พิมพ์หน้านี้ - ~"เก็บบัว?"~

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนตลกๆ ฮาเฮ => ข้อความที่เริ่มโดย: ระนาดเอก ที่ 20 สิงหาคม 2009, 06:24:PM



หัวข้อ: ~"เก็บบัว?"~
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 20 สิงหาคม 2009, 06:24:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif)
~"เก็บบัว?"~



๐ เจ้าเห็นบัวชูช่อล้อยั่วเย้า
ก็ชวนเอาอุตส่าห์ฉุดคร่าพี่
ผลักไสหลังลงบึงกึ่งทุบตี
เร่งปากชี้ดอกนั้นชูชันงาม

๐ พี่ลุยโคลนจากตื้นสู่พื้นลึก
บ้างหยุดกึกโดนเกี่ยวเที่ยวบุ่มบ่าม
แหวกกอบัวด้นบุกแบบคุกคาม
ร่องรอยหนามขีดข่วนล้วนรอบตัว

๐ เจ้าชี้เอาดอกนั้นพลันดอกโน้น
เฝ้าตะโกนเสียงลั่นขันยิ้มหัว
ดีใจออกนอกหน้าวาจารัว
ชมแต่บัวล้วนสีที่ถูกใจ

๐ พี่จึงเปื้อนจึงเปรอะเลอะอยู่บ่อย
ตัวเต็มรอยหนามบัวทั่วตัวได้
ฝากแนวแผลเจ้าล้อหัวร่อไป
ส่งเสียงใสชวนหัวจนทั่วบึง

๐ เหมือนพี่เป็นดั่งบ่าวให้เจ้าใช้
แม้ไม่ใช่ทำกร้าวเจ้าขังขึง
จึงยอมเจ้าทุกครั้งไม่ดังดึง
กลัวเจ้าบึ้งหน้าเง้าเอาแต่งอน

๐ "พี่เด็กวัด"..ยอมเล่า.."เจ้าเด็กบ้าน?"
ทุกเช้าผ่านบิณฑบาตแสงสาดอ่อน
เจ้าตักบาตรทุกวันขวัญบวร
ลอบยิ้มตอนถวายบัวยั่วพี่ยา๚ะ๛

ระนาดเอก

emo_12

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif)


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ╰☆╮สุดสายป่าน มะขามเปียก♡゚゚・。εїз ที่ 20 สิงหาคม 2009, 07:27:PM
ด้วยอุบลงดงามยั่วเย้าจิต

อยากจะริดเด็ดดอกน่ารักหนา

แต่ว่าขาน้อยน้อยของกานดา

หรือจะมาแกร่งเท่าขาพี่ชาย

...

เลยออดอ้อนออเซาะให้เก็บให้

แสนดีใจชี้ดอกช่อชมบัวสาย

ขำพี่ยาใช่ว่าตัวพี่ลาย

แต่เขินอายเลยหัวเราะเยาะพี่ยา

...

+๑ คะแนนเจ้าค่ะ

น่ารักมากมาย ^^


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 21 สิงหาคม 2009, 01:37:PM

๐ เห็นเจ้ายื่นบัวมาบนฝาบาตร
อยู่ในมาดหยอกล้อต่อชิวหา
คือบัวพี่ซึ่งเก็บเจ็บเรื่อยมา
และรู้ว่าทุกเช้าเจ้าทำบุญ

๐ เป็นอะไรก็ได้ไม่เคยว่า
ขอน้องยาใส่บาตรวาดเกื้อหนุน
เก็บเกี่ยวพรคำพระคละการุณย์
ตัวพี่ลายแม่คุณเพื่อบุญเธอ..

emo_12


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ 21 สิงหาคม 2009, 01:49:PM

อยากเก็บบัว หยอกเย้า กระเซ้าบ้าง
คงสุขสร่าง ทรวงใน ใจชื่นฉ่ำ
แต่กลับต้อง ปวดร้าว ราวมีกรรม
กลัวตกน้ำ จมไป ว่ายไม่เป็น


          emo_45 emo_20 emo_45


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: Kotchanan ที่ 21 สิงหาคม 2009, 01:57:PM


เห็นหนุ่มสาวเย้าหยอก.. ยิ่งน่ารัก
ชายลุยปลัก.. หญิงชี้นิ้วเสนอ
ตัวมอมแมมแก้มลายเอาใจเธอ
ใยนัยน์ตาฉายเอ่อ.. เพ้อหลงนาง

หล่อนได้บัวหลากสีที่มาดหมาย
ต่างแยกย้ายคืนเรือนลับเรือนร่าง
ริมบึงใสใยบัว.. ขั้วอ้างว้าง
กลีบหล่นคว้างบางพลิ้ว.. ลิ่วลอยน้ำ

เขาทุ่มกายถวายชีวิตปลิดก้านหัก
เธอน่ารักเลือกสรร.. ฉันกลืนกล้ำ
ยามย่างเหยียบคุกคามเขาหนามตำ
แต่ฉันช้ำ ดอก ใบ.. สลายแล้ว.


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 21 สิงหาคม 2009, 02:00:PM

๐ อยากเก็บบัวก็ได้นั้นไม่ยาก
เพียงเจ้าอยากเก็บบัวเย้ายั่วเห็น
เดี๋ยวพี่เองหาเรือเพื่อเนื้อเย็น
ไม่ลำเค็ญทั้งพายให้สายใจ

๐ ให้เจ้าเลือกทุกสีที่เลือกสรร
คุยจ้อกันประสาคราบ้านใกล้
พายแค่เพียงริมบึงไม่ถึงไกล
หยั่งน้ำได้ไม่ลึกอย่านึกกลัว..

 emo_12


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 21 สิงหาคม 2009, 02:17:PM
ระนาดเอก เก็บบัว หวั่นหัวอก
ดอกหนึ่งยก เว้นด้วย โปรดช่วยฉัน
ดอกที่บาน หวานซึ้ง กลางบึงนั้น
เฝ้าใฝ่ฝัน อยากได้ บุญไม่มี

ขอไว้ชม บัวน้อย ลอยกลางน้ำ
โปรดอย่ากล้ำ กรายใกล้ ให้หมองศรี
ดอกบานแล้ว ถวายพระ จะไม่ดี
เถิดดอกนี้ เว้นด้วย ช่วยเอาบุญ...

          emo_54
        อิ  อิ


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: Kotchanan ที่ 21 สิงหาคม 2009, 02:36:PM

ดอกรักบานในจินต์ถวิลหา
พี่อุตส่าห์หาเรือเพื่อสนอง
ถ่อ จ้ำ พาย ริมบึงบัวในคลอง
เขาร่วมร้องเพลงรักกลางปลักโคลน

ตัวฉันด้อยวาสนาน้ำตาไหล
มือเกษตรยากไร้ใจหักโค่น
ขณะพี่เก็บบัวหัวใจโชน
อกฉันโดนไฟ.รนจนยับเยิน.



หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 21 สิงหาคม 2009, 03:16:PM
ไม่อยากได้ดอกบัว   จึงหัวเราะ
อยากเห็นคนลัดเลาะ  ลุยตมปลัก
โผล่ผลุบๆ  กลางบึงอยู่  ดูน่ารัก
ทนเก็บหักบัวให้  สมใจเรา     emo_26


วางดอกบัว  บนฝาบาตร  สานตาสบ
เห็นคนหลบ   ลายพร้อย  รอยแผลเก่า
แบ่งบุญให้  แล้วนะ  คงบรรเทา
ยิ้มให้เขา  เขาเข้าใจ  บ้างไหมนะ    emo_50


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ 21 สิงหาคม 2009, 03:57:PM

อยากเก็บบัว ริมบึง มิพีงหน่าย
เห็นพี่ชาย พายเรือน้อย มาคอยท่า
ได้อย่างนี้ ขอน้อง ลองสักครา
ว่าแต่ว่า แถวริมบึง ไร้ซึ่งบัว


              emo_55


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 21 สิงหาคม 2009, 04:50:PM

เห็นหนุ่มสาวเย้าหยอก.. ยิ่งน่ารัก
ชายลุยปลัก.. หญิงชี้นิ้วเสนอ
ตัวมอมแมมแก้มลายเอาใจเธอ
ใยนัยน์ตาฉายเอ่อ.. เพ้อหลงนาง

หล่อนได้บัวหลากสีที่มาดหมาย
ต่างแยกย้ายคืนเรือนลับเรือนร่าง
ริมบึงใสใยบัว.. ขั้วอ้างว้าง
กลีบหล่นคว้างบางพลิ้ว.. ลิ่วลอยน้ำ

เขาทุ่มกายถวายชีวิตปลิดก้านหัก
เธอน่ารักเลือกสรร.. ฉันกลืนกล้ำ
ยามย่างเหยียบคุกคามเขาหนามตำ
แต่ฉันช้ำ ดอก ใบ.. สลายแล้ว..(กชนันท์)


emo_50


๐ ได้ยินเสียงบัวทิพย์กระซิบได้
วาดฤทัยเฉิดฉายดั่งได้แก้ว
เจ้าบัวงามพ้อตนคนหนีแจว
เด็ดบัวแววดอกงามลามทั่วบึง

๐ เสร็จสมใจชมบัวหัวร่อร่า
ทิ้งกลีบบัวโรยราก้าวขาบึ่ง
ปนหัวเราะเสียงถ้อยบ่อยเอ็ดอึง
เจ้าบัวจึงใจน้อยปล่อยคารม

๐ แค่ยินเสียงแว่วทิพย์กระซิบเศร้า
ทำอกเราหยุดกึกนึกขืนข่ม
ลอบเก็บกลีบบัวร้างอย่างระดม
แล้วลอบอมยิ้มหมายถวายพระ..(ระนาดเอก)

emo_12


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 21 สิงหาคม 2009, 05:01:PM

อยากเก็บบัว ริมบึง มิพีงหน่าย
เห็นพี่ชาย พายเรือน้อย มาคอยท่า
ได้อย่างนี้ ขอน้อง ลองสักครา
ว่าแต่ว่า แถวริมบึง ไร้ซึ่งบัว..(สายชล)

emo_55


๐ พี่รู้ถิ่นบงกชปรากฎดอก
ไม่ต้องกลัวพี่หลอกกลิ้งกลอกเจ้า
เพียงพายจ้ำเลียบฝั่งอย่างเบาเบา
กันคลื่นเย้าเรือล่มปมเจ้ากลัว

๐ ทั้งบัวสายบัวหลวงปวงบัวสี
เดี๋ยวน้องพี่คงเห็นบานเด่นทั่ว
เก็บไหว้พระทั้งแบ่งแกงสายบัว
ให้เจ้าหัวเราะเล่นเห็นบัวงาม..(ระนาดเอก)

emo_12


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 21 สิงหาคม 2009, 05:33:PM
ณ กลางบึงดอกบัวได้ยั่วหยอก
น้องก็คอยชี้บอกว่าดอกไหน
พี่ก็เฝ้าเก็บเกี่ยวทุกเที่ยวไป
เอามาเพื่อมอบไว้ให้บูชา

เมื่อฟ้าสางพรุ่งนี้ที่หน้าบ้าน
ยามตะวันส่องผ่านยอดภูผา
เจ้าไก่โต้งโก่งขันทันเวลา
เมื่อนั้นหนาน้องจักมาดักรอ

