หัวข้อ: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 02 กันยายน 2009, 09:45:AM ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า จะซ่อนโศกดวงตาพาหลับใหล ฟังโลกกล่อมบรรเลงเพลงเรไร ระเรื่อยลมพรมไกวเวิ้งนิทรา ผ่านเหนื่อยหนักอย่างไรโลกใบนี้ ถามราตรีโรยแรงแสวงหา กี่รอยหมองกังวลหม่นทิวา พักดวงตาหลับใหลอุ่นไอดาว จะหมายหวังสิ่งใดในวันพรุ่ง รอแสงรุ่งทาบทองขึ้นผ่องหาว ความแจ่มชัดจะปลอบปลุกทุกเรื่องราว โลกบอกกล่าวการเรียนรู้อยู่ทุกพาย ผละอ้อมอุ่นไอดินจางกลิ่นฟ้า เราจากมาเพื่อสิ้นสุดแห่งจุดหมาย ดับชื่นโศกในเงาอันเปล่าดาย ทิ้งเรื่องราวมากมายในชีวิต หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 02 กันยายน 2009, 11:06:PM มองโลกเรียบเย็นเย็ยบเงียบสงบ
เราต่างลบเรื่องราวม่านชีวิต ปลดอนธการมัวหมอง ไต่ตรองจิต แล้วนำพาชีวิต ลิขิตเดิน ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า ลำนำพาประสบเย็น น่าสรรเสริญ ทิ้งสุขโศกโบกลาสิ่งพาเพลิน นิ่งเผชิญ นำสู่สงบเย็น หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: กอบรัก ที่ 03 กันยายน 2009, 10:01:AM ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นรัก.... emo_46 คิดถึงนักจากไปให้คิดถึง มาอ่านกลอนแล้วเศร้าเหงารำพึง คะนึงถึง น้องนาง ยามห่างไกล ถ้าเหนื่อยนักพักผ่อนก่อนเถิดหนา พี่ก็เพิ่ง เข้ามา วันฟ้าใส งานพี่นั้นยุ่งเหยิงเหมือนเพลิงไฟ รับงานไว้ ด่วนจี๋...ทุกที่เลย..............จ้ะ emo_23 หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: ปาระ ที่ 03 กันยายน 2009, 11:12:AM ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า
ในพาลาเขตขัณฑ์บรรพตสรวง ขอบนภาเพลาค่ำย่ำแดนดวง ดุจดั่งทรวงอุ่นรักจักพบพา ในอ้อมอุ่นไอลมชมเชยเนื้อ ความหนาวเหลือเอื่อไอรักจักครวญหา ยามย่ำค่ำสุริยนสนธยา จำนันจาพารักมาปักทรวง หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: กันกะซีโฟร์ (GUN & C4) ที่ 04 กันยายน 2009, 02:24:PM มองโลกเรียบเย็นเย็ยบเงียบสงบ เราต่างลบเรื่องราวม่านชีวิต ปลดอนธการมัวหมอง ไต่ตรองจิต แล้วนำพาชีวิต ลิขิตเดิน ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า ลำนำพาประสบเย็น น่าสรรเสริญ ทิ้งสุขโศกโบกลาสิ่งพาเพลิน นิ่งเผชิญ นำสู่สงบเย็น ๐ นอนกลางดินกินลม ดมเมฆา หมองอุราหาทาง ห่างทุกข์เข็ญ สงบจิตคิดดู รู้ประเด็น พ้นลำเค็ญเห็นธรรม นำชื่นบาน ๐ หากมองโลกโศกเศร้า นั่นเผาจิต ทางชีวิตคิดดี มีสุขศานต์ พอเพียงตนล้นเหลือ เจือจุนทาน ขยันงานการดี มั่งมีเอย emo_09 หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: โรแมนติค ที่ 09 กันยายน 2009, 12:47:AM ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า สายลมรักโอบหล้าพาสุขสันต์ แม้จะอยู่แห่งไหนใจผูกพัน ในโลกฝันโลกจริง ยิ่งรักเธอ ท้องฟ้าหม่น ฝนตก วิหคร้อง คิดถึงน้อง นางจัง ใจพลั้งเผลอ หอมกลิ่นกรุ่น ไอดิน จินต์ละเมอ อยากพบเจอ...