พิมพ์หน้านี้ - ** บทเพลงกับชีวิต **

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: เจ้านาง ที่ 22 พฤษภาคม 2009, 04:12:AM



หัวข้อ: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 22 พฤษภาคม 2009, 04:12:AM
http://www.oknation.net/blog/nang/2009/05/08/entry-1 (http://www.oknation.net/blog/nang/2009/05/08/entry-1)

มธุรสบทเพลงบรรเลงแว่ว
กระซิบแผ่วกังสดาลขับขานเสียง
แนบเนาใจในฝันอันจำเรียง
ก้องอยู่เคียงชิดใกล้ไม่เลือนลา

บทเพลงนี้มีมากหลายหลากรส
แนวกำหนดชีวิตคิดสรรหา
บทเพลงโศก เพลงเศร้า เคล้าน้ำตา
แจ่มหรรษาสุขทุกข์คลุกเคล้าไป

บทเพลงนั้นช่วยดลมนต์อาถรรพ์
ปานเสียงจากสวรรค์นั้นเสกให้
ก่อเป็นคำหวานซึ้งตรึงฤทัย
แว่วครั้งใดเปี่ยมค่า คราจาบัลย์

ชีวิตขึ้นด้วยกรรมก่อนำผล
บทเพลงดลชีวิตคิดสร้างสรรค์
มีหัวเราะร้องไห้ใจรำพัน
ทุกสิ่งนั่น นี่หรือ คือ "ละคร"

ต่างแสดงไปตามกฎ ของบทบาท
แต่ละชาติภาษาใดไม่ถ่ายถอน
ดิ้นรนต่อสู้กันทุกขั้นตอน
มิผันผ่อนเพื่ออยู่รอดตลอดไป

บทเพลงกับชีวิต
ตามลิขิตวาระจะผลักไส
หาก"เพลงโศก" กระหึ่ม มาครั้งใด
โปรดรู้ไว้ ชีวิตเรา ถูกเผาแล้ว

http://www.oknation.net/blog/nang/2009/04/08/entry-1 (http://www.oknation.net/blog/nang/2009/04/08/entry-1)




หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 22 พฤษภาคม 2009, 12:27:PM

ล้นคำหลากฝากเรียมให้เตรียมรับ
ร้อยลำดับขับกานท์ละลานรื่น
คราเพลงคล้องร้องครวญยั่วยวนคืน
โสตแสนชื่นยื่นรับประดับแด

ลิขิตมนตร์ดลมานได้หวานซึ้ง
รินรำพึงดึงรำเพยเผยกระแส
กล่อมชีวิตติดชีวันที่ผันแปร
ทุกข์ย่ำแย่แค่ไหนไล่ตามเพลง

คือบันทึกลึกท้นอันย่นย่อ
ที่ขับคลอล้อเคียงเพียงเพลินเพ่ง
อิงโอ้อวดลวดลายหมายบรรเลง
ให้ตูมเต่งเร่งเร้าเข้าอารมณ์

จวบจนสิ้นดินกลบลบรอยร่าง
เพลงยังสร้างวางสร้อยร้อยคำสม
ขับบทกล่อมล้อมรายความตายตรม
กำจายพรมคมเพลงบรรเลงพลัน





หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ยอด~ ที่ 24 พฤษภาคม 2009, 12:38:AM

สายลมหนาววูบพัดซัดสองร่าง
กายแบบบางแตกร้าวเป็นรอยริ้ว
หอบเศษหญ้าผ้าซิ่นฝุ่นดินปลิว
เสียงหวีดหวิวลมเป่าทุกเช้าเย็น

เพียงผ้าบางสองผืนที่ฝืนสู้
นอนคุดคู้จำทนเพราะจนเข็ญ
ความลำบากตรากตรำสุดลำเค็ญ
เพียงมองเห็นกองไฟไล่ลมแรง

สองชีวิตคือยายหลานชายหนึ่ง
ได้ที่พึ่งทุกข์กายมิหน่ายแหนง
ขอทานกินถวิลหาค่าข้าวแกง
ดั่งฟ้าแกล้งกระต๊อบน้อยคอยจะพัง

ลมกระโชกหนาวกระชั้นพลันหลานร้อง
ยายประคองกกกอดลอดแผ่นหลัง
เพิ่มผืนผ้าบางทำเป็นกำบัง
ยายจะนั่งสุมไฟให้เจ้านอน

แสงแดดส่องหมอกสลายทรายเริ่มแห้ง
แต่ร่างยายเย็นแข็งข้างไม้ขอน
หลานร่ำไห้ใจสลายยายม้วยมรณ์
สิ้นคนสอนชี้ทางโลกกว้างไกล............ emo_48

ล.ป.ม.



หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 24 พฤษภาคม 2009, 10:39:AM
โอ้เจ้านกเอี้ยง.............
ส่งสำเนียงเริงร่าเมื่อฟ้าสาง
อุ่นแดดอ่อนร่อนถลาเหนือนาบาง
ไม่เคยห่างเจ้าทุยลุยทุ่งทอง

คือเพื่อนรักมิตรแท้แม้ต่างเผ่า
ทุกค่ำเช้าสุขล้นสิ้นหม่นหมอง
เพื่อนไถปาดดินดำเลาะลำคลอง
เจ้าจับจ้องคอยแถลงเป็นแรงใจ

ข้าวแตกหน่อกอยืนเต็มผืนทุ่ง
ด้วยเพื่อนมุ่งหน้าที่ตนคนแจ่มใส
นกเอี้ยงน้อยเคียงคลออยู่ต่อไป
เจ้าทุยให้เกาะหลังทุกครั้งครา

เสียงเครื่องจักรเดินตามคำรามลั่น
กินน้ำมันจึงแล่นแทนกินหญ้า
เพื่อนหม่นหมองเงียบเหงาเศร้าอุรา
คนลืมค่าลืมเพื่อนเหมือนลืมคุณ

เกาะกิ่งคอนน้ำตาตกเจ้านกเอี้ยง
เฝ้าส่งเสียงแหบพร่าตามัวขุ่น
ไม่เห็นเพื่อนเช้าสายหลายอรุณ
ที่ใต้ถุนบ้านใหญ่ก็ไร้แวว

 โรงฆ่าสัตว์ตวัดมีดแล้วกรีดเนื้อ
สิ่งที่เหลือตระพวนพังที่ดังแผ่ว
สุดเจ็บร้าวหลั่งน้ำตาข้างนาแนว
เพื่อนตายแล้วสุดทน ..คนใจดำ 

Lew pakma





หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 26 พฤษภาคม 2009, 04:00:AM
ค่ำแล้ว     แว่วเสียง     สำเนียงขลุ่ย
ปุกปุย      เมฆน้อย      ที่ลอยล่อง
เจ้าทุย     ลุยโคลน      ข้ามคูคลอง
นกร้อง     เจื้อยแจ้ว     ทั่วแนวเนาว์

ลมเอื่อย   อ้อยอิ่ง        ล้อหิ่งห้อย
ดงดอย     แห่งนี้         ไม่มีเหงา
แสงไต้     ไฟส่อง        ทุ่งทองเรา
กาเหว่า    เจ้าคู         หาคู่เคียง

จันทร์พร่าง     พรายแสง     ส่องแหล่งหล้า
พงพนา     ส่งสดับ     สรรพเสียง
หริ่งหรีด    กรีดรำ      เป็นสำเนียง
หล่อเลี้ยง  แผ่นผืน     ให้รื่นรมย์

บ้านป่า     นาฉัน     ณ วันนี้
ยังมี         น้ำใจ      ให้สุขสม
แว่วเสียง  สั่งฝาก    จากสายลม
หากขม    ขื่นหมอง  กลับท้องนา 

Lew pakma








หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 30 พฤษภาคม 2009, 11:17:AM

แบกความหวังสั่งป่าอำลาทุ่ง
สู่เมืองกรุงจุดหมายเป็นปลายฝัน
เพื่อเงินทองแพรวพร่างเป็นรางวัล
จึงผกผันเซซังจากรังนอน

ถึงเมืองกรุงเพื่อนยาก็มารับ
ตาวาววับบอกว่าหาเจ๊ก่อน
บ้านหลังใหญ่แบ่งออกหลายซอกตอน
สาวละอ่อนมากมายหลายพธู

เงินสามหมื่นยืนเซ่อใจเธอสั่น
เงินนี้ฉันจ่ายไปให้เธอกู้
ต้องผ่อนส่งทีละนิดจงคิดดู
จ๊ะหนูรู้ขอบคุณที่จุณเจือ

เวลาล่วงจรลีเดือนปีผ่าน
เพียงโครงบ้านขาดไม้เงินไม่เหลือ
ลูกอยู่ไหนแม่คอยเจ้าค่าข้าวเกลือ
หรือเจ้าเบื่อเงียบหายไปหลายเดือน

ผู้ใหญ่บ้านแจ้งข่าวเมื่อเช้านี้
ดั่งฤดีโดนมีดมากรีดเฉือน
เจ้าตายแล้วปานฟ้าผ่าสะเทือน
ตายพร้อมเพื่อนแมงดามันฆ่าเธอ

ล.ป.ม.




หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 02 มิถุนายน 2009, 04:50:AM
สถานที่พักผ่อนยามอ่อนล้า
พักสายตาจากงานอันคร่ำเคร่ง
ปล่อยความคิดหลุดกรอบครอบตัวเอง
ไม่ต้องเกรงคนมองจับจ้องตาม

ไกลออกจากวังวนคนออฟฟิศ
ที่ชีวิตตอกย้ำด้วยคำถาม
จะกอบโกยจากไหนคิดไขความ
ธรรมดีงามถูกเมินเกินเข้าใจ

จากชีวิตผูกมัดด้วยวัตถุ
เดือดทะลุมิติมิครวญใคร่
ครองความเห็นแก่ตัวมัวเมาไป
ตามสมัยแห่งทุนคอยหนุนนำ

ณ ศาลากลางสวนชวนค้นคิด
ธรรมชาติแห่งจิตทุกเช้าค่ำ
ธัมมะอันผ่องผุดวิมุติธรรม
ไกลจากสิ่งครอบงำชวนปล่อยวาง

เป็นสถานรวมพลคนทำสวน
ล้อมวงล้วนสุขสันต์ในวันว่าง
กอปรกลิ่นอายไมตรีไม่มีจาง
อยู่ท่ามกลางสายลมไม้ร่มเย็น

สถานที่พักผ่อนคลายอ่อนล้า
ณ ศาลากลางสวนชวนให้เห็น
จิตสะอาดสว่างอย่างเดือนเพ็ญ
สงบเป็นประจำธรรมย้ำเตือน.