รอตักบาตรทำบุญเพื่อหนุนส่ง
ยามเมื่อที่พระสงฆ์ผ่านหน้าหนอ
จะเพียบพร้อมทุกทางอย่างเพียงพอ
แล้วจักขอพรท่านอย่างบรรจง

บนฝาบาตรเช้านี้ก็มีอยู่
ดอกบัวที่แลดูช่างสูงส่ง
สะอาดสดหมดคราบวางทาบลง
เพื่อบูชาพระสงห์องค์แห่งบุญ

ไม่ลืมจักขอพรให้ย้อนคืน
แด่ผู้ที่หยิบยื่นอย่างเกื้อหนุน
คอยเก็บเกี่ยวดอกบัวจนตัวพรุน
ก็ขอเนื้อนาบุญนั้นอำไพ

อำไพแด่พี่ยาที่หามอบ
นี่คือการคืนตอบกว่าสิ่งไหน
ด้วยน้องนี้ขอพรให้ย้อนไป
ตราบเมื่อเกิดชาติใหม่จงพบกัน


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 21 สิงหาคม 2009, 05:43:PM
ไม่อยากได้ดอกบัว   จึงหัวเราะ
อยากเห็นคนลัดเลาะ  ลุยตมปลัก
โผล่ผลุบๆ  กลางบึงอยู่  ดูน่ารัก
ทนเก็บหักบัวให้  สมใจเรา..   
emo_26

วางดอกบัว  บนฝาบาตร  สานตาสบ
เห็นคนหลบ   ลายพร้อย  รอยแผลเก่า
แบ่งบุญให้  แล้วนะ  คงบรรเทา
ยิ้มให้เขา  เขาเข้าใจ  บ้างไหมนะ..(เพรางาย)   

emo_50



๐ ได้บุญแบ่งฤทธิ์แผลที่แผ่หาย
ทั้งผ่อนคลายอายบ้างบางขณะ
แม่งามงอนต้นเหตุอาเพศซะ
กายพี่น่ะเต็มรอยปล่อยเจ้าล้อ

๐ ตอนเก็บบัวเปรอะเปื้อนพี่เพื่อนเจ้า
เลอะทนเอาพี่ชายไม่ระย่อ
ทุกเช้าหวังเห็นเจ้าใจเฝ้ารอ
ลอบยิ้มก็สุขใจไปทั้งวัน..(ระนาดเอก)

emo_12


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 21 สิงหาคม 2009, 06:09:PM

ณ กลางบึงดอกบัวได้ยั่วหยอก
น้องก็คอยชี้บอกว่าดอกไหน
พี่ก็เฝ้าเก็บเกี่ยวทุกเที่ยวไป
เอามาเพื่อมอบไว้ให้บูชา

เมื่อฟ้าสางพรุ่งนี้ที่หน้าบ้าน
ยามตะวันส่องผ่านยอดภูผา
เจ้าไก่โต้งโก่งขันทันเวลา
เมื่อนั้นหนาน้องจักมาดักรอ

รอตักบาตรทำบุญเพื่อหนุนส่ง
ยามเมื่อที่พระสงฆ์ผ่านหน้าหนอ
จะเพียบพร้อมทุกทางอย่างเพียงพอ
แล้วจักขอพรท่านอย่างบรรจง

บนฝาบาตรเช้านี้ก็มีอยู่
ดอกบัวที่แลดูช่างสูงส่ง
สะอาดสดหมดคราบวางทาบลง
เพื่อบูชาพระสงห์องค์แห่งบุญ

ไม่ลืมจักขอพรให้ย้อนคืน
แด่ผู้ที่หยิบยื่นอย่างเกื้อหนุน
คอยเก็บเกี่ยวดอกบัวจนตัวพรุน
ก็ขอเนื้อนาบุญนั้นอำไพ

อำไพแด่พี่ยาที่หามอบ
นี่คือการคืนตอบกว่าสิ่งไหน
ด้วยน้องนี้ขอพรให้ย้อนไป
ตราบเมื่อเกิดชาติใหม่จงพบกัน..(ดวงไฟ)

emo_50


๐ ตามหลังพระมาไกลใกล้บ้านน้อง
ควันไฟล่องอบอวลล้วนสุขสันต์
ทั้งเจ้าโต้งโก่งคอล้อตะวัน
ริ้วพระสงฆ์พลิ้วพลันดั้นมาไกล

๐ ทุกคืนหลับพี่รอขอให้เช้า
ข่มตาหลับหน้าเจ้าวาวหวั่นไหว
มือลูบกายริ้วรอยที่พร้อยไป
ยังจำได้หน้าเจ้าเย้าทุกครา

๐ แม้ข้างหมอนของพี่มีบัวเจ้า
ที่เจ้าเอาถวายพระดอกหนา
พี่ขอแบ่งบอกปันท่านหลวงตา
เพียงเพราะว่าเก็บไว้เตือนใจตัว

๐ ให้นึกถึงต้นเหตุเลศนัยแฝง
ที่เจ้าแกล้งลุนหลังปากสั่งทั่ว
ใบหน้าหวานแก้มแดงแจงระรัว
บ้างมีกลั้วขบขำย้ำทิศทาง

๐ ทั้งน้ำตื้นน้ำลึกไม่นึกถึง
ไม่คำนึงแค่ได้บัวหลายอย่าง
ทั้งบัวตูมบัวบานเสียงขานนาง
ตกตอนคืนไข้บ้างเยือนร่างกาย

๐ พระย่างก้าวเยี่ยมเยือนหน้าเรือนน้อง
เจ้าประคองบาตรเงินงามเกินร่าย
เห็นบัวบึงพับจีบกลีบรำบาย
บุญพี่ชายเจ้าแบ่งหนุนแรงใจ..(ระนาดเอก)

emo_12


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 21 สิงหาคม 2009, 06:35:PM
เช้าวันนี้พี่ยาหน้าหม่นหมอง
ก็อยากจะร่ำร้องเพื่อเรียกถาม
เหตุอันใดแววตาสง่างาม
กลับเห็นความเหนื่อยล้าบนหน้านวล

ได้รู้ความยามนี้ว่าพี่เอ๋ย
ร่างกายไม่เหมือนเคยกระอักอ่วน
เพียงเพราะเพื่อเก็บบัวทั่วเกินควร
ด้วยลงน้ำหลากล้วนมวลปทุม

จึงเกิดความเจ็บไข้ให้เยือนร่าง
ใบหน้าจึงซีดจางอย่างซ้อนสุม
ซึ่งอ่อนแอแลเห็นว่าเร้นรุม
ให้ร่างกายร้อนรุ่มทุกมุมมอง

หลังจากพระเดินลับไปกับพี่
น้องทำได้แค่นี้แค่หม่นหมอง
แล้วมองตามหลังไล่อย่างไตร่ตรอง
ว่าผิดนักที่ร้องจะเด็ดบัว

ด้วยเหตุนั้นวันนี้จึงพี่ยา
ต้องร้อนรุ่มอุราพาปวดหัว
ด้วยพิษไข้ใจสั่นหวั่นระรัว
เพราะหวังมัวอยากได้บัวใต้บึง


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 21 สิงหาคม 2009, 06:51:PM
เจ็บปวดกายเป็นไข้ให้สาหัส
ขาดสัมผัสกายยามไข้ให้เหน็บหนาว
ขอจากน้องไปหาหมออีกสักคราว
หมอบอกกล่าวเป็นไข้หวัด2010ทำไงดี

 emo_26 emo_26 emo_26



หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 21 สิงหาคม 2009, 08:02:PM
เช้าวันนี้พี่ยาหน้าหม่นหมอง
ก็อยากจะร่ำร้องเพื่อเรียกถาม
เหตุอันใดแววตาสง่างาม
กลับเห็นความเหนื่อยล้าบนหน้านวล

ได้รู้ความยามนี้ว่าพี่เอ๋ย
ร่างกายไม่เหมือนเคยกระอักอ่วน
เพียงเพราะเพื่อเก็บบัวทั่วเกินควร
ด้วยลงน้ำหลากล้วนมวลปทุม

จึงเกิดความเจ็บไข้ให้เยือนร่าง
ใบหน้าจึงซีดจางอย่างซ้อนสุม
ซึ่งอ่อนแอแลเห็นว่าเร้นรุม
ให้ร่างกายร้อนรุ่มทุกมุมมอง

หลังจากพระเดินลับไปกับพี่
น้องทำได้แค่นี้แค่หม่นหมอง
แล้วมองตามหลังไล่อย่างไตร่ตรอง
ว่าผิดนักที่ร้องจะเด็ดบัว

ด้วยเหตุนั้นวันนี้จึงพี่ยา
ต้องร้อนรุ่มอุราพาปวดหัว
ด้วยพิษไข้ใจสั่นหวั่นระรัว
เพราะหวังมัวอยากได้บัวใต้บึง..(ดวงไฟ)

emo_50


๐ ธรรมดาชายหนุ่มที่ทุ่มฝัน
สารพันเพื่อสาวราวเต็งหนึ่ง
เรื่องจริตเจ็บไข้ไม่คำนึง
มัววนถึงคำเจ้าอยากเคล้าบัว

๐ หวังเอาใจนงลักษณ์สาวหลักขวัญ
ที่คุ้นกันแต่เล็กแม่ทูนหัว
ขลุกเล่นกันรู้ใจไม่หมองมัว
ชินเจ้ายั่วมิพ้นพี่ปรนเปรอ

๐ เจ้าอยากได้อะไรให้พี่หา
ตุ๊กตาเคยปั้นหมั่นเสนอ
ปีนต้นไม้เก็บผลล้นที่เจอ
ล้วนให้เธอสนองยามต้องการ

๐ ก็มีกันแค่นี้ที่เห็นอยู่
เราต่างรู้ซึ่งกันฉันสมาน
หนักไปบ้างเบานิดเพราะฤทธิ์มาน
ก็สะท้านหวิวหวั่นอันจิตใจ

๐ พี่ทุ่มเทเพราะเจ้าเลือกเอาพี่
ด้อยศักดิ์ศรีอยู่วัดพลัดอาศัย
ปรนนิบัติหลวงตามาเยาว์วัย
น้อยที่ใครคบหามาเป็นมิตร

๐ ก็เพราะเจ้าเปิดใจใคร่คบหา
ทั้งหน้าตาก็งามนามวิจิตร
พี่เด็กวัดซึ้งใจในชีวิต
เมื่อพระพรหมลิขิตมิตรเช่นเธอ..(ระนาดเอก)

emo_12


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 21 สิงหาคม 2009, 08:56:PM
เก็บสายบัว มาแกง แต่งสำรับ
สีสันสด ยั่วยวนนัก กลิ่นหอมหวาน
ตักข้าวสวย พร้อมสรรพ ซะเต็มจาน
ช่างน่าทาน เสียงท้องร้องครางโอดครวญ

บรรจงหยิบช้อน ส้อมแตะริมปาก
ใจนึกอยากรู้รส สายบัว หอม
ไม่นานนัก รสชาด ล้ำพลันตรึกตรอง
อ้าปากร้อง "เค็มเป็นบ้า" ไยกล้าทำ


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 21 สิงหาคม 2009, 09:55:PM
เช้าวันนี้พี่ยาหน้าหม่นหมอง
ก็อยากจะร่ำร้องเพื่อเรียกถาม
เหตุอันใดแววตาสง่างาม
กลับเห็นความเหนื่อยล้าบนหน้านวล

