หัวข้อ: เรื่องเล่าจากรัตติกาล เริ่มหัวข้อโดย: Kotchanan ที่ 31 กรกฎาคม 2009, 02:17:AM สิ่งที่มาพร้อมกับความมืด
เมื่อแสงสูรย์สุดท้ายลับชายฟ้า ปฐมกาลดาราทะยานเคลื่อน เติมมวลสารต้านเงาสิ่งเหย้าเยือน เงื้อมราตรีสีเถื่อนอันดุ, ดำ ค่อยคืบคลุมรุมกลืนเต็มพื้นที่ สรรพเสียงแมงราตรีก็กรีดร่ำ ร่ายปี่พาทย์ประกาศสัจธรรม กลบเสียงส่ำก้อนเนื้อเยื่อชีวิต ท่ามความหวั่นวิตก อกระทึก ดาวประกายพรึกประกาศิต ปรุงระยับประดับประจำทิศ เนรมิตแสงงามอยู่วามแวว สิ้นเสียงสั่นระทึก ณ ดึกนั้น เงาหนึ่งพลันหายลับกับตึกแถว มหกรรมทัพดาวยังพราวแพรว ทอดก่อบันไดแก้วกลางเมฆา เหลือร่องรอยสังหารการต่อสู้ กับหนึ่งผู้ล้มตายปริศนา หลักฐานคลี่คลายอยู่ปลายฟ้า ใต้เงื่อนงำราตรี แห่งกลียุค ทันทีที่ริ้วทองแยงส่องหล้า ประกายเก็จน้ำฟ้ามาปลอบปลุก ปลิดรอยด่างดวงดำเคยลามรุก ดาวพระศุกร์รุ่งสางเริ่มจางไป ...... .. ขณะราตรีสีนิลอีกถิ่นโพ้น ร่างหนึ่งโดนมืออธรรมขย้ำใส่ คลื่นดาวเคลื่อนเยือนเติมเจิมฟ้าไกล พฤกษาไหววูบเหวี่ยง..กลบเสียงนั้น. แก้ไขโพสต์โดยผู้ดูแลระบบ หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากรัตติกาล เริ่มหัวข้อโดย: มารเงา ที่ 01 สิงหาคม 2009, 12:13:AM เสียงกระซิบจากรัตติกาล อัสดงลงลับดับขอบฟ้า หมู่เมฆาเคลื่อนคล้อยค่อยบังแสง ลมลัดเลาะโลดเล่นเริ่มรุนแรง มวลแมลงเร่าร้องระเริงใจ ฟ้ามืดลงคงขาดแสงอาทิตย์ ฟ้ามืดมิดหม่นหมอง บ่ สดใส รัตติกาลเคลื่อนคล้อยเข้าว่องไว พาหัวใจให้เหงาเศร้าระทม ลมล่องลอยในคืนเงียบสงัด ลมโพยพัดขับเสียงเรียงขื่นขม รู้รับได้จากกระซิบของสายลม ที่พัดพรมข่มจิตให้เจ็บใจ ลมหยุดแล้วลมเอยลมหยุดแล้ว ก็ไม่แคล้วยินเสียงสำเนียงใส พริ้งไพเราะเพราะเพริศบรรเจิดใจ ได้ยินไหมเสียงกระซิบรัตติกาล ช่วงนี้การบ้านเยอะมาก มาร่วมแจมได้ไม่บ่อยนะขอรับ หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากรัตติกาล เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 03 สิงหาคม 2009, 01:51:PM เมื่อหมู่ดาวรายดวงแต้มห้วงฟ้า
ตะวันลาเลื่อนลับดับดวงสูญ ราตรีห่มพรมหล้าด้วยอาดูร ทวีคูณเหงาเงียบและเยียบเย็น ระวังไพรแทรกพงให้หลงหวาด อสนีบาตวาดสายชายฟ้าเห็น เสียงฉีกเนื้อขบฟัดกัดสัตว์เป็น ซ่อนขุกเข็ญจากสายตายามราตรี จึงความกลัวจับใจอยู่จดจ่อ เหมือนรินลมรดคออยู่ทุกที่ ภาวนารักษาตนพ้นคืนนี้ รอสุรีย์คืนนภากระวนกระวาย... emo_30 หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากรัตติกาล เริ่มหัวข้อโดย: ปาระ ที่ 03 สิงหาคม 2009, 02:35:PM สุริยันอัสดงล่วงลงแล้ว
เมฆาแผ่วมืดฟ้าหนาใจหาย ดวงจันทราเคียงหมู่ดาวเข้าเรียงราย เป็นประกายแสงสว่างกระจ่างทรวง นั่งหนาวกายอาลัยรักขาดเพียงคู่ ยังไม่รู้จะมีไหนคนมาหวง นอนคนเดียวเปลี่ยวกายขาดคู่ควง อยากจะห่วยใยรักใครสักที นั่งมองดาวพราวแสงราตรีอุ่น มิเคยคุ้นรักร้อนอ้อนวิถี อยากจะมีคู่รักอุ่นกลุ่นฤดี ในยามนี้หนาวใจนักรักร้างกาย หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากรัตติกาล เริ่มหัวข้อโดย: มานพ ที่ 08 สิงหาคม 2009, 09:44:PM ฟังเรื่องเล่าจากสาวยามวิกาล ใจสะท้านหวั่นไหวในคืนนี้ อันความเศร้าเหงาใจที่เคยมี ไม่รู้หนีไปไหนหายหมดเลย ค่ำคืนนี้ราตรีที่บ้านน้อง มีแสงส่องจันทร์ฉายใยนิ่งเฉย คิดถึงกันบ้างหรือเปล่าเล่าทรามเชย คงไม่เคยคิดถึงพี่ที่ยังคอย emo_47 emo_45 emo_54 emo_20. หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากรัตติกาล เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 09 สิงหาคม 2009, 09:19:PM รัตติกาลแต่ละวารยากผ่านพ้น