....คชาไพร....




หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 03 มิถุนายน 2009, 04:16:AM
บทกลอนนี้ผู้แต่งให้ชื่อว่า  "ดรุณานุศาสนี"
มาจากคำว่า "ดรุณ" สนธิกับ "อนุศาสนี" 
แปลว่า "คำสอนสำหรับเด็กชายวัยรุ่น"


...........................
ประณตนบจบนิ้วเหนือเกศี
แทนเทียนธูปบุปผาสุมาลี
คารวะสดุดีพระศาสดา

ไหว้พระธรรมนำวิถีแห่งชีวิต
ขัดเกลาจิตให้ขจัดตัดตัณหา
ไหว้พระสงฆ์องค์ทายาทสืบศาสน์มา
เป็นเนื้อนาบุญนำเนิ่นจำเนียร

ไหว้บิดรมารดาคุณาเนก
พระคุณเอกอุตม์วางไว้หว่างเศียร
ไหว้ครูบาอาทรสอนให้เรียน
รู้อ่านเขียนค้นคว้าวิชาชาญ

ไหว้ราชามหากษัตริย์เป็นฉัตรชาติ
ไหว้อำมาตย์มวลมหาโยธาหาญ
ซึ่งหลั่งเลือด เชือดหมู่ ริปูพาล
ได้สืบสานสยามรอดปลอดไพรี

ด้วเดชบุญคุณสรรพ์อันประเสริฐ
ขอทูนเทิดสถิตย์ไว้ ในเกศี
อย่าให้คิดติดขัดสวัสดี
ดุจดังมีทิพมนตร์มาดลใจ

จะกล่าวกลอนสอนดรุณ ด้วยคุณลักษณ์
จงประจักจูงจิตให้พิสมัย
ให้หวานวาบซาบซับประทับฤทัย
ดลเด็กได้ดื่มด่ำ คำสอนเทอญ  ฯลฯ





หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เปลวเทียนเปลี่ยนสี ที่ 03 มิถุนายน 2009, 02:34:PM
แว่วยินเสียง...สำเนียงเพลง...บรรเลงชีวิต
ให้สะกิด...จิตคร่ำครวญ...ไร้สรวลเส
ให้แน่นอก...ดั่งโดนชก...อกรวนเร
ให้สนเท่ห์...เรรวนใจ...ไร้มั่นคง

สำเนียงกล่อม...ตรอมทำนอง...คำร้องตรม
ให้ขื่นขม...ซมวิญญาณ...รานร้าวหลง
เสียงเพลงเอย...เผยชีวิต...จิตงวยงง
นั่งฟังเพลง...เกรงจะหลง...ไม่ลงรอย

เพลงว่ารัก...แล้วอกหัก....รักแล้วเลิก
ถลอกปลอกเปิก...เมื่อเลิกรัก...จักเหงาหงอย
บ้างก็บ่น..ปนน้อยใจ...ให้ล่องลอย
เพลงเฝ้าคอย...ก็ปล่อยใจ...ไปตามเพลง

เป็นอย่างไร...ในชีวิต...ที่คิดแต่ง
ปรับเปลี่ยนแปลง...แสร้งว่าฟัง...ยังอวดเก่ง
แท้จริงแล้ว...ก็แผ่วใจ...ไปตามเพลง
ใจเราเอง...ที่เกรงกลัว...แม้ทำนอง


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: กอบรัก ที่ 04 มิถุนายน 2009, 02:52:PM
บทกลอนนี้ผู้แต่งให้ชื่อว่า  "ดรุณานุศาสนี"
มาจากคำว่า "ดรุณ" สนธิกับ "อนุศาสนี" 
แปลว่า "คำสอนสำหรับเด็กชายวัยรุ่น"


...........................
ประณตนบจบนิ้วเหนือเกศี
แทนเทียนธูปบุปผาสุมาลี
คารวะสดุดีพระศาสดา

ไหว้พระธรรมนำวิถีแห่งชีวิต
ขัดเกลาจิตให้ขจัดตัดตัณหา
ไหว้พระสงฆ์องค์ทายาทสืบศาสน์มา
เป็นเนื้อนาบุญนำเนิ่นจำเนียร

ไหว้บิดรมารดาคุณาเนก
พระคุณเอกอุตม์วางไว้หว่างเศียร
ไหว้ครูบาอาทรสอนให้เรียน
รู้อ่านเขียนค้นคว้าวิชาชาญ

ไหว้ราชามหากษัตริย์เป็นฉัตรชาติ
ไหว้อำมาตย์มวลมหาโยธาหาญ
ซึ่งหลั่งเลือด เชือดหมู่ ริปูพาล
ได้สืบสานสยามรอดปลอดไพรี

ด้วเดชบุญคุณสรรพ์อันประเสริฐ
ขอทูนเทิดสถิตย์ไว้ ในเกศี
อย่าให้คิดติดขัดสวัสดี
ดุจดังมีทิพมนตร์มาดลใจ

จะกล่าวกลอนสอนดรุณ ด้วยคุณลักษณ์
จงประจักจูงจิตให้พิสมัย
ให้หวานวาบซาบซับประทับฤทัย
ดลเด็กได้ดื่มด่ำ คำสอนเทอญ  ฯลฯ



ขอเริ่มกลอนสอนดรุณรุ่นทั้งหลาย
อันชาติชายควรบูชาน่าสรรเสริญ
ต่างมีหลักตระหนักแน่วแนวดำเนิน
จึงเจริญรุ่งโรจน์ไร้โทษกรณ์

หลักที่หนึ่งพึงรักษารู้หน้าที่
คุณข้อนี้เน้นย้ำยอดคำสอน
อันหน้าที่มีอย่างไรให้สังวร
อย่าย่อหย่อนพยายามสิบสามประการ

คือหน้าที่มีต่อพ่อแม่นั้น
สิ่งสำคัญควรเห็นเป็นแก่นสาร
ต้องขยันหมั่นประจำช่วยทำงาน
อย่าเกียจคร้านคอยอยู่ช่วยดูแล

ยังปู่ย่าตายายภายในบ้าน
ต้องเจือจานด้วยใจไม่ห่างแห
ถึงลุงป้าน้าอาอย่าปรวนแปร
เหมือนพ่อแม่หมั่นเกื้อเอื้ออาทร


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 08 มิถุนายน 2009, 11:08:PM
อีกวาจาปราศรัยให้อ่อนหวาน
อย่ากล่าวขานแข็งกระด้างจงฟังสอน
อย่าตั้งข้องอแงมีแง่งอน
ให้บิดรมารดาระอาใจ

อนึ่งผองน้องพี่ที่ในบ้าน
ต้องรู้รักสมัครสมานพิสมัย
ไม่ทะเลาะเยาะแหย่ให้แซ่ไป
ควรจะได้ปรองดองพี่น้องกัน

ประการหนึ่งซึ่งด้านการประหยัด
ต้องฝึกหัดหักห้ามความใฝ่ฝัน
ถึงอยากได้ในสินค้าสารพัน
อย่าดึงดันดูให้งามตามฐานะ

ใช่รบเร้าเอาแต่ขอ พ่อแม่ซื้อ
ควรหารือรู้สลัดตัดสละ
อย่าแข่งมิตรคิดซื้อหมด ไม่ลดละ
พ่อแม่จะยากจนไม่สนใจ


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 08 มิถุนายน 2009, 11:39:PM
การฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ ทำเห่อเหิม
จะสะสมบ่มเสริม(ให้) เสียนิสัย
จะแข่งทรัพย์กับเศรษฐีนี่กระไร
พ่อแม่ได้เดือดร้อนอย่าอ้อนเอา

ถึงเรามีก็มิควรด่วนซื้อหา
ซึ่งสินค้าเครื่องล่อต่อคนเขลา
เครื่องล่อใจสมัยนี้มีไม่เบา
เมื่อมีเข้าคอยจะเล่นเป็นประจำ

จะเสียด้านการศึกษาเวลาหมด
เพลินจนงดงานเช้าทำเอาค่ำ
ที่เพลินจัดตัดใจงานไม่ทำ
ก็เสียซ้ำทรัพย์สารงานเวลา

จงประหยัดหัดใจใคร่ครวญคิด
อย่าตามมิตรมั่นมุ่งฟุ้งเฟ้อหา
ให้เบาจิตบิดรและมารดา
ใช้เงินตราแต่ตามความจำเป็น


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 09 มิถุนายน 2009, 12:13:AM

ประการหนึ่งซึ่งลูกควรปลูกฝัง
คือเชื่อฟังแม่พ่ออย่าก่อเข็ญ
อย่าดื้อดึงปึ่งชาว่ายากเย็น
จะลำเค็ญเคืองข้องไม่ต้องการ

ท่านสอนสั่งหวังดีมีต่อลูก
หวังฝังปลูกปึกแผ่นเป็นแก่นสาร
อย่าโต้เถียงเกี่ยงทำให้รำคาญ
หากจะค้านก็ค่อยค่อยกล่าวถ้อยคำ

โดยอ้างอิงสิ่งที่มีเหตุผล
อนุสนธ ิ์สอดใส่ ให้งามขำ
ให้ท่านคิดวินิจฉัยยอมให้ทำ
จึงเลิศล้ำรูปแบบที่แยบคาย

ประการหนึ่งซึ่งด้านการศึกษา
ธรรมดาของดรุณรุ่นทั้งหลาย
ต้องเล่าเรียนเพียรพากอย่างมากมาย
เพื่อมุ่งหมายวิชาอนาคต

ด้วยเดี๋ยวนี้จะมีคนล้นประเทศ
แต่ด้านเศรษฐกิจด้อยจะถอยถด
ทรัพย์ในดินสินในน้ำค่อยต่ำลด
คนเหมือนมดมุ่งมาจะหางาน


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 09 มิถุนายน 2009, 01:26:AM

หากไม่มีวิชาเก่งกว่าเขา
ก็ใครเล่าจะรับไว้ใช่ลูกหลาน
อนึ่งในสมัยนี้วิชาชาญ
เขาทำการด้วยยนต์จักรกลไก

ทุ่นแรงคนจนไม่ใช้คนมาก
งานนานาหายากทั้งน้อยใหญ่
ไม่เก่งจริงไหนจะชิงสอบเอาชัย
คงต้องไปปลุกปล้ำเป็นกรรมกร

จะต้องเพียรเรียนรู้ดูหนังสือ
หมั่นฝึกปรือเป็นประจำตามคำสอน
วิชาการจารจดทุกบทตอน
จะนั่งนอนนึกหน่วงห่วงการเรียน


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 09 มิถุนายน 2009, 02:29:AM



ประการหนึ่งอันวิชาภาษาศิลป์
บทระบิลแบบอย่างทางอ่านเขียน
ต้องใส่ใจให้มากทั้งพากเพียร
ประดุจเทียนประทีปทองส่องวิชา

จะเรียนใดในภพสบสัมฤทธิ์
ต้องประสิทธิ์ด้วยสื่อคือภาษา
ภาษาดี ก็เรียนเด่น เป็นธรรมดา
จงอุตส่าห์สนใจ ได้ใช้งาน

อนึ่งเราเยาว์วัยในความคิด
จงตั้งจิตจดจ่อต่อข่าวสาร
ข่าวน้อยใหญ่ในนอกบอกเหตุการณ์
ต้องคอยอ่านเอาใจเฝ้าใฝ่ฟัง

ด้วยยุคเราเข้ามาโลกาภิวัตน์
ไม่ติดขัดข่าวไขล้วนไหลหลั่ง
สะพัดแพร่แผ่ไประไวระวัง
คอยตรับตั้งตาดูให้รู้ดี

.....เจ้านาง....








หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 09 มิถุนายน 2009, 02:32:AM

ข้อหนึ่งเล่าเราเรียนเพียรอุตส่าห์
ช่วยบิดรมารดาตามหน้าที่
อาจเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าในกายี
ก็ต้องมีผ่อนมั่งระวังตน

อันเรียนร่ำคร่ำเคร่งแม้นเก่งกล้า
ก็ควรร่าเริงมั่งเป็นครั้งหน
เล่นกีฬา ออกกำลัง ตัดกังวล
รู้ผ่อนปรนเป็นประมาณพอปานกลาง

ประการหนึ่งซึ่งความงามสะอาด
ต้องปัดกวาดแลดูเช็ดถูถาง
จัดระเบียบเรียบร้อยคอยจัดวาง
ทุกที่ทางถ้วนถี่จึงดีจริง

งานซักล้างอ้างเบี่ยงเลี่ยงไม่ช่วย
กลับเกี่ยงด้วยโดยค้านว่างานหญิง
เป็นความคิดผิดสมัยใคร่ท้วงติง
อย่าเย่อหยิ่ง เหยียดว่างาน -บ้านไม่ควร


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 09 มิถุนายน 2009, 03:04:AM

ล้วนหน้าที่มีต่อพ่อและแม่
สมควรแก่กุลบุตรสุดสงวน
ได้กล่าวไขไว้ครบจงทบทวน
เป็นกระบวนแบบอย่าทางไทยไทย

สรุปย่อขอยกกลอนสุนทรภู่
"กตัญญูยอดดีจะมีไหน"
ขอเชิญชวนมวลดรุณรุ่นเยาว์วัย
เก็บไปใคร่ครวญคิดสะกิดเตือน

ทำหน้าที่ดีต่อพ่อแม่แล้ว
เป็นลูกแก้วกลอยใจใครจะเหมือน
ถึงเวลาคราเจ้าจากเหย้าเรือน
ต้องมีเพื่อนพรั่งพรูมีครูบา

อันหน้าที่มีอยู่ต่อครูนั้น
ก็สำคัญควรตระหนักรู้รักษา
หนึ่งเคารพนบครูเชิดบูชา
ผู้ประสิทธ์วิทยาให้ยลยิน


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 09 มิถุนายน 2009, 05:29:AM

สอง คำนับรับใช้ไม่แหนงหน่าย
อย่าห่างหายเหหันให้ผันผิน
สามเชื่อฟังตั้งตาเป็นอาจิณ
เรียนศาสตร์ศิลป์ศึกษาจากอาจารย์

ใช้  สุ. จิ. ปุ. ลิ.  คติปราชญ์
จะสามารถมั่นแม่นเป็นแก่นสาร
สุ.   คือฟังตั้งใจใฝ่ดวงมาน
รวมทั้งอ่านอรรถไขนัยเดียวกัน

จิ. คือคิดพินิจความตามสดับ
ให้ซึมซับทราบจริงทุกสิ่งสรรพ์
ปุ. คือถามความใดตามไม่ทัน
ก็ถามพลันเพื่อแถลงความแจ้งใจ

ส่วน  ลิ. หรือคือจดจำกำหนดฝึก
ทำบันทึกทุกครั้งที่ฟังไข
หรือจดย่อพอสรุปเป็นอุปนัย
จัดทำไปเป็นระบบได้ทบทวน


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เปลวเทียนเปลี่ยนสี ที่ 09 มิถุนายน 2009, 10:13:AM
(http://i437.photobucket.com/albums/qq93/yamiejung19/hh156.jpg)
เพลงหวานๆ...น้ำตาลหยด...มดเรียกพี่
เพลงดีๆ...ที่สมหวัง...ครั้งหวามไหว
เพลงมันส์ๆ...ปั่นอารมณ์...สมฤทัย
เพลงอะไร...ใส่ทำนอง...คำร้องตาม

ถ้อยในเพลง...บรรเลงเอ่ย...เผยเพียงถ้อย
คนฟังกร่อย...ด้อยในเพลง...บรรเลงถาม
เพราะเป็นเพลง...เพลงอกหัก...จักษ์นิยาม
เพลงงดงาม...คามสดใส...ไม่ใคร่ฟัง

เพราะบทเพลง...บรรเลงไป...ในชีวิต
ฟ้าลิขิต....ผิดหรือถูก...ถูกหรือพลั้ง
แม้ร้องไห้...ใจร้าวรวด...ปวดใจฟัง
เปิดดังๆ...ฟังร่ำไป...ให้ซ้ำเติม


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ยอด~ ที่ 09 มิถุนายน 2009, 03:55:PM

สอง คำนับรับใช้ไม่แหนงหน่าย
อย่าห่างหายเหหันให้ผันผิน
สามเชื่อฟังตั้งตาเป็นอาจิณ
เรียนศาสตร์ศิลป์ศึกษาจากอาจารย์

ใช้  สุ. จิ. ปุ. ลิ.  คติปราชญ์
จะสามารถมั่นแม่นเป็นแก่นสาร
สุ.   คือฟังตั้งใจใฝ่ดวงมาน
รวมทั้งอ่านอรรถไขนัยเดียวกัน

จิ. คือคิดพินิจความตามสดับ
ให้ซึมซับทราบจริงทุกสิ่งสรรพ์
ปุ. คือถามความใดตามไม่ทัน
ก็ถามพลันเพื่อแถลงความแจ้งใจ

ส่วน  ลิ. หรือคือจดจำกำหนดฝึก
ทำบันทึกทุกครั้งที่ฟังไข
หรือจดย่อพอสรุปเป็นอุปนัย
จัดทำไปเป็นระบบได้ทบทวน


ข้อสี่ว่าถ้าครูเป็นผู้หญิง
อย่าสุงสิงลึกซึ้งถึงเสสรวล
หรือตอแยแหย่เย้าเฝ้ายั่วยวน
ผิดกระบวนแบบศิษย์ผิดต่อครู

อย่าลวนลามถามล้วงหรือท้วงเถียง
ลองไล่เลียงเล่นให้ได้อดสู
ต้องประพฤติยึดมั่นกตัญญู
อย่าลบหลู่ละล้วงละลาบทำหยาบคาย

หากท่านผิดควรสะกิดกันลับหลัง
อย่าตึงตังต่อหน้าบรรดาสหาย
หรือถามเทียบเปรียบประเด็นเป็นอภิปราย
ความสองฝ่ายฝากเปรียบเทียบให้คิด

นี่คือจิตวิทยาเชิงปราศรัย
ห้ามมิให้หักหน้าว่าท่านผิด
จงตระหนักหลักธรรมนำพินิจ
จะเป็นศิษย์สุดประเสริฐเลิศโลกา


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ยอด~ ที่ 09 มิถุนายน 2009, 05:06:PM

ประการหนึ่งซึ่งจะเตือนคือเพื่อนฝูง
อาจชักจูงจิตใจได้หนักหนา
หากเพื่อนชั่วมัวเมาไม่เข้ายา
จะชักพาพลอยเพื่อนให้เชือนไป

หากเพื่อนดีมีใจใฝ่กุศล
ก็มีผลพลอยมิตรติดนิสัย
เหมือนโบราณท่านว่าถ้าคบใคร
จะเปลี่ยนไปแปรเป็นไปเช่นนั้น

อันชั่วดีที่เราเข้าคบหา
จะคบค้ากับใครให้แข็งขัน
ต้องนำเขาเอาไว้ให้ได้ครัน
อย่าแปรผันเผลอไผลให้เพื่อนนำ

จะนำเพื่อนเหมือนจิตที่คิดมุ่ง
ต้องผดุงจิตให้ดีมิตกต่ำ
ต้องสงเคราะห์ เหมาะมี สี่หลักธรรม
จงฟังคำ กล่าวไขให้จงดี


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ยอด~ ที่ 09 มิถุนายน 2009, 05:44:PM

หนึ่งคือ "ทาน" การให้ผูกใจมิตร
มีน้ำจิตแจกเขาเหล่าสขี
สอง "ปิยวาจา" รู้พาที
ใช้วจีจับใจให้ไพเราะ

อย่าอื้ออึงมึงกูหรือขู่เข็ญ
ผิดประเด็นผู้ดีพูดมิเหมาะ
อย่ายั่วแหย่เหยียบย่ำเย้ยหยามเยาะ
พูดเพราะเพราะผูกมิตรสนิทใน

สาม "อัตถจริยา" มุ่งประโยชน์
ด้วยมาโนชน์ กรุณาอัธฌาสัย
รู้เกื้อกูล จุนค้ำ ด้วยน้ำใจ
เพื่อนก็จักรักใคร่เป็นไมตรี