ทุกครา...คืนฟ้างาม หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 09 กันยายน 2009, 12:57:AM แม้นได้เคียงเพียงภาพก็ซาบซึ้ง เข้าตราตรึงประหนึ่งใจจะไหวหวาม กรุ่นไอดินถิ่นนี้มิเสื่อมทราม ด้วยสมนามแห่งสถาน...วิมานดิน ...แบบว่า หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: ╰☆╮สุดสายป่าน มะขามเปียก♡゚゚・。εїз ที่ 09 กันยายน 2009, 12:55:PM ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า
บนนภาเจือไปด้วยสีแสง ลมพัดพาไอดินหอมกลิ่นแซง เหมือนจะแย่งความงามจากฟ้าไป ฟ้ากับดินถึงถูกทิ้งระยะห่าง ระยะทางมิใช่ตัวกำหนดได้ ว่าดินฟ้าใครสำคัญมากกว่าใคร เพราะอย่างไรก็ต้องคู่กันอยู่ดี ... หัวข้อ: Re: ....ปรารถนาละมุนในอุ่นอ้อม... เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 16 กันยายน 2009, 10:52:AM (http://student.nu.ac.th/butterfly.com/image/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%9C%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD2.gif) อุ่นเอยอุ่นใจจากไออุ่น พักตร์ละมุนละไมไร้เดียงสา มาสบซื่อใสใสในแววตา โอ้น้องจ๋า แม่จากไป ประไพพิมพ์ จันทร์เอ๋ย...ว่าจันทร์จ้าว เถอะนะข้าว หนูขอแค่พออิ่ม ส่วนขนมจะเก็บไว้ให้น้องชิม หวานหวานลิ้ม ชื่นหวานเบิกบานใจ อิ่มเอย...ว่าอิ่มอก อิ่มแล้วหนังตาตกขอหลับไหล จะฝันเป็นผีเสื้อโบยบินไป หยอกกลีบใบพฤกษามวลมาลี เคล้าเกษรละมุนในอุ่นอ้อม ห่มความรักโอบล้อมไปทุกที่ รักจะเติมความฝันอันพึงมี มอบแด่สรรพชีวีด้วยอาทร อุ่นเอยอุ่นใจ จากไออุ่น พักตร์ละมุนสื่อใจอันไหวอ่อน ใสใสซื่อในตาบ่งอาวรณ์ กลัวอุ่นรักจะจรไปจากใจ (http://widget.sanook.com/static_content/full/text/260e5328656231c8aa75f8cab8e3767f_1208331284.gif) หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 16 กันยายน 2009, 12:18:PM ๐ หลับตาสูดไอดินกลิ่นเคยฝัน ในครั้งนั้นที่เจอเธอเคียงข้าง วันแห่งสุขเสมือนภาพเลือนราง ค่อยกระจ่างเหมือนหนึ่งซึ่งความจริง ๐ ในอ้อมอุ่นไอดินหลอมกลิ่นรัก ที่เคยควักหัวใจให้ผู้หญิง จนตายด้านจิตใจไม่ไหวติง กับทุกสิ่งที่ยวนล้วนเพราะเธอ ๐ ยังจำกลิ่นกรุ่นหอมแบบยอมพ่าย กอดฝันร้ายซ้ำซ้ำย้ำเสมอ มโนภาพจำนนจนละเมอ ทุกข์ปรนเปรอล้นปริ่มสุดทิ่มแทง ๐ กลิ่นความรักอลวนปนลุ่มหลง น้ำตาคงไหลแบบมิแอบแฝง ดื่มอดีตวันเก่าเศร้าสำแดง ปล่อยให้แรงคิดถึงทึ้งจนโทรม.. emo_12 หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 16 กันยายน 2009, 12:50:PM ได้ประสบพบกลอนอักษรซึ้ง เสมือนหนึ่ง ตรึงจินต์...