เพ้อทุกข์ทนหม่นไหม้เศร้าใจเหลือ เงินไม่พอต่อเน็ตไวเข้าในเครือ ทนกัดก้อนกินเกลือเพื่อแต่งกลอน หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากรัตติกาล เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 20 มีนาคม 2010, 03:15:AM ร้อยกลอนกานท์ผ่านคืนที่ตื่นอยู่ จากดนูผู้หนึ่งถึงบุหลัน นับเวลาเลยล่วงช่วงคืนวัน ยามราตรีนี้นั้นใยจันทร์เลือน ฤาข้างขึ้นเพียงนิดเลยฤทธิ์น้อย แสงจึงพลอยเร้นหายยามคล้อยเคลื่อน ลิบๆหรี่ ลี้ไกลอยู่ไหนเดือน เชิญเป็นเพื่อนเถิดหนายามราตรี โน่น...ม่านหมอก หยอกเย้าในราวพฤกษ์ นั่น...ผลึก น้ำค้างที่พร่างสี นี่สายลมพรมร่ายในราตรี แล้วก็โน่นพงพีที่คุ้นเคย รวมกันเฉกภาพเขียนในห้วงภพ ที่สงบในยามดึกหนอใจเอ๋ย เชิญสิขวัญเชิญเถิดเชิญชมเชย ก่อนจะเลยล่วงพ้นสู่ทิวา หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากรัตติกาล เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 09 พฤษภาคม 2010, 04:57:AM และชะโลมรอยทิพย์ทุกหีบห้อง ให้หอมหวลประคองทุกท้องที่ ดาระดาษวิลาสล้วนแต่สิ่งดี รดชีวีให้พร่างกระจ่างมาน หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากรัตติกาล เริ่มหัวข้อโดย: คนไร้ค่า ที่ 09 พฤษภาคม 2010, 04:37:PM เสียงกระซิบแผ่วผิวมาตามลม
กลิ่นลั่นทมหอมหวลชวนหลงใหล รัตติกาลมิตรสนิทที่รู้ใจ แสนสดใสยามอยู่เคียงรัตติกาล นั่งมองฟ้าจันทราแสนสดสวย ดาวก็ด้วยสุกสกาวทุกวันวาน อยู่ข้างเคียงเป็นมิตรมิหักหาญ แสนสำราญได้เคียงเธอรัตติกาล หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากรัตติกาล เริ่มหัวข้อโดย: Kotchanan ที่ 25 พฤษภาคม 2011, 11:30:PM นักฝัน.. กับดาริกา สิ้นแสงจากห้วงหาวของดาวหนึ่ง นักฝันซึ่งมองเหม่อก็เพ้อหา รินเมรัยฉลองค่ำต่างน้ำตา ใต้คอนกรีตชายคา.. บอกลาดาว เจ้าโคจรจักรวาลเนิ่นนานนัก บนห้วงจักรภพ ยะเยือกหนาว ผ่านสมรภูมิสุมเรื่องราว วีรกรรมเกินกล่าว.. สดุดี สำหรับข้า.. จักดับฝันพร้อมดารารัศมี พำนักจิตล้าอ่อนจรลี ขอลาเจ้าตรงนี้.. นิจกาล. ข้าเหนื่อยล้ากว่าเจ้าดาวรุจี ไร้คำเขียนกวี.. นิจกาล. (http://www.ohzeed.com/bar_022.gif) (http://www.ohzeed.com) แก้ไขโพสต์โดยผู้ดูแลระบบ หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากรัตติกาล เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 26 พฤษภาคม 2011, 10:37:AM แสงหิ่งห้อยลอยวับ ประดับถิ่น ดาวโบยบินเรียงรายกระจายสาน จันทร์ดวงเดิมยิ้มเด่น เช่นคืนวาน ลมพลิ้วผ่านหนาวอุ่น ละมุนมัย รัตติกาล...เคลื่อนคล้อย ล่องลอยลับ นภาดับดาวซ่อน ลมอ่อนไหว จันทร์รุกเร่งแกล้งหนี หลีกลี้ไกล เหลือร่างไร้ ดวงจิต เฝ้าพิศครวญ (http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/hh86.gif) หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากรัตติกาล เริ่มหัวข้อโดย: จอมขวัญ ที่ 29 พฤษภาคม 2011, 12:50:PM แสงหิ่งห้อยลอยวับ ประดับถิ่น ดาวโบยบินเรียงรายกระจายสาน จันทร์ดวงเดิมยิ้มเด่น เช่นคืนวาน ลมพลิ้วผ่านหนาวอุ่น ละมุนมัย รัตติกาล...เคลื่อนคล้อย ล่องลอยลับ นภาดับดาวซ่อน ลมอ่อนไหว จันทร์รุกเร่งแกล้งหนี หลีกลี้ไกล เหลือร่างไร้ ดวงจิต เฝ้าพิศครวญ ([url]http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/hh86.gif[/url]) emo_47 ในอาณาจักรสังคมใหญ่ เธออาจเปรียบ'เส้นใย'ในผ้าม่าน เป็นหิ่งห้อยในยามราตรีกาล ที่ใครใครมองผ่านแล้วเลยไป emo_55เพราะเธอคือ'อาณาจักร'ของฉัน เธอนั้นคือ'เส้นเลือดใหญ่' เป็นออกซิเจนที่เวียนไหล ค่อยหล่อเลี้ยง'หัวใจ'ไปตราบกาล. ~จอมขวัญ~ emo_54 emo_25 emo_19 |