สี่ "สมานัตตตา" อย่าหยิ่งเย่อ
ต้องวางตนสม่ำเสมอ ในทุกที่
ถึงล่วงกาลผ่านวัยจะได้ดี
ก็ไม่มีลืมมิตรสนิทนาน



หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 12 มิถุนายน 2009, 08:15:PM

แม้นเจ้ามีสี่ข้อที่กล่าวไข
จะผูกจิตพิสมัยสมัครสมาน
อาจว่ากล่าวน้าวโน้มประโลมลาน
หรือทำการกล่อมมิตรสัมฤทธิ์พลัน

เว้นไว้แต่แค่มิตรที่จิตต่ำ
ไม่อาจนำน้อมจิตเหมือนคิดฝัน
จำปล่อยไปไม่สนิทคิดผูกพัน
คงคบกันไกลไกลไม่ใกล้ชิด

แต่ไม่ควรด่วนสกัดตัดสละ
คงพบปะปราศรัยประสาศิษย์
ด้วยร่วมรู้ครูบาประสามิตร
อย่าให้คิดขุ่นข้องหมองกมล

ส่วนเพื่อนที่ดีกว่าเราต้องเข้าหา
เสวนาเน้นหนักเพื่อมรรคผล
รับส่วนที่ดีกว่ามาหาตน
เรื่องคบคนควรเน้นให้เป็นคุณ




หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 12 มิถุนายน 2009, 08:56:PM

ประหนึ่งซึ่งดรุณเหล่ารุ่นน้อง
ต้องสนองนับเนื้อคอยเกื้อหนุน
โดยแนะนำค้ำชูรู้การุณย์
ให้อบอุ่นอารีย์หน้าที่เรา

กับรุ่นพี่มีอยู่อาวุโส
อย่าอวดโอ้ยอมรับนับถือเขา
ถึงรุ่นพี่อาจจะมีที่มัวเมา
อย่าให้เขาครอบงำนำชักจูง

อันชายที่ดีเด่นเห็นประจักษ์
ต้องรักศักดิ์รักศรีมีใจสูง
เปรียบบุหรงคงจะเป็นเช่นนกยูง
เยี่ยมกว่าฝูงนกกาในสากล

อนึ่งเล่าเหล่าผองเพื่อนน้องพี่
เป็นสตรีต้องสังเกตในเหตุผล
อันชายหญิงสิ่งหนึ่งซึ่งพึงยล
มีกมลนิสัยไม่เหมือนกัน




หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 12 มิถุนายน 2009, 08:58:PM

หญิงอ่อนหวานอาวรณ์ทั้งอ่อนไหว
ละเมียดละไมละมุนละม่อมถนอมขวัญ
รู้สะเทิ้นเขินอายต่อชายครัน
ทั้งไหวหวั่นหวาดระแวงแฝงอารมณ์

เราเป็นชายฝ่ายเขาเล่าเป็นหญิง
ถึงความจริงจะมีสิทธิ์สนิทสนม
ต้องติดต่อแต่พองามตามนิยม
ให้พอชมชื่นจิตมิตรไมตรี

อย่าตอแยแหย่เย้าให้เขาโกรธ
หรือก่อเรื่องเคืองโสตให้เสียศรี
อย่ารังแกรบกวนเฝ้ายวนยี
อย่าคลุกคลีเคล้าคลึงให้ถึงตัว

อย่าลำพองคะนองปากฝากรักหญิง
จริงไม่จริงเขาจะว่าวาจาชั่ว
เรายังเด็กเล็กนักมักเมามัว
คิดให้ทั่วถึงก่อนค่อยผ่อนปรน


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ยอด~ ที่ 13 มิถุนายน 2009, 12:43:AM

ยังเยาว์วัยไม่ควรจะด่วนรัก
ต้องรู้จักใส่ใจในเหตุผล
ถึงจะรักหนักทรวงห่วงกมล
ต้องอดทนทบทวนอย่าด่วนทำ

อันที่จริงหญิงไซร้ต้องให้เกียรติ
อย่าหยามเหยียดพยายามให้งามขำ
จะพูดจาภาษาชายระคายคำ
ต้องเยงยำอย่าให้หญิงได้ยลยิน

หนึ่งในยานหรือสถานสาธารณะ
ชายควรจะมีจิตคิดถวิล
แบ่งที่ไว้ให้หญิงนั่งและดื่มกิน
ให้เคยชินช่วยก่อนเพศอ่อนแอ

แม้มีภัยให้หญิงได้พิงพัก
ต้องรู้จักมีน้ำใจไม่ห่างแห
อย่าทอดทิ้งหญิงไว้ให้เปลี่ยวแด
ต้องดูแลรับรองคอยป้องกัน


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ยอด~ ที่ 13 มิถุนายน 2009, 01:35:AM

อนึ่งเล่าเหล่าชราหรือว่าเด็ก
ตัวเล็กเล็กพิการสังขารขันธ์
ชี เณร พระ สตรีที่มีครรภ์
อยู่ในขั้นควรข้อจะบริการ

ยังอีกด้านการแต่งกายต้องหมายรู้
แต่งให้ดูพอดีที่ภูมิฐาน
ถูกระเบียบเรียบสนิทไม่พิสดาร
จะพิศผ่านให้สุภาพใช่เพริศพราย

อันของที่มีค่าอย่าใช้สอย
อาทิสร้อยสูงค่าราคาขาย
ฉวยพลั้งพลาดอาจจะพาถูกฆ่าตาย
หรือสูญหายเห็นบ่อยคอยระวัง

ประการหนึ่งซึ่งวินัยให้ตระหนัก
ต้องรู้รักษาระเบียบให้เฉียบขลัง
ถึงลำบากยากเบื่อต้องเชื่อฟัง
หากยังหวังวัฒนาประชาไทย


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ยอด~ ที่ 13 มิถุนายน 2009, 02:40:AM

ที่เห็นเห็น เป็นจริง ทิ้งขยะ
ให้เกะกะ เก็บกวาด ไม่หวาดไหว
บ้างทิ้งส่ง ลงคลอง หมักดองไป
น้ำเคยใส สุดเศร้า เน่าเนืองนอง

โอ้อนาถ ชาติไทย วินัยด้อย
เห็นบ่อยบ่อย บรรดา ผู้ค้าของ
ทำมักง่าย หมายได้ ตามใจปอง
รัฐเรียกร้อง ให้รักษา ก็ว่าเอา

"ใช่แต่ฉัน มันทิ้ง กันยิ่งกว่า
จะมัวมา มุ่งระเบียบ เสียเปรียบเขา"
ล้วนหย่อนยาน ด้านวินัย กันไม่เบา
คนรุ่นเรา ต้องรักษา อย่าหย่อนตาม

ด้วยวินัย ให้คุณ วิบุลผล
ช่วยตนพ้น ภัยผอง อย่ามองข้าม
ช่วยผู้อื่น ให้รอด ปลอดทุกยาม
ช่วยให้งาม มีสง่า ทั้งธานีฯ


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 26 มิถุนายน 2009, 06:08:AM

อาทิด้านยานยนต์แม้ย่อหย่อน
จราจรจะยุ่งทั้งกรุงศรี
เศรษฐกิจติดขัดอึดอัดฤดี
จะเจ็บกายวายชีวีไม่เว้นวัน

ทั้งเสียงานพาลเพลียเสียสุขภาพ
ทั้งพึงทราบเสียนิสัยไม่สร้างสรรค์
เสียเวลาและเสียทรัพย์นับอนันต์
จะฟ้องกันก็ต้องเพิ่มเสริมวินัย

อนึ่งกฎกำหนดไว้ในกลุ่มย่อย
ก็เพื่อความเรียบร้อยเหมือนกลุ่มใหญ่
เช่นโรงเรียนล้วนกำหนดกฎเอาไว้
ต้องใส่ใจจดจำและทำตาม

ยังกำหนดกฎหมายหลายฉบับ
เรื่องสำหรับราษฎรนครสยาม
ต้องเสาะหามาดูให้รู้ความ
พยายามอย่าละเมิดให้เกิดคดี


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 26 มิถุนายน 2009, 06:09:AM

อนึ่งด้านการบาปเครื่องหยาบช้า
จะระอา ระอายจิต คิดปลีกหนี
เกลียดความชั่ว กลัวบาป หยาบกาลี
ถึงไม่มีคนมองจ้องจับดู

ก็เกลียดชั่วกลัวบาปเพราะทราบโทษ
ใช่กลัวโจทก์จะฟ้องต้องอดสู
ประดุจว่าอาจมไม่ชมชู
ใครจะรู้หรือไม่ มิใช่ประเด็น

อย่าดูอย่างข้างมนุษย์ ที่ทุจริต
ไม่ทำผิดกลัวผู้จะรู้เห็น
ต้องหลบเลี่ยงเบี่ยงบิดทำมิดเม้น
โดยซ่อนเร้นลอบทำซึ่งกรรมเลว

ถึงใครใครไม่เห็นว่าเป็นผิด
แต่ดวงจิตจะถ่วงลงห้วงเหว
ให้ร้อนรุ่มกลุ้มใจเหมือนไฟเปลว
เป็นคนเหลวแหลกในเพราะไร้ธรรม


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 26 มิถุนายน 2009, 06:13:AM

อนึ่งในสมัยนี้บุหรี่เหล้า
เป็นเครื่องเย้ายวนใจให้ถลำ
เฮโรอีน ฝิ่นกัญชา ยาม้านำ
มาเสพเล่นเป็นประจำจะติดใจ

ยาเสพติดชนิดอื่นยังดื่นดาษ
ต้องเฉียบขาด ข่มจิต อย่าพิสมัย
ให้เสียทรัพย์รับโรคาหน้าด้านไป
เปลี่ยนนิสัยสุขภาพเป็นหยาบคาย

ไร้กำลังวังชาปัญญาถอย
สติด้อยดุเดือดไม่เหือดหาย
มักวิวาทฟาดฟันกันวุ่นวาย
อาจถึงตายต้องตำหนิคนติเตียน

หากเสพติดพิษภัยมิใช่น้อย
การเรียนถอยทุกสถานคร้านอ่านเขียน
ยิ่งใจอ่อนถอนไม่ขึ้นจะมึนเวียน
มันอาจเปลี่ยนแปลงมนุษย์เป็นภูตพราย