หอมกลิ่นโสม กำลังใจ ให้มา พาชะโลม จิตที่โทรม ทดท้อ..ทรมาน เกือบจะหายคลายคืนพบชื่นฉ่ำ เป็นลำนำ "ระนาดฯ" สาดประสาน เสียงปลุกปลอบ มอบภักดิ์ เพราะรักกานท์ อ่านคำขาน วิโยค...โศกจนซึม........ หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: น้องติ๋ว ที่ 17 กันยายน 2009, 01:39:AM ปรารถนา ละมุน ในอุ่นอ้อม ทอรักล้อม หลอมรวม มาร่วมฝัน อุ่นไอดิน หอมกลิ่นฟ้า จ้าแสงจันทร์ ดาวร้อยพัน สรรค์สุข อยู่ทุกครา กวีหวาน ขานเคียง...เพียงอ่านชื่น ใจเริงรื่น ชื่นชม..ห่มภาษา พี่เจ้านาง สานถ้อย ร้อยวาจา อุ่นอุรา..ด้วยรัก...และภักดี........ emo_46 emo_28 หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: Kotchanan ที่ 17 กันยายน 2009, 01:59:AM อ้อมอุ่นในใจนิรันดร์ (http://www.ohzeed.com/bar_022.gif) (http://www.ohzeed.com) วางดอกไม้ใกล้หมอนก่อนนิทรา จุมพิตลาดาวเดือน สู่เรือนฝัน อุ่นเอย.. อุ่นอ้อมแขนแทนตาวัน อุ่นอ้อมนั้นเสมอดินถิ่นอำไพ โบยบินสู่ภวังค์หลังอ่อนล้า กลิ่นมาลาอบอวลล้วนสดใส ทิพย์สถานวิมานแมนแว่นแคว้นใด หว่านดอกรักฝากไว้ให้แอบอิง ต่างจากเทพนิยายมากมายนัก ยิ้มแต้มพักตร์พริ้มเพราแห่งเจ้าหญิง ราวหยาดแสงอุษาว่ามีจริง อ่อนโยนยิ่งดอกไม้ในเมืองฟ้า อยากแปลงปีกปรุงเป็นเช่นผีเสื้อ ร่ายปีกเรื่อเริงร่อนตะลอนหา ซบอุ่นไอหยาดแพร้วแห่งแก้วตา พันธนาใจรัก.. พักนิรันดร์ .... กลีบดอกไม้ใกล้หมอนก่อนรุ่งสาง อวลหอมจางจืดไปไกลเหมือนฝัน อยากชะลอ นวลแสงแห่งตะวัน วางปีกอันอ่อนล้า.. สักนาที. (http://www.ohzeed.com/bar_022.gif) (http://www.ohzeed.com) หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: Timp ที่ 19 กันยายน 2009, 05:55:PM ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า
น้ำค้างปรกยอดหญ้าระยิบไหว ลู่ลมพัดไผ่ต้องกราวเกลื่อนไพร ระผิวใบกังวาลสะท้านพนา หอมอ่อนๆกรุ่นกลิ่นเจือดินปน ชโลมฝน ระคนหวานทั่วทั้งป่า จากหนาวเหน็บเจ็บร้อนเคยก่อนมา ณ ที่นี้หอมดอกฟ้า...พาอุ่นใจ emo_50 ***ถ้าสะกดคำผิดบอกด้วยนะคะ อิอิ หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 20 กันยายน 2009, 05:15:AM ๐ ในยามที่หลงภวังค์อย่างฝังลึก จิตสำนึกสำแดงจนแรงกล้า เสี้ยวความหอมแค่อวลเย้ายวนพา ก็รู้ว่าอดีตสะกิดใจ ๐ ณ ยามนั้นเธอพรอดกอดเคียงข้าง หนาวน้ำค้างพร่างสกลยังทนได้ วาบพระพายสะท้านซ่านทรวงใน โอบกระชับมือไม้ไล้ร่างเธอ ๐ กับนาสาสัมผัสรับซึ่งกลิ่น คือไอดินแทรกกมลของคนเซ่อ ตาจึงพริ้มสู่กลิ่นที่จินต์เจอ ทั้งล่วงเผลอแย้มยิ้มปริ่มหลงครวญ ๐ ว่าจิตใจภวังค์..