หัวข้อ: ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา เริ่มหัวข้อโดย: ปางสีฝุ่น ที่ 12 กรกฎาคม 2009, 02:04:PM ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา เกลี่ยดอกแก้ว..แววหวัง..หลังหลุดร่วง แต่ละดวง..ดั่ง-วาด..สี.หวาดไหว มาหล่นเรี่ย..ริมข้าง..รางรถไฟ ล้วน!.ดาวฝัน..ดาวใฝ่..ของใครกัน..?. โอ้.ดาวเอ๋ย..ดาวน้อย..ดวงนิด ดุจบันได..ชีวิต..เดินผิดขั้น จึงปลิดปลิว..ลิ่วคว้าง..ลงกลางครัน หลัง.สูญสิ้น..อำพัน..อันลำพอง พอแว่ว.หวูด..รถไฟ..ไหวความหวัง กอดกระเป๋า..เกรอะกรัง..ลงนั่งหมอง ทิ้งฝันเฝื่อน..เกลื่อนก่น..ให้หล่นกอง ถม.ขอบทาง..ราง.ร่อง..สถานี เหมือนอับแสง..แรงหมาย..มุ่งปลายฟ้า จำ.รอนร่วง..โรยรา..แล้ว.ริบหรี่ จึง.แรมร้าง..จากเมือง..เรือง.รวี คืน.สู่ขอน..คอน.คีรี..ถิ่นที่มา เก็บแก้วใจ..ดวงดับ..จับลงกล่อง ฉายแสงเงา..เศร้าหมอง..ส่องใบหน้า เสียงรถไฟ..เทียบฐาน..ณ.ชานชลา จบตำนาน..แสวงหา..จาก.เมืองกรุง..ฯฯ --------------------------------------------- "ปางสีฝุ่น." หัวข้อ: Re: ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 12 กรกฎาคม 2009, 04:32:PM ริมชานชลาที่คราคร่ำคนย่ำผ่าน
สุดประมาณจะแจงนับจับเคลื่อนไหว ทิ้งร่องรอยแห่งความหลังไว้ฝังใจ ด้วยห่างไกลจึงนำเรา....มาร่วมทาง นั่งมองฟ้าคราที่ดาวยังสกาวเด่น จนดาวเร้นหลบหายกลายฟ้าสาง ดูดาวตกตระหนกนักรักอาจจาง สุดเส้นทางคงจบกัน..สัมพันธ์เรา..อิอิ ...แบบว่า..แวะมาแซวอะจ้า หัวข้อ: Re: ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 13 กรกฎาคม 2009, 12:33:PM อโศกแต้มดอกแดงแต่งชายป่า
ต้อนรับคืนเคหาเคยอาศัย ถนนนั้นทอดยาวให้ก้าวไป ถนนยังยินดีให้ได้ก้าวคืน ลมยังพลิ้วผิวเพลงฤดูผ่าน แม้วันหวานผ่านไปกลายขมขื่น กลีบดอกไม้ร่วงพรมถมแผ่นพื้น ฤดูผ่านดอกดื่นย่อมฟื้นมา emo_20 หัวข้อ: Re: ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 13 กรกฎาคม 2009, 02:02:PM กลับคืนคอนดอนควนอันหวนหา
หลังอำลาฟ้าเรืองเมืองคนหลาก จบความหวังนั่งวกคืนรกราก จำวันจากซากหวังยังกรุ่นลอย ชบาขานบานขับรับวันหวน แม้ปลายป่วนด้วยปืนไม่ขืนถอย ขอมอบร่างให้แผ่นดินถิ่นใจคอย เพราะอย่างน้อยรอยรากรกยังปกกาย หัวข้อ: Re: ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 15 กรกฎาคม 2009, 07:24:PM ประกายพรึกแลโชติช่วง ณ ล่วงสาง
ส่งแสงจางวางแนววาดสาดสีแสง อรุณเบิกฟ้ามาอบอุ่นกรุ่นแสงแรง ทิ้งนัยแฝงแห่งราตรีที่ยาวนาน ยินเพียงเสียงฉึกฉัก ฉึกฉัก..สักพักหาย เหลือความหมายหรืออย่างไรในสถาน หรือเพียงพบ..เพื่อได้ปลื้มแล้วลืมกาล หยุดสืบสาน..หยุดตำนาน..ที่ชานชลา ...แบบว่า หัวข้อ: Re: ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 15 กรกฎาคม 2009, 07:50:PM กระเป๋าเสื่อเสื้อขาดกระดาษวิ่น
กระทบดินสิ้นแรงจะแข่งขัน ดั่งถูกสูบชิวิญสิ้นชีวัน จากสวรรค์เมืองฟ้า ผวาคืน กลิ่นกลีบแก้วกรรณิการ์มิกล้ากรุ่น หอมละมุน อุ่นหล้าให้กล้าฝืน เผชิญกรรม กระหน่ำซัด เถอะหยัดยืน ผ่านวันคืน ฟื้นดิน ยังถิ่นเดิม.. มิกล้าบอกว่ามีความนัยใดซุกซ่อน เนื่องจาก... มิมีใด...อิ อิ หัวข้อ: Re: ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 16 กรกฎาคม 2009, 06:08:PM ดั่ง.ดอกดาว..ร่วงรายราน..ริมชานชลา เกลี่ยดอกแก้ว..แววหวัง..หลังหลุดร่วง แต่ละดวง..ดั่ง-วาด..สี.หวาดไหว มาหล่นเรี่ย..ริมข้าง..รางรถไฟ ล้วน!.ดาวฝัน..ดาวใฝ่..ของใครกัน..?. โอ้.ดาวเอ๋ย..ดาวน้อย..ดวงนิด ดุจบันได..ชีวิต..เดินผิดขั้น จึงปลิดปลิว..ลิ่วคว้าง..ลงกลางครัน หลัง.สูญสิ้น..อำพัน..อันลำพอง พอแว่ว.หวูด..รถไฟ..ไหวความหวัง กอดกระเป๋า..เกรอะกรัง..ลงนั่งหมอง ทิ้งฝันเฝื่อน..เกลื่อนก่น..ให้หล่นกอง ถม.ขอบทาง..ราง.ร่อง..สถานี เหมือนอับแสง..แรงหมาย..มุ่งปลายฟ้า จำ.รอนร่วง..โรยรา..แล้ว.ริบหรี่ จึง.แรมร้าง..จากเมือง..เรือง.รวี คืน.สู่ขอน..คอน.คีรี..ถิ่นที่มา เก็บแก้วใจ..ดวงดับ..จับลงกล่อง ฉายแสงเงา..เศร้าหมอง..ส่องใบหน้า เสียงรถไฟ..เทียบฐาน..ณ.ชานชลา จบตำนาน..แสวงหา..จาก.เมืองกรุง..ฯฯ --------------------------------------------- "ปางสีฝุ่น." มองภาพดั่งดอกโศกบนลานเศร้า หุบห้วงเหงาในเงาเคล้าโศกศัลย์ รดรินรินกลิ่นคำย้ำจาบัล เจ็บชีวันครั้นคราวเข้าสู่กรุง งามพลังยังอยู่เมื่อแจ่มจ้า ดวงชีวากล้าก้าวใจหมายมุ่ง เชิญเถิดขวัญหยัดยืนอย่างจรุง จะแปลงปรุงชีวีนี้อย่ากลัว |