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 26 มิถุนายน 2009, 06:16:AM

อย่าสนใจใฝ่ลองที่ของแปลก
จะใจแตก เสพติด ผิดกฎหมาย
ต้องใจแข็งแกร่งครันเห็นอันตราย
ทั้งคอยห้ามปรามสหายให้เลิกลด

อนึ่งด้านการพนันสำคัญยิ่ง
เหมือนผีสิงทรัพย์สินจะสิ้นหมด
ควรประนามหยามเหยียดใช่เกียรติยศ
แม้นใครงด ได้ก็งาม ขึ้นครามครัน

ประการหนึ่งซึ่งด้านการสนุก
สิ่งเสพสุขมหรสพครบสิ่งสรรพ์
สิ่งผลิตคิดใหม่ในปัจจุบัน
เผยแพร่กันว่าเป็นเกมอิ่มเอมใจ

ควรเลือกดูแต่ดีดีมีคุณค่า
เลือกเวลา เลือกรายการ ฟังขานไข
อย่าพะวงหลงเพลินจนเกินไป
ต้องดูเป็นเล่นได้แต่พอดี


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ยอด~ ที่ 27 มิถุนายน 2009, 11:59:PM

คำโบราณท่านยังอ้างการอย่างอื่น
เที่ยวกลางคืนเขาก็ว่าเสียราศี
คนระแวงแคลงคิดว่าผิดที
หากเหตุมีใหม่ใหม่ชอบใส่ความ

ปัจจุบันผันแปรแต่ยังเห็น
ไม่จำเป็นก็อย่าไปให้ฟังห้าม
ถ้าจำเป็นจำไปดูให้งาม
มีเพื่อนตามติดไปใช่เดียวดาย

อันราตรีชี้ชวนควรอยู่เหย้า
ควรหรือเราหลงเล่นหรือเร้นหาย
ครอบครัวครบคนครันไร้อันตราย
อบอุ่นในใจกายโดยทั่วกัน

อนึ่งในสมัยนี้มีสถาน
บริการกามแก่ชายคลายกระสัน
นับเป็นแหล่งบุรุษโรคโสโครกครัน
ต้องอดกลั้นกามกิจคิดเกรงกลัว


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ยอด~ ที่ 28 มิถุนายน 2009, 12:03:AM

ยิ่งมาสมัยนี้มีโรคเอดส์
โรคทางเพศขนพองสยองหัว
ตายอย่างเดียวเจียวเจ้าอย่าเมามัว
ระวังตัวอย่าคิดไปติดตัง

คบคนบาปหยาบช้ามาเป็นมิตร
กับเกียจคร้านการกิจไม่คิดหวัง
แต่ละอย่างทางอบายหมายระวัง
จงชิงชังทางชั่วอย่าชื่นชม

ยังอีกด้านมารยาทก็คาดหมาย
เราเป็นชายต้องใช้ให้เหมาะสม
จะเรียกขานควรตามความนิยม
ไม่ควรข่มขู่ใครขึ้นไอ้อี

ต้องดูวัยใครเยาว์หรือเฒ่าแก่
หรือควรแค่คราวกันฉันน้องพี่
หรือลุงป้าน้าอายายตาก็ดี
ประเพณีนับวัยเป็นไทยแท้


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 30 มิถุนายน 2009, 03:05:AM

ประการหนึ่งซึ่งด้านการไหว้กราบ
เรื่องควรทราบสิ่งควรอย่าทวนกระแส
ต้องเรียนรู้ดูวิธีให้ดีแล
จะไหว้แต่ตามใจดูไม่ควร

การก้มกรานคลานหมอบย่อยอบถ่อม
ต้องนอบน้อมน่ารักศักดิ์สงวน
การอวดตนคนไทยไม่ชื่นชวน
ถ่อมตนเถิดเลิศล้วนแสนน่ารัก

รู้สัมมาคารวะแด่พระสงฆ์
ทั้งญาติพงศ์ผู้ใหญ่ให้รู้หลัก
รู้ ขอรับ ครับ ควรอย่าห้วนนัก
กับรู้จักเจรจาให้น่าฟัง

เพื่อนในชั้นนั้นก็มีที่แตกต่าง
บ้างจนบ้างรวยฉลาดเกินคาดหวัง
บ้างรูปงามทรามสง่าบ้างน่าชัง
ต้องระวังวางใจไว้เป็นกลาง


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 30 มิถุนายน 2009, 03:09:AM

คบหาไว้ ให้สนิท อย่าคิดแปลก
ถึงต่างแตก แต่ใจ ไม่แตกต่าง
อย่ากล่าวคำ ทำเรื่อ งเคืองระคาง
ให้บาดหมาง หมองใจ ในท่วงที

หนึ่งต่างชาติ ศาสนา อย่ากล่าวไข
ของผู้ใด ดีกว่ากัน นั่นเสียศรี
ของผู้ใด ใครก็เห็น ว่าเป็นดี
คนที่มี มารยาท ไม่พาดพิง

ประการหนึ่งพึงละอภิสิทธิ์
อย่าควรคิดเกินใครอวดใหญ่ยิ่ง
พึงถือสิทธิ์เพียงส่วนควรจริงจริง
อย่าขอสิ่งส่วนใดให้ใหญ่เกิน

อย่าภูมิใจในลัทธิอภิสิทธิ์
ด้วยบัณฑิตใดใดไม่สรรเสริญ
ทำตามสิทธิ์จิตใจจะได้เจริญ
จึงขอเชิญชาวประชาเปลี่ยนค่านิยม


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 30 มิถุนายน 2009, 04:26:AM

อนึ่งเล่าชาวไทยใครใครประจักษ์
เอกลักษณ์ล้ำเลิศประเสริฐสม
คือการยิ้มพิมพ์จิตน่าชิดชม
ถึงตรอมตรมแต่ก็ยิ้มอยู่พริ้มเพรา

การยิ้มด้วย ช่วยให้มี ไมตรีจิต
อย่าได้คิดขึ้งเคียดรังเกียจเขา
จงตระหนักเอกลักษณ์ของไทยเรา
ยิ้มเถิดเจ้า อาจชนะ ซึ่งศัตรู

หนึ่งขอย้ำคำไทยนั้นไพเราะ
สำนวนเพราะพจมานก็หวานหู
เสียงสูงต่ำ คำผวน ล้วนดำรู
สร้อยภาษาน่ารู้เป็นเอกลักษณ์

แต่เดี๋ยวนี้มีไทยที่ใจเทศ
พูดผิดเพศเผ่าไทยไม่ยึดหลัก
พูดไทยคำเทศคำน่าขำนัก
จงรู้จักอย่าได้จำมาดำเนิน


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 30 มิถุนายน 2009, 04:40:AM

ยังพวกหนึ่งซึ่งนิยมชมของนอก
ถูกเขาหลอก ขายจนรวย น่าขวยเขิน
เมื่อไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ
ไยไทยเมินไม่มองของไทยไทย

ค่านิยมชมชื่นของอื่นเขา
โดยถือเอาอวดกันว่าทันสมัย
ควรละลดปลดปลิดจากจิตใจ
มาเอาชัยต่างชาติใช่ขาดดุล

ประการหนึ่งซึ่งลัทธิมิเหมาะสม
วัตถุนิยมอย่างสุดสุดอย่าอุดหนุน
จิตนิยมถล่มทลายพ่ายนายทุน
ไม่มองคุณ มองของเป็นสำคัญ

เขามองคน มองที่ค่า ราคาของ
จัดลำดับรับรองให้ลดหลั่น
ต้องคนที่มีทรัพย์จึงนับกัน
โอ้บิดผันเพราะลุวัตถุนิยม


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: กอบรัก ที่ 30 มิถุนายน 2009, 07:45:AM

อันคนดี เขาดูที่ ทำดีดอก
ใช่ดูนอก แต่ดูใน ใจเหมาะสม
ต้องดูคุณ ใช่ดูของ ต้องอารมณ์
ต้องชื่นชม เชิดชี้ ที่จิตใจ

หนึ่งอย่าลุทุภาษิต ชนิดนี้
ว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน"
"เขาทำชั่วได้ดีมีถมไป"
โอ้กระไรเหลือล้ำคำคนพาล

พุทธพจน์ กำหนด ไว้ฉะนี้
ว่า "ทำดีได้ดี" มีหลักฐาน
คือดีเป็น คนดี โดยสันดาน
ใช่ทำการโกงไซร้จึงได้รวย

อันความดีมิใช่นับที่ทรัพย์สาร
ตึกโอฬาร รถใหญ่ เครื่องใช้สวย
หรือยศศักดิ์ชักนำ ให้อำนวย
แต่ดีด้วย ทำดี มีศีลธรรม


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เปลวเทียนเปลี่ยนสี ที่ 01 กรกฎาคม 2009, 12:43:PM
"ฉันไม่ต้องการอะไร"...เป็นหนึ่งในเนื้อเพลง...ที่นั่งฟัง
"ลมหายใจ..ทั้งหัวใจ"...เปิดดังๆ...ฟังความหมาย
"ฉันรักเธอ...ฉันรักเธอ....จนวันตาย"
"รักมากมาย...ได้แต่รัก...หนักแน่นพอ"

"รักเธอให้น้อยลง...คงต้องหยุดรักเธอ"
อีกฝั่งก็เพ้อ...ละเมอทดท้อ
เพลงอกหัก...ของคนรัก...หนักไม่พอ
"ฉันเลยขอ....ไม่รอเธอ...เราจบกัน!!!!"