รั้งภาพเก่า กระตุ้นเร้าวันสุขปลุกยิ้มสรวล นึกถึงมือกุมกันขวัญเย้ายวน ความรักอวลสองร่างอย่างหวานจินต์.. emo_12 หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้จ่อย ที่ 03 ตุลาคม 2009, 01:36:AM ในอ้อมอุ่น ไอดิน หอมกลิ่นฟ้า งามทุกครามาอ่านกานท์สดใส เธอเขียนกลอนนุ่มนวลรันจวนใจ หายไปไหน ไม่เห็นหน้า มาต่อกลอน ขอต่อคำ ย้ำบ่น ถึงคนเขียน พี่แวะเวียนมาอ่านงานอักษร ซึ้งในรส พจนา พาอาวรณ์ หลงสุนทร นางน้อง ช่างคล้องคำ หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: * พรรัก* ที่ 03 ตุลาคม 2009, 02:12:PM ในอ้อมอุ่น ขุนเขา ผมเมารัก หยุดชงัก เล็งแล ความแพ้พ่าย กลอนเจ้านาง หอมกรุ่น อุ่นกำจาย เกรงจะตกหลุมตายไม่วายกลัว เหลิงทะนง เดินหลง เข้าดงรัก ร่วงลงปลัก รักรุม มาสุมหัว กลิ่นไออุ่น หมุนรัด มัดรอบตัว ลามไปทั่ว...หัวใจ...อุ่นไอนาง emo_46 emo_28 หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 04 ตุลาคม 2009, 09:27:PM หอมละมุนกรุ่นคำลำนำหอม
ดุจเย็นย้อมล้อมโอบทั่วทิศา จำหลักรอยร้อยเรียงแว่วเสียงมา ทำให้ใจอ่อนล้าได้ผ่อนคลาย ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า ช่วยฉ่ำชื่นชีวาพาผ่องใส บรรเทาร้อนผ่อนลงหนอดวงใจ ยิ้มละไมส่งไปในบทความ emo_54 หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 05 ตุลาคม 2009, 01:24:AM หอมไอดินอินทร์ดมยังชมชื่น
จวบค่ำคืนกลืนวันไม่ผันผาย กลิ่นยังกรุ่นเกาะกลั้วทั่วรอบกาย เขตกำจายขยายจรค่อนโลกา เพราะพระพรหมผสมไว้หรือใดนั่น หรือเทวัญชั้นสรวงสิเน่หา จึ่งได้กลั่นกลิ่นค้นสุคนธา จากชั้นฟ้ามาฟุ้งจรุงใจ หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 05 ตุลาคม 2009, 08:44:AM ๐ อยากคลุกร่างประหนึ่งคลึงดินหญ้า อยู่ท่ามฟ้าดาวเดือนเกลื่อนสุกใส แหงนจ้องเพ็ญพร้อมเพรียงเสียงเรไร ที่สาดใส่สรรท่วงปวงทำนอง ๐ ปล่อยร่างกายเตลิดเปิดดวงจิต รับนิมิตมนต์ร่ายหมายจับต้อง ท่ามไอดินกลิ่นฟ้าที่ตามอง และมีสองเรานั้นฝันใต้เดือน.. emo_12 หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 15 ตุลาคม 2009, 11:46:AM ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า
สายลมพาเมฆน้อยปลิวคล้อยเคลื่อน เหมือนจะแกล้งแฝงฝังเข้าบังเดือน จนแสงเลือนลบล้างดูจางไป ฤๅแพรพรหมห่มให้ได้แนบชิด กลางดวงจิตแสงรักประจักษ์ไสว โอบอิ่มเนื้อเอื้ออุ่นละมุนไอ สองหัวใจหอมกรุ่นละมุนกลอน emo_10 หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: สายลมสีขาว ที่ 15 ตุลาคม 2009, 03:00:PM ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า
