พิมพ์หน้านี้ - ความรักในมุมมองหนึ่ง

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนบอกรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: อัลิปรียา ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2009, 06:57:PM



หัวข้อ: ความรักในมุมมองหนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: อัลิปรียา ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2009, 06:57:PM
 โอ้ว่าอนิจจาหนอความรัก    เมื่อประจักษ์ดั่งเพลิงเริงเรืองแผลง
เพียงสัมผัสพักตราระเรื่อแดง  อานุภาพกาจกำแหงกว่าใดปาน...


หัวข้อ: Re: ความรักในมุมมองหนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2009, 07:04:PM
รักร้อนรุ่มดั่งไฟที่เผาผลาญ
จะผันผ่านหายไปด้วยรักที่ชุ่มหวาน
จะใช้หัวใจรักษาความร้อนรุ่มที่ร้าวราน
จะประสานแผลไฟรักด้วยลำธารรักของหัวใจ




หัวข้อ: Re: ความรักในมุมมองหนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: เปลวเทียนเปลี่ยนสี ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2009, 08:06:PM
(http://s484.photobucket.com/albums/rr210/luckyAoi/photo/heart/34.jpg)

รักในมุมมอง...ของฉัน...มันก็แปลก
มีแต่แยก...แตกและต่าง...ห่างสดใส
รักมุมมืด...ใจจึงจืด...ชืดรสไป
รักที่มีแต่...พ่ายแพ้ใจ...เมื่อใครลวง

รักในมุมมอง...ของฉัน...มันเป็นดั่งคลังน้ำตา
มีแต่ทุกข์...สุขไร้ค่า...ไม่มาห่วง
รักมุมนี้...เพราะล้นปรี่...ที่เอ่อทรวง
ใจจึงกลวง...ไร่หวงห่วง...ดวงใจขม

รักดั่งไฟ...ในเปลวเพลิง...ระเริงใจ
ไฟลุกไหม้...เผาผลาญใจ...ให้ทุกข์ตรม
ดั่งโรงเพาะ...เพาะเชื้อร้าย...หมายใจบ่ม
ให้รสขม...จักกลมกล่อม...หลอมน้ำตา


หัวข้อ: Re: ความรักในมุมมองหนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: อัลิปรียา ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2009, 05:49:PM
  โอ้ว่าอนิจจาหนอความรัก            ได้ประจักษ์ดั่งเพลิงเริงเรืองแผลง
เพียงสัมผัสพักตราระเรื่อแดง            อานุภาพกาจกำแหงกว่าใดปาน
ดั่งอรุณแสงสุวรรณพลันห่มภพ         ไออุ่นอบเอื้ออาบด้วยความหวาน
จะเจือฉาบคราบรสด้วยหยดตาล     มิอาจทานมธุรสพจนา
ว่ายามรักพิศใดให้สุดชื่น                  ทั้งแผ่นผืนพิภพจบเวหา
เมื่อคลายรักดั่งชักร้ายกรายอุรา      ดั่งว่าฟ้าจรดดินสิ้นโสภี
หากความรักร้อนรุ่มสุมทรวงอยู่    จักไม่รู้ดินฟ้าเสื่อมราศี
ครารักชื่นรื่นใจด้วยไมตรี                 ครารักลี้ที่ชื่นขื่นขมครัน
ใครครองรักดั่งครองทุกข์และสุขสม  ยามนิยมชมเชยเคยสุขสันต์
ยามจะลาร้างไกลให้จาบัลย์           เยื่อใยนั้นครั้นตัดไปไม่อาทร
อันกลิ่นรสพจนีที่ว่าหวาน            พาสราญรื่นใจไม่ถ่ายถอน
ดั่งมาลีลืมตัวยั่วภมร                     เมื่ออิ่มหนำก็จำจรไปจากจาง