ได้รู้ความยามนี้ว่าพี่เอ๋ย
ร่างกายไม่เหมือนเคยกระอักอ่วน
เพียงเพราะเพื่อเก็บบัวทั่วเกินควร
ด้วยลงน้ำหลากล้วนมวลปทุม

จึงเกิดความเจ็บไข้ให้เยือนร่าง
ใบหน้าจึงซีดจางอย่างซ้อนสุม
ซึ่งอ่อนแอแลเห็นว่าเร้นรุม
ให้ร่างกายร้อนรุ่มทุกมุมมอง

หลังจากพระเดินลับไปกับพี่
น้องทำได้แค่นี้แค่หม่นหมอง
แล้วมองตามหลังไล่อย่างไตร่ตรอง
ว่าผิดนักที่ร้องจะเด็ดบัว

ด้วยเหตุนั้นวันนี้จึงพี่ยา
ต้องร้อนรุ่มอุราพาปวดหัว
ด้วยพิษไข้ใจสั่นหวั่นระรัว
เพราะหวังมัวอยากได้บัวใต้บึง

๐ ธรรมดาชายหนุ่มที่ทุ่มฝัน
สารพันเพื่อสาวราวเต็งหนึ่ง
เรื่องจริตเจ็บไข้ไม่คำนึง
มัววนถึงคำเจ้าอยากเคล้าบัว

๐ หวังเอาใจนงลักษณ์สาวหลักขวัญ
ที่คุ้นกันแต่เล็กแม่ทูนหัว
ขลุกเล่นกันรู้ใจไม่หมองมัว
ชินเจ้ายั่วมิพ้นพี่ปรนเปรอ

๐ เจ้าอยากได้อะไรให้พี่หา
ตุ๊กตาเคยปั้นหมั่นเสนอ
ปีนต้นไม้เก็บผลล้นที่เจอ
ล้วนให้เธอสนองยามต้องการ

๐ ก็มีกันแค่นี้ที่เห็นอยู่
เราต่างรู้ซึ่งกันฉันสมาน
หนักไปบ้างเบานิดเพราะฤทธิ์มาน
ก็สะท้านหวิวหวั่นอันจิตใจ

๐ พี่ทุ่มเทเพราะเจ้าเลือกเอาพี่
ด้อยศักดิ์ศรีอยู่วัดพลัดอาศัย
ปรนนิบัติหลวงตามาเยาว์วัย
น้อยที่ใครคบหามาเป็นมิตร

๐ ก็เพราะเจ้าเปิดใจใคร่คบหา
ทั้งหน้าตาก็งามนามวิจิตร
พี่เด็กวัดซึ้งใจในชีวิต
เมื่อพระพรหมลิขิตมิตรเช่นเธอ..

 emo_12

ด้วยแต่เล็กแต่น้อยยังคอยห่วง
ยามน้ำตารินร่วงทุกห้วงฝัน
กี่รังแกคุกคามไม่ข้ามวัน
ก็ต้องพลันวิ่งโล่จนโตมา

วิ่งไปหาพี่ชายที่ท้ายวัด
ได้ยินเสียงถนัดร้องโหยหา
พี่จำต้องเร่งรุดสุดชีวา
วิ่งเข้ามาโอบปลอบทุกรอบไป

เมื่อยามที่อยากลิ้มชิมฝรั่ง
พี่ก็ยังปีนป่ายกายสั่นไหว
มิเคยจะปฏิเสธด้วยเหตุใด
พี่ต้องหามาให้ไว้ครอบครอง

หลวงตายืนถือไม้อยู่ใต้ต้น
ก็ยังจะเก็บผลมาสนอง
เพื่อให้รู้รสหวานการลิ้มลอง
เป็นของน้องทุกเมื่อเพื่อปลอบใจ

ว่ายน้ำข้ามคลองคั่นทุกวันคืน
เมื่อใดโศกสะอื้นหรือหวั่นไหว
เพราะไม่มีเพื่อนเล่น ณ เย็นใด
พี่ก็ต้องอยู่ใกล้ในทุกที

เมื่อฝั่งคลองกั้นขวางระหว่างวัด
มองก็เห็นถนัดจากเรือนนี้
พี่เก็บผักตบมาทำยาดี
เล่นขายของกันที่หัวสะพาน

เก็บมะยมมาตำเพื่อย้ำโขลก
แล้วเราต่างอุปโลกน์เมื่อคนผ่าน
ว่าเขาคือลูกค้าเราช้านาน
ล้วนสนุกสนานอยู่เรื่อยมา

เกรงก็แต่วันนี้หลายปีแล้ว
พี่จะพานคลาดแคล้วความห่วงหา
หากมีเพื่อนเล่นใหม่ใดเข้ามา
แล้วจักลืมน้องยาไปง่ายดาย

คนที่เคยเคล้าคลอเคยล้อเล่น
ในทุก ๆ ยามเย็นไม่ห่างหาย
เคยนั่งเฝ้าทุกเมื่อรอเรือพาย
เขามาขายอ้อยควั้นแบ่งกันกิน

จักลืมไหมหญิงนี้ที่พี่ห่วง
เคยสรรหาสิ่งปวงสมถวิล
หากวันใดวันหนึ่งซึ่งยลยิน
พลัดจากถิ่นแดนนี้หวั่นพี่ลืม


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 21 สิงหาคม 2009, 10:01:PM
***เขียนจนจบไปหลายบทแล้วเพิ่งเห็นว่ากระทู้นี้เป็นการต่อกลอน คิดว่าเป็นการโต้ตอบกลอนไป-มา กันธรรมดา
เลยทำให้ฉันทลักษณ์ไม่สัมผัสกับกลอนของคุณระนาดเอก ขออภัยคุณระนาดเอกและทุก ๆ ท่านเป็นอย่างสูงด้วยค่ะ...


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 21 สิงหาคม 2009, 10:08:PM
ไม่เป็นไรจ๊ะ แค่น้องเล็กมาแต่งกลอนพี่ก็ดีใจแล้ว
ขอพูดแทนระนาดเอกน่ะ อิอิอิ


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 21 สิงหาคม 2009, 10:16:PM
ขอบคุณพี่มั่นค่ะ


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 21 สิงหาคม 2009, 10:57:PM
เช้าวันนี้พี่ยาหน้าหม่นหมอง
ก็อยากจะร่ำร้องเพื่อเรียกถาม
เหตุอันใดแววตาสง่างาม
กลับเห็นความเหนื่อยล้าบนหน้านวล

ได้รู้ความยามนี้ว่าพี่เอ๋ย
ร่างกายไม่เหมือนเคยกระอักอ่วน
เพียงเพราะเพื่อเก็บบัวทั่วเกินควร
ด้วยลงน้ำหลากล้วนมวลปทุม

จึงเกิดความเจ็บไข้ให้เยือนร่าง
ใบหน้าจึงซีดจางอย่างซ้อนสุม
ซึ่งอ่อนแอแลเห็นว่าเร้นรุม
ให้ร่างกายร้อนรุ่มทุกมุมมอง

หลังจากพระเดินลับไปกับพี่
น้องทำได้แค่นี้แค่หม่นหมอง
แล้วมองตามหลังไล่อย่างไตร่ตรอง
ว่าผิดนักที่ร้องจะเด็ดบัว

ด้วยเหตุนั้นวันนี้จึงพี่ยา
ต้องร้อนรุ่มอุราพาปวดหัว
ด้วยพิษไข้ใจสั่นหวั่นระรัว
เพราะหวังมัวอยากได้บัวใต้บึง

๐ ธรรมดาชายหนุ่มที่ทุ่มฝัน
สารพันเพื่อสาวราวเต็งหนึ่ง
เรื่องจริตเจ็บไข้ไม่คำนึง
มัววนถึงคำเจ้าอยากเคล้าบัว

๐ หวังเอาใจนงลักษณ์สาวหลักขวัญ
ที่คุ้นกันแต่เล็กแม่ทูนหัว
ขลุกเล่นกันรู้ใจไม่หมองมัว
ชินเจ้ายั่วมิพ้นพี่ปรนเปรอ

๐ เจ้าอยากได้อะไรให้พี่หา
ตุ๊กตาเคยปั้นหมั่นเสนอ
ปีนต้นไม้เก็บผลล้นที่เจอ
ล้วนให้เธอสนองยามต้องการ

๐ ก็มีกันแค่นี้ที่เห็นอยู่
เราต่างรู้ซึ่งกันฉันสมาน
หนักไปบ้างเบานิดเพราะฤทธิ์มาน
ก็สะท้านหวิวหวั่นอันจิตใจ

๐ พี่ทุ่มเทเพราะเจ้าเลือกเอาพี่
ด้อยศักดิ์ศรีอยู่วัดพลัดอาศัย
ปรนนิบัติหลวงตามาเยาว์วัย
น้อยที่ใครคบหามาเป็นมิตร

๐ ก็เพราะเจ้าเปิดใจใคร่คบหา
ทั้งหน้าตาก็งามนามวิจิตร
พี่เด็กวัดซึ้งใจในชีวิต
เมื่อพระพรหมลิขิตมิตรเช่นเธอ..

 emo_12

ด้วยแต่เล็กแต่น้อยยังคอยห่วง
ยามน้ำตารินร่วงทุกห้วงฝัน
กี่รังแกคุกคามไม่ข้ามวัน
ก็ต้องพลันวิ่งโล่จนโตมา

วิ่งไปหาพี่ชายที่ท้ายวัด
ได้ยินเสียงถนัดร้องโหยหา
พี่จำต้องเร่งรุดสุดชีวา
วิ่งเข้ามาโอบปลอบทุกรอบไป

เมื่อยามที่อยากลิ้มชิมฝรั่ง
พี่ก็ยังปีนป่ายกายสั่นไหว
มิเคยจะปฏิเสธด้วยเหตุใด
พี่ต้องหามาให้ไว้ครอบครอง

หลวงตายืนถือไม้อยู่ใต้ต้น
ก็ยังจะเก็บผลมาสนอง
เพื่อให้รู้รสหวานการลิ้มลอง
เป็นของน้องทุกเมื่อเพื่อปลอบใจ

ว่ายน้ำข้ามคลองคั่นทุกวันคืน
เมื่อใดโศกสะอื้นหรือหวั่นไหว
เพราะไม่มีเพื่อนเล่น ณ เย็นใด
พี่ก็ต้องอยู่ใกล้ในทุกที

เมื่อฝั่งคลองกั้นขวางระหว่างวัด
มองก็เห็นถนัดจากเรือนนี้
พี่เก็บผักตบมาทำยาดี
เล่นขายของกันที่หัวสะพาน

เก็บมะยมมาตำเพื่อย้ำโขลก
แล้วเราต่างอุปโลกน์เมื่อคนผ่าน
ว่าเขาคือลูกค้าเราช้านาน
ล้วนสนุกสนานอยู่เรื่อยมา

เกรงก็แต่วันนี้หลายปีแล้ว
พี่จะพานคลาดแคล้วความห่วงหา
หากมีเพื่อนเล่นใหม่ใดเข้ามา
แล้วจักลืมน้องยาไปง่ายดาย

คนที่เคยเคล้าคลอเคยล้อเล่น
ในทุก ๆ ยามเย็นไม่ห่างหาย
เคยนั่งเฝ้าทุกเมื่อรอเรือพาย
เขามาขายอ้อยควั้นแบ่งกันกิน