สายลมพาเมฆน้อยปลิวคล้อยเคลื่อน เหมือนจะแกล้งแฝงฝังเข้าบังเดือน จนแสงเลือนลบล้างดูจางไป ฤๅแพรพรหมห่มให้ได้แนบชิด กลางดวงจิตแสงรักประจักษ์ไสว โอบอิ่มเนื้อเอื้ออุ่นละมุนไอ สองหัวใจหอมกรุ่นละมุนกลอน...(สายใย) จะเทียบเคียง เพียงพิศ ประสิตฟ้า วาดมายา พาแสง แผลงสิงขร สะบัดร่าย ว่ายสมุทร สุดสาคร ดวงอมร อรใจ ให้ฉ่ำริน.......(สายลม) หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นกานท์... เริ่มหัวข้อโดย: kaya ที่ 18 ตุลาคม 2009, 04:47:AM ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นกานท์ ลำนำหวานอ่านเพลินเจริญศรี กวีปราชญ์ วาดไว้ ไพเราะดี หลายหลากท่าน มากมี วลีพร คอยจำจด รสถ้อย ในรอยฝัน ท่านสร้างสรรค์ วจี คีย์อักษร ซึ้งแบบบท รจนา เอื้ออาทร ตำนานกลอน สอนสุข...ทุกไอเดียร์ หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 11:35:AM เสียงกริ๊งกร๊างดังลั่นเช้าวันนี้ ข่าวพี่ไฟ คนดี มาคีย์ฝัน นักกวี ฝีปากกล้า มารำพัน พี่มะดัน อยู่ไหน ไม่มาเชียร์ นางเพิ่งตื่นลืมตาอากาศหนาว เสียงใบไม้ร่วงกราว อ้าว! คอมเสีย ลมหนาวล่อง ตื่นมา พางัวเงีย ขับรถลืมใส่เกียร์ เพลียเลยเรา ยกเครื่องเข้าโรงซ่อมคอมมันแฮ้งค์ ชีวิตแข่งกับงาน กานท์เลยเหงา ไม่ได้ร้อยอักษร กลอนซบเซา กระทู้เรา เหงาเงียบ จนเยียบเย็น...... emo_47 สวัสดีทุกท่านค่ะ......... emo_46 หัวข้อ: ...นิราศเดือน... เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 12:27:PM ...นิราศเดือนห้า.... ...................................... โอ้ฤดูเดือนห้าหน้าคิมหันต์ พวกมนุษย์สุดสุขสนุกครัน ได้ดูกันพิศวงเมื่อสงกรานต์ ทั้งผู้ดีเข็ญใจใส่อังคาส อภิวาทพุทธรูปในวิหาร ล้วนแต่งตัวทั่วกันวันสงกรานต์ ดูสคราญเพริศพริ้งทั้งหญิงชาย ที่เฒ่าแก่แม่หม้ายไม่ใคร่เที่ยว สู้อดเปรี้ยวกินหวานลูกหลานหลาย ที่กำดัดขัดสีสวยทั้งกาย เที่ยวถวายน้ำหอมน้อมศรัทธา บ้างก็มีที่สวาดิ์มาดพระสงฆ์ ต่างจำนงนึกกำดัดขัดสิกขา ได้แต่เพียงพูดกันจำนรรจา นานนานมากลับไปแล้วใจตรอม ฯ หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 12:40:PM ในอ้อมอุ่นไอรักปักดวงจิต ถ้วนทุกทิศสถิตย์ไว้ให้กลิ่นหอม เพียงไอดินถิ่นนี้ที่ดมดอม ก็อาจพร้อมยอมสมัครรักดวงใจ..อิอิ ....แบบว่า หัวข้อ: Re: ....ในอ้อมอุ่นไอดินหอมกลิ่นฟ้า... เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 22 พฤศจิกายน 2009, 01:09:PM ในอ้อมอุ่น ไอดาว สกาวเพชร "จะไม่เด็ด" ดุจดาว พราวไสว สาวทุกคน ผูกมิตร คิดห่วงใย หอมกลิ่นไอ ชายรูปหล่อ...คอกวี ได้อ่านกล ยลกานท์ ก็หวานซึ้ง ยกนิ้วให้...