"แอบมีใจ...ให้เธอไป...ไม่เคยหวังเกิน"
"เป็นความบังเอิญ....เขิน เขิน เขิน...เดินไปใจหวั่น"
เพลงคนแอบรัก..งเพลงคนอกหัก...คนมีรักกัน
ภาษาสววรค์...สร้างสรรค์กันมา

"ขาดเธอขาดใจ...."...ฟังไปๆ..."เกลียดเพลงรัก
ก็เราอกหัก....ฟังรัก รัก รัก...ไม่ไหวหรอกหนา
เพลงเอย....เพลงไทย..ฟังไปๆๆๆ
เฮฮากันไว้...ในพจนา...ภาษาทำนอง


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 07 กรกฎาคม 2009, 04:30:AM

ถึงจนทรัพย์อับศักดิ์ มิสูงส่ง
ดีก็คง ดีครัน วันยังค่ำ
ไม่ทำให้ใครทุกข์ สุขประจำ
ขอแนะนำ เยี่ยงนี้ ดีอุดม

อนึ่งเล่าเยาวชนคนรุ่นใหม่
ต้องเชาว์วัยวิเคราะห์อย่างเหมาะสม
อย่าเชื่อง่ายดายไปไม่เฉียบคม
หรืองายงมเห็นงามตามเขาไป

เชื่อมงคลตื่นช่าวเขาป่าวหลอก
เชื่อเขาบอกบ่คิดวินิจฉัย
เชื่อภูตผีพลีสะเดาะเคราะห์จัญไร
เชื่อโชคลางทางไสย หลงไหลครัน

เชื่อของขลังฝังจิตคิดปลุกเสก
ถือตัวเลข อักขรา ยันต์อาถรรพณ์
ผิดแบบอย่าง ทางธรรม ไม่สัมพันธ์
อยู่ในชั้น โง่เขลา เบาปัญญา


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 07 กรกฎาคม 2009, 04:33:AM

ไม่เชื่อกรรมนำวิถีแห่งชีวิต
เชื่อผิดผิด ภัยมหันต์ เกิดปัญหา
เป็นเหยื่อคน กลโกง หลงศรัทธา
เสียทรัพย์สิน เงินตรา สถาบัน

เป็นชายชาติ ถ้าฉลาด และแหลมหลัก
ใครจะชักชวนได้ให้เหหัน
จงสังเกต เหตุผล ยลสัมพันธ์
จัดดุลกัน กับศรัทธา ปัญญานิยม

หนึ่ง "เที่ยงธรรม" คำนี้มีความหมาย
เราเป็นชายควรวิเคราะห์ให้เหมาะสม
อันคนดี จะชี้ติ ตำหนิชม
ต้องคิดข่ม ครองใจ ให้สมควร

อย่าเข้าข้าง ทางใด ต้องใจเที่ยง
ไม่เอนเอียง ผิดชอบ ต้องสอบสวน
ถ้าพวกเพื่อน เบือนบิด ผิดกระบวน
อย่าชื่นชวน วินิจฉัย ให้เป็นธรรม


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 08 กรกฎาคม 2009, 06:25:AM

อย่าเข้าใคร ไทยเทศ หรือเพศญาติ
ต้องสามารถ มองความ ให้งามขำ
ดีว่าดี ชั่วว่าชั่ว กลัวบาปกรรม
ใครน้อมนำ แนะให้เอียง ต้องเถียงแทน

อีกข้อคือ ซื่อตรง ดำรงสัตย์
ต้องฝึกหัด ให้มั่น สำคัญแสน
ไม่ฉ้อโกง ใครกิน แม้สิ้นแกน
ให้เหนียวแน่น ในมนัส ซื่อสัตย์ครัน

อนึ่งเล่า เราต้องดี มีสัจจะ
ถ้อยวาทะ เที่ยงตรง ดำรงมั่น
ปากที่ไข ใจที่คิด อย่าผิดกัน
ไม่บิดผัน พลิ้วบท พจนา

อนึ่งธรรมสำคัญ อันเอกอุตม์
ประเสริฐสุด สังคม นิยมหา
คือเสียสละประเสริฐเลิศโลกา
มีเมตตาตามควรในส่วนตน


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 10 กรกฎาคม 2009, 05:10:AM

เห็นผู้ใดใครขัดปัจจัยหลัก
ต้องรู้จักมีใจใฝ่กุศล
โดยจุนเจือเกื้อแก้แก่คนจน
ตามเหตุผล เพียงแค่ แก้ลำเค็ญ

จงช่วยแค่ แก้ทุกข์ ยามฉุกเฉิน
อย่าช่วยเกิน เกิดก่อ ที่ข้อเข็ญ
ทำให้คน จนนร่ำไป ทำไม่เป็น
ผิดประเด็นโดยธรรมจำจงดี

จงช่วยคน ให้ช่วยตน ต่อไปเถิด
จะล้ำเลิศ ถูกหลัก เป็นศักดิ์ศรี
ใช่ขอทาน คร้านนั่ง ขอทั้งปี
ช่วยเช่นนี้ นอกประเด็น ไม่เป็นคุณ

ประการหนึ่งซึ่งชายต้องหมายมั่น
มาช่วยกันกำกับสนับสนุน
เห็นสิ่งใดไม่เป็นธรรมต้องค้ำจุน
โดยการุณย์รักราษฎร์ชาติประชา


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: กอบรัก ที่ 10 กรกฎาคม 2009, 08:14:AM

สิ่งใดคิด ผิดธรรม จะนำใช้
อย่าปล่อยไป ให้เป็น ประเด็นปัญหา
ต้องต่อสู้ชูธรรมนำคณา
โดยแกล้วกล้าเกรียงไกรไม่กลัวเกรง

แต่ต้องทำนำคณะโดยสงบ
อย่ารุกรบด้วยอารมณ์เข้าข่มเหง
ต้องรู้แบบแยบคายใช่นักเลง
อย่าโฉงเฉงชักชวนกันกวนเมือง

อันวิธี มีมากหากจะสู้
ต้องเรียนรู้ อย่างฉลาดและปราดเปรื่อง
เช่นเขียนคำร่ำแถลงแรงไม่เปลือง
หรือเขียนเรื่องลงแพร่แก่มวลชน

หรือประท้วงโดยธรรม แบบคว่ำบาตร
โดยประกาศ ให้สังเกตในเหตุผล
ยังมากมายหลายวิธีที่พึงยล
ควรแก่รณรงค์รู้ สู้อธรรม


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 12 กรกฎาคม 2009, 06:54:AM

อนึ่งมนุษย์ สุดดี อยู่ที่จิต
จะพูดคิดข่มใจอย่าให้ถลำ
สุจริต กายจิต วจีกรรม
เป็นเครื่องนำ น้อมใจ ให้สบาย

หากไม่เห็นแก่ตัว ชั่วก็หมด
สังคมลด เดือดร้อน รอนสลาย
เห็นใจกัน พลันร้อน ก็ผ่อนคลาย
ปัญหาหาย หากแก้ เห็นแก่ตัว

อันผู้ดี มีจิต รับผิดชอบ
จะประกอบ การใด ก็ไมชั่ว
หนึ่งสำหรับรับผิดชอบต่อครอบครัว
ไม่เมามัวก็มิหมองรู้ครองตน

สองสำหรับรับผิดชอบระบอบใหญ่
สังคมไทย ทั้งระบบกระทบผล
ต้องอาศัยการศึกษาประชาชน
ทำให้คนรู้คิดพินิจนำ


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 13 กรกฎาคม 2009, 11:06:PM

อันประชาธิปไตยในไทยนี้
หกสิบปีเศษผ่านนานฉนำ
ไม่จรัสพัฒนาน่าชอกช้ำ
เพราะไม่ทำ ให้คนไทยเข้าใจดี

ยังซื้อสิทธิ์ ขายเสียง เลี่ยงกฎหมาย
น่าละอาย ระอาจิต ผิดวิถี
อันพวกเจ้าเยาว์วัยไม่กี่ปี
ก็จะมีสิทธิ์มั่งจงตั้งใจ

รับผิดชอบ ตามระบอบ ระบบบท
เลือกคนดี หนีคนคด ฟังขานไข
รู้หน้าที่ มีธรรม นำฤทัย
รู้กลไก การเมือง เรื่องสำคัญ

รู้เหตุ , ผล, ตน,ประมาณ, กาลเทศ
ตามขอบเขต ควรคิด อย่าบิดผัน
รู้จักกลุ่ม ประชุมชน ผลอนันต์
รู้เลือกสรรเสาะหา เมธาวี



หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้องติ๋ว ที่ 19 กรกฎาคม 2009, 01:05:AM

รวมเจ็ดข้อขอให้จำสำคัญสุด
ข้อบัญญัติ สัตบุรุษ อันเรืองศรี
ใครครบเสร็จ เจ็ดข้อ ถ้วนพอดี
เป็นเมธี ทรงธรรม ล้ำโลกา

คนเช่นนี้ มีที่ สังคมไหน
สังคมนั้น พลันได้ สุขถ้วนหน้า
ท่านจงเป็น เช่นนั้น ดังพรรณา
จะเลื่องชื่อ ลือชา ว่าเลิศชาย


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ปางสีฝุ่น ที่ 19 กรกฎาคม 2009, 01:32:AM
บทเพลงเพื่อชีวิต
เขาร้องเพื่อ..ทวงสิทธิ์..เสรีภาพ
กระหึ่มก้อง..ลั่นรัว..ทั่วร้านลาบ
ว่าซึมซาบ..ทุกระนาบ..'ธิปไตย

บทเพลงเพื่อชีวิต
เขาว่าคือ..นฤมิต..อันยิ่งใหญ่
เขาว่าคือ..วิถีทาง..อย่างไทยไทย
หากแต่ว่า..ลาบไก่..ยังไม่จ่ายเลย


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: kaya ที่ 29 กรกฎาคม 2009, 04:03:PM

ยังอีกส่วนควรทราบและศึกษา
คือวัฒนธรรมล้ำค่าอย่าให้หาย
ไทยเป็นไทยแต่ก่อนไกลไม่กลับกลาย
ได้สืบสายสุขสวัสดิ์จนปัจจุบัน

เพราะมีวัฒนธรรมเครื่องนำชี้
ประเพณีแนวทางที่สร้างสรรค์
ภาษาสลวย, มวย, รำล้วนสำคัญ
ใครจะหันเทียบเท่าของเราไทย


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: โรแมนติค ที่ 29 กรกฎาคม 2009, 11:24:PM

ขอให้เจ้าเข้าถึงซึ่งคุณค่า
รู้รักษาให้สืบทอดตลอดสมัย
รู้แยกคัดจัดลบองของนอกใน
ได้ภูมิใจอาจิณจนสิ้นปราณ

ประการหนึ่งซึ่งกษัตริย์เป็นฉัตรชาติ
ถวัลย์ราชร่มเย็นเป็นสุขศานต์
เป็นขวัญรัฐขวัญราชแต่โบราณ
จวบถึงกาลปัจจุบันสืบสันต์ติวงศ์

พระทรงคุณพหุลครันเป็นขวัญประเทศ
ทรงพระเดชดังกระเดื่องเรืองระหง
พระเกียรติปรากฎพระยศไกรใหญ่ยิ่งยง
โดยดำรงค์ราชัยให้ไพบูลย์


