีดแขน คือถ้อยคำเรียงร้อยเปรอะคราบ สะท้อนผ่านกระจกร้าวพรั่งพรู น้อยคนด้วยสังคมฝูงใหญ่ มากคนด้วยผู้คนฉาบมายา กรีดแขนเลือดหลั่งมิอาจนับครั้ง จุ่มเมือกด้วยปลายแท่งแห่งดรรชนี ปาดป้ายทั่วท้องฟ้าจักรวาล สบถพ่นถึงสันดานอันหยาบเถื่อน คือมนุษย์คือสัตว์ป่าคือเดรัจฉาน คือหลังม่านดวงจันทร์ผู้มิเคยทาบวางกระจ่างถึง ... สกินเฮด 12/4/53 ThE WoLfMan AnD ThE MooN BLaCk หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 11 กันยายน 2011, 09:49:AM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/672/9672/images/baby/46406.jpg)
กลับมาอีกครั้ง กลับมาตามความรู้สึก เมื่อรู้สึก...คิดถึง ฉันพยายามเดินห่าง ก้าวย้ำออกไปจนไกลโพ้น ทว่าด้วยเหตุอันใด จึงไม่สามารถออกไปได้ไกลจนสุดขอบฟ้า มิเคยคาดหวัง กับสิ่งที่กระทำ ว่าต้องสัมฤทธิ์และเป็นผล มิเคยขีดกรอบ และกำหนดหนทางกับความรู้สึก เพียงปล่อยให้มันล่องลอย อย่างไร้แนวทางและจุดมุ่งหมาย ดั่งเรือลำน้อยที่ลอยเคว้ง แล้วแต่เมฆฝน แล้วแต่สายลม แล้วแต่ความพอใจของแสงแดดกับเกลียวคลื่น แล้วแต่แรงปรารถนาจากลิขิตของเธอ สกินเฮด 5/05/54 เพียงรัก หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2013, 01:52:PM (http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/c99.0.403.403/p403x403/64504_438205079582560_721645893_n.jpg)
ฝืนยิ้มเมื่อมีผู้คนยิ้มทัก ความเจ็บปวดยังคงอยู่ เรื่องราวในครั้งนั้นยังคงฝังจดและจำ แม้นกาลเวลาจะพยายามโอบกอด และปลอมประโลมด้วยถ้อยคำ มันไม่สามารถบอกได้ว่าอีกนานไหม ถึงจะผ่านห้วงเวลาเช่นนี้ไปได้ มันไม่มีเหตุและผลจากสิ่งใดชี้นำ ว่าต้องทำอย่างไรและต้องเดินไปในทิศทางไหน แม้นในมือของฉันยังคงกำดอกไม้ช่อใหญ่จากใครคนหนึ่ง… สกินเฮด 14-2-56 Hold Me หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 14 ตุลาคม 2019, 02:08:PM กับดักคือความสุข
เราจึงมุ่งหน้าเพื่อการแก้ปัญหาสู่เป้าหมาย ด้วยการหลงกลของจิตที่หมองหม่น ชีวิตจึงติดหล่ม จมปลักอยู่กับหนี้สินแห่งการดำรงชีพ ความบัดซบโหมทับ คือการฉีกกัดซากศพของคนบางกลุ่ม ที่ฉวยโอกาสจากคนด้อยโอกาส ท่ามกลางสังคมที่โสมม เราจึงทำได้แต่เพียงยื้อกระชากร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผล ให้ถูกไถไปตามพื้นถนนปะปนด้วยหินกรวดและกองขยะ ให้เลือดไหลออกตลอดทางตราบแห้งกรัง เหลือความหวังจากการรอคอยที่ริบหรี่ แล้วค่อยๆให้เชือกแห่งพันธนาการรัดคอ รอจนลมหายใจเฮือกสุดท้ายได้เดินจากไป ... บทกวี : Destroy เขียน : 18/08/60 เวลา : 00.14 น หัวข้อ: Re: ก วี เ ดี ย ว ด า ย เริ่มหัวข้อโดย: skinhead ที่ 14 ตุลาคม 2019, 02:11:PM ตื่นตระหนก...!!!
คือเสียงลมพัด ที่ตกกระแทกกับความว่างเปล่า สติถูกชักพาด้วยความมืดดำ ความบอดใบ้ต่างเปล่งเสียง เร่งก้าวเข้าครอบงำเหนือมนุษย์... ถ้อยคำต่างทำหน้าที่ กรีดบาดจนทั่วร่าง เลือดแห่งความโง่เขลา ไหลแผ่กระจาย กระทั่งเต็มพื้นดิน... เรากอบโปรยได้แต่เพียง ผงฝุ่นของสิ่งสมมุติ ปล่อยลมหายใจอย่างแผ่วเบา ทุกอย่างก็ฟุ้งกระจาย จนเต็มท้องฟ้ามหาสมุทร... บทกวี:Suppose เวลา:07/05/58 |