หัวข้อ: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: ขวด ที่ 18 มีนาคม 2009, 11:57:AM ในอนาคตกาลอีกไม่นานนัก พระอาทิตย์จะไปขึ้นทางทิศตะวันตก คือ ฝรั่งจะสนใจศึกษาปฏิบัติธรรม เพื่อความหลุดพ้นกันมากขึ้น ปัจจุบันมีแนวโน้มมากขึ้นเป็นลำดับ ....ตะวันตกจะเป็นตะวันออก เรืองรองผ่องอำไพ ด้วยปัญญา เพราะพื้นฐานฝรั่งเขารักเหตุผล เชื่อมั่นอยู่แล้ว ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุผล พิสูจน์ได้เป็นอกาลิโก ทุกเวลา ทุกเมื่อ ส่วนคนไทย ประเทศไทยจะกลับเป็นพระอาทิตย์อัศดง มาตกทางฝั่งตะวันออกไป เพราะคนไทยยุคนี้หลงมัวเมาในวัตถุนิยม จนไม่ลืมหูลืมตา ดูเหตุผล ตกเป็นทาษของเงินตรา แสงสี ความเย้ายวนนานา หลงลืมศีลและธรรม ไม่รู้จักศีล ไม่รู้จักธรรม ไม่รู้จักวัด ไม่รู้จักคุณพ่อแม่ ครูอาจารย์ พระพุทธเจ้าสอนอะไรก็ไม่รู้ ไม่เชื่อบาปบุญคุณโทษ นรกสวรรค์ ชาตินี้ชาติหน้า เชื่อว่าตายแล้วสูญ ซึ่งเป็นมิจฉาทิฏฐิร้ายแรง ขาดความกตัญญูรู้คุณ ขาดความซื่อสัตย์ เอารัดเอาเปรียบ เบียดเบียนผู้อื่น หน้าด้าน มือใครยาวสาวได้สาวเอา หน้าทน ไม่มียางอาย เสียชาติเกิดมาเป็นคน มาพบพุทธศาสนา ก็ยังเอาดีไม่ได้อีก แล้วจะเกิดมาทำไม?.......
หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: tna ที่ 18 มีนาคม 2009, 10:04:PM (http://img12.imageshack.us/img12/6232/db23a9323c2691fc6c92140.jpg) อวิชชา ------------- อวิชชาต่ำช้า.....กำเนิด รากมั่นตันหาเกิด.....หยั่งเหง้า หลงยึดแค่จบสิ้น.....สูญไขว่ ไร้ผล ยึดมั่นถือครองเคล้า....ท่วมท้น อุปาทาน กรรมวิบัติจ่อจ้อง.....จองผลาญ เวียนว่ายวัฏสงสาร.....ไป่พ้น ภพชาติก่อวงศ์วาน....ขานสู่ อบาย เกาะก่ายสายขันธ์ล้น.....ต่อแต้ม แซมกรรม เวลา...วารี...ชีวี...รำพัน (http://img12.imageshack.us/img12/4120/1569413841mb7lt2.gif) หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: รัศมีธรรมส่องทาง ที่ 19 มีนาคม 2009, 09:19:AM ก็คงต้องช่วยกันในการธำรงพระศาสนาให้อยู่ต่อไป พระศาสดาทรงพยากรณ์ไว้ว่าศาสนาของพระองค์จะดำรงอยู่ได้ถึง 5,000 ปี
ตอนนี้ก็ผ่านมาเกินครึ่งแล้ว ก็เริ่มมีสัญญาณแห่งความเสื่อมถอยทางด้านจิตใจของคนบ้าง เพราะในปัจจุบันคนนับถือศาสนาแบบไม่มีความเข้าใจในหลักศาสนาอย่างแท้จริง คิดว่าเรื่องของศาสนาคือทางธรรมนั้นอยู่ต่างหากจากทางโลก ทั้งที่จริงแล้วในทุกขณะของเราก็มีธรรมะให้เราเห็นโดยตลอด และก็ไปเอาศาสตร์ต่าง ๆ มาปนเปกับธรรมะของพระพุทธเจ้า จนไม่สามารถเข้าใจได้ว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน สิ่งไหนเป็นสิ่งที่ปลอมปนมา ธรรมะของพระพุทธเจ้าดีจริง พิสูจน์ได้ด้วยการปฏิบัติ แต่หลายคนไม่ยอมทำตาม แต่ก็มองว่าไม่จริง ทำไม่ได้ ทั้งที่ไม่เคยลงมือทำเลย และก็ไม่ทำหน้าที่ของศาสนิกที่ดี เช่น ไม่เข้าใจเรื่องการทำบุญในทางพระพุทธศาสนาดีนัก เข้าใจเพียงว่าการทำทานเท่านั้นคือการทำบุญ ก็ขอให้ทุกท่านศึกษาและทำความเข้าใจในหลักของพระศาสนากันบ้าง เพื่อจะได้ประพฤติปฏิบัติตนให้สมกับเป็นพุทธมามกะ ซึ่งจะยังธำรงพระศาสนาให้เจริญอยู่ได้ต่อไป emo_12 emo_12 emo_12 emo_12 emo_12 *** ปล.