จักลืมไหมหญิงนี้ที่พี่ห่วง
เคยสรรหาสิ่งปวงสมถวิล
หากวันใดวันหนึ่งซึ่งยลยิน
พลัดจากถิ่นแดนนี้หวั่นพี่ลืม

๐ เจ้าก็เป็นเช่นนี้รี่ขอโทษ
พี่ไม่โกรธแต่พี่มีแต่ปลื้ม
ตั้งแต่เล็กของเล่นเป็นให้ยืม
เคยร่วมดื่มน้ำขันกันแต่เยาว์

๐ ต่อสัมผัสเพราะรู้ดูเจ้าคล่อง
เอ็นดูน้องทรามวัยมีใครเท่า
พี่ก็เคยพลัดหลงตรงที่เรา
แต่มิเอามาคิดให้ติดใจ

๐ เจ้าคนเก่งสำนวนล้วนไพเราะ
ชั้นเชิงเหมาะสุนทรกลอนผู้ใหญ่
พาพบเห็นงามงอนบ้านกลอนไทย
มีวินัยการแต่งแฝงนุ่มนวล

๐ เห็นเจ้าย้อนเอ่ยพร่ำร่ำหนหลัง
ไล่กระทั่งว่ายน้ำล้ำลุยสวน
ถูกหลวงตาไล่ตีเด็กที่กวน
ป่ายปีนป่วนผลไม้ให้ขัดตา

๐ ล้วนอดีตต่างซนคนยามเด็ก
ไทยจีนเจ็กต่อยตีที่น้องว่า
เด็กตลาดเด็กสวนกวนน้องยา
เสียงร้องจ้ามาวัดเสียงชัดไกล

๐ พี่ต้องปลอบทุกทีที่ร้องร่ำ
บ้างก็ขำที่เจ้าเฝ้าร้องใหญ่
ยื่นขนมแป็บเดียวเดี๋ยวหยุดไว
น้ำตาไหลเคี้ยวตุ้ยคุยครื้นเครง

๐ ดวงตะวันคล้อยเคลื่อนเดือนปีผ่าน
ความเงียบเหงาคืบคลานพานโหรงเหรง
เพื่อนเก่าก่อนเริ่มหายไกลไปเอง
ความวังเวงเยือนวัดชัดทุกวัน

๐ เหลือเพียงเจ้าพอได้คลายเหงาหงอย
เก็บบัวน้อยบัวใหญ่ให้จอมขวัญ
ความเป็นมิตรตระการสานสัมพันธ์
หนามบัวนั้นเล็กน้อยนะกลอยใจ..

 emo_12

ปล.เรื่องต่อสัมผัสไม่เป็นไรหรอกจ้า..น้องดวงไฟ
เขียนแบบพี่กันน้องกันจ่ะ..
..แต่..ถ้าต่อได้ก็ดีน๊า..เพราะว่าหลายที่เค้านิยมกันจ่ะ..
..น้องพี่เก่งมากเลยน๊า..

 emo_47


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 21 สิงหาคม 2009, 11:22:PM
ฟังพี่ว่าบาดแผลแค่เล็กน้อย
นั่นมิใช่ริ้วรอยให้สั่นไหว
ยินพี่เอ่ยเลยฉ่ำด้วยคำใด
ว่ามิใคร่กลัวเจ็บเพราะเก็บบัว

จึงขอบคุณอย่างยิ่งกับสิ่งมอบ
น้ำใจจักคืนตอบโดยถ้วนทั่ว
คืนไปกับริ้วลายและสายบัว
ทุกตนตัวต่างรู้คอยดูกัน

ว่าน้ำใจที่ยื่นจะคืนสู่
ในทุก ๆ อณุแม้หลับฝัน
ก็ยังคงอธิษฐานผ่านคืนวัน
ให้เรานั้นเคียงข้างอย่างนี้ไป

ให้สัมพันธ์วันเก่าของเราแน่น
และเหมือนแม้นดุจเช่นเส้นบัวใหญ่
มิอาจตัดขาดเยื่อยังเหลือใย
ไม่มีแม้วันไหนสะบั้นลง

ปล ขอบคุณพี่ระนาดเอกที่ให้เกียรติร่วมต่อกลอนค่ะ  


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 22 สิงหาคม 2009, 12:16:AM
เยื่อบัวน้อยไม่มีสบั้นขาด
เหมือนภาพวาดที่งดงามและเที่ยงตรง
ตัวพี่นี้มีใยรักที่มั่นคง
แต่เอวองค์สาวคนนั้นอกใหญ่จริง


กลอนอันนี้ก็ต่อเหมือนกัน
แต่จะถือว่าไม่ต่อก็ได้น่ะ
 emo_26 emo_26 emo_26


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 22 สิงหาคม 2009, 11:22:AM
ฟังพี่ว่าบาดแผลแค่เล็กน้อย
นั่นมิใช่ริ้วรอยให้สั่นไหว
ยินพี่เอ่ยเลยฉ่ำด้วยคำใด
ว่ามิใคร่กลัวเจ็บเพราะเก็บบัว

จึงขอบคุณอย่างยิ่งกับสิ่งมอบ
น้ำใจจักคืนตอบโดยถ้วนทั่ว
คืนไปกับริ้วลายและสายบัว
ทุกตนตัวต่างรู้คอยดูกัน

ว่าน้ำใจที่ยื่นจะคืนสู่
ในทุก ๆ อณุแม้หลับฝัน
ก็ยังคงอธิษฐานผ่านคืนวัน
ให้เรานั้นเคียงข้างอย่างนี้ไป

ให้สัมพันธ์วันเก่าของเราแน่น
และเหมือนแม้นดุจเช่นเส้นบัวใหญ่
มิอาจตัดขาดเยื่อยังเหลือใย
ไม่มีแม้วันไหนสะบั้นลง

ปล ขอบคุณพี่ระนาดเอกที่ให้เกียรติร่วมต่อกลอนค่ะ  


๐ อันสายใยแห่งบัวทั่วทั้งสาย
ต่อเรียงร่ายด้วยจิตพิศวง
อาจจะได้ระยะกะเส้นตรง
แต่ก็คงสั้นนิดกว่าจิตเรา

๐ เจ้าเหมือนเด็กซื่อซื่อคือมองเห็น
ย้ำว่าเป็นจิตอย่างครั้งวันเก่า
สายสัมพันธ์จึงนานซ่านนานเนา
ทั้งยิ่งเร้าเมื่อนึกให้ลึกไป

๐ ทั้งแผลบัวหนามบัวทั่วกายนั้น
พี่ยืนยันอุทิศด้วยจิตใส
ทุกครั้งตรองนั่งนึกระลึกวัย
ก็อำไพโดดเด่นเห็นจิตเธอ

๐ อธิษฐานกานท์กลอนจากพรเจ้า
ฟังแล้วเฝ้ารำพึงถึงเสมอ
ขออำนาจตรัยรัตน์ฉัตรเลิศเลอ
ย้อนสู่เกลอทรามวัยให้สำราญ..

 emo_12


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: piangfan ที่ 22 สิงหาคม 2009, 01:12:PM
ดอกบัวขาวนวลช่างชวนมองมา   
ยังน่านนาวาผกาสวยสี     
ดอกบัวนี้กรุ่นกลั่นกลิ่นหอมดี
สดสวยสีปรีอุราดูงามตา   

     


สวัสดีทุกท่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 22 สิงหาคม 2009, 01:45:PM
๐ อันสายใยแห่งบัวทั่วทั้งสาย
ต่อเรียงร่ายด้วยจิตพิศวง
อาจจะได้ระยะกะเส้นตรง
แต่ก็คงสั้นนิดกว่าจิตเรา

๐ เจ้าเหมือนเด็กซื่อซื่อคือมองเห็น
ย้ำว่าเป็นจิตอย่างครั้งวันเก่า
สายสัมพันธ์จึงนานซ่านนานเนา
ทั้งยิ่งเร้าเมื่อนึกให้ลึกไป

๐ ทั้งแผลบัวหนามบัวทั่วกายนั้น
พี่ยืนยันอุทิศด้วยจิตใส
ทุกครั้งตรองนั่งนึกระลึกวัย
ก็อำไพโดดเด่นเห็นจิตเธอ

๐ อธิษฐานกานท์กลอนจากพรเจ้า
ฟังแล้วเฝ้ารำพึงถึงเสมอ
ขออำนาจตรัยรัตน์ฉัตรเลิศเลอ
ย้อนสู่เกลอทรามวัยให้สำราญ..

 emo_12

เห็นแผลบัวหนามทั่วกายใจจะขาด
น้องมิอาจเห็นพี่นี้ต้องเจ็บนาน
แต่ขอบคุณซึ่งน้ำใจเช่นวันวาน
ไม่หักหาญน้ำใจรักด้วยยินดี

ดอกบัวงดงามนั้นช่างมีความหมาย
แต่ก็มีหลากหลายบุญให้เปรมปรี
เห็นหลวงตาเอื้อนเอ่ยในวันนี้
เปลี่ยนจากบัวนี้เป็นปัจจัยได้ไหมโยม


 emo_26 emo_26 emo_26

อันนี้จะถือว่าไม่ต่อก็ได้น่ะ

 emo_45 emo_45 emo_45


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 22 สิงหาคม 2009, 01:58:PM
ดอกบัวขาวนวลช่างชวนมองมา   
ยังน่านนาวาผกาสวยสี     
ดอกบัวนี้กรุ่นกลั่นกลิ่นหอมดี
สดสวยสีปรีอุราดูงามตา   

     


สวัสดีทุกท่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ


๐ ดอกบัวขาวดั่งประทีปกลีบขยาย
ซ่อนความหมายจำรัสวัตรคุณค่า
ยามจับจีบเหน็บป้อนซ้อนกลีบมา
บัวตรึงตราชวนให้ถวายพระ

๐ จากบงกชกลางบึงถึงชั้นหิ้ง
บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ฤทธิ์หัตถะ
มีธูปเทียนบูชาผกาคละ
ในขณะอธิษฐานการขอพร..

 emo_12


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 22 สิงหาคม 2009, 02:08:PM
๐ อันสายใยแห่งบัวทั่วทั้งสาย
ต่อเรียงร่ายด้วยจิตพิศวง
อาจจะได้ระยะกะเส้นตรง
แต่ก็คงสั้นนิดกว่าจิตเรา

๐ เจ้าเหมือนเด็กซื่อซื่อคือมองเห็น
ย้ำว่าเป็นจิตอย่างครั้งวันเก่า
สายสัมพันธ์จึงนานซ่านนานเนา
ทั้งยิ่งเร้าเมื่อนึกให้ลึกไป

๐ ทั้งแผลบัวหนามบัวทั่วกายนั้น
พี่ยืนยันอุทิศด้วยจิตใส
ทุกครั้งตรองนั่งนึกระลึกวัย
ก็อำไพโดดเด่นเห็นจิตเธอ

๐ อธิษฐานกานท์กลอนจากพรเจ้า
ฟังแล้วเฝ้ารำพึงถึงเสมอ
ขออำนาจตรัยรัตน์ฉัตรเลิศเลอ
ย้อนสู่เกลอทรามวัยให้สำราญ..

 emo_12

เห็นแผลบัวหนามทั่วกายใจจะขาด
น้องมิอาจเห็นพี่นี้ต้องเจ็บนาน
แต่ขอบคุณซึ่งน้ำใจเช่นวันวาน
ไม่หักหาญน้ำใจรักด้วยยินดี