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 03 สิงหาคม 2009, 06:42:PM
เป็นศูนย์รวมร่วมกมลคนทั้งชาติ
บำรุงศาสน์ให้วิสุทธิ์มิเสื่อมสูญ
ต้องจงรักชักเชิดร่วมเทิดทูน
เพื่อเพิ่มพูนพัฒนาประชาไทย

ระบบที่มีราชะเป็นประมุข
อำนวยสุขสูงสุดอย่าสงสัย
แลให้รอบเมืองเราจะเข้าใจ
เพื่อนบ้านได้เดือดร้อนรอนเจริญ


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ยอด~ ที่ 03 สิงหาคม 2009, 11:57:PM

เพราะเหตุไร เหตุเพราะ ไร้อธิราช
ประชาชาติ เผชิญทุกข์ กันฉุกเฉิน
ด้อยกว่าเราเท่าไรไม่เก่งเกิน
เพราะดำเนินแนวคิดมาผิดทาง

พวกขุนศึกฮึกหาญผ่านประเทศ
บังเกิดเหตุ หายนะ ต้องสะสาง
ชิงกันใหญ่ ใส่กันยับ แทบอับปาง
เพราะเลิกร้าง ระบบรัฐ กษัตริย์ครอง


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำมนต์ ที่ 04 สิงหาคม 2009, 06:55:PM
ระบบนี้ดีเลิศประเสริฐสุด
ไม่เปิดจุดที่จะแยกแตกเป็นสอง
จงเชื่อเถิดเทิดกษัตริย์รัฐครรลอง
เลิศลบองล้ำระบบจบสกล

ความจงรักภักดีมีคุณค่า
เหมือนรักฟ้าแห่งเกิดกำเนิดฝน
เชิญเทิดทูน ศูนย์รวม ร่วมกมล
เหมือนฉัตรชน ฉัตรชัย ฉัตรไทยเรา


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: akom ที่ 10 สิงหาคม 2009, 04:35:PM

ทุกท่านเกริ่นมาฉะนี้ดีที่สุด
ล้วนเอกอุตม์ อรรถแสดง แถลงเล่า
ก็หวังใจ ให้ดรุณ ที่รุ่นเยาว์
ได้ขัดเกลา กล่อมจิต สะกิดใจ

เป็น "ดรุณานุศาสนี" เสนอ
ถึงไม่เลอ เลิศครัน แต่ทันสมัย
เพราะกล่าวความ ตามสภาพ ทราบทั่วไป
โดยหวังให้ เห็นวิถี ที่ดำเนิน


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 18 สิงหาคม 2009, 07:30:AM

นามผู้แต่ง "แพง เพชรพันกะรัต"
อรรถรสพจน์สัมผัสยังผิวเผิน
ด้านข้อคิดผิดพลาดอาจขาดเกิน
อภัยเทอญเมธีช่วยชี้ทาง

ขอจบกลอนสอนดรุณสุนทรแถลง
กล่าวแสดงโดยอรรถไม่ขัดขวาง
ล้วนแล้วสิ่งจริงใจไม่จืดจาง
เชิญอ่านอ้างอรรถเอื้อนเตือนตนเอย.


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 18 สิงหาคม 2009, 11:17:AM
ยินบทเพลงบรรเลงเปล่งประสาน
ต่างขับขานคำร้องของชีวิต
มีที่มาต่างฝันต่างลิขิต
ต่างชีวิตร่ายดนตรีสีสันโลก

บ้างทำนองสุขก็สุขแสน
บ้างทุกข์ยากขาดแคลนก็แสนโศก
บ้างชีวิตราบระนาบโลก
บ้างสงบไร้โศกสลับกัน


หัวข้อ: Re: ** ...พญาโศก... **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 16 กันยายน 2009, 09:15:AM

(http://www.pantown.com/data/783/board9/69-20070930060141.jpg)

คลิ๊ก....ฟังบรรเลงพญาโศก http://spamtheweb.com/ul/upload/2208/5153_mp3ss53s.swf


ระชวยโชยโบยพลิ้วผะผิวแผ่ว
กังวานแว่วอื้ออึงตรึงสดับ
ไหวไหววาบผัสสาแล้วลาลับ
ยะเยือกหนาวหนึ่งซับโดยชีวา

ณ เรือนดาวพราวระยิบกระพริบห้วง
เด่นเสี้ยวดวงเดือนแหว่งขึ้งแต่งฟ้า
หอมกลิ่นโศกลั่นทมยามลมพา
เหน็บหนาวห้วงมรรคาแห่งสัญจร

มโหรีปี่พาทย์เริ่มวาดเสียง
โศกสำเนียงม่านใจอันไหวอ่อน
โหยสดับในคราแห่งอาวรณ์
ห้วงระทมรอนรอนโดยแรงร้าว

หอมเอย หอมลั่นทม
ยามสายลมพัดชื่นในคืนหนาว
ทิ้งกลีบร่วงเป็นซาก ลงตากดาว
แลเกลื่อนพราวขาวพร่างอยู่กลางลาน

ดอกน้ำค้างวางหยอกบนดอกหญ้า
ดอกน้ำตาใสใสรินไหลผ่าน
พญาโศกตรึงซับกับห้วงกาล
กล่อมดวงมาลย์..สู่สุขคติ..อันนิรันดร์..




(http://widget.sanook.com/static_content/full/text/260e5328656231c8aa75f8cab8e3767f_1208331284.gif)


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 16 กันยายน 2009, 09:40:AM

ฟังพญาโศกวิโยคใจในสังขาร
ดอกร่วงรานดูเกลื่อนกรายใจโศกศัลย์
ยิ่งทำนองละล่องเคลื่อนเอื้อนจาบัลย์
โอ้สวรรค์ช่างปั้นโลก..ได้โศกจริง..

...แบบว่า


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 16 กันยายน 2009, 10:12:AM

ขอทักทาย มวลมิตร ลิขิตหวาน
ด้วยกลอนกานท์ พญาโศก วิโยคหา
ตอนนี้นางปวดร้าวเศร้าอุรา
เป็นกำพร้ามารดาพาระทม

ขออภัยในกลอน อาจอ่อนล้า
ด้วยน้ำตา นองหน้า พาทุกข์ถม
ขอบคุณพี่ จะไม่เด็ด  เพชรกลอน พรม
ทุกคำชม ห่มสุข...ทุกข์มลาย


เจ้านางขอขอบคุณ และทักทาย ทุกท่านค่ะ




หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้จ่อย ที่ 03 ตุลาคม 2009, 01:49:AM

ในบทเพลงชีวิตติดอันดับ
โศกกลอนซับเศร้าซึมจนลืมหลง
มโหรีปี่เพลง บรรเลงวง
เธอบรรจงเรียงร้อย ทุกถ้อยคำ

งามลานดอก ลั่นทม ตรมสะอื้น
ขาวเกลื่อนพื้น ลานตา หน้าฉนำ
อยากยกนิ้ว ให้ทุกบท แอบจดจำ
หวานลำนำ เหงาเศร้า...ไร้เงาเธอ


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: * พรรัก* ที่ 03 ตุลาคม 2009, 01:50:PM

ขอทายทัก รักบรรเลง เพลงชีวิต
อ่านลิขิต เจ้านาง วางเสนอ
ผมร้อยกรอง ไม่เก่ง  เกรงใจเธอ
มิบังอาจ มาเผยอ เสมอนาง

อยากมาต่อ กลอนบ้าง สร้างความรู้
เปิดประตู รับด้วย ช่วยสะสาง
เจียรนัย ถ้อยคำ ช่วยนำทาง
เปิดใจกว้าง...รับศิษย์..เป็นมิตรกลอน

 


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เปลวเทียนเปลี่ยนสี ที่ 07 ตุลาคม 2009, 02:19:PM
ดั่งบทเพลง...บรรเลงไป....ในความจริง
สรรพสิ่ง...ยิ่งกว่าฝัน...อันอ่อนหวาน
ร่ำและร้อง...ท่วงทำนอง...ของวันวาน
เล่าย้อนผ่าน...น้ำตาลเพลง..บรรเลงคลอ

เป็นรอยยิ้ม...ปริ่มดวงตา...พานึกหวน
นึกย้อนทวน...กระบวนการ...นานเนิ่นหนอ
ชุดนักเรียน...เพียรวิชา...น้ำตาคลอ
กี่ปีหนอ....ขอคำนวน...ทวนความจำ

ห้าปีหรือ....คือความจริง...สิ่งแอบแฝง
เวลาแกล้ง....แสร้งลบเลือน...เพื่อนขันขำ
เวลาเช้า...กล่าวจนเย็น...เป็นประจำ
การกระทำ...ย้ำชัดเจน...เห็นชัดตา

เพื่อนดีๆ...อาจจะมี...ทุกแห่งหน
แต่ตัวตน...ทุกคนเห็น....เช่นห่วงหา
วันเวลา....พาความจำ...นำห่างตา
นานหรือยัง...ที่ลืมว่า...ยังมีกัน




หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ยอด~ ที่ 07 ตุลาคม 2009, 07:53:PM

บทเพลงกับชีวิตที่ขีดเขียน
เธอสร้างได้แนบเนียนพากเพียรผล
ทั้งบทเศร้าบทโศก โลกของคน
มีปะปน นางมาร ช่างสานคำ......

มาสะกิด คิดว่า เป็นเรื่องจริง
โธ่..!! ผู้หญิง ดูยาก ฝากเรื่องขำ
แอบตกใจ น้อยนิด พิศลำนำ
แสดงได้ เลิศล้ำ ทำเราอิน..........อิอิ  ถ้าไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย..
emo_45 emo_20 emo_28 emo_28






หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 08 ตุลาคม 2009, 01:09:PM
เพราะบทเพลงมีจังหวะกระทบกระแทก
จึงแปลกแยกแตกต่างสว่างไสว
มีสูงต่ำแผ่วเบามาเร้ามาไล้
พลอยติดตังฟังไปให้ชื่นให้ชม


หรือชีวิตไร้จังหวะกระทบกระทั่ง
มีขึงขังเคล้าสุขปะทุกข์ปะขม
มีวงหวานหว่านล้อมมาย้อมมารม
หลงติดหล่มวางวาดกี่ชาติกี่ภพ


 emo_31


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: นกฯ ที่ 08 ตุลาคม 2009, 04:37:PM

บทเพลงแห่ง ชีวิต หมดสิทธิ์ฝัน
พบทางตันเต็มตื้นสุดกลืนกล้ำ
ฝันของนก ตำใจ ให้ลบคำ
ขอโทษซ้ำ จำใส่โสต อย่าโกรธเลย

เห็นคนอื่น เขาแสดง บทนางร้าย
ก็อยากมี สไตล์ ใหม่เพื่อนเอ๋ย
ไม่นึกว่า จะอิน  สิ้นชมเชย
เป็นนางเอกเหมือนเคย...เลยไม่ดัง...อิอิ....
emo_47 emo_20 emo_31





หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 14 ตุลาคม 2009, 02:37:AM

บทเพลงโศก โลกจริง ยิ่งเศร้าสร้อย
นั่งตาปรอย หงอยเหงา เราสิ้นหวัง
มีแต่ความ ทุกข์เทิน  เกินพลัง
กำพร้าทั้ง  บิดร และมารดา

โอ้ชะตา ชีวิต คิดตลก
ให้ผันผก อกร้าว หนาวหนักหนา
แสนอ้างว้าง ร้างไร้ ไม่สร่างซา
มีน้ำตา เป็นเพื่อนมอบ คอยปลอบใจ


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 14 ตุลาคม 2009, 03:08:AM

บทเพลงโศก โลกจริง ยิ่งเศร้าสร้อย
นั่งตาปรอย หงอยเหงา เราสิ้นหวัง
มีแต่ความ ทุกข์เทิน  เกินพลัง
กำพร้าทั้ง  บิดร และมารดา

โอ้ชะตา ชีวิต คิดตลก
ให้ผันผก อกร้าว หนาวหนักหนา
แสนอ้างว้าง ร้างไร้ ไม่สร่างซา
มีน้ำตา เป็นเพื่อนมอบ คอยปลอบใจ


เพราะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก   ครับ
กินใจสุดดดดดดดดดดดดดดด     ฮ่าๆๆ

เก่งสุดยอดไปเลยครับ  แบร่ๆ

 emo_28 emo_28 emo_28


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 14 ตุลาคม 2009, 03:35:AM

อย่ายกยอ คนดี เดี๋ยวพี่เหลิง
มานั่งเบิ่ง ข้อความ ตีสามกว่า
ไม่หลับนอน หรือไง ไยน้องยา
ขอขอบคุณ ที่มา เป็นเพื่อนกัน

ฝันดีนะน้องชาย สหายแก้ว
นี่ก็จะ สว่างแล้ว แว่วไก่ขัน
แต่งกลอนเพราะ "ร้อย (รัก) ดวงใจ"  ให้รางวัล
+1 พลัน ทันที  พี่ให้เธอ
... emo_28 emo_46


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 14 ตุลาคม 2009, 03:47:AM

อย่ายกยอ คนดี เดี๋ยวพี่เหลิง
มานั่งเบิ่ง ข้อความ ตีสามกว่า
ไม่หลับนอน หรือไง ไยน้องยา
ขอขอบคุณ ที่มา เป็นเพื่อนกัน

ฝันดีนะน้องชาย สหายแก้ว
นี่ก็จะ สว่างแล้ว แว่วไก่ขัน
แต่งกลอนเพราะ "ร้อย (รัก) ดวงใจ"  ให้รางวัล
+1 พลัน ทันที  พี่ให้เธอ
... emo_28 emo_46


ว้าวขอบคุณ คุณพี่ ใจดียิ่ง
เป็นยอดหญิง แห่งปี ที่สดใส
อายุมาก นอนดึก ระทึกใจ
อิงอุ่นไอ  อาทร นอนฝันดี

มีสิ่งใด ไม่ดี โปรดพี่แนะ
จงช่วยแคะ ขัดเกลา เคล้าเต็มที่
ส่วนรางวัล ไม่เคยหวัง ดั่งวจี
ทำด้วยมี ความรัก โลกนักกลอน..

 emo_26 emo_26 emo_26


หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้านาง ที่ 14 ตุลาคม 2009, 03:59:AM

ลาก่อนนะคนดีราตรีสวัสดิ์
กลอนสัมผัสนอกในใจเสมอ
พบน้องชาย สายกวี ดีจริงเออ
ขอเสนอ เป็นพี่ ทุกวี่วัน

หลงอักษร กลอนน้อง มาคล้องแขน
เป็นตัวแทน กวี ที่สร้างสรรค์
หากวันไหนแต่งดีมีรางวัล
แล้วพบกัน วันใหม่  บ๊ายบายจ้า..........
emo_28 emo_46



หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: ย่อง~~ ที่ 14 ตุลาคม 2009, 05:08:AM

บทเพลงกับชีวิตเธอขีดเขียน
อยากแวะเวียนทายทักสมัครสมาน
เป็นมิตรกานท์เพื่อนกลอนอย่านอนนาน
เธอบอกผ่าน ข้อความ ตามมาเคลียร์

วันนี้เธอ คนดี มีเศร้าโศก
เพราะในโลก ความจริง สิ่งสูญเสีย
ขาดบิดร มารดา พาใจเพลีย
อย่าระเหี่ย  เสียใจ ไปเลยนาง

พี่ขอมา ปลอบขวัญ อย่าหวั่นจิต
มาเป็นมิตร ชิดเชิญ อย่าเมินหมาง
จะช่วยแก้ ปัญหา  ทุกทุกทาง
ให้น้องนาง สุขตลอด และปลอดภัย

 





หัวข้อ: Re: ** บทเพลงกับชีวิต **
เริ่มหัวข้อโดย: * พรรัก* ที่ 14 ตุลาคม 2009, 11:14:AM

อ่านบทกลอนชีวิตลิขิตเศร้า
ให้เงียบเหงาฟังเพลงบรรเลงฝัน
พญาโศก ร้อยริน หอมกลิ่นจันทน์
คลุ้งรำพัน ควันเทียน เวียนมามอง

เศร้าเอย...เศร้าจิต 
อยากปลอบมิตร คิดปลุก สุขสนอง
ยื่นผ้าซับ น้ำตา มาประคอง
ช่างร้อยกรอง บทเศร้า จนเราอิน......
emo_48



หัวข้อ: Re: ** ...พญาโศก... **
เริ่มหัวข้อโดย: barame ที่ 19 ธันวาคม 2009, 02:48:AM

([url]http://www.pantown.com/data/783/board9/69-20070930060141.jpg[/url])

คลิ๊ก....ฟังบรรเลงพญาโศก [url]http://spamtheweb.com/ul/upload/2208/5153_mp3ss53s.swf[/url]


ระชวยโชยโบยพลิ้วผะผิวแผ่ว
กังวานแว่วอื้ออึงตรึงสดับ
ไหวไหววาบผัสสาแล้วลาลับ
ยะเยือกหนาวหนึ่งซับโดยชีวา

ณ เรือนดาวพราวระยิบกระพริบห้วง
เด่นเสี้ยวดวงเดือนแหว่งขึ้งแต่งฟ้า
หอมกลิ่นโศกลั่นทมยามลมพา
เหน็บหนาวห้วงมรรคาแห่งสัญจร

มโหรีปี่พาทย์เริ่มวาดเสียง
โศกสำเนียงม่านใจอันไหวอ่อน
โหยสดับในคราแห่งอาวรณ์
ห้วงระทมรอนรอนโดยแรงร้าว

หอมเอย หอมลั่นทม
ยามสายลมพัดชื่นในคืนหนาว
ทิ้งกลีบร่วงเป็นซาก ลงตากดาว
แลเกลื่อนพราวขาวพร่างอยู่กลางลาน

ดอกน้ำค้างวางหยอกบนดอกหญ้า
ดอกน้ำตาใสใสรินไหลผ่าน
พญาโศกตรึงซับกับห้วงกาล
กล่อมดวงมาลย์..สู่สุขคติ..อันนิรันดร์..




([url]http://widget.sanook.com/static_content/full/text/260e5328656231c8aa75f8cab8e3767f_1208331284.gif[/url])


หอมเอย  หอมลั่นทม
โชยกลิ่นตรมข่มโศกโลกทั้งสาม
เศร้าอักษรอ่อนไหวในโมงยาม
แทนหนึ่งความหมองหม่นในหนใจ

บางสิ่งสื่ออ้างว้างในบางช่วง
บางสิ่งล่วงทุกข์ทนกังวลไหว
บางบทบ่งตรงช้ำระกำใน
ห้วงหทัยรวดร้าวหนาวรำพึง

บางบทพรากจากจิตพิศวาส
เร่นิราศห่างเหินเกินคิดถึง
บางบทบอกตอกย้ำห้วงคำนึง
บางบทตรึงน้ำตาอุราราน

บ้างร่ายโศกร่ายสุขการปลุกปลอบ
บ้างเขียนมอบกำลังใจไว้ขับขาน
แลบางบทสดชื่นรื่นเบิกบาน
บางบทจารทั้งน้ำตามาเป็นคำ

หนาวเอย หนาวลมแผ่วพรมห้วง
บางสุขล่วงจากปลื้มใจดื่มด่ำ
อารมณ์เลือนเคลื่อนคล้อยรอยลำนำ
สุขโศกบทจดจำอยู่เจียนตาย

ณ มุมเก่าห้องเก่านั่งเล่าเขียน
สาดแสงเทียนผ่องผุดไปสุดสาย
สิ้นเรื่องราวหนาวลมอันพรมพราย
ก็สิ้นแสงสุดท้ายจากแท่งเทียน.


หัวข้อ: Re: ** พญาโศก **
เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 19 ธันวาคม 2009, 10:31:AM

พญาโศก...โลกนี้มีแต่เจ้า
หรือที่เนาว์ในโลกด้วยโศกศัลย์
ฉันก็หนึ่งซึ่งคงเนาว์เศร้าจาบัญ
จะมีวันหายทุกข์เข็ญเป็นไม่มี

ด้วยโลกนี้หนีไม่วายพ้นตายจาก
พบพลัดพรากไม่วายเว้นเช่นฉะนี้
อย่าหวังใจในโลกจริงยิ่งอินทรีย์
คงความดีเป็นที่ตั้ง..หวังโศกคลาย..

...แบบว่า..ชีวิตมันเศร้า