ท่านที่สนใจ สามารถขอรับหนังสือพระนิพนธ์เรื่อง วิธีสร้างบุญบารมี ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ได้ที่รัศมีธรรมส่องทางครับ พระนิพนธ์เรื่องนี้ปูพื้นฐานเรื่องการทำบุญในพระศาสนาและแนวทางการปฏิบัติตนได้ดีมาก ๆ สมควรที่ชาวพุทธควรรู้ *** หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: ขวด ที่ 19 มีนาคม 2009, 09:46:AM เอ่อ ท่านรัศมีธรรมส่องทางครับ ผมสนใจอยากได้หนังสืออ่ะครับไม่ทราบว่ารับได้ที่ไหนครับ
หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: รัศมีธรรมส่องทาง ที่ 19 มีนาคม 2009, 10:12:AM PM ชื่อและที่อยู่ที่ชัดเจนมาให้ผมก็ได้ครับ ผมจะส่งไปให้ตามความประสงค์
ขอบคุณและอนุโมทนาบุญด้วยที่สนใจครับ emo_12 emo_12 emo_12 emo_12 emo_12 หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: ขวด ที่ 19 มีนาคม 2009, 10:19:AM เอ่อ PM คืออะไรอ่ะครับ emo_23
หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: สายลมสีขาว ที่ 19 มีนาคม 2009, 12:57:PM สนใจคะ
แต่ว่า ค่าหนังสือนี้เท่าไรคะ รวมถึงค่าจัดส่งนะคะ ช่วยบอกหน่อย จะได้เอาไว้ให้คุณพ่อ คุณแม่อ่านด้วย ^_^ emo_43 หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: สารพัด*เพี้ยน ที่ 19 มีนาคม 2009, 10:06:PM อืม
พ่อแอมบอกว่า การทำบุญจริงๆแล้วไม่ใช่เพื่อผลบุญอะไรแต่พระพุทธเจ้าต้องการให้เรารู้จัก"การให้ทาน" การจัดงานศพตั้งศพไว้ในงานจริงๆแล้วเพื่อต้องการให้ระลึกว่า"สังขารคือสิ่งไม่เที่ยง"คนเรามันก็แค่นี้ เกิด แล้วก็ตาย ไม่ใช่ต้องการให้เราจัดงานใหญ่โต การปล่อยนกปล่อยปลาหากเราไปซื้อที่เขามาขายแล้วปล่อย เขาก็ไปจับมาอีก ขายต่อให้เราอีก วนเวียนไปอยู่อย่างนี้ ทรมาณสัตว์ พ่อมักพูดเสมอๆว่า "พระอยู่ที่ใจ" ไม่จำเป็นต้องหามาแขวน ระลึกอยู่ในใจ ดีกว่าการแสดงออกไปอย่างนั้น ทั้งๆที่ใจไม่ได้ระลึกไม่ได้อยู่ในช่วงที่สงบจิตสงบใจ ก่อนไหว้พระ พ่อจะบอกว่า ต้องทำใจให้สงบก่อน แล้วค่อยไหว้ เวลาพระท่านให้ศิลห้า พ่อแอมเขาจะไม่รับ เพราะเขารู้ว่าเขาทำไม่ได้ ^^ พ่อชอบพาแอมไปวัดอโศการามไปนั่งสมาธิอ่าค่ะ ไปนั่งหลังวัดโน่น ข้างหลังเป็นป่าชายเลน เงียบสงบดี ยิ่งตอนที่แม่แอมเสียใหม่ๆนี้ ไปเกือบทุกวันเลย (ขนาดพ่อพูดเสมอๆว่าความตายมันอยู่ใกล้นิดเดียว แค่พอเวลาเจอจริงๆมันก็ยากทำใจเนาะ^^") พระพุทธเจ้าหยิบใบไม้มาไว้ในกำมือหนึ่ง ตอนพระพุทธเจ้าเทศน์ในคราวที่พระสงฆ์มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ท่านถามพระสงฆ์ว่า ใบไม้ในกำมือท่าน กับในป่า อันไหนมันมีเยอะกว่ากัน พระสงฆ์ก็ตอบว่า ในป่า ท่านก็บอกว่า เหมือนกันกับ คำสอนของท่าน ท่านหยิบเอา"ส่วนหนึ่ง" ในการหลุดพ้นมาสอนเท่านั้น ไม่ได้นำมาทั้งหมด ซึ่งหมายความว่า ในโลกนี้ยังมีสิ่งที่ทำให้หลุดพ้นอีกมากมาย ไม่ใช่แค่สิ่งที่ท่านสอน(เออมีใคร งง ไหม แบบว่าพ่อแอมเล่าให้ฟังอีกทีอ่ะ - -) แอมก็เป็นชาวพุทธคนหนึ่ง แต่ก็คงไม่ใช่ชาวพุทธที่ดีมากเท่าไรหรก แอมเชื่อเรื่องเวรกรรม แต่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องนรกสวรรค์เท่าไร -..