ดอกบัวงดงามนั้นช่างมีความหมาย
แต่ก็มีหลากหลายบุญให้เปรมปรี
เห็นหลวงตาเอื้อนเอ่ยในวันนี้
เปลี่ยนจากบัวนี้เป็นปัจจัยได้ไหมโยม


 emo_26 emo_26 emo_26

อันนี้จะถือว่าไม่ต่อก็ได้น่ะ

 emo_45 emo_45 emo_45

๐ ควักปัจจัยถวายหมายบุญใหญ่
หลวงตาไซร้เอ่ยปากหลากบุญโหม
ควักแบ็งค์พันปึกใหญ่เหงื่อไหลโทรม
พระจู่โจมซึ่งหน้ามาขอตังค์

๐ หาแบ็งค์ย่อยก็พร่องมองเห็นเศษ
เหรียญต้นเหตุก็น้อยพลอยไม่ขลัง
ขอเลขเด็ดหลวงตาท่าจะดัง
ถ้าถูกครั้งงวดนี้ปรี่ใส่พาน..

 emo_47


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 22 สิงหาคม 2009, 02:27:PM
ฟังพี่ว่าบาดแผลแค่เล็กน้อย
นั่นมิใช่ริ้วรอยให้สั่นไหว
ยินพี่เอ่ยเลยฉ่ำด้วยคำใด
ว่ามิใคร่กลัวเจ็บเพราะเก็บบัว

จึงขอบคุณอย่างยิ่งกับสิ่งมอบ
น้ำใจจักคืนตอบโดยถ้วนทั่ว
คืนไปกับริ้วลายและสายบัว
ทุกตนตัวต่างรู้คอยดูกัน

ว่าน้ำใจที่ยื่นจะคืนสู่
ในทุก ๆ อณุแม้หลับฝัน
ก็ยังคงอธิษฐานผ่านคืนวัน
ให้เรานั้นเคียงข้างอย่างนี้ไป

ให้สัมพันธ์วันเก่าของเราแน่น
และเหมือนแม้นดุจเช่นเส้นบัวใหญ่
มิอาจตัดขาดเยื่อยังเหลือใย
ไม่มีแม้วันไหนสะบั้นลง

ปล ขอบคุณพี่ระนาดเอกที่ให้เกียรติร่วมต่อกลอนค่ะ  


๐ อันสายใยแห่งบัวทั่วทั้งสาย
ต่อเรียงร่ายด้วยจิตพิศวง
อาจจะได้ระยะกะเส้นตรง
แต่ก็คงสั้นนิดกว่าจิตเรา

๐ เจ้าเหมือนเด็กซื่อซื่อคือมองเห็น
ย้ำว่าเป็นจิตอย่างครั้งวันเก่า
สายสัมพันธ์จึงนานซ่านนานเนา
ทั้งยิ่งเร้าเมื่อนึกให้ลึกไป

๐ ทั้งแผลบัวหนามบัวทั่วกายนั้น
พี่ยืนยันอุทิศด้วยจิตใส
ทุกครั้งตรองนั่งนึกระลึกวัย
ก็อำไพโดดเด่นเห็นจิตเธอ

๐ อธิษฐานกานท์กลอนจากพรเจ้า
ฟังแล้วเฝ้ารำพึงถึงเสมอ
ขออำนาจตรัยรัตน์ฉัตรเลิศเลอ
ย้อนสู่เกลอทรามวัยให้สำราญ..

 emo_12


ต่อไม่ถูกแล้วค่ะ อิอิ
...


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 22 สิงหาคม 2009, 02:57:PM
๐ ควักปัจจัยถวายหมายบุญใหญ่
หลวงตาไซร้เอ่ยปากหลากบุญโหม
ควักแบ็งค์พันปึกใหญ่เหงื่อไหลโทรม
พระจู่โจมซึ่งหน้ามาขอตังค์

๐ หาแบ็งค์ย่อยก็พร่องมองเห็นเศษ
เหรียญต้นเหตุก็น้อยพลอยไม่ขลัง
ขอเลขเด็ดหลวงตาท่าจะดัง
ถ้าถูกครั้งงวดนี้ปรี่ใส่พาน..

 emo_47

น้องคนดีพี่เห็นใจเป็นหนักหนา
ที่ต้องหาเงินปัจจัยมาเกื้อหนุน
พี่นั้นขาดทั้งปัจจัยและก็ทุน
จะค้ำจุนไปเก็บบัวคงไม่พอ

แต่ก็ยังไม่สิ้นหวังในหนทาง
เพราะจัดว่างทางที่ต่างที่น้องขอ
พี่เฝ้าเพียรหาเลขเด็ดคอยเฝ้ารอ
พี่จดจ่อตอนหลวงตาเข้าห้องน้ำ

พี่ได้ยินเสียงเลขเด็ดจึงมาบอก
ไม่ได้หลอกเป็นความจริงทุกๆคำ
ได้ยินมาคือ แปด แป๊ด พี่ขอย้ำ
น้องจงจำถูกขึ้นมาได้ทำบุญ



หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: piangfan ที่ 22 สิงหาคม 2009, 09:23:PM

ดอกบัวนี้สีขาวเจ้างามยิ่ง
มาแอบอิงกระแสธารเบ่งบานอยู่
นิลุบลบานอยู่ในใจโฉมตรู
ช่างเลิศหรูกว่าดอกใดในสายธาร



สวัสดีทุกท่านค่ะ
แวะมาแจมค่ะ มือใหม่ค่ะ
ขอบคุณทุกท่านค่ะ


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 23 สิงหาคม 2009, 12:49:AM
๐ ยามลมลู่กลีบดอกหยอกบัวไหว
ภู่ภมรตอมใกล้ไล้บัวหวาน
กลิ่นเกสรอ่อนบางแต่พร่างนาน
เด่นตระการบึงหนองแสนต้องตา..

 emo_12


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 24 สิงหาคม 2009, 12:59:PM
แล้วบัว ณ กลางบึงจึงหวั่นไหว
เมื่อภมรบินใกล้จะเข้าหา
มาเวียนวนว่อนสู่หมู่ผกา
จึงรู้ว่างดงามยามต้องกัน

มาเทียวส่งหอมหวนให้ชวนหลง
ถึงหลับไหลก็คงเก็บไปฝัน
ว่าภมรอ้อนออดตลอดวัน
แล้วบัวนั้นจักรอดอ้อมกอดฤา

อ้อมกอดแห่งรักหอมที่ล้อมร่าย
ทุกวนเวียนเช้าสายได้ส่งสื่อ
แห่งวลีสีหวานนั้นผ่านมือ
จึงเผลอหมายยึดถือไว้ครอบครอง


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: Kotchanan ที่ 24 สิงหาคม 2009, 01:21:PM

ปีกบางใสเกี่ยวจินต์ถวิลหา
รอเพลาอุทัยใสผุดผ่อง
เพื่อจักพบอีกครั้งดังใจปอง
ฤา หม่นหมองครองช้ำกล้ำเดียวดาย

มือใดหนาโอบอ้อมอารีจิต
มือใดฤา มิคิดปลิดสลาย
ยามลมพลิ้วกลีบลู่พรูกระจาย
ลิ่วตามสายน้ำกรากจำจากจร

เราจะพบกันอีกไหม.. ยังไม่รู้
ดำดิ่งสู่ห้วงรักยากหักถอน
ยังรำพึงหึงหวงห่วงภมร
ด้วยฤทธิ์ศรก่อนกาลซ่านซึ้งใจ.



หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 24 สิงหาคม 2009, 04:41:PM
แล้วบัว ณ กลางบึงจึงหวั่นไหว
เมื่อภมรบินใกล้จะเข้าหา
มาเวียนวนว่อนสู่หมู่ผกา
จึงรู้ว่างดงามยามต้องกัน

มาเทียวส่งหอมหวนให้ชวนหลง
ถึงหลับไหลก็คงเก็บไปฝัน
ว่าภมรอ้อนออดตลอดวัน
แล้วบัวนั้นจักรอดอ้อมกอดฤา

อ้อมกอดแห่งรักหอมที่ล้อมร่าย
ทุกวนเวียนเช้าสายได้ส่งสื่อ
แห่งวลีสีหวานนั้นผ่านมือ
จึงเผลอหมายยึดถือไว้ครอบครอง

๐ หากร่ายเวทแปลงร่างดุจอย่างผึ้ง
บินเคล้าคลึงบัวบานปานสนอง
ที่ชูดอกเด่นบึงซึ่งชวนมอง
หลากแมลงล้วนจ้องปองบัวงาม

๐ ยิ่งกลีบบานไหวยั่วคล้ายรัวกวัก
สื่อทายทักโอบอ้อมหอมเกินห้าม
กระจายกลิ่นเกสรอ่อนอ่อนลาม
นำกลิ่นหวามโปรยปรายสู่สายลม

๐ บัวไสวมีฤทธิ์น่าพิศนัก
กี่นานจักได้เห็นเด่นเกินข่ม
แม้ใบบังนับร้อยหนามพร้อยคม
ผึ้งก็จมหลงฤทธิ์ลืมพิษภัย..

 emo_12


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 24 สิงหาคม 2009, 05:01:PM

ปีกบางใสเกี่ยวจินต์ถวิลหา
รอเพลาอุทัยใสผุดผ่อง
เพื่อจักพบอีกครั้งดังใจปอง
ฤา หม่นหมองครองช้ำกล้ำเดียวดาย

มือใดหนาโอบอ้อมอารีจิต
มือใดฤา มิคิดปลิดสลาย
ยามลมพลิ้วกลีบลู่พรูกระจาย
ลิ่วตามสายน้ำกรากจำจากจร

เราจะพบกันอีกไหม.. ยังไม่รู้
ดำดิ่งสู่ห้วงรักยากหักถอน
ยังรำพึงหึงหวงห่วงภมร
ด้วยฤทธิ์ศรก่อนกาลซ่านซึ้งใจ.