เป็นหนึ่ง...ซึ้งกลอนพี่ ขอบคุณจาก ดวงจิต มิตรแสนดี ชื่นไมตรี ปลอบขวัญ ปันน้ำใจ...... emo_47 หัวข้อ: Re: ...นิราศเดือน... เริ่มหัวข้อโดย: ย่อง~~ ที่ 23 พฤศจิกายน 2009, 12:57:PM ...นิราศเดือนห้า.... ...................................... โอ้ฤดูเดือนห้าหน้าคิมหันต์ พวกมนุษย์สุดสุขสนุกครัน ได้ดูกันพิศวงเมื่อสงกรานต์ ทั้งผู้ดีเข็ญใจใส่อังคาส อภิวาทพุทธรูปในวิหาร ล้วนแต่งตัวทั่วกันวันสงกรานต์ ดูสคราญเพริศพริ้งทั้งหญิงชาย ที่เฒ่าแก่แม่หม้ายไม่ใคร่เที่ยว สู้อดเปรี้ยวกินหวานลูกหลานหลาย ที่กำดัดขัดสีสวยทั้งกาย เที่ยวถวายน้ำหอมน้อมศรัทธา บ้างก็มีที่สวาดิ์มาดพระสงฆ์ ต่างจำนงนึกกำดัดขัดสิกขา ได้แต่เพียงพูดกันจำนรรจา นานนานมากลับไปแล้วใจตรอม ฯ ล้วนแต่งตัวเต็มงามทรามสวาดิ์ ใส่สีฉาดฟุ้งเฟื่องด้วยเครื่องหอม สงกรานต์ทีตรุษทีไม่มีมอม ประดับพร้อมแหวนเพชรเม็ดมุกดา มีเท่าไรใส่เท่านั้นฉันผู้หญิง ดูเพริดพริ้งเพราเอกเหมือนเมฆลา รามสูรเดินดินสิ้นศักดา เที่ยวไล่คว้าบางทีก็มีเชิง บ้างเล่นเบี้ยเสียถั่วจนมัวมืด ใครขี้ตืดถากถางวางกันเหลิง บ้างฉุดมือยื้อผ้าด่ากันเปิง ที่รู้เชิงทำแปดเก้าเป็นเจ้ามือ เขาตัดไพ่ตายแพ้เหลือแต่ผ้า สิ้นปัญญาบ่นพลางครางหือหือ นั่งเสียใจเต็มทีต้องหนีมือ ไม่สัตย์ซื่อ ทำไพ่ ตายเขาเอง ฯ หัวข้อ: Re: ...นิราศเดือน... เริ่มหัวข้อโดย: kaya ที่ 23 พฤศจิกายน 2009, 07:51:PM ดูเขาเล่นเป็นฤดูไม่รู้ขาด นุชนาฏพึ่งกระเตาะขึ้นเหมาะเหมง บ้างก็หลงเลยเล่นเป็นนักเลง ฉันนี้เกรงกลัวนักไม่รักเลย ทั้งหนุ่มสาวฉาวฉานด้วยการเล่น บ้างซุ่มเป็นผัวเมียกันเสียเฉย แต่ตัวเราเปล่าไปมิได้เชย โอ้อกเอ๋ยคิดไปแล้วใจตรม ให้เจ็บจุกทุกข์เท่าคีรีศรี ด้วยไม่มีคู่ชิดสนิทสนม ทุกวันนี้ใครมีซึ่งคู่ชม สำราญรมย์เริงจิตเป็นนิจกาล เมื่อไรเล่าเรานี้จะมีบ้าง จะได้ว่างเว้นทุกข์สนุกสนาน แต่นึกปองตรองหามาช้านาน ทอดสะพานเข้าที่ไหนไม่ได้เลย ฯ หัวข้อ: Re: ...นิราศเดือน... เริ่มหัวข้อโดย: ยอด~ ที่ 24 พฤศจิกายน 2009, 07:00:AM ร่ำคะนึงถึงนุชสุดวิตก ถึงเดือนหกเข้าแล้วหนาเจ้าข้าเอ๋ย เขาแต่งงานปลูกหอขอกันเชย เราจะเฉยอยู่ก็เห็นไม่เป็นการ เขาแรกนาแล้วมานักขัตฤกษ์ เอิกเกริกโกนจุกทุกสถาน ที่กำดัดจัดแจงกันแต่งงาน มงคลการตามเล่ห์ประเวณี ฯ หัวข้อ: Re: ...นิราศเดือน... เริ่มหัวข้อโดย: akom ที่ 24 พฤศจิกายน 2009, 11:12:AM โอ้โอ๋อกอาตมานี้อาภัพ ทั้งไร้ทรัพย์สารพัดจะบัดสี ดูเพื่อนบ้านเขาทั้งหลายสบายดี เขาคิดมีลูกเมียเสียทุกคน สำราญรมย์ชมน้องในห้องหอ เฝ้าเคลียคลอเจรจาว่ากุศล ที่ยังไม่ส่งตัวนึกกลัวตน ก็ต่างคนต่างนึกคะนึงตรอง ฯ หัวข้อ: ...นิราศเดือน... เริ่มหัวข้อโดย: barame ที่ 19 ธันวาคม 2009, 02:05:AM โอ้อกเอ๋ยยังไม่เคยจะมีผัว สงสารตัวตั้งแต่นี้มีแต่หมอง มิได้แต่งแป้งขมิ้นดินสอพอง จะมีท้องแท้แล้วไม่แคล้วเลย เสียดายแก้มผุดผ่องจะต้องจูบ จะซีดซูบพักตรานิจจาเอ๋ย เสียดายนมจะระบมเพราะมือเชย ยังไม่เคยมีคู่ดูน่าอาย ไหนจะปัดฟูกหมอนนอนด้วยผัว ไม่เหมือนตัวเปล่าเปลือยเหนื่อยใจหาย จะไม่มีก็ไม่ได้สบาย พวกผู้ชายเจ้าชู้มักดูแคลน จะพูดเกี้ยวเลี้ยวลดให้อดสู ถ้ามีคู่คุ้มตัวเหมือนหัวแหวน ที่ลางคนบ่นบ้าว่าน่าแค้น พ่อแม่แค่นขืนให้ไม่ชอบใจฯ หัวข้อ: Re: ...นิราศเดือน... เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 23 ธันวาคม 2009, 12:59:AM เที่ยวหลบลี้หนีสถานทิ้งบ้านช่อง มีพวกพ้องน้าป้าไปอาศัย บ้างชอบใจรูปงามตามเขาไป ไม่อาลัยพ่อแม่ไปแต่ตัว ที่โกนจุกได้ปีครึ่งพึ่งจะผลิ อุตริหนักหนาอยากหาผัว ที่ลางคนนึกละห้อยน้อยใจตัว ว่ารูปชั่วชายชังไม่หวังเชย ที่ตกพุ่มกลุ้มกลัดขัดในอก ถึงมุ่นหมกอยู่ในใจก็ใช้เฉย แสนสงสารหญิงชายไม่วายเลย โอ้อกเอ๋ยเราก็เป็นเหมือนเช่นกัน ไม่พ้นตัวชั่วช้าว่าแต่เขา ตัวของเราก็เหมือนยักษ์มักกะสัน เห็นกระเตาะเข้าไม่ได้ใจเป็นควัน เหลือจะกลั้นใจคอ เที่ยว-กรอ-กราย ฯ หัวข้อ: Re: ...นิราศเดือน... เริ่มหัวข้อโดย: lelavadee ที่ 06 มีนาคม 2010, 10:51:PM ถ้ามีงานใหญ่โตมโหรสพ
ขี้มักพบเห็นมากมีหลากหลาย เห็นนารีรูปงามตามแทบตาย เพราะเมามายเรื่องรักนี้หนักจริง มีอิเหนาคราวนั้นขันหนักหนา ทำทีท่าถูกในน้ำใจหญิง นอนละเมอเพ้อจิตคิดประวิง ฉันหนาวจริงพ่อขุนทองประคองที อันความรักมักละเมอจนเพ้อพก เหมือนกับอกเรียมแล้วนะแก้วพี่ ให้โหยหวนครวญหาทุกราตรี สักกี่ปีจะได้น้องประคองนอนฯ หัวข้อ: Re:...นิราศเดือน... เริ่มหัวข้อโดย: orphanwife ที่ 08 มีนาคม 2010, 11:06:PM กระทั่งถึงเดือนเจ็ดไม่เสร็จโศก บังเกิดโรคแรงหนักด้วยรักสมร สลากภัตต์จัดแจงแต่งหาบคอน อย่างแต่ก่อนหาบกระทายมีลายทอง ใส่คานรูปนาคาวายุภักษ์ ครั้นเดินหนักดูเต้นเผ่นผยอง แสรกน้อยร้อยพวงมาลัยกรอง ใส่ข้าวของหาบหามตามกันมา ฯ หัวข้อ: Re:...นิราศเดือน... เริ่มหัวข้อโดย: nungboon ที่ 11 มีนาคม 2010, 07:44:PM ทุกวันนี้มีแต่จะทำแปลก
ใส่โต๊ะแบกเดินด่วนมาถ้วนหน้า สารพันเอมโอชโภชนา ตามศรัทธาสัปปุรุษนุชอนงค์ ทั้งผู้ดีเข็ญใจก็ไปมาก จับสลากหนังสือชื่อพระสงฆ์ รู้จักนามตามพบประสบองค์ ต่างจำนงน้อมถวายรายกันไป พระลางองค์งงงกตกประหม่า ให้ยถาเสียงสั่นอยู่หวั่นไหว สัปปุรุษตรวจน้ำร่ำในใจ ที่ผู้ใหญ่หมายประโยชน์โพธิญาณ ที่หนุ่มหนุ่มสาวสาวคราวกับฉัน นึกรำพันในจิตอธิษฐาน ให้มีเมียรูปงามทรามสะคราญ ที่เรือนบ้านคับคั่งเขามั่งมี ฯ |