-* เพราะแอมคิดว่า นรก สวรรค์ แอมพิสูตรไม่ได้ว่ามันมีจริง แอมทำดีปะปนไปกับความชั่วบ้าง(เพราะบางครั้งก็หลีกไม่ได้ เช่น การโกหก ฆ่าสัตว์ เบียดเบียน) เพราะคนเรามันก็มีความเห็นแก่ตัวใช่ไหมละ แอมบอกได้เลยว่า แอมรักษาศิลห้าไม่ได้หรก(แต่ก็พยายามไม่ละเมิดมาก) เคยพยายามแล้วจริงๆนะ แอมเคย โกหก(หรือใครไม่เคยโกหก) แอมเคยฆ่าสัตว์(ตบยุง ฆ่าแมลงสาบ ฆ่ามด...) แอมเคยดืมเหล้า(แอบๆชิม><") เคยเจอหนังสือทีเขาพิมพ์แจก ให้ความเชื่อแบบผิดๆ บอกว่าสามารถทำบุญล้างบาปได้ ก็เลย งง มันมีด้วยหรอ เท่าที่เคยรู้มา มันแค่อาจจะผ่อนหนักเป็นเบาไม่ใช่หรอ -- -- มีการแจก คาถา อาคม แอมว่ามันเป็นเรื่องงมงายนะ ^^ ใครคิดแบบแอมบ้าง เท่าที่รู้ พระพุทธเจ้า ไม่ได้สอนให้เรางมงายนะ ^^ "พุทธังวันทามิ เมตาจิตัง" อันนี้หลวงปู่(พระอาจารย์ของพ่อ)บอกแอมมา ท่องไว้ มันจะทำให้จิตใจสงบ ^^ (เขาบอกว่า เป็นทั้งบทสอดแผ่เมตตา เมตตามหานิยม ไม่ได้งมงายนะ แต่ก็ไม่ประมาทไง 555) หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: bourana ที่ 19 มีนาคม 2009, 10:48:PM คุณพ่อแอมสอนไว้..ดีมากเลยค่ะ
คิดเหมือนกันค่ะว่า.. การทำบุญ..คงไม่สามารถล้างบาปที่เราเคยสร้างได้..หรอกค่ะ เพียงแต่จะช่วยบรรเทา..ไม่ให้บาปที่เราทำ..ย้อนกลับมาทำร้ายเราอย่างสาหัสเท่านั้น แต่ยังไง..เราก็ยังต้องได้รับผลแห่งบาปนั้นอยู่ และก็คิดว่า.. การสวดมนต์ไหว้พระเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ใช่เพื่ออำนวยลาภยศ แต่เป็นการทำให้สติของคนเราพอกพูนขึ้น สามารถยับยั้งชั่งใจ..ไม่ให้เราทำบาปเพิ่มขึ้น และสามารถทำให้เรารู้จักคิด..พิจารณา..แยกแยะชั่วและดีได้ ทำให้เราเลือกทำแต่ในสิ่งที่ดีเท่านั้น.. และสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา..ก็เนื่องมาจาก..เราคิดดี..และทำดี..นั่นเอง หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: tna ที่ 20 มีนาคม 2009, 07:58:AM (http://img210.imageshack.us/img210/7430/i636.gif) ต้องรู้จักตัวเองก่อน ------------------------ การค้นพบตัวเองคือสิ่งที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของมนุษย์ทุกคน ทุกคนมักมองและค้นพบสิ่งที่อยู่รอบข้างไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ด้วยกันหรือธรรมชาติ แต่จะมีผู้ใดค้นพบตัวตนของตนเองสักคนก็หาไม่ เมื่อสองพันกว่าปีที่ผ่านมา มีบุรุษผู้หนึ่งซึ่งได้อ้างว่าได้ค้นพบตัวตนของตนเอง ได้พบสัจธรรมความเป็นจริงของตนเองและธรรมชาติ ซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงอันเป็นความจริงแท้แน่นอน บุรุษหนุ่มได้ประกาศว่าตัวเอง เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เหนือกว่าผู้ใดทั้งปวงในโลกทั้งในอดีตปัจจุบันและในอนาคต เพราะบุรุษผู้นั้นรู้จักตนเองด้วยตนเองหาได้รู้จากผู้อื่น หาได้รู้จากพระเจ้าหรือเทพยาดาต่างๆไม่ หากมีใครถามว่ารู้ไหมว่าตัวเราเองเป็นคนอย่างไร เรามักหาคำตอบให้กับคู่สนทนาหรือแม้กระทั่งตัวเองได้ยากเหลือเกิน นั่นเพราะเราไม่เคยรู้จักตัวเราเองเลย บุรุษหนุ่มผู้กล่าวอ้างได้ใช้เวลาชั่วชีวิตของเขาสั่งสอนให้คนรู้จักตนเอง โดยอ้างว่าสิ่งที่เขาค้นพบก็คือ ความจริงของธรรมชาติ ทุกวันนี้เรากำลังห่างไกลธรรมชาติเข้าไปทุกทีจนลืมไปว่าแท้จริงแล้วเราเป็นแค่ส่วนหนึ่งของธรรมชาติหาใช่ผู้ควบคุมธรรมชาติไม่ นี่แหละจึงทำให้เราไกลจากการเป็นตัวตนของตนเอง ห่างไกลจากการรู้จักตนเอง และลืมที่จะศึกษาตนเอง การเปลี่ยนแปรงคือสิ่งที่บุรุษหนุ่มผู้กล่าวอ้างค้นพบและกล่าวอ้างว่าคือธรรมชาติ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว มีอยู่แล้ว การไม่รู้จักตัวเอง และวิธีทำให้รู้จักตนเอง ล้วนเกิดขึ้นแล้ว มีอยู่จริง เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกลายเป็นนิรันดร์ การมี สติสัมปชัญญะ กำหนดรู้ในสิ่งต่างๆในขันธ์ทั้งห้า ทุกอิริยาบถของกริยา เมือมีสติ ก็ย่อมมีสมาธิในเรื่องหรือกิจต่างๆเหล่านั้น เมื่อมีสมาธิปัญญาก็เกิด การรู้จักตัวเองรู้จักธรรมชาติก็เกิด นี่แหละคือหนทางที่จะรู้จักตนเองบุรุษหนุ่มผู้กล่าวอ้างกล่าว ท่านละครับเชื่อเขาหรือไม่ มาทำความรู้จักตัวเองกันเถาะ /ตัวตน เป็นใคร ใคร่รู้ เกิดอยู่ เจ็บตาย สังขาร เวียนว่าย ในสาย สราญ ความหวาน แห่งสาย ชีวี หารู้ ตัวตน หนใด รู้ไป ทั่วหล้า วิถี ตัวตน คนกู ผู้นี้ อยู่ที่ ไม่รู้ กูตน สืบเสาะ แสวง หาอยู่ ไม่รู้ ตัวกู แห่งหน เริงร่าย ในสาย เวียนวน ไม่พ้น ตัวตน คนกู ชีวิตดั่งน้ำค้างหาว กรรมสิ้น เวรหมด ใจหลุดพ้น เวลา...วารี...ชีวี...รำพัน (http://img210.imageshack.us/img210/7430/i636.gif) หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนาก เริ่มหัวข้อโดย: ขวด ที่ 20 มีนาคม 2009, 01:21:PM พระพุทธองค์ทรงสอนว่าในการเชื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งต้องเชื่อโดยเหตุผลโดยการคำนึงตรึกตรองเสียก่อน ในการเชื่อทุกอย่างแม้การเชื่อสิ่งที่พระองค์ทรงสอนก็อย่าเชื่อโดยง่ายให้คำนึงตรึกตรองตามหลักเหตุและผลเสียก่อน ซึ่งก็เหมือนการเชื่อของผู้ที่หลงผิดและงมงายอีกหลายคนว่าเชื่อในอำนาจเงิน เงินยิ่งมากยิ่งมีความสุข เชื่อในสิ่งอำนาจเหนือธรรมชาติเช่น ผี ปีศาจ พวกเขาเหล่านั้นอาจมีวิถีทางที่จะหลุดพ้นอีกยาวนาน ซึ่งเมื่อมองกลับมาที่ตัวข้าพเจ้าเองก็ยากนักที่จะใช้หลักเหตุผลในการเชื่อ ซึ่งอาจเป็นหนทางที่ยาวไกลของข้าพเจ้า ซึ่งไม่รู้ว่าจะถึงเมื่อไหร่กัน