๐ ล่วงหลงผ่านตอมดมชมเกสร
ซึ้งอาทรหลงกลิ่นถวิลไหว
หว่างกลีบบัวสีหวานธารอุ่นไอ
พลันอยากให้กลีบฤทธิ์โอบปิดตัว

๐ ฝังเจ้าผึ้งหัวอ่อนค่อนข้างเซ่อ
ในดอกเธอข้ามคืนคลื่นสลัว
ให้สาสมแมลงแฝงตามัว
จะได้กลัวขยาดมาดอำไพ

๐ ให้มันหลงมลายในอ้อมกลีบ
ที่อยากรีบหลงเริงเพลิงเหลวไหล
ดั่งหลับนานสู่ทิพย์ลิบละไม
แต่ยิ้มได้ถึงบัวยั่วให้ตรม..

 emo_12


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 24 สิงหาคม 2009, 09:45:PM
แล้วบัว ณ กลางบึงจึงหวั่นไหว
เมื่อภมรบินใกล้จะเข้าหา
มาเวียนวนว่อนสู่หมู่ผกา
จึงรู้ว่างดงามยามต้องกัน

มาเทียวส่งหอมหวนให้ชวนหลง
ถึงหลับไหลก็คงเก็บไปฝัน
ว่าภมรอ้อนออดตลอดวัน
แล้วบัวนั้นจักรอดอ้อมกอดฤา

อ้อมกอดแห่งรักหอมที่ล้อมร่าย
ทุกวนเวียนเช้าสายได้ส่งสื่อ
แห่งวลีสีหวานนั้นผ่านมือ
จึงเผลอหมายยึดถือไว้ครอบครอง

๐ หากร่ายเวทแปลงร่างดุจอย่างผึ้ง
บินเคล้าคลึงบัวบานปานสนอง
ที่ชูดอกเด่นบึงซึ่งชวนมอง
หลากแมลงล้วนจ้องปองบัวงาม

๐ ยิ่งกลีบบานไหวยั่วคล้ายรัวกวัก
สื่อทายทักโอบอ้อมหอมแห่งท่าม
กระจายกลิ่นเกสรอ่อนอ่อนลาม
นำกลิ่นหวามโปรยปรายสู่สายลม

๐ บัวไสวมีฤทธิ์น่าพิศนัก
กี่นานจักได้เห็นเด่นเกินข่ม
แม้ใบบังนับร้อยหนามพร้อยคม
ผึ้งก็จมหลงฤทธิ์ลืมพิษภัย..

 emo_12

ช่างอ่อนสวยนวยนาดจนหยาดเยิ้ม
แห่งแรกเริ่มฤทธิ์หวานให้ผ่านไหว
ภมรตอมบินร่อนจึงหย่อนใจ
ว่าได้แล้วหรือไรในความปวง

ความปวงแห่งหอมหวนที่อวลฉม
น่าภิรมย์หวานซึ้งเจ้าผึ้งหลวง
อย่าให้สิ่งที่เห็นนั้นเป็นลวง
จะลุล่วงแห่งซึ่งอันผึ้ง-บัว

จะใกล้กันตราบนานไม่ผ่านหาย
ทุกวนเวียนเช้า-สาย-บ่ายสลัว
กี่ผองฤทธิ์พิษภัยก็ไม่กลัว
จะเป็นบัวเหนือตมเพื่อดมดอม

เพื่อให้เจ้าภมรได้ว่อนผ่าน
แล้วเคียงกันเนิ่นนานอย่างหวานหอม
กี่แยกจากพรากไกลก็ไม่ยอม
แล้วจักพร้อมเสกสรรทุกบรรดา

บรรดาแห่งสุขล้นที่ปรนเปรอ
จะเสนอจนใครใฝ่อิจฉา
ปู-ปลาว่ายเวียนผ่านแต่นานมา
ยังร้องว่างามนักรักของเรา


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 25 สิงหาคม 2009, 12:59:AM
แล้วบัว ณ กลางบึงจึงหวั่นไหว
เมื่อภมรบินใกล้จะเข้าหา
มาเวียนวนว่อนสู่หมู่ผกา
จึงรู้ว่างดงามยามต้องกัน

มาเทียวส่งหอมหวนให้ชวนหลง
ถึงหลับไหลก็คงเก็บไปฝัน
ว่าภมรอ้อนออดตลอดวัน
แล้วบัวนั้นจักรอดอ้อมกอดฤา

อ้อมกอดแห่งรักหอมที่ล้อมร่าย
ทุกวนเวียนเช้าสายได้ส่งสื่อ
แห่งวลีสีหวานนั้นผ่านมือ
จึงเผลอหมายยึดถือไว้ครอบครอง

๐ หากร่ายเวทแปลงร่างดุจอย่างผึ้ง
บินเคล้าคลึงบัวบานปานสนอง
ที่ชูดอกเด่นบึงซึ่งชวนมอง
หลากแมลงล้วนจ้องปองบัวงาม

๐ ยิ่งกลีบบานไหวยั่วคล้ายรัวกวัก
สื่อทายทักโอบอ้อมหอมแห่งท่าม
กระจายกลิ่นเกสรอ่อนอ่อนลาม
นำกลิ่นหวามโปรยปรายสู่สายลม

๐ บัวไสวมีฤทธิ์น่าพิศนัก
กี่นานจักได้เห็นเด่นเกินข่ม
แม้ใบบังนับร้อยหนามพร้อยคม
ผึ้งก็จมหลงฤทธิ์ลืมพิษภัย..

 emo_12

ช่างอ่อนสวยนวยนาดจนหยาดเยิ้ม
แห่งแรกเริ่มฤทธิ์หวานให้ผ่านไหว
ภมรตอมบินร่อนจึงหย่อนใจ
ว่าได้แล้วหรือไรในความปวง

ความปวงแห่งหอมหวนที่อวลฉม
น่าภิรมย์หวานซึ้งเจ้าผึ้งหลวง
อย่าให้สิ่งที่เห็นนั้นเป็นลวง
จะลุล่วงแห่งซึ่งอันผึ้ง-บัว

จะใกล้กันตราบนานไม่ผ่านหาย
ทุกวนเวียนเช้า-สาย-บ่ายสลัว
กี่ผองฤทธิ์พิษภัยก็ไม่กลัว
จะเป็นบัวเหนือตมเพื่อดมดอม

เพื่อให้เจ้าภมรได้ว่อนผ่าน
แล้วเคียงกันเนิ่นนานอย่างหวานหอม
กี่แยกจากพรากไกลก็ไม่ยอม
แล้วจักพร้อมเสกสรรทุกบรรดา

บรรดาแห่งสุขล้นที่ปรนเปรอ
จะเสนอจนใครใฝ่อิจฉา
ปู-ปลาว่ายเวียนผ่านแต่นานมา
ยังร้องว่างามนักรักของเรา

๐ เจ้าบัวเด่นดอกนี้วจีเพราะ
รูปก็เหมาะดอกเย้ยเผยไม่เฉา
ก้านก็อ่อนหนามนิดสะกิดเกลา
ข่วนแค่เย้าระคายให้ชวนพิศ

๐ เหล่าบัวบึงสร่างพร่างบึงใหญ่
เจียระไนเข้าเปรียบเทียบไม่ติด
บัวเจ้าเอ๋ยราศีที่ชวนชิด
เหมือนมีจิตละม้ายคล้ายใจคน

๐ กลัวเจ้าล่อภมรอ่อนยอมใจ
แล้วผลักไสสลัดพลัดหมองหม่น
ให้อายเหล่าปูปลาล้ากมล
จารึกผลผึ้งช้ำน้ำคำบัว

๐ ยามพบเหล่าผึ้งหนุ่มก็ชุ่มชื่น
ประดุจยื่นสายใยมอบใสหัว
ให้ผึ้งหลวงทะนงหลงระรัว
เคล้าเนียนัวชมปลื้มจนลืมรัง

๐ พอเบื่อหน่ายคารมเคยชมชอบ
โยนช้ำบอบขยี้ยื่นทีหลัง
ให้รับทัณฑ์เศร้าซมล้มประดัง
สู่ภวังค์หลงเสน่ห์อเวจี

๐ คงสิ้นแรงอ่อนล้าสิ้นท่ากลับ
เป็นผึ้งอับโชคชะตาล่มราศี
คราวหลงบัวคำหวานซ่านฤดี
กลัวผึ้งนี้ติดหล่มพรมน้ำตา..

 emo_12   


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 27 สิงหาคม 2009, 01:49:PM
แล้วบัว ณ กลางบึงจึงหวั่นไหว
เมื่อภมรบินใกล้จะเข้าหา
มาเวียนวนว่อนสู่หมู่ผกา
จึงรู้ว่างดงามยามต้องกัน

มาเทียวส่งหอมหวนให้ชวนหลง
ถึงหลับไหลก็คงเก็บไปฝัน
ว่าภมรอ้อนออดตลอดวัน
แล้วบัวนั้นจักรอดอ้อมกอดฤา

อ้อมกอดแห่งรักหอมที่ล้อมร่าย
ทุกวนเวียนเช้าสายได้ส่งสื่อ
แห่งวลีสีหวานนั้นผ่านมือ
จึงเผลอหมายยึดถือไว้ครอบครอง

๐ หากร่ายเวทแปลงร่างดุจอย่างผึ้ง
บินเคล้าคลึงบัวบานปานสนอง
ที่ชูดอกเด่นบึงซึ่งชวนมอง
หลากแมลงล้วนจ้องปองบัวงาม

๐ ยิ่งกลีบบานไหวยั่วคล้ายรัวกวัก
สื่อทายทักโอบอ้อมหอมแห่งท่าม
กระจายกลิ่นเกสรอ่อนอ่อนลาม
นำกลิ่นหวามโปรยปรายสู่สายลม

๐ บัวไสวมีฤทธิ์น่าพิศนัก
กี่นานจักได้เห็นเด่นเกินข่ม
แม้ใบบังนับร้อยหนามพร้อยคม
ผึ้งก็จมหลงฤทธิ์ลืมพิษภัย..

 emo_12

ช่างอ่อนสวยนวยนาดจนหยาดเยิ้ม
แห่งแรกเริ่มฤทธิ์หวานให้ผ่านไหว
ภมรตอมบินร่อนจึงหย่อนใจ
ว่าได้แล้วหรือไรในความปวง

ความปวงแห่งหอมหวนที่อวลฉม
น่าภิรมย์หวานซึ้งเจ้าผึ้งหลวง
อย่าให้สิ่งที่เห็นนั้นเป็นลวง
จะลุล่วงแห่งซึ่งอันผึ้ง-บัว

จะใกล้กันตราบนานไม่ผ่านหาย
ทุกวนเวียนเช้า-สาย-บ่ายสลัว
กี่ผองฤทธิ์พิษภัยก็ไม่กลัว
จะเป็นบัวเหนือตมเพื่อดมดอม

เพื่อให้เจ้าภมรได้ว่อนผ่าน
แล้วเคียงกันเนิ่นนานอย่างหวานหอม
กี่แยกจากพรากไกลก็ไม่ยอม
แล้วจักพร้อมเสกสรรทุกบรรดา

บรรดาแห่งสุขล้นที่ปรนเปรอ
จะเสนอจนใครใฝ่อิจฉา
ปู-ปลาว่ายเวียนผ่านแต่นานมา
ยังร้องว่างามนักรักของเรา

๐ เจ้าบัวเด่นดอกนี้วจีเพราะ
รูปก็เหมาะดอกเย้ยเผยไม่เฉา
ก้านก็อ่อนหนามนิดสะกิดเกลา
ข่วนแค่เย้าระคายให้ชวนพิศ

๐ เหล่าบัวบึงสร่างพร่างบึงใหญ่
เจียระไนเข้าเปรียบเทียบไม่ติด
บัวเจ้าเอ๋ยราศีที่ชวนชิด
เหมือนมีจิตละม้ายคล้ายใจคน

๐ กลัวเจ้าล่อภมรอ่อนยอมใจ
แล้วผลักไสสลัดพลัดหมองหม่น
ให้อายเหล่าปูปลาล้ากมล
จารึกผลผึ้งช้ำน้ำคำบัว

๐ ยามพบเหล่าผึ้งหนุ่มก็ชุ่มชื่น
ประดุจยื่นสายใยมอบใสหัว
ให้ผึ้งหลวงทะนงหลงระรัว
เคล้าเนียนัวชมปลื้มจนลืมรัง

๐ พอเบื่อหน่ายคารมเคยชมชอบ
โยนช้ำบอบขยี้ยื่นทีหลัง
ให้รับทัณฑ์เศร้าซมล้มประดัง
สู่ภวังค์หลงเสน่ห์อเวจี