สิ่งที่ไม่มีในศานาทั่วไปอื่นเช่นพุทธศานาคือการมีเหตุผล ในขณะที่ศาสนาอื่นนั้นให้มุ่งเชื่อไปในอำนาจลี้ลับอันทรงอานุภาพ ให้ปักใจเชื่อไปเลยโดยไม่มีเหตุผลประกอบ ว่าการที่สุขที่สุดของมนุษย์นั้นคือการได้รับใช้พระเจ้า การเชื่อในพระเจ้า แต่ในศาสนาพุทธนั้นยอมรับในศักยภาพของสิ่งมีชีวิตที่สามารถหลุดพ้นเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอำนาจวิเศษแต่ต้องพึ่งตัวเองเพื่อไปยังเป้าหมายสูงสุดคือความว่าง คือนิพพาน ท้ายที่สุดขอบอกไว้ว่า อย่าเชื่อจนกว่าจะได้พิสูจน์ แม้สิ่งที่ท่านกำลังเห็นอยู่นี้ก็มิอาจเชื่อตามมันได้ จนกว่าจะได้พิสูจน์อย่างถูกต้องเสียก่อน หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: รัศมีธรรมส่องทาง ที่ 20 มีนาคม 2009, 03:17:PM อืม พ่อแอมบอกว่า การทำบุญจริงๆแล้วไม่ใช่เพื่อผลบุญอะไรแต่พระพุทธเจ้าต้องการให้เรารู้จัก"การให้ทาน" การจัดงานศพตั้งศพไว้ในงานจริงๆแล้วเพื่อต้องการให้ระลึกว่า"สังขารคือสิ่งไม่เที่ยง"คนเรามันก็แค่นี้ เกิด แล้วก็ตาย ไม่ใช่ต้องการให้เราจัดงานใหญ่โต การปล่อยนกปล่อยปลาหากเราไปซื้อที่เขามาขายแล้วปล่อย เขาก็ไปจับมาอีก ขายต่อให้เราอีก วนเวียนไปอยู่อย่างนี้ ทรมาณสัตว์ พ่อมักพูดเสมอๆว่า "พระอยู่ที่ใจ" ไม่จำเป็นต้องหามาแขวน ระลึกอยู่ในใจ ดีกว่าการแสดงออกไปอย่างนั้น ทั้งๆที่ใจไม่ได้ระลึกไม่ได้อยู่ในช่วงที่สงบจิตสงบใจ ก่อนไหว้พระ พ่อจะบอกว่า ต้องทำใจให้สงบก่อน แล้วค่อยไหว้ เวลาพระท่านให้ศิลห้า พ่อแอมเขาจะไม่รับ เพราะเขารู้ว่าเขาทำไม่ได้ ^^ พ่อชอบพาแอมไปวัดอโศการามไปนั่งสมาธิอ่าค่ะ ไปนั่งหลังวัดโน่น ข้างหลังเป็นป่าชายเลน เงียบสงบดี ยิ่งตอนที่แม่แอมเสียใหม่ๆนี้ ไปเกือบทุกวันเลย (ขนาดพ่อพูดเสมอๆว่าความตายมันอยู่ใกล้นิดเดียว แค่พอเวลาเจอจริงๆมันก็ยากทำใจเนาะ^^") พระพุทธเจ้าหยิบใบไม้มาไว้ในกำมือหนึ่ง ตอนพระพุทธเจ้าเทศน์ในคราวที่พระสงฆ์มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ท่านถามพระสงฆ์ว่า ใบไม้ในกำมือท่าน กับในป่า อันไหนมันมีเยอะกว่ากัน พระสงฆ์ก็ตอบว่า ในป่า ท่านก็บอกว่า เหมือนกันกับ คำสอนของท่าน ท่านหยิบเอา"ส่วนหนึ่ง" ในการหลุดพ้นมาสอนเท่านั้น ไม่ได้นำมาทั้งหมด ซึ่งหมายความว่า ในโลกนี้ยังมีสิ่งที่ทำให้หลุดพ้นอีกมากมาย ไม่ใช่แค่สิ่งที่ท่านสอน(เออมีใคร งง ไหม แบบว่าพ่อแอมเล่าให้ฟังอีกทีอ่ะ - -) แอมก็เป็นชาวพุทธคนหนึ่ง แต่ก็คงไม่ใช่ชาวพุทธที่ดีมากเท่าไรหรก แอมเชื่อเรื่องเวรกรรม แต่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องนรกสวรรค์เท่าไร -..-* เพราะแอมคิดว่า นรก สวรรค์ แอมพิสูตรไม่ได้ว่ามันมีจริง แอมทำดีปะปนไปกับความชั่วบ้าง(เพราะบางครั้งก็หลีกไม่ได้ เช่น การโกหก ฆ่าสัตว์ เบียดเบียน) เพราะคนเรามันก็มีความเห็นแก่ตัวใช่ไหมละ แอมบอกได้เลยว่า แอมรักษาศิลห้าไม่ได้หรก(แต่ก็พยายามไม่ละเมิดมาก) เคยพยายามแล้วจริงๆนะ แอมเคย โกหก(หรือใครไม่เคยโกหก) แอมเคยฆ่าสัตว์(ตบยุง ฆ่าแมลงสาบ ฆ่ามด...) แอมเคยดืมเหล้า(แอบๆชิม><") เคยเจอหนังสือทีเขาพิมพ์แจก ให้ความเชื่อแบบผิดๆ บอกว่าสามารถทำบุญล้างบาปได้ ก็เลย งง มันมีด้วยหรอ เท่าที่เคยรู้มา มันแค่อาจจะผ่อนหนักเป็นเบาไม่ใช่หรอ -- -- มีการแจก คาถา อาคม แอมว่ามันเป็นเรื่องงมงายนะ ^^ ใครคิดแบบแอมบ้าง เท่าที่รู้ พระพุทธเจ้า ไม่ได้สอนให้เรางมงายนะ ^^ "พุทธังวันทามิ เมตาจิตัง" อันนี้หลวงปู่(พระอาจารย์ของพ่อ)บอกแอมมา ท่องไว้ มันจะทำให้จิตใจสงบ ^^ (เขาบอกว่า เป็นทั้งบทสอดแผ่เมตตา เมตตามหานิยม ไม่ได้งมงายนะ แต่ก็ไม่ประมาทไง 555) ผมขออนุโมทนาบุญกับคุณแอมด้วย ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ทางธรรมะกันนะครับ การให้ทาน มีจุดมุ่งหมายคือ การลดละความยึดมั่นถือมั่น ความตระหนี่หวงแหนในจิตใจของเราให้เบาบางลงไป มิใช่เพื่อให้แล้วหวังผลดลบันดาลตอบแทนกลับมา การทำบุญในพระพุทธศาสนา มีทั้ง ทาน ศีล ภาวนา มิใช่เพียงแค่การทำทานเท่านั้นที่ได้บุญ การทำบุญมีพระเถราจารย์ท่านได้แยกให้เห็นชัดเพิ่มมากขึ้นเป็น บุญกิริยาวัตถุ 10 (ท่านที่สนใจสามารถอ่านได้ในกระทู้บุญกิริยาวัตถุ 10) ทานเป็นเพียงการทำบุญรูปแบบหนึ่งเท่านั้น และให้ผลน้อยกว่าการรักษาศีลและการเจริญภาวนาเสียอีก การไปงานศพ ก็เป็นการเตือนให้ระลึกถึงความตายว่าจะต้องเกิดขึ้นแก่เราแน่ เป็นการเจริญมรณสติ เพื่อความไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต ในการสร้างคุณความดี และเป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่เที่ยงไม่จีรังยั่งยืนของชีวิต ฉะนั้นเวลาไปงานศพขอให้ได้ประโยชน์ตรงนี้ด้วย การช่วยเหลือชีวิตสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ก็เป็นการทำบุญรูปแบบหนึ่ง แต่เราควรทำโดยใช้วิจารณญาณสักนิด เช่น การไถ่ชีวิตโคกระบือเพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้งานและไม่ฆ่า หรือการปล่อยปลาต้องไปซื้อในตลาดที่เค้าจะฆ่าจริง ๆ ซึ่งหากเราไปซื้อตามวัดหรือสถานที่ให้ปล่อยก็อาจได้ผลน้อย เพราะอย่างไรปลาเหล่านั้นก็ไม่ได้ตาย และก็เป็นการส่งเสริมให้เขานำสัตว์มากักขังเพื่อขายให้เราทำบุญอีก เป็นต้น การอาราธนาศีล หรือการรับศีลนั้น เป็นเพียงรูปแบบหรือพิธีการในทางศาสนา การอาราธนาศีลจริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับความตั้งใจในการประพฤติปฏิบัติมากกว่า ศีลคือความเป็นปรกติ เป็นภาวะแห่งความสงบ เราควรพยายามที่จะรักษาศีลไว้ เพื่อความสงบในการดำรงชีวิตของเราเอง พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า เรามีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ เราเกิดมาแต่กรรม คือ ให้มีความเข้าใจว่า ทำอย่างไรได้อย่างนั้น ทำดีย่อมได้รับผลที่ดี ทำชั่วย่อมได้รับผลที่ชั่ว ให้มีศรัทธาในเรื่องกรรมก็เป็นชาวพุทธที่มีความเห็นชอบแล้ว ส่วนเรื่องนรกสวรรค์จะมีหรือไม่ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ (ส่วนวิธีการที่จะทำให้รู้มีอยู่ อย่าปฏิเสธหรือบอกว่าไม่มีเสียทีเดียวนะครับ) แต่ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้เราจำนนต่อกรรมในอดีต หรือปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามยถากรรม เรายังมีปัจจุบันเป็นที่พึ่งที่จะสร้างความดีเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้ กรรมดีกับกรรมชั่วเป็นคนละส่วนกัน ไม่สามารถลบล้างกันได้ แต่สามารถทำให้อ่อนกำลังหรือเบาบางไปได้ เหมือนกับที่ท่านได้เปรียบกรรมดีเหมือนน้ำ กรรมชั่วเหมือนเกลือ ถ้าเราหมั่นเติมน้ำมาก ๆ ความเค็มก็มิอาจให้ผลได้ แต่เกลือนั้นยังมีอยู่ (ดังนั้นเริ่มทำความดีเสียแต่วันนี้ อย่ามัวรอให้แก่ เพราะเราอาจจะตายได้ในทุกขณะ อย่าประมาทนะครับ) ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญาและเหตุผล สามารถพิสูจน์ได้จริง พระพุทธเจ้าตรัสรู้ในสัจธรรมของโลกจริง พระธรรมเป็นธรรมชาติและมีคุณจริง พระสงฆ์ก็เป็นผู้เปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพระศาสดาจริง ขอให้เราทดลองประพฤติปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าสอน โดยใช้ปัญญาพิจารณามองเห็นความจริงแล้ว จะเข้าใจโลก เข้าใจธรรมได้อย่างแน่นอน อย่าปฏิเสธโดยมิได้ลงมือทำ ให้ทดลองปฏิบัติตามกำลังความสามารถของตน ทำตนให้สมกับเป็นอุบาสกอุบาสิกา ซึ่งมีความหมายว่า ผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัย และจะได้เป็นชาวพุทธที่แท้ ไม่ได้เป็นเพียงชาวพุทธตามบัตรหรือทะเบียนบ้านเท่านั้น ความสุขอยู่แค่เอื้อม และอยู่ที่ใจของเราทั้งนั้น ขอให้ทุกท่านเข้าใจและปฏิบัติตนตามหลักของพระศาสนา แล้วความสงบสุขในชีวิต ความสุขที่ไม่ต้องพึ่งพาสิ่งภายนอกจะมาสู่ท่านในทุกทิวาราตรี ขอความสุขสวัสดีและความเจริญในธรรมจงมีแด่ท่านด้วยเทอญ ธรรมรักษา รัศมีธรรมส่องทาง emo_12 emo_12 emo_12 emo_12 emo_12 หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: สารพัด*เพี้ยน ที่ 20 มีนาคม 2009, 08:28:PM เคยอ่านหนังสือเรื่อง "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" กับ " มักรีผล" ไหมค่ะ
แอมชอบอ่านมากเลย อ่านหลายรอบมากกกกกก อ่านแล้วเพลิน ไม่ได้เป็นหนังสือธรรมไปทีเดียว มีนิทานให้อ่าน อืม ให้แง่คิดดี สอนให้ปฏิบัติกรรมฐานด้วยค่ะ (อันนี้แอมก็ทำ^^) มีอีกเล่ม "เข็มทิศชีวิต" หลายๆคนคงได้อ่าน เพราะค่อนข้างดัง เขานำหลักธรรมมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีมาก จากที่เป็นหนี้หลายร้อยล้าน สามารถล้างหนี้ แถมยังสร้างครอบครัวให้มั่นคงอีกด้วย แอมนับถือมากเลย ^^ หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 20 มีนาคม 2009, 09:07:PM เราก็เคยอ่านที่แอมว่าอ่ะ เราชอบอ่านแนวที่นิทานธรรมะ หรือหลักธรรมะที่มาใช้กับชีวิตจริงๆ ที่แฝงแง่คิดอ่ะอ่านแล้วเพลินดีน่ะ ผมว่าเราพูดธรรมะในแง่ที่มันสนุกสนาน หรือน่าติดตามอ่านง่ายเนี้ย ผมว่าธรรมะไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: กิ่งไผ่ ที่ 21 มีนาคม 2009, 11:02:AM อันธรรม อยู่ในใจ ใครมองเห็น
เกิดดับเป็น อนิจจัง ธรรมสดใส จงเกิดก่อ ทำกรรมดี นั้นเรื่อยไป แล้วจะได้ พบนิพพาน สรานรมณ์ อันจะทำ กรรมดี ท่านว่าใว้ ทำกันได้ ทุกเวลา ฟ้ามองเห็น อย่าเพลอตัว ทำชั่ว ให้รำเค็น แล้วจะเป็น ทางมุ่งสู่ ประตูอบาย หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: รัศมีธรรมส่องทาง ที่ 21 มีนาคม 2009, 11:48:AM รู้สึกยินดีที่ทุกท่านให้ความสนใจธรรมะและพระศาสนากันมากขึ้น ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ด้วยที่ตั้งกระทู้ที่เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาเป็นอันมาก
ท่านที่มีความสนใจขอรับหนังสือสามารถ PM ชื่อและที่อยู่มาให้ผมได้ ผมจะส่งไปให้เป็นพิเศษสำหรับสมาชิกเวบกลอนไทยนะครับ หนังสือที่ยังมีแจกเป็นธรรมทานอยู่ในตอนนี้ ดังนี้ 1. วิธีสร้างบุญบารมี พระนิพนธ์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก 2. แผ่เมตตาให้ศัตรู ของท่านปิยโสภณ วัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก 3. ทำอย่างไรจะหายโกรธ ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) 4. สุนทรียธรรม : สู่ชีวิตที่ดีงามและเป็นสุข ของพระมหาประดิษฐ์ จิตฺตสํวโร 5. ก้าวไปในบุญ ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ทุกท่านสามารถขอรับได้คนละ 2 เล่มก่อนนะครับ เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด ส่วนท่านที่ต้องการมากกว่านี้ โปรดติดต่อผมอีกครั้งหนึ่งนะครับ ต่อไปนี้เป็นรูปหน้าปกหนังสือนะครับ (http://photos1.hi5.com/0024/987/924/owsX6Z987924-02.jpg) (http://photos2.hi5.com/0026/136/753/CpxmAh136753-02.jpg) (http://photos4.hi5.com/0027/751/303/x3mUvg751303-02.jpg) (http://photos4.hi5.com/0056/720/731/sU4iWQ720731-02.jpg) (http://photos4.hi5.com/0026/075/003/Ccyc.N075003-02.jpg) หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: รัศมีธรรมส่องทาง ที่ 01 เมษายน 2009, 09:36:AM ผมได้ส่งหนังสือไปให้คุณขวด คุณสายลมสีขาวและคุณกิ่งไผ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขอให้ท่านได้ประโยชน์จากการอ่านหนังสือเหล่านี้และแบ่งปันแก่ผู้อื่นต่อไป ธรรมรักษา หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: สายลมสีขาว ที่ 01 เมษายน 2009, 02:35:PM หนังสือนี้ ที่ท่าน ได้มอบให้
จะจำไว้ แบ่งปัน ให้เกิดผล ให้พ่อ-แม่ พี่น้อง เหล่าผองชน ได้พึงยล รู้ถูกผิด คิดแก้ทัน emo_28 ธรรมสวัสดี หัวข้อ: Re: หวังว่าเราทุกคนคงสืบทอดพระพุทธศาสนากันได้นะครับ เริ่มหัวข้อโดย: ขวด ที่ 05 เมษายน 2009, 03:32:PM ขอบพระคุณและขออนุโมทนาด้วยครับ สาธุ
|