๐ คงสิ้นแรงอ่อนล้าสิ้นท่ากลับ
เป็นผึ้งอับโชคชะตาล่มราศี
คราวหลงบัวคำหวานซ่านฤดี
กลัวผึ้งนี้ติดหล่มพรมน้ำตา..

 emo_12   


นึกน้อยใจยิ่งนักเหมือนหักหาญ
ใยระแวงต่อคำหวานที่น้องว่า
แต่ละคำน้องเอ่ยเผยออกมา
ใช่มีค่า เพียงล่องผ่าน ปานสายลม

สู้อุตส่าห์เก็บออมความหอมหวน
กี่แมลงร่อนทวนคำอวลฉม
ยังมิหวั่นไหวติงกับสิ่งชม
แต่หลงคำคารมของผึ้งบิน

จึงเผยใจในทีที่ปรากฏ
เปรียบคำหวานหยาดหยดรดแท่งหิน
แต่บัดนี้กร่อนกัดถนัดยิน
จึงไม่ชินหากขาดพลาดกันไป

ไม่มีผึ้ง คงแย่ แน่บัวเอ๋ย
ที่คุ้นเคยเทียวส่งความหลงใหล
หากวันหนึ่งแล้วเขามาเอาไป
บัวจะอยู่เยี่ยงใดกันหนอบัว

อันชาติชายกับสตรีเยี่ยงนี้หนอ
ละครั้งคราวหยอกล้อให้พอหัว
แล้วไหวหวั่นก็ลั่นก้องร้องระรัว
นึกหวาดกลัวขึ้นมากลางราตรี

กลัวความหวานลางเลือนเสมือนหาย
กลัวความหมายที่เคยเผยสักขี
เป็นเพียงแค่คำพร่ำฉ่ำชีวี
แล้วแต่นี้จักมิเหลือแม้เยื่อใย

สัญญาไหมผึ้งน้อยที่คอยร่อน
จะไม่คิดจากจรจนอ่อนไหว
ให้บัวบานต้องเฉาเหี่ยวสักเสี้ยวใจ
เป็นบัวแห้งกลางบึงใหญ่ยามไกลลา


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 17 เมษายน 2010, 12:32:AM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif)
แล้วบัว ณ กลางบึงจึงหวั่นไหว
เมื่อภมรบินใกล้จะเข้าหา
มาเวียนวนว่อนสู่หมู่ผกา
จึงรู้ว่างดงามยามต้องกัน

มาเทียวส่งหอมหวนให้ชวนหลง
ถึงหลับไหลก็คงเก็บไปฝัน
ว่าภมรอ้อนออดตลอดวัน
แล้วบัวนั้นจักรอดอ้อมกอดฤา

อ้อมกอดแห่งรักหอมที่ล้อมร่าย
ทุกวนเวียนเช้าสายได้ส่งสื่อ
แห่งวลีสีหวานนั้นผ่านมือ
จึงเผลอหมายยึดถือไว้ครอบครอง..(ดวงไฟ)

emo_10

๐ หากร่ายเวทแปลงร่างดุจอย่างผึ้ง
บินเคล้าคลึงบัวบานปานสนอง
ที่ชูดอกเด่นบึงซึ่งชวนมอง
หลากแมลงล้วนจ้องปองบัวงาม

๐ ยิ่งกลีบบานไหวยั่วคล้ายรัวกวัก
สื่อทายทักโอบอ้อมหอมแห่งท่าม
กระจายกลิ่นเกสรอ่อนอ่อนลาม
นำกลิ่นหวามโปรยปรายสู่สายลม

๐ บัวไสวมีฤทธิ์น่าพิศนัก
กี่นานจักได้เห็นเด่นเกินข่ม
แม้ใบบังนับร้อยหนามพร้อยคม
ผึ้งก็จมหลงฤทธิ์ลืมพิษภัย..(ระนาดเอก)

 emo_12

ช่างอ่อนสวยนวยนาดจนหยาดเยิ้ม
แห่งแรกเริ่มฤทธิ์หวานให้ผ่านไหว
ภมรตอมบินร่อนจึงหย่อนใจ
ว่าได้แล้วหรือไรในความปวง

ความปวงแห่งหอมหวนที่อวลฉม
น่าภิรมย์หวานซึ้งเจ้าผึ้งหลวง
อย่าให้สิ่งที่เห็นนั้นเป็นลวง
จะลุล่วงแห่งซึ่งอันผึ้ง-บัว

จะใกล้กันตราบนานไม่ผ่านหาย
ทุกวนเวียนเช้า-สาย-บ่ายสลัว
กี่ผองฤทธิ์พิษภัยก็ไม่กลัว
จะเป็นบัวเหนือตมเพื่อดมดอม

เพื่อให้เจ้าภมรได้ว่อนผ่าน
แล้วเคียงกันเนิ่นนานอย่างหวานหอม
กี่แยกจากพรากไกลก็ไม่ยอม
แล้วจักพร้อมเสกสรรทุกบรรดา

บรรดาแห่งสุขล้นที่ปรนเปรอ
จะเสนอจนใครใฝ่อิจฉา
ปู-ปลาว่ายเวียนผ่านแต่นานมา
ยังร้องว่างามนักรักของเรา..(ดวงไฟ)

emo_10

๐ เจ้าบัวเด่นดอกนี้วจีเพราะ
รูปก็เหมาะดอกเย้ยเผยไม่เฉา
ก้านก็อ่อนหนามนิดสะกิดเกลา
ข่วนแค่เย้าระคายให้ชวนพิศ

๐ เหล่าบัวบึงสร่างพร่างบึงใหญ่
เจียระไนเข้าเปรียบเทียบไม่ติด
บัวเจ้าเอ๋ยราศีที่ชวนชิด
เหมือนมีจิตละม้ายคล้ายใจคน

๐ กลัวเจ้าล่อภมรอ่อนยอมใจ
แล้วผลักไสสลัดพลัดหมองหม่น
ให้อายเหล่าปูปลาล้ากมล
จารึกผลผึ้งช้ำน้ำคำบัว

๐ ยามพบเหล่าผึ้งหนุ่มก็ชุ่มชื่น
ประดุจยื่นสายใยมอบใส่หัว
ให้ผึ้งหลวงทะนงหลงระรัว
เคล้าเนียนัวชมปลื้มจนลืมรัง

๐ พอเบื่อหน่ายคารมเคยชมชอบ
โยนช้ำบอบขยี้ยื่นทีหลัง
ให้รับทัณฑ์เศร้าซมล้มประดัง
สู่ภวังค์หลงเสน่ห์อเวจี

๐ คงสิ้นแรงอ่อนล้าสิ้นท่ากลับ
เป็นผึ้งอับโชคชะตาล่มราศี
คราวหลงบัวคำหวานซ่านฤดี
กลัวผึ้งนี้ติดหล่มพรมน้ำตา..(ระนาดเอก)

emo_12   


นึกน้อยใจยิ่งนักเหมือนหักหาญ
ใยระแวงต่อคำหวานที่น้องว่า
แต่ละคำน้องเอ่ยเผยออกมา
ใช่มีค่า เพียงล่องผ่าน ปานสายลม

สู้อุตส่าห์เก็บออมความหอมหวน
กี่แมลงร่อนทวนคำอวลฉม
ยังมิหวั่นไหวติงกับสิ่งชม
แต่หลงคำคารมของผึ้งบิน

จึงเผยใจในทีที่ปรากฏ
เปรียบคำหวานหยาดหยดรดแท่งหิน
แต่บัดนี้กร่อนกัดถนัดยิน
จึงไม่ชินหากขาดพลาดกันไป

ไม่มีผึ้ง คงแย่ แน่บัวเอ๋ย
ที่คุ้นเคยเทียวส่งความหลงใหล
หากวันหนึ่งแล้วเขามาเอาไป
บัวจะอยู่เยี่ยงใดกันหนอบัว

อันชาติชายกับสตรีเยี่ยงนี้หนอ
ละครั้งคราวหยอกล้อให้พอหัว
แล้วไหวหวั่นก็ลั่นก้องร้องระรัว
นึกหวาดกลัวขึ้นมากลางราตรี

กลัวความหวานลางเลือนเสมือนหาย
กลัวความหมายที่เคยเผยสักขี
เป็นเพียงแค่คำพร่ำฉ่ำชีวี
แล้วแต่นี้จักมิเหลือแม้เยื่อใย

สัญญาไหมผึ้งน้อยที่คอยร่อน
จะไม่คิดจากจรจนอ่อนไหว
ให้บัวบานต้องเฉาเหี่ยวสักเสี้ยวใจ
เป็นบัวแห้งกลางบึงใหญ่ยามไกลลา..(ดวงไฟ)

emo_10

๐ เป็นผึ้งน้อยบินเร่งอย่างเคว้งคว้าง
วนเวียนร่างเหนื่อยช้ำตามยถา
บึงกว้างใหญ่แดดร้อนสะท้อนมา
ความหวังซาตามแรงแห่งกำลัง

๐ เจ้าบัวเด่นเห็นอยู่บานสู้ฝน
ท้าแสงจนกลีบเจ้าวาวเปล่งปลั่ง
เอนก้านล้อลมร่ายเฉิดฉายจัง
ชวนใครรั้งด้วยจิตเพื่อชิดชม

๐ ไม่มีบัวดอกนั้นจากวันนี้
บึงราศีเริ่มขาดมาตรติดหล่ม
เหลียวทางใดรอบทิศจิตระบม
ผึ้งถูกปมบัวงามตามหลอนใจ

๐ พายุโบกโยกจัดซัดแกล้งย้ำ
ภมรช้ำยิ่งอ่อนอาวรณ์ไหว
ท่ามวารีบัวหลากฝากแต่ใบ
มิเหลือใยทำผึ้ง..ถึงคร่ำครวญ..(ระนาดเอก)

emo_12

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif)


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: BuaJantra ที่ 17 เมษายน 2010, 03:34:PM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif[/url])
"เก็บบัว?"



๐ เจ้าเห็นบัวชูช่อล้อยั่วเย้า
ก็ชวนเอาอุตส่าห์ฉุดคร่าพี่
ผลักไสหลังลงบึงกึ่งทุบตี
เร่งปากชี้ดอกนั้นชูชันงาม

๐ พี่ลุยโคลนจากตื้นสู่พื้นลึก
บ้างหยุดกึกโดนเกี่ยวเที่ยวบุ่มบ่าม
แหวกกอบัวด้นบุกแบบคุกคาม
ร่องรอยหนามขีดข่วนล้วนรอบตัว

๐ เจ้าชี้เอาดอกนั้นพลันดอกโน้น
เฝ้าตะโกนเสียงลั่นขันยิ้มหัว
ดีใจออกนอกหน้าปากระรัว
ชมแต่บัวล้วนสีที่ถูกใจ

๐ พี่จึงเปื้อนจึงเปรอะเลอะอยู่บ่อย
ตัวเต็มรอยหนามบัวทั่วตัวได้
ฝากแนวแผลเจ้าล้อหัวร่อไป
ส่งเสียงใสชวนหัวจนทั่วบึง

๐ เหมือนพี่เป็นดั่งบ่าวให้เจ้าใช้
แม้ไม่ใช่ทำกร้าวเจ้าขังขึง
จึงยอมเจ้าทุกครั้งไม่ดังดึง
กลัวเจ้าบึ้งหน้าเง้าเอาแต่งอน

๐ พี่เด็กวัดยอมเล่าเจ้าเด็กบ้าน
ทุกเช้าผ่านบิณฑบาตแสงสาดอ่อน
เจ้าตักบาตรทุกวันขวัญบวร
ลอบยิ้มตอนถวายบัวยั่วพี่ยา?"

emo_12

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif[/url])


............

พี่เก็บบัวให้น้องถวายพระ
ปลื้มฤทัยมิละสิเน่หา
ช่างขวนไขว่ขยันเพื่อกานดา
เป็นบุญพาพร้อมรักทุกธาตรี

พี่อย่าเปรียบตัวเปรยบ่าวใช้เลย
หยุดรำพึงรำเพยเอ่ยเยี่ยงนี้
น้องนั้นซึ้งพี่เก็บบัวด้วยความดี
เมตตาที่พี่ทำน้องไม่ลืม
emo_84 emo_95 emo_116





หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 27 มิถุนายน 2010, 04:16:AM

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif[/url])
แล้วบัว ณ กลางบึงจึงหวั่นไหว
เมื่อภมรบินใกล้จะเข้าหา
มาเวียนวนว่อนสู่หมู่ผกา
จึงรู้ว่างดงามยามต้องกัน

มาเทียวส่งหอมหวนให้ชวนหลง
ถึงหลับไหลก็คงเก็บไปฝัน
ว่าภมรอ้อนออดตลอดวัน
แล้วบัวนั้นจักรอดอ้อมกอดฤา

อ้อมกอดแห่งรักหอมที่ล้อมร่าย
ทุกวนเวียนเช้าสายได้ส่งสื่อ
แห่งวลีสีหวานนั้นผ่านมือ
จึงเผลอหมายยึดถือไว้ครอบครอง..(ดวงไฟ)

emo_10

๐ หากร่ายเวทแปลงร่างดุจอย่างผึ้ง
บินเคล้าคลึงบัวบานปานสนอง
ที่ชูดอกเด่นบึงซึ่งชวนมอง
หลากแมลงล้วนจ้องปองบัวงาม

๐ ยิ่งกลีบบานไหวยั่วคล้ายรัวกวัก
สื่อทายทักโอบอ้อมหอมแห่งท่าม
กระจายกลิ่นเกสรอ่อนอ่อนลาม
นำกลิ่นหวามโปรยปรายสู่สายลม

๐ บัวไสวมีฤทธิ์น่าพิศนัก
กี่นานจักได้เห็นเด่นเกินข่ม
แม้ใบบังนับร้อยหนามพร้อยคม
ผึ้งก็จมหลงฤทธิ์ลืมพิษภัย..(ระนาดเอก)

 emo_12

ช่างอ่อนสวยนวยนาดจนหยาดเยิ้ม
แห่งแรกเริ่มฤทธิ์หวานให้ผ่านไหว
ภมรตอมบินร่อนจึงหย่อนใจ
ว่าได้แล้วหรือไรในความปวง

ความปวงแห่งหอมหวนที่อวลฉม
น่าภิรมย์หวานซึ้งเจ้าผึ้งหลวง
อย่าให้สิ่งที่เห็นนั้นเป็นลวง
จะลุล่วงแห่งซึ่งอันผึ้ง-บัว

จะใกล้กันตราบนานไม่ผ่านหาย
ทุกวนเวียนเช้า-สาย-บ่ายสลัว
กี่ผองฤทธิ์พิษภัยก็ไม่กลัว
จะเป็นบัวเหนือตมเพื่อดมดอม

เพื่อให้เจ้าภมรได้ว่อนผ่าน
แล้วเคียงกันเนิ่นนานอย่างหวานหอม
กี่แยกจากพรากไกลก็ไม่ยอม
แล้วจักพร้อมเสกสรรทุกบรรดา

บรรดาแห่งสุขล้นที่ปรนเปรอ
จะเสนอจนใครใฝ่อิจฉา
ปู-ปลาว่ายเวียนผ่านแต่นานมา
ยังร้องว่างามนักรักของเรา..(ดวงไฟ)

emo_10

๐ เจ้าบัวเด่นดอกนี้วจีเพราะ
รูปก็เหมาะดอกเย้ยเผยไม่เฉา
ก้านก็อ่อนหนามนิดสะกิดเกลา
ข่วนแค่เย้าระคายให้ชวนพิศ

๐ เหล่าบัวบึงสร่างพร่างบึงใหญ่
เจียระไนเข้าเปรียบเทียบไม่ติด
บัวเจ้าเอ๋ยราศีที่ชวนชิด
เหมือนมีจิตละม้ายคล้ายใจคน

๐ กลัวเจ้าล่อภมรอ่อนยอมใจ
แล้วผลักไสสลัดพลัดหมองหม่น
ให้อายเหล่าปูปลาล้ากมล
จารึกผลผึ้งช้ำน้ำคำบัว

๐ ยามพบเหล่าผึ้งหนุ่มก็ชุ่มชื่น
ประดุจยื่นสายใยมอบใส่หัว
ให้ผึ้งหลวงทะนงหลงระรัว
เคล้าเนียนัวชมปลื้มจนลืมรัง

๐ พอเบื่อหน่ายคารมเคยชมชอบ
โยนช้ำบอบขยี้ยื่นทีหลัง
ให้รับทัณฑ์เศร้าซมล้มประดัง
สู่ภวังค์หลงเสน่ห์อเวจี

๐ คงสิ้นแรงอ่อนล้าสิ้นท่ากลับ
เป็นผึ้งอับโชคชะตาล่มราศี
คราวหลงบัวคำหวานซ่านฤดี
กลัวผึ้งนี้ติดหล่มพรมน้ำตา..(ระนาดเอก)

emo_12   


นึกน้อยใจยิ่งนักเหมือนหักหาญ
ใยระแวงต่อคำหวานที่น้องว่า
แต่ละคำน้องเอ่ยเผยออกมา
ใช่มีค่า เพียงล่องผ่าน ปานสายลม

สู้อุตส่าห์เก็บออมความหอมหวน
กี่แมลงร่อนทวนคำอวลฉม
ยังมิหวั่นไหวติงกับสิ่งชม
แต่หลงคำคารมของผึ้งบิน

จึงเผยใจในทีที่ปรากฏ
เปรียบคำหวานหยาดหยดรดแท่งหิน
แต่บัดนี้กร่อนกัดถนัดยิน
จึงไม่ชินหากขาดพลาดกันไป

ไม่มีผึ้ง คงแย่ แน่บัวเอ๋ย
ที่คุ้นเคยเทียวส่งความหลงใหล
หากวันหนึ่งแล้วเขามาเอาไป
บัวจะอยู่เยี่ยงใดกันหนอบัว

อันชาติชายกับสตรีเยี่ยงนี้หนอ
ละครั้งคราวหยอกล้อให้พอหัว
แล้วไหวหวั่นก็ลั่นก้องร้องระรัว
นึกหวาดกลัวขึ้นมากลางราตรี

กลัวความหวานลางเลือนเสมือนหาย
กลัวความหมายที่เคยเผยสักขี
เป็นเพียงแค่คำพร่ำฉ่ำชีวี
แล้วแต่นี้จักมิเหลือแม้เยื่อใย

สัญญาไหมผึ้งน้อยที่คอยร่อน
จะไม่คิดจากจรจนอ่อนไหว
ให้บัวบานต้องเฉาเหี่ยวสักเสี้ยวใจ
เป็นบัวแห้งกลางบึงใหญ่ยามไกลลา..(ดวงไฟ)

emo_10

๐ เป็นผึ้งน้อยบินเร่งอย่างเคว้งคว้าง
วนเวียนร่างเหนื่อยช้ำตามยถา
บึงกว้างใหญ่แดดร้อนสะท้อนมา
ความหวังซาตามแรงแห่งกำลัง

๐ เจ้าบัวเด่นเห็นอยู่บานสู้ฝน
ท้าแสงจนกลีบเจ้าวาวเปล่งปลั่ง
เอนก้านล้อลมร่ายเฉิดฉายจัง
ชวนใครรั้งด้วยจิตเพื่อชิดชม

๐ ไม่มีบัวดอกนั้นจากวันนี้
บึงราศีเริ่มขาดมาตรติดหล่ม
เหลียวทางใดรอบทิศจิตระบม
ผึ้งถูกปมบัวงามตามหลอนใจ

๐ พายุโบกโยกจัดซัดแกล้งย้ำ
ภมรช้ำยิ่งอ่อนอาวรณ์ไหว
ท่ามวารีบัวหลากฝากแต่ใบ
มิเหลือใยทำผึ้ง..ถึงคร่ำครวญ..(ระนาดเอก)

emo_12

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif[/url])


ด้วยจากลาห่างหายเสียหลายนาน
ก็ยังคงเบ่งบานและหอมหวน
ใช่จะทิ้งผึ้งน้อยลอยเย้ายวน
อย่าเพิ่งด่วนพลัดพรากถึงจากลา

กลับมาเป็นปทุมทองเป็นของพี่
ในทุกท่วงนาทียังห่วงหา
แม้ไม่พบไม่ใกล้อยู่ไกลตา
รู้เถอะว่ายังคิดถึงเจ้าผึ้งบิน


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 28 มิถุนายน 2010, 02:50:AM
ด้วยจากลาห่างหายเสียหลายนาน
ก็ยังคงเบ่งบานและหอมหวน
ใช่จะทิ้งผึ้งน้อยลอยเย้ายวน
อย่าเพิ่งด่วนพลัดพรากถึงจากลา

กลับมาเป็นปทุมทองเป็นของพี่
ในทุกท่วงนาทียังห่วงหา
แม้ไม่พบไม่ใกล้อยู่ไกลตา
รู้เถอะว่ายังคิดถึงเจ้าผึ้งบิน........(ดวงไฟ)

ยังรอคอย ลอยคอ ชูช่อไสว
แอบบังใบ ในกลาง หว่างชลสินธ์
หมายเคลียคลอ รอเคล้า เจ้าภุมริน
มิพักสิ้น กลิ่นอาย กลางสายธาร

เป็นโกสุม ปทุมมาลย์ ที่บานพร้อม
ให้ภิรมย์ ดมดอม ความหอมหวาน
เพียงภมร ร่อนทั่ว ล้อบัวบาน
ใจก็จะ สะท้าน เกินต้านแล้ว.....



ปทุมมาลย์บานพร้อมจึงล้อมด้วย
หมู่ภมรว่อนสวยระรวยแถว
โน่นก็เกี่ยว นั่นกอดตลอดแนว
จึงฉายแววรวมเป็นหนึ่งหว่างผึ้ง-บัว


หัวข้อ: Re: เก็บบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงไฟ ที่ 28 มิถุนายน 2010, 05:07:AM
เมื่อบัวน้อย ลอยช่อ รอรับแสง
หมู่แมลง แฝงเข้า คลอเคล้าทั่ว
กลีบเกสร ซ่อนเร้น ก็เต้นรัว
พร้อมเผยตัว ยั่วเย้า เหล่าภมร

จึงจำนนแล้วเอยให้เชยชม
จำนนต่อคารมอันออดอ้อน
ทั้งถ้อยพร่ำร่ำหาวาจากลอน
ว่าหวานอ่อนวอนขับกล่อมหลับตา

ที่ชูชันช่องามในยามนี้
จึ่งน้าวโน้มโลมชีวีให้โหยหา
เจ้าภมรที่อ้อนออดตลอดมา
ประหนึ่งว่าขาดเจ้